นักลงทุนVIมองอดีตหรือมองอนาคตหรือมองปัจจุบัน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 7:37 am
อันนี้ขอต่อยอดคำถามในงานสัมมนากับพี่มนล่ะกัน
เพื่อจะได้ความคิดดีๆๆเพิ่มขึ้น
คำถามก็คือ
ประมาณปลายเดือนนี้จะเริ่มมีเทศกาล ประกาศปันผลและผลประกอบการประจำปี2549 แต่ตอนนี้ดันไปเกิดเหตุการณ์ระเบิดตั้งแต่วันที่31/12/2549 ผลของเหตุการณ์นี้สัปดาห์แรกที่ทำงานสามวัน หุ้นก็ร่วงทุกวันวันละ 10 กว่า 20 กว่า ทุกวันในสามวัน
แต่นักลงทุนลืมมองไปว่า ผลของเหตุการณ์นี้จะไปรู้เอาตอนประมาณเดือนเมษายน2550 ถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2550 ในช่วงที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส1/2550 อาจจะเลยไปถึงช่วงเดือนกรกฏาคม2550 ถึงกลางเดือนสิงหาคม2550 ซึ่งเป็นช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2550
มันคือเรามอง ณ ปัจจุบันกับอนาคต ว่ามันต้องทำให้กิจการของเราร่วง แต่เราลืมมองอดีตที่เป็นแรงขับดันปัจจุบันหรือเปล่า
ถ้าเรากังวลมันมากไป แล้วขายหุ้นดีๆๆ แบบตกใจตามตลาดไปหรือเปล่า
งานนี้ต้องอ่านเรื่องปัจจัยภายในของตัวบริษัทว่ายังสามารถประกอบกิจการได้แบบเดิม ไม่มีความเดือดร้อนจากปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นไหม
ยกตัวอย่างในอดีต
ในตอนปฏิวัติ 19/09/2549 มองดูวันแรกที่ตลาดเปิด 20/09/2549 คนตกใจ ร่วงไปเกือบสามสิบจุด วันนี้ปิดเลขสวย -9.99 จุดสองวันต่อมาร่วงต่อ แต่หุ้นบ้างตัวมาดูหลังจากสามวันนั้น ราคาก็กลับไปที่เดิมที่มันควรอยู่ ถามว่าปัจจัยเรื่องปฏิวัติมีผลต่อการประกอบการหรือเปล่า มีผลต่อผู้ถือหุ้นโดนตรงหรือเปล่า มีผลต่อการทำกำไรของหุ้นหรือเปล่า
ถ้าดูในช่วงนั้นเป็นช่วงคล้ายๆๆกับช่วงนี้ คือใกล้ประกาศผลประกอบการเหมือนกัน
แล้วผลประกอบการตอนนั้นกับตอนนี้จะเหมือนกันหรือแตกต่างกันล่ะ บ้างที่ใจเรานั้นกลัวมากเกินไป ซึ่งต้องหาคนรู้ใจมาด้ามให้แล้วกระมั้ง
เพื่อจะได้ความคิดดีๆๆเพิ่มขึ้น
คำถามก็คือ
ประมาณปลายเดือนนี้จะเริ่มมีเทศกาล ประกาศปันผลและผลประกอบการประจำปี2549 แต่ตอนนี้ดันไปเกิดเหตุการณ์ระเบิดตั้งแต่วันที่31/12/2549 ผลของเหตุการณ์นี้สัปดาห์แรกที่ทำงานสามวัน หุ้นก็ร่วงทุกวันวันละ 10 กว่า 20 กว่า ทุกวันในสามวัน
แต่นักลงทุนลืมมองไปว่า ผลของเหตุการณ์นี้จะไปรู้เอาตอนประมาณเดือนเมษายน2550 ถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2550 ในช่วงที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส1/2550 อาจจะเลยไปถึงช่วงเดือนกรกฏาคม2550 ถึงกลางเดือนสิงหาคม2550 ซึ่งเป็นช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2550
มันคือเรามอง ณ ปัจจุบันกับอนาคต ว่ามันต้องทำให้กิจการของเราร่วง แต่เราลืมมองอดีตที่เป็นแรงขับดันปัจจุบันหรือเปล่า
ถ้าเรากังวลมันมากไป แล้วขายหุ้นดีๆๆ แบบตกใจตามตลาดไปหรือเปล่า
งานนี้ต้องอ่านเรื่องปัจจัยภายในของตัวบริษัทว่ายังสามารถประกอบกิจการได้แบบเดิม ไม่มีความเดือดร้อนจากปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นไหม
ยกตัวอย่างในอดีต
ในตอนปฏิวัติ 19/09/2549 มองดูวันแรกที่ตลาดเปิด 20/09/2549 คนตกใจ ร่วงไปเกือบสามสิบจุด วันนี้ปิดเลขสวย -9.99 จุดสองวันต่อมาร่วงต่อ แต่หุ้นบ้างตัวมาดูหลังจากสามวันนั้น ราคาก็กลับไปที่เดิมที่มันควรอยู่ ถามว่าปัจจัยเรื่องปฏิวัติมีผลต่อการประกอบการหรือเปล่า มีผลต่อผู้ถือหุ้นโดนตรงหรือเปล่า มีผลต่อการทำกำไรของหุ้นหรือเปล่า
ถ้าดูในช่วงนั้นเป็นช่วงคล้ายๆๆกับช่วงนี้ คือใกล้ประกาศผลประกอบการเหมือนกัน
แล้วผลประกอบการตอนนั้นกับตอนนี้จะเหมือนกันหรือแตกต่างกันล่ะ บ้างที่ใจเรานั้นกลัวมากเกินไป ซึ่งต้องหาคนรู้ใจมาด้ามให้แล้วกระมั้ง