บรรยากาศไม่แจ่มใส มาร้องเพลงให้เข้ากับบรรยากาศดีกว่า...
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
บรรยากาศไม่แจ่มใส มาร้องเพลงให้เข้ากับบรรยากาศดีกว่า...
โพสต์ที่ 1
ผมขอร้องเพลง เบิร์ดดีกว่า
"ไม่มีหุ้นไหน ที่ดี ทุกวัน ยิ่งนาน ยิ่งผ่าน เรื่องราวมากมาย เข้ามาทดสอบ เข้ามาลองใจ ว่า(หุ้นและคนถือ) ใคร แกร่งจริง...
... หากเราเรียนรู้ วิชาอดทน หากเราผ่านพ้น ย่อมได้ทุกสิ่ง หากเรามั่นใจ ว่าหุ้นเรา(ดี)จริง ทุกสิ่งมันก็มั่นคง"
หุ้นลงแบบนี้ คิดถึง Value Investment แทบขาดใจ รู้สึกว่า Circle of Competence and Margin of safety ของ ดร.นิเวศน์ และพี่ๆ หลายคน จะกินอิ่มนอนหลับกว่าใครเพื่อนในภาวะแบบนี้นะครับ
เพื่อนๆ ล่ะครับ อยากร้องเพลงไรดี
"ไม่มีหุ้นไหน ที่ดี ทุกวัน ยิ่งนาน ยิ่งผ่าน เรื่องราวมากมาย เข้ามาทดสอบ เข้ามาลองใจ ว่า(หุ้นและคนถือ) ใคร แกร่งจริง...
... หากเราเรียนรู้ วิชาอดทน หากเราผ่านพ้น ย่อมได้ทุกสิ่ง หากเรามั่นใจ ว่าหุ้นเรา(ดี)จริง ทุกสิ่งมันก็มั่นคง"
หุ้นลงแบบนี้ คิดถึง Value Investment แทบขาดใจ รู้สึกว่า Circle of Competence and Margin of safety ของ ดร.นิเวศน์ และพี่ๆ หลายคน จะกินอิ่มนอนหลับกว่าใครเพื่อนในภาวะแบบนี้นะครับ
เพื่อนๆ ล่ะครับ อยากร้องเพลงไรดี
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- HI.ผมเอง
- Verified User
- โพสต์: 811
- ผู้ติดตาม: 0
บรรยากาศไม่แจ่มใส มาร้องเพลงให้เข้ากับบรรยากาศดีกว่า...
โพสต์ที่ 2
ร้องไม่ค่อยเป็นอ่ะ
เล่าดีกว่า :lol:
กระทาชายนายหนึ่งต้องการจะซื้อเลื่อยมาตัดต้นไม้หลังบ้าน เขาจึงไปที่ร้านขายเลื่อยแล้วเลือกดูอยู่ร่วมชั่วโมง
ด้วยความหวังดีคนขายจึงให้คำแนะนำกับเขา
"พ่อหนุ่ม ทำไม่คุณไม่ซื้อรุ่นนี้ล่ะ เป็นเป็นเลื่อยโซ่รุ่นล่าสุด ตัดไม้ได้วันละเป็นร้อยต้นเลยนะเนี่ย"
ไอ้หนุ่มเห็นดีด้วย เขาจึงซื้อเลื่อยรุ่นนั้นกลับบ้าน แล้วลงมือตัดไม้ทันที
หลังจากพยายามอยู่หลายชั่วโมง เขาเพิ่งตัดไปได้แค่สองต้น เขาจึงตัดสินใจเลิก โดยคิดอยู่ในใจว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติกับเลื่อยอันนี้แน่ ด้วยความสงสัยเขาจึงตัดสินใจว่าจะลองดูอีกหนในวันพรุ่งนี้
วันรุ่งขึ้น เขาตื่นตั้งแต่ตีสี่ แล้วตะลุยตัดไม้ไปเรื่อยจนค่ำ คราวนี้เขาตัดไปได้อีกห้าต้น
ด้วยความมั่นใจว่าเลื่อยนั้นเสีย ในวันถัดมาเขาจึงกลับไปที่ร้านขายเลื่อยอีกครั้ง แล้วบอกคนขายว่าเลื่อยที่ซื้อไปนั้น ใช้การไม่ได้
หลังจากที่สำรวจตรวจตราตัวเลื่อยอยู่สักพัก คนขายจึงเอ่ยขึ้นว่า
"มันก็ดูดีนี่นา ไม่น่าจะเป็นอะไร" ว่าแล้วเขาก็ลองติดเครื่องมันดู
"เฮ้ย! นี่มันเสียงอะไรล่ะเนี่ย" ไอ้หนุ่มถามด้วยความประหลาดใจ
เล่าดีกว่า :lol:
กระทาชายนายหนึ่งต้องการจะซื้อเลื่อยมาตัดต้นไม้หลังบ้าน เขาจึงไปที่ร้านขายเลื่อยแล้วเลือกดูอยู่ร่วมชั่วโมง
ด้วยความหวังดีคนขายจึงให้คำแนะนำกับเขา
"พ่อหนุ่ม ทำไม่คุณไม่ซื้อรุ่นนี้ล่ะ เป็นเป็นเลื่อยโซ่รุ่นล่าสุด ตัดไม้ได้วันละเป็นร้อยต้นเลยนะเนี่ย"
ไอ้หนุ่มเห็นดีด้วย เขาจึงซื้อเลื่อยรุ่นนั้นกลับบ้าน แล้วลงมือตัดไม้ทันที
หลังจากพยายามอยู่หลายชั่วโมง เขาเพิ่งตัดไปได้แค่สองต้น เขาจึงตัดสินใจเลิก โดยคิดอยู่ในใจว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติกับเลื่อยอันนี้แน่ ด้วยความสงสัยเขาจึงตัดสินใจว่าจะลองดูอีกหนในวันพรุ่งนี้
วันรุ่งขึ้น เขาตื่นตั้งแต่ตีสี่ แล้วตะลุยตัดไม้ไปเรื่อยจนค่ำ คราวนี้เขาตัดไปได้อีกห้าต้น
ด้วยความมั่นใจว่าเลื่อยนั้นเสีย ในวันถัดมาเขาจึงกลับไปที่ร้านขายเลื่อยอีกครั้ง แล้วบอกคนขายว่าเลื่อยที่ซื้อไปนั้น ใช้การไม่ได้
หลังจากที่สำรวจตรวจตราตัวเลื่อยอยู่สักพัก คนขายจึงเอ่ยขึ้นว่า
"มันก็ดูดีนี่นา ไม่น่าจะเป็นอะไร" ว่าแล้วเขาก็ลองติดเครื่องมันดู
"เฮ้ย! นี่มันเสียงอะไรล่ะเนี่ย" ไอ้หนุ่มถามด้วยความประหลาดใจ
- HI.ผมเอง
- Verified User
- โพสต์: 811
- ผู้ติดตาม: 0
บรรยากาศไม่แจ่มใส มาร้องเพลงให้เข้ากับบรรยากาศดีกว่า...
โพสต์ที่ 3
หนุ่มสี่คนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก เมื่อถึงวันที่คนหนึ่งกำลังจะแต่งงาน อีกสามคนที่เหลือจึงเตรียมของขวัญพิเศษ เพื่อแกล้งเพื่อนในคืนแต่งงาน
คนที่เป็นช่างไฟแอบเอาสายไฟไปผูกกับเตียงนอนคู่บ่าวสาว พอคู่บ่าวสาวสัมผัสกันจะได้ถูกไฟดูด
คนที่เป็นช่างไม้แอบเลื่อยเตียงให้เกือบหักออกจากกัน พอมันรับน้ำหนักมากมันจะหักกลางทันที
อีกคนหนึ่งที่เหลือเป็นหมอฟัน เขาพึ่งจะคิดมุขเด็ดๆได้เมื่อเกือบจะถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาวแล้ว
หลังจากฮันนีมูนเมื่อคู่แต่งงานใหม่กลับมาเจอเพื่อนๆ
อั๊วก็สะดุ้งนิดหน่อยตอนถูกไฟดูด แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอกว่ะ แล้วไอ้มุขเตียงหักนี่มันก็ฮาใช้ได้เลยว่ะ อั๊วกับเมียหัวเราะกันแทบแย่ เจ้าบ่าวหมาดๆหัวเราะก่อนที่จะหยุดกระทันหัน ว่าแต่ว่าไอ้หมาตัวไหนเจือกใส่ยาชาลงในวาสลีนวะ
คนที่เป็นช่างไฟแอบเอาสายไฟไปผูกกับเตียงนอนคู่บ่าวสาว พอคู่บ่าวสาวสัมผัสกันจะได้ถูกไฟดูด
คนที่เป็นช่างไม้แอบเลื่อยเตียงให้เกือบหักออกจากกัน พอมันรับน้ำหนักมากมันจะหักกลางทันที
อีกคนหนึ่งที่เหลือเป็นหมอฟัน เขาพึ่งจะคิดมุขเด็ดๆได้เมื่อเกือบจะถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาวแล้ว
หลังจากฮันนีมูนเมื่อคู่แต่งงานใหม่กลับมาเจอเพื่อนๆ
อั๊วก็สะดุ้งนิดหน่อยตอนถูกไฟดูด แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอกว่ะ แล้วไอ้มุขเตียงหักนี่มันก็ฮาใช้ได้เลยว่ะ อั๊วกับเมียหัวเราะกันแทบแย่ เจ้าบ่าวหมาดๆหัวเราะก่อนที่จะหยุดกระทันหัน ว่าแต่ว่าไอ้หมาตัวไหนเจือกใส่ยาชาลงในวาสลีนวะ
- HI.ผมเอง
- Verified User
- โพสต์: 811
- ผู้ติดตาม: 0
บรรยากาศไม่แจ่มใส มาร้องเพลงให้เข้ากับบรรยากาศดีกว่า...
โพสต์ที่ 5
ชายสองคนได้ที่นั่งติดกันบนเครื่องบินเที่ยวหนึ่ง
ชายคนแรกท่าทางเหนื่อยมากเมื่อขึ้นเครื่องได้ก็พยายามงีบหลับในขณะที่ชายคนที่สองพยายามชวนเล่นเกม ชายคนแรกปฏิเสธอย่างสุภาพ และพยายามนอนต่อ
ชายคนที่สองไม่ยอมแพ้เขาพยายามอธิบายกติกาการเล่น
ไม่ยากหรอก ผมถามคุณคำถามนึง ถ้าคุณตอบไม่ได้ก็จ่ายผมมา 100 บาท แล้วคุณก็ถามผมมั่ง ถ้าผมตอบไม่ได้ผมก็จ่ายคุณ 100 บาทเหมือนกัน
ชายคนแรกยังคงไม่สนใจ เขาปฏิเสธอีก แล้วพยายามนอนต่อ
ชายคนที่สองยังไม่ละความพยายาม
เอางี้ละกัน เขาเสนอเงื่อนไขที่ล่อใจมากขึ้น
ถ้าคุณตอบไม่ได้จ่ายผมมา 100 บาท แต่ถ้าผมตอบไม่ได้ ผมจะให้คุณ 1,000 บาทเลย
คราวนี้ชายคนแรกชักสนใจ เขาตกลงที่จะเล่นด้วย
ชายคนที่สองจึงตั้งคำถามก่อน
ระยะทางจากโลกไปถึงดวงจันทร์เป็นเท่าไหร่
ชายคนแรกไม่พูดสักคำ เขาควักกระเป๋าออกมาจ่ายเงิน 100 บาททันที แล้วถามกลับ
อะไรเอ่ยขึ้นเขาไปมีสามขา ตอนลงมากลับมีสี่ขา
ชายคนที่สองนิ่งคิดอยู่สักพัก เขาก็ยกเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแล้วต่อเข้าหาอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ แล้วเข้าไปค้นข้อมูลในเว็บไซต์ของห้องสมุดกลางของรัฐบาลอเมริกา ด้วยความงุนงงที่หาคำตอบไม่ได้เขารีบส่งอีเมล์หาเพื่อนๆทั่วโลก หลักจากรอคำตอบอยู่ร่วมชั่วโมงก็ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ ในที่สุดเขาก็หันไปหาชายคนแรก(ซึ่งหลับไปแล้ว) ปลุกเขา แล้วควักเงิน 1,000 บาทขึ้นมาจ่าย
ชายคนแรกรับเงินแล้วหันกลับไปทำท่าจะนอนต่อ
เดี๋ยวก่อน ชายคนที่สองท้วง คำตอบคืออะไร
ชายคนแรกลืมตาขึ้นมา ไม่พูดสักคำ ควักกระเป๋าจ่ายเงิน 100 บาทให้ชายคนที่สอง แล้วหันกลับไปนอนต่อ
ชายคนแรกท่าทางเหนื่อยมากเมื่อขึ้นเครื่องได้ก็พยายามงีบหลับในขณะที่ชายคนที่สองพยายามชวนเล่นเกม ชายคนแรกปฏิเสธอย่างสุภาพ และพยายามนอนต่อ
ชายคนที่สองไม่ยอมแพ้เขาพยายามอธิบายกติกาการเล่น
ไม่ยากหรอก ผมถามคุณคำถามนึง ถ้าคุณตอบไม่ได้ก็จ่ายผมมา 100 บาท แล้วคุณก็ถามผมมั่ง ถ้าผมตอบไม่ได้ผมก็จ่ายคุณ 100 บาทเหมือนกัน
ชายคนแรกยังคงไม่สนใจ เขาปฏิเสธอีก แล้วพยายามนอนต่อ
ชายคนที่สองยังไม่ละความพยายาม
เอางี้ละกัน เขาเสนอเงื่อนไขที่ล่อใจมากขึ้น
ถ้าคุณตอบไม่ได้จ่ายผมมา 100 บาท แต่ถ้าผมตอบไม่ได้ ผมจะให้คุณ 1,000 บาทเลย
คราวนี้ชายคนแรกชักสนใจ เขาตกลงที่จะเล่นด้วย
ชายคนที่สองจึงตั้งคำถามก่อน
ระยะทางจากโลกไปถึงดวงจันทร์เป็นเท่าไหร่
ชายคนแรกไม่พูดสักคำ เขาควักกระเป๋าออกมาจ่ายเงิน 100 บาททันที แล้วถามกลับ
อะไรเอ่ยขึ้นเขาไปมีสามขา ตอนลงมากลับมีสี่ขา
ชายคนที่สองนิ่งคิดอยู่สักพัก เขาก็ยกเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแล้วต่อเข้าหาอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ แล้วเข้าไปค้นข้อมูลในเว็บไซต์ของห้องสมุดกลางของรัฐบาลอเมริกา ด้วยความงุนงงที่หาคำตอบไม่ได้เขารีบส่งอีเมล์หาเพื่อนๆทั่วโลก หลักจากรอคำตอบอยู่ร่วมชั่วโมงก็ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ ในที่สุดเขาก็หันไปหาชายคนแรก(ซึ่งหลับไปแล้ว) ปลุกเขา แล้วควักเงิน 1,000 บาทขึ้นมาจ่าย
ชายคนแรกรับเงินแล้วหันกลับไปทำท่าจะนอนต่อ
เดี๋ยวก่อน ชายคนที่สองท้วง คำตอบคืออะไร
ชายคนแรกลืมตาขึ้นมา ไม่พูดสักคำ ควักกระเป๋าจ่ายเงิน 100 บาทให้ชายคนที่สอง แล้วหันกลับไปนอนต่อ
- HI.ผมเอง
- Verified User
- โพสต์: 811
- ผู้ติดตาม: 0
บรรยากาศไม่แจ่มใส มาร้องเพลงให้เข้ากับบรรยากาศดีกว่า...
โพสต์ที่ 6
คู่สามีภรรยาสูงอายุคู่หนึ่งแต่งงานมาครบรอบ 50 ปี พวกเขาตัดสินใจกลับไปฉลองกันที่เมืองเล็กๆซึ่งพวกเขาได้พบกันครั้งแรก พวกเขาเข้าไปนั่งในคอฟฟี่ช็อปเล็กๆแห่งหนึ่งในเมืองนั้นแล้วเล่าเรื่องราวให้พนักงานเสิร์ฟฟังว่าว่าพวกเขาพบรักกันในร้านแห่งนี้ที่โต๊ะตัวนี้
ตำรวจที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆนั่งฟังเรื่องราวของพวกเขาแล้วอมยิ้มในความรักที่ทั้งสองมีให้แก่กัน
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟเดินจากไป ชายแก่ก็คุยกับภรรยาต่อ
เธอจำได้ไหม ที่ที่เรามีอะไรกันครั้งแรกก็คือในทุ่งฝั่งตรงข้ามถนนนี่ ฉันจับเธอพิงกับรั้วนั่น ฉันว่าเราน่าจะลองทำมันใหม่เพื่อระลึกความหลังกันสักหน่อยเป็นไง
หญิงชราหัวเราะคิกคักอย่างตื่นเต้นแล้วตอบรับ เอาสิ ทำไมจะไม่ล่ะ
ดังนั้นพวกเขาจึกเดินออกจากร้านแล้วข้ามถนนไปยังทุ่งฝั่งตรงข้ามถนน ตำรวจโต๊ะข้างๆรู้สึกซาบซึ้งในความโรแมนติกของคูรักสูงวัยคู่นี้ แต่ก็ตัดสินใจว่าจะจับตาดูพวกเขาไว้เผื่อว่าจะเกิดอันตรายอะไรกับพวกเขา
เมื่อคู่สามีภรรยาเดินไปถึงทุ่ง พวกเขาก็มุ่งตรงไปยังรั้วทันทีแล้วเริ่มต้นถอดเสื้อผ้าออก เมื่อทั้งสองคนเปลือยเปล่าแล้วชายชราก็จับภรรยาของเขาพิงกับรั้ว
ตำรวจแอบดูทั้งสองจากพุ่มไม้และรู้สึกแปลกใจมากในสิ่งที่เขาเห็น หญิงชรากระโดดไปรอบๆ ในขณะที่สามีของเธอก็ทำอย่างเดียวกันอยู่เกือบ 5 นาทีก่อนที่ทั้งสองจะล้มลงบนพื้น พวกเขานอนอยู่สักพัก แล้วลุกขึ้นสะบัดเนื้อตัวแล้วใส่เสื้อผ้ากลับเหมือนเดิม
ขณะที่พวกเขาเดินกลับไปที่ถนน ตำรวจก็รีบเดินไปหาพวกเขาแล้วพูด
นั่นเป็นการแสดงความรักที่พิลึกพิลั่นที่สุดที่ผมเคยเห็นเลยนะนี่ เมื่อก่อนคู่คุณจะต้องร้อนแรงมากแน่เลย
ก็ไม่เชิงหรอกครับ ชายชราตอบ เมื่อก่อน ไอ้รั้วนั่นยังไม่ใช่รั้วไฟฟ้า
ตำรวจที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆนั่งฟังเรื่องราวของพวกเขาแล้วอมยิ้มในความรักที่ทั้งสองมีให้แก่กัน
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟเดินจากไป ชายแก่ก็คุยกับภรรยาต่อ
เธอจำได้ไหม ที่ที่เรามีอะไรกันครั้งแรกก็คือในทุ่งฝั่งตรงข้ามถนนนี่ ฉันจับเธอพิงกับรั้วนั่น ฉันว่าเราน่าจะลองทำมันใหม่เพื่อระลึกความหลังกันสักหน่อยเป็นไง
หญิงชราหัวเราะคิกคักอย่างตื่นเต้นแล้วตอบรับ เอาสิ ทำไมจะไม่ล่ะ
ดังนั้นพวกเขาจึกเดินออกจากร้านแล้วข้ามถนนไปยังทุ่งฝั่งตรงข้ามถนน ตำรวจโต๊ะข้างๆรู้สึกซาบซึ้งในความโรแมนติกของคูรักสูงวัยคู่นี้ แต่ก็ตัดสินใจว่าจะจับตาดูพวกเขาไว้เผื่อว่าจะเกิดอันตรายอะไรกับพวกเขา
เมื่อคู่สามีภรรยาเดินไปถึงทุ่ง พวกเขาก็มุ่งตรงไปยังรั้วทันทีแล้วเริ่มต้นถอดเสื้อผ้าออก เมื่อทั้งสองคนเปลือยเปล่าแล้วชายชราก็จับภรรยาของเขาพิงกับรั้ว
ตำรวจแอบดูทั้งสองจากพุ่มไม้และรู้สึกแปลกใจมากในสิ่งที่เขาเห็น หญิงชรากระโดดไปรอบๆ ในขณะที่สามีของเธอก็ทำอย่างเดียวกันอยู่เกือบ 5 นาทีก่อนที่ทั้งสองจะล้มลงบนพื้น พวกเขานอนอยู่สักพัก แล้วลุกขึ้นสะบัดเนื้อตัวแล้วใส่เสื้อผ้ากลับเหมือนเดิม
ขณะที่พวกเขาเดินกลับไปที่ถนน ตำรวจก็รีบเดินไปหาพวกเขาแล้วพูด
นั่นเป็นการแสดงความรักที่พิลึกพิลั่นที่สุดที่ผมเคยเห็นเลยนะนี่ เมื่อก่อนคู่คุณจะต้องร้อนแรงมากแน่เลย
ก็ไม่เชิงหรอกครับ ชายชราตอบ เมื่อก่อน ไอ้รั้วนั่นยังไม่ใช่รั้วไฟฟ้า
-
- Verified User
- โพสต์: 421
- ผู้ติดตาม: 0
บรรยากาศไม่แจ่มใส มาร้องเพลงให้เข้ากับบรรยากาศดีกว่า...
โพสต์ที่ 8
ของผมต้องเพลงนี้ครับผม
" ในวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน
จนบางครั้งคนเรา ไม่ทันได้ตระเตรียม ....หัวใจ"
ชื่อเพลง Live & learn สรุปได้ว่า ในร้ายมีดี ในดีก็มีร้าย เหอะๆ[/list]
" ในวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน
จนบางครั้งคนเรา ไม่ทันได้ตระเตรียม ....หัวใจ"
ชื่อเพลง Live & learn สรุปได้ว่า ในร้ายมีดี ในดีก็มีร้าย เหอะๆ[/list]
รู้สึกดีๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
บรรยากาศไม่แจ่มใส มาร้องเพลงให้เข้ากับบรรยากาศดีกว่า...
โพสต์ที่ 9
เพลงไหนก็ได้ที่น้อง Four ดิ้น :ep:
I do not sleep. I dream.