หน้า 1 จากทั้งหมด 1
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 23, 2006 12:19 pm
โดย EAKEPON
เป็นไปได้ไหมคับว่า
เงินบาทจะอ่อนตัวสักพัก แล้วก็เริ่มแข็งใหม่อีกรอบ
ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ ดอลล่า ยังอ่อนตัวต่อเนื่อง
และ เอเชีย ยังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้เงินไหลเข้า
แล้วแบ๊งชาติ เข็ด ไม่กล้าออกมาตรการอะไรที่รุ่นแรงต่อตลาดหุ้น
ดังนั้น วิธีที่จะทำให้ เงินบาท อ่อน อีกคือ
ลดดอกเบี่ย
แล้วตลาดหุ้นก็จะเริ่มดีขึ้น
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 23, 2006 12:25 pm
โดย woody
น่าคิดครับ ผมเคยคิดว่าขั้นต่อไปนี่คงต้องเป็นการลดดอกเบี้ยแน่ๆ แล้วเช่นกัน แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้นถ้าเราคิดว่าต่างชาติเค้าขาดความมั่นใจในตัวประเทศเราแล้ว ครั้นรัฐหรือบริษัทใดๆ จะออกหุ้นกู้หรือระดมทุนใหม่ก็คงต้องให้ discount กับเค้าเพิ่มขึ้นโดยการให้ดอกเบี้ยที่น่าจูงใจมากขึ้นเพื่อทดแทนกับ risk premium ที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต่อไปดอกเบี้ยเชิงนโยบายจะลดได้จริงหรือเปล่า
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 23, 2006 5:07 pm
โดย Muffin
ถ้าตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะลด แล้วต้องมาลดเนี่ย ก็คงตลกดีครับ
ถ้าจะต้องทำแบบนั้น หรือเราเกิดจำเป็นจะต้องทำแบบนั้นแล้วจริงๆ
ผมก็คงจะ..........
อ่ะ เป็น VI กลุ่มไหนจะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยเอ่ย
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 23, 2006 6:43 pm
โดย EAKEPON
น่าคิดครับ ผมเคยคิดว่าขั้นต่อไปนี่คงต้องเป็นการลดดอกเบี้ยแน่ๆ แล้วเช่นกัน แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้นถ้าเราคิดว่าต่างชาติเค้าขาดความมั่นใจในตัวประเทศ
เราแล้ว ครั้นรัฐหรือบริษัทใดๆ จะออกหุ้นกู้หรือระดมทุนใหม่ก็คงต้องให้ discount กับเค้าเพิ่มขึ้นโดยการให้ดอกเบี้ยที่น่าจูงใจมากขึ้นเพื่อทดแทนกับ risk premium ที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต่อไปดอกเบี้ยเชิงนโยบายจะลดได้จริงหรือเปล่า
ขอบคุณคับ
อ่ะ เป็น VI กลุ่มไหนจะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยเอ่ย
สงสัยอาจจะเป็น VI ที่ทำงานอยู่ในวงการ อสังหาฯ แล้วก็ถือ หุ้น อสังหาฯ คับ
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 23, 2006 6:59 pm
โดย EAKEPON
อ่ะ เป็น VI กลุ่มไหนจะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยเอ่ย
แล้วก็ เคยได้ยินมาในประเทศที่ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว เช่น ใน อเมริกา
ถ้า ดอกเบี่ยลด เค้าลด คนของเค้าจะเอาเงินมาลงในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น
เพราะคนที่ซื้อหุ้นกับคนที่ฝากเงินเป็นคนกลุ่มเดียวกัน
ดังนั้นถ้าดอกเบี่ยลด set คงขึ้น
แต่หุ้นที่ได้ผลประโยชน์เต็มๆก็คงเป็นกลุ่ม อสังหาฯคับ
ในประเทศไทยก็คงคล้ายกัน แต่ อาจช้ากว่า
เพราะคนที่ซื้อหุ้นกับคนที่ฝากเงินเป็นคน คนละกลุ่มกันคับ
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 24, 2006 11:58 am
โดย iambuffet
น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ
แต่อาจจะมีวิธีดีกว่านี้ที่พวกเราไม่ทราบก็ได้
แต่ถ้าทำอะไรตอนนี้ ขอให้แบงค์ชาติคิดให้ดี ๆ ก่อน
เพราะถ้าทำอะไรพลาดอีกทีละก็ อย่าเดินเข้ามา
ในตลาดหุ้นเลย เพราะมีคนไม่ให้อภัยอยู่เยอะแน่
ตอนนี้คนก็บ่นกันเละเทะครับ
ตอนนี้ที่น่ากลัวคือ
หลังปีใหม่
ฝรั่งอาจจะเอาฆ้อนมาด้วย
ถ้าไม่มีมาตรการอะไรดี ๆ
ออกมาบ้าง
สิ่งสำคัญตอนนี้ คือความมั่นใจครับ
เวลาทำให้ฝรั่งขาดความมั่นใจ
และถอนเงินออกไปนี่ น่ากลัวมากจริง ๆ
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 24, 2006 7:27 pm
โดย สุมาอี้
ต่างชาติกำลังจะถอนเงินออกจากตลาดหุ้นไทยหรือไม่?
ที่จริงแล้ว คำถามข้อนี้เราไม่จำเป็นต้องรู้คำตอบเลย ไม่จำเป็นต้องพยายามคาดการณ์อะไรทั้งสิ้นด้วย
เราสามารถหลุดพ้นจากความเสี่ยงข้อนี้ได้ง่ายๆ ด้วยการเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่าของกิจการอย่างแท้จริง
ช่วงนี้ถ้าจะซื้อหุ้นอะไรสักตัว ก็ให้ถามตัวเองให้หนักๆ ว่า ถ้าซื้อตัวนี้แล้วขายไม่ได้อีก 5 ปี ต้องรอรับเงินปันผลอย่างเดียว เราจะเอาหรือไม่ ถ้ากิจการนั้นไม่มีคุณค่ามากพอถึงขนาดนั้น หรือว่าราคาของมันแพงจนกระทั้งการรอรับเงินปันผลอย่างเดียวจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้ม ก็ให้หลีกเลี่ยงเสีย
การคิดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถือมันไว้ยาวๆ จริงๆ เพราะถ้าสุดท้ายแล้วฝรั่งไม่ได้ถอนเงินออกไปจริงๆ คุณถือแล้วมีกำไร คุณจะขายทิ้งก็ได้ เพียงแต่ว่าการคิดแบบนี้จะช่วยทำให้เกิดความปลอดภัยในช่วงนี้ที่คุณยังตอบไม่ได้ว่าฝรั่งจะถอนการลงทุนหรือไม่
ผมก็ยังเห็นว่ามีหุ้นที่หลายตัวในตลาดตอนนี้ที่ถือไว้กินปันผลอย่างเดียวก็ยังเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ไม่จำเป็นต้องล้างพอร์ตเลยครับ
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 24, 2006 7:52 pm
โดย plamuek76
สุมาอี้ เขียน:ต่างชาติกำลังจะถอนเงินออกจากตลาดหุ้นไทยหรือไม่?
ที่จริงแล้ว คำถามข้อนี้เราไม่จำเป็นต้องรู้คำตอบเลย ไม่จำเป็นต้องพยายามคาดการณ์อะไรทั้งสิ้นด้วย
เราสามารถหลุดพ้นจากความเสี่ยงข้อนี้ได้ง่ายๆ ด้วยการเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่าของกิจการอย่างแท้จริง
ช่วงนี้ถ้าจะซื้อหุ้นอะไรสักตัว ก็ให้ถามตัวเองให้หนักๆ ว่า ถ้าซื้อตัวนี้แล้วขายไม่ได้อีก 5 ปี ต้องรอรับเงินปันผลอย่างเดียว เราจะเอาหรือไม่ ถ้ากิจการนั้นไม่มีคุณค่ามากพอถึงขนาดนั้น หรือว่าราคาของมันแพงจนกระทั้งการรอรับเงินปันผลอย่างเดียวจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้ม ก็ให้หลีกเลี่ยงเสีย
การคิดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถือมันไว้ยาวๆ จริงๆ เพราะถ้าสุดท้ายแล้วฝรั่งไม่ได้ถอนเงินออกไปจริงๆ คุณถือแล้วมีกำไร คุณจะขายทิ้งก็ได้ เพียงแต่ว่าการคิดแบบนี้จะช่วยทำให้เกิดความปลอดภัยในช่วงนี้ที่คุณยังตอบไม่ได้ว่าฝรั่งจะถอนการลงทุนหรือไม่
ผมก็ยังเห็นว่ามีหุ้นที่หลายตัวในตลาดตอนนี้ที่ถือไว้กินปันผลอย่างเดียวก็ยังเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ไม่จำเป็นต้องล้างพอร์ตเลยครับ
เห็นด้วยครับ ถ้าเราลงทุนแบบviจริงๆก็กันความเสี่ยงได้ระดับนึงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องคาดการณ์อารมณ์ของนักลงทุนต่างชาติหรอกครับ ถึงเขาจะถอนเงินออกไปสักวันนึงก็ต้องกลับมาอีกอยู่ดี ถ้ามั่นใจว่าทำการบ้านมาดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องกลัว แต่ถ้าไม่ได้ทำเองก็ลองกลับไปตรวจดูว่าหุ้นที่อยู่ดีพอที่ถือระยะยาวรึเปล่า
และที่สำคัญviต้องหาโอกาสเก็บหุ้นจากราคาหุ้นที่ลดต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานมากๆไม่ใช่เหรอครับ
ปล.ที่ผมสังเกตุหุ้นviหลายๆตัวก็ฟื้นตัวกันแล้วนะครับ ที่เสียหายหนักๆคือพวกบลูชิพที่ต่างชาตินืยมซื้อกัน
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 10:27 am
โดย lekmak333
ถ้าอยากให้ประเทศชาติโตอย่างยั่งยืน ไม่เห็นส่งเสริมภาคการผลิตเลย
ตอนนี้ขีดความสามารถ ในหลายอุตสาหกรรม กำลังการผลิตเต็มพิกัดแล้ว
ลองดูหลายๆประเทศที่เขาพัฒนา ที่มีประชากรน้อยกว่าเรา บางประเทศก็ยังพึ่งพาภาคการเกษตรอยู่ แต่ทำไมขีดความสามารถทำผลผลิตเขาเยอะกว่าเรา
ไปมองแต่ภาคต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยน พยายามแต่รู้เขา แต่ไม่ยอมรู้เรา
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 4:48 pm
โดย Viewtiful Investor
เห็นด้วยกับคุณ สุมาอี้ ครับ
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 6:43 pm
โดย เฟยหง
ไม่เห็นด้วยกับคุณสุมาอี้ครับ
ถ้าต่างชาติถอนทุนจริงๆ หายหมดเกลี้ยงเลยนะ
ดัชนีหุ้นไทยจะยืน 300 จุดได้หรือเปล่ายังสงสัยอยู่
นั่นหมายถึง หุ้นหลักๆ อาจไปยืนเหลือแค่ p/e 5 เท่า
แล้วหุ้นที่คุณคิดว่าดีๆ จะไปยืนกันที่ p/e เท่าไหร่ ????
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 7:01 pm
โดย เฟยหง
300 จุดนี่เป็นการตกอย่างรวดเร็วนะครับ
และ p/e ก็เหลือ 5 เท่าอย่างรวดเร็วด้วย
และสำหรับปีหน้า ตลาดหุ้นดิ่งหนัก ดีมานด์ไม่ฟื้น
เงินที่จะหาจากตลาดเงิน และ ตลาดทุน จาก ตปท.ไม่มี
ดบ.แทนที่จะลงกลับวิ่งพุ่งกระฉูด.....
Earnings ที่คาดว่าจะวิ่งสูงขึ้นได้เกือบ 10% กลับติดลบหลายสิบเปอร์เซนต์
...... p/e ก็จะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นมาเองแหละ ณ ดัชนี 300 จุด
ขอย้ำเลยว่า ถ้า VI ที่ไม่สนใจ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย
ไม่สนใจเศรษฐกิจมหภาค ..... ก็คงยังไม่มีคุณสมบัติของ VI ครบนะครับ
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 7:13 pm
โดย iambuffet
เห็นด้วยกับคุณเฟยหงนะครับ
เพราะรู้สึกว่าตอนนี้
ควรมองความเป็นจริง
แต่เหมือนตอนนี้เล่นกันเป็นเกมส์ไป
เศรษฐกิจจริง ๆ ภายในประเทศ
การลงทุนลดลง
การบริโภคลดลง
เศรษฐกิจชะลอตัว
แล้วจะเพิ่มดอกเบี้ย ซึ่งมันขัดกับความเป็นจริง
ส่งออกเรายังดี ถือว่าดีมาก เพราะเราจะยังเกินดุลการค้าอยู่
ถ้ากระตุ้นภายในประเทศดี ๆ
แก้ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ได้
เมืองไทยก็จะดีมาก ๆ ครับ
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 7:14 pm
โดย chatchai
[quote="เฟยหง"]ไม่สนใจเศรษฐกิจมหภาค .....
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 7:16 pm
โดย iambuffet
ส่วนความเห็นคุณสุมาอี้ ผมว่าก็น่าจะจริงเหมือนกัน
เพราะหุ้นบ้างตัวก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับต่างชาติเลย
เว็บนี้คนเก่งเยอะจริง
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 7:45 pm
โดย 007-s
[quote="เฟยหง"]300 จุดนี่เป็นการตกอย่างรวดเร็วนะครับ
และ p/e ก็เหลือ 5 เท่าอย่างรวดเร็วด้วย
เป็นไปได้ไหมคับว่า มาตรการณ์ ต่อไปคือ ลดดอกเบี่ย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 8:00 pm
โดย 007-s
เอานี่อีกค่ะ ...
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 93833.html
......รัฐบาลเตรียมถอน การบินไทย ออกจากตลาดหุ้น......
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2549 18:35 น.
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม
"อภินันทน์"แจงต่างชาติถือหุ้นการบินไทยถึง 20% ทำให้"ทำงานลำบาก หมดศักดิ์ศรี ถูกแย่งสิทธิการบิน" เสนอถอนกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจที่ก.คลังถือหุ้น 100% "ปธ.คณะกรรมาธิการคมนาคม"รับลูกเตรียมตั้งกรรมการผลักดันต่อไป
วันนี้(25 ธ.ค.) แหล่งข่าวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานของบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งในโอกาสนี้ นายอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทยฯ ได้รายงานถึงปัญหาอุปสรรคในการทำงานของ บริษัทฯ ว่า เนื่องจากปัจจุบันการบินไทย มีต่างชาติถือหุ้นถึง 20% ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความลำบาก หมดศักดิ์ศรี และถูกต่างชาติแบ่งเอาผลประโยชน์ไป เช่น สิทธิการบินในหลายเส้นทาง ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงเสนอให้ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม ได้เข้ามาดำเนินการผลักดันดึงบริษัทการบินไทยฯ ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และเอากลับมาเป็นเป็นรัฐวิสาหกิจที่ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง 100 % อย่างเร่งด่วน
"ในเรื่องนี้ ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม มีความเห็นด้วยและรับปากว่าจะตั้งคณะกรรมการร่วมการบินไทยและคณะกรรมาธิการคมนาคม เพื่อดำเนินการศึกษาให้การบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนเดิมต่อไป" แหล่งข่าวยืนยัน
อนึ่ง ปัจจุบัน บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง 53.76 % กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย และ กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี ถือหุ้นรายละ 9.12 % ที่เหลือเป็นหุ้นของบริษัทนอมินีต่างชาติและผู้ถือs6hoรายย่อย
รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ปัจจุบัน
ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1 กระทรวงการคลัง 913,407,726 53.76
2 กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย 154,888,700 9.12
3 กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี 154,888,700 9.12
4 CHASE NOMINEES LIMITED 1 66,586,900 3.92
5 LITTLEDOWN NOMINEES LIMITED 5 27,251,100 1.60
6 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 22,889,644 1.35
7 NORTRUST NOMINEES LTD. 20,127,861 1.18
8 INVESTORS BANK AND TRUST COMPANY 18,514,500 1.09
9 สำนักงานประกันสังคม 17,911,600 1.05
10 CLEARSTREAM NOMINEES LTD 15,544,092 0.91
11 HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 14,202,616 0.84
12 MELLON BANK,N.A. 13,839,700 0.81
13 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY 12,025,151 0.71
14 HSBC BANK PLC-CLIENTS GENERAL A/C 10,691,800 0.63
15 MORGAN STANLEY & CO INTERNATIONAL LIMITED 10,099,757 0.59
16 UBS AG HONG KONG BRANCH 9,870,800 0.58
17 CHASE NOMINEES LIMITED 42 9,496,600 0.56
จากคุณ : Kiama - [ 25 ธ.ค. 49 19:16:09 ]