ทำไมเมืองไทยต้องมีกม.ห้ามต่างชาติถือหุ้นเกิน 51%

[Boring Stock Lover]

อยากรู้ครับ เพราะผมมองไม่ออก

ธุรกิจความมั่นคง ไม่ว่าไทยหรือเทศ ก็น่าจะผ่านกระบวนการตรวจสอบว่าไม่มีการใช้ในทางที่ผิด

กลัวทำแล้วหนี ทอดทิ้ง ไม่ว่าไทยหรือเทศ ก็หนีได้ทั้งนั้น แล้วถ้าธุรกิจไม่ดี มันก็ต้องปิดอยู่ดี ถ้าธุรกิจดี ก็มีคนรับซื้อ ซึ่งคนซื้อก็อาจจะเป็นทั้งไทยหรือเทศก็ได้

ปกป้องผู้ประกอบการไทย อืมม์ ไม่แน่ใจ

การถ่ายทอดเทคโนโลยี อืมม์ ความรู้ในการทำงาน ความรู้ในการบริหาร อยู่ที่คนที่ทำงานเรียนรู้ ความลับทางธุรกิจ ยังไงก็ไม่มีทางถ่ายทอดอยู่แล้ว

กำไรจะได้อยู่ในมือคนไทย ปกติผลตอบแทนก็จะแบ่งกันออกไป ทั้งเงินเดือนของคนทำงาน กำไรของผู้ถือหุ้น

คิดไม่ออก

[naris]

ผมว่าการสงวนของบางอย่างไม่ให้ต่างชาติถือเกิน 50% ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ

ไม่อย่างงั้น อนาคตซัก20ปีข้างหน้า ชาติเราอาจเป็นเมืองขึ้นของชาวต่างชาติ

ผมก็คงรับไม่ได้ ถ้าสมมุติ เดินไปที่ไหนก็มีแต่ป้าย คนไทยห้ามเข้า หรือมียามกำกับขอบเขตแบ่งเชื้อชาติ หรือลูกจ้างชั้นล่างเป็นคนไทย เก็บกินได้แค่เศษเงิน แต่กำไรส่วนมากเป็นของ คนอื่นที่เห็นเราเป็นขี้ข้า

ผมรู้ว่าแนวนโยบายท่านคิดถูก แต่วิธีปฎิบัติท่านจะใช้ยาแรงไปเหมือนกับการแทรกแทรงค่าเงินหรือเปล่าผมไม่รู้

ถ้าหักดิบจริงๆ ผมก็คงเจ็บตัวพอๆกับท่านนั่นแหละ :lol:

[jaychou]

ผมถึงถามถึงตัวกฏหมายจริงๆครับ ว่าเขียนว่ายังไงกันแน่ เรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆ และถ้าทำซี้ซั้ว เมืองไทยจะกลายเป็นนรกทันที

หากบริษัทต่างชาติทุกบริษัทในไทยถือหุ้นได้ไม่เกิน 50% และต้องถอนการลงทุน สินค้าสำคัญหลายๆอย่างจะหายไปจากประเทศไทยทันที และผู้คนจะตกงานกันทั่วบ้านทั่วเมืองครับ เรื่องใกล้ๆตัวผมวงการอิเลกทรอนิกส์ ก็มี บริษัท Western Digital ที่บางปะอิน,  Seagate เทพารักษ์กับโคราช,  Spansion (AMD) ที่แจ้งวัฒนะ, Phillip Semi ที่หลักสี่ ...อ้าวบริษัทห้องแถวที่ผมทำอยู่ ก็ฝรั่งถือหุ้นใหญ่นี่ (หว่า) เอาละสิ!!!

ไม่นับพวกบริษัทที่เข้ามาทำ support & service ในอุตสาหกรรมนี้นะครับ ถ้ายกยวงออกไปกันหมดก็ได้อยู่กันอย่างพอเพียงโดยจำเป็นล่ะครับ

วงการอื่น เช่น P&G, Unilever, Toyota, Honda..etc  ถ้าถอนตัวหมด ผมยังนึกไม่ออกว่าเมืองไทยจะอยูกันยังไง

[lekmak333]

ต้องศึกษา การวางตนแบบเรียบง่ายได้แล้วครับ
ใครมีหนังสือ วัฒนธรรม ภูฎาน บ้างครับ จะลองไปศึกษาดู อิอิ พูดเล่น

เท่าที่รู้ค่อนข้างแน่ชัดคือ บัญชี1 กับ บัญชี2 ไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปัญหาก็บัญชี3 อิเล็กก็อยู่ในบัญชี3

[ong120]

ผมว่าการสงวนของบางอย่างไม่ให้ต่างชาติถือเกิน 50% ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ

ไม่อย่างงั้น อนาคตซัก20ปีข้างหน้า ชาติเราอาจเป็นเมืองขึ้นของชาวต่างชาติ

ผมก็คงรับไม่ได้ ถ้าสมมุติ เดินไปที่ไหนก็มีแต่ป้าย คนไทยห้ามเข้า หรือมียามกำกับขอบเขตแบ่งเชื้อชาติ หรือลูกจ้างชั้นล่างเป็นคนไทย เก็บกินได้แค่เศษเงิน แต่กำไรส่วนมากเป็นของ คนอื่นที่เห็นเราเป็นขี้ข้า

ผมรู้ว่าแนวนโยบายท่านคิดถูก แต่วิธีปฎิบัติท่านจะใช้ยาแรงไปเหมือนกับการแทรกแทรงค่าเงินหรือเปล่าผมไม่รู้

ถ้าหักดิบจริงๆ ผมก็คงเจ็บตัวพอๆกับท่านนั่นแหละ :lol:

เห็นด้วยกับคุณ naris ครับ  :!:

ยอมเจ็บตัวตอนนี้ ดีกว่าน่ะครับ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้สนทนาธรรมกับพระองค์หนึ่ง (ไม่ได้คุยถีงเรื่องหุ้นน่ะครับ) ท่านให้ข้อเปรียบเทียบว่า

เวลาคนติดสิ่งเสพติดจะเห็นสิ่งเสพติดเป็นของดี...  :evil:
แต่ ถ้า จะหยุดเสพ ก็จะกระวนกระวาย ลงแดง N/V อาการนี้จะเป็นแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

หยุดเสพสำเร็จ มองย้อนหลัง ก็จะเห็นว่า สื่งเสพติดเป็นของไม่ดี

ตอนนี้ ผมและ เพื่อนๆผมหลายคน ถ้าเปรียบเทียบก็กำลังอยู่ในระยะหยุดเสพ กำลังกระวนกระวาย อิอิ    :D  แต่ผมก็คงปลอบตัวเองด้วยว่า คงเป็นแต่ระยะหนึ่งเท่านั้น

ปล. แต่ถ้า หยุดเสพไม่สำเร็จ หรือ เปลี่ยนไปเสพอย่างอื่น สุขภสพคงทรุดโทรมมากกว่าเดิมแน่ๆ  :twisted:  :twisted:  :twisted:

[naris]

ต้องศึกษา การวางตนแบบเรียบง่ายได้แล้วครับ
ใครมีหนังสือ วัฒนธรรม ภูฎาน บ้างครับ จะลองไปศึกษาดู อิอิ พูดเล่น

เท่าที่รู้ค่อนข้างแน่ชัดคือ บัญชี1 กับ บัญชี2 ไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปัญหาก็บัญชี3 อิเล็กก็อยู่ในบัญชี3

บัญชี1และ2คือตัวปัญหาครับ

บัญชีที่3ที่คุณเจย์ทำงานอยู่ ไม่เกี่ยวครับ ให้แจ้งภายใน90วันแต่ไม่ต้องเปลี่ยนการถือครอง

[BHT]

[quote="jaychou"]ผมถึงถามถึงตัวกฏหมายจริงๆครับ ว่าเขียนว่ายังไงกันแน่ เรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆ และถ้าทำซี้ซั้ว เมืองไทยจะกลายเป็นนรกทันที

หากบริษัทต่างชาติทุกบริษัทในไทยถือหุ้นได้ไม่เกิน 50% และต้องถอนการลงทุน สินค้าสำคัญหลายๆอย่างจะหายไปจากประเทศไทยทันที และผู้คนจะตกงานกันทั่วบ้านทั่วเมืองครับ เรื่องใกล้ๆตัวผมวงการอิเลกทรอนิกส์ ก็มี บริษัท Western Digital ที่บางปะอิน,

[Boring Stock Lover]

ในอดีตการ ก็มีเหตุการณ์ คล้ายๆกัน แต่ไม่ใช่ต่างชาติ เป็นคนไทยทำกันเอง

ไพร๋ห้ามเข้าประตูนี้

เรื่องนี้มันคนละเรื่องกับบริษัทเอกชนที่มีเจ้าของเป็นใคร กม.อื่นสามารถคุ้มครองด้านนี้ได้

[pawiga]

เมื่อกี้ฟัง ช่องเก้า ผู้ที่ได้รับ boi เค้า บอกว่า ไม่เกี่ยวน่ะครับ  ซึ่งก็คือพวก ส่งออกทั้งหลาย

[nanakorn]

ขอคุยเล่นๆสักหน่อยครับ

สมัยนี้เราบอกว่า ไม่ควรตัดสินคนจากเชื้อชาติ (Race) คนเราไม่สามารถกำหนดได้ว่า พ่อแม่จะเป็นเชื้อชาติไหน อาจจะเป็นคนเอเชีย คนผิวดำ คนผิวขาว ควรดูคนจากความดี ความสามารถ  ใครยังมีความรู้สึกกีดกันทางเชื้อชาติ ก็จะกลายเป็นคนน่ารังเกียจ ถูกเรียกว่าเป็นพวกเหยียดผิว

สมัยนี้เราบอกว่า ไม่ควรตัดสินคนจากศาสนา ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกศาสนาของตนเอง หรืออาจจะเกิดมาในครอบครัวที่นับถือศาสนานั้นๆ ตนเองเลยนับถือศาสนานั้นๆมาตั้งแต่เกิด

แต่เรื่องชาตินิยมนี่แปลก  เรายอมรับที่จะตัดสินคนจาก สถานที่ที่เขาเกิด  ไม่ต้องดูเรื่องความดี ความสามารถ  ถ้าไม่ได้เกิดในบริเวณที่เรายอมรับ  เราจะคิดกับเขาเหล่านั้นแตกต่างไป  ดูๆแล้วไม่แตกต่างกับเรื่องเหยียดผิวเท่าไรเลย

ตัวผมเองอยากจะมองว่า ถ้าใครจะมาทำอันตราย ทำความเสียหาย ต่อพวกเรา เราก็ต้องป้องกัน เพราะเขาจะมาทำความเสียหาย ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนต่างชาติ  ประเด็นก็คือ เราต้องป้องกันตัวเองจากคนที่จะมาทำความเสียหายให้เรา คนๆนั้นอาจจะเป็นหรือไม่เป็นคนต่างชาติ  เราต้องหาคนๆนั้นให้เจอ

ถ้าคนในโลกส่วนใหญ่ (ผมหมายถึงว่า ส่วนใหญ่จริงๆ) คิดว่า ตนเองเป็นพลเมืองของโลก โลกก็จะสงบสุขมากกว่าปัจจุบันมากนัก  แต่ถ้า คนในโลกส่วนใหญ่มีความคิดชาตินิยมมากเกินไป  เราเอาเปรียบชาติอื่นได้ ชาติอื่นอย่ามาเอาเปรียบเรา  แต่ละชาติก็คงต้องต่อสู้ป้องกันชาติของตัวเองกันไปอย่างไม่รู้จบ

[chatchai]

เอกชนไทย  ดีกว่า  เอกชนต่างชาติ  อย่างไร

[ShexShy]

เอกชนไทย  ดีกว่า  เอกชนต่างชาติ  อย่างไร

เอาเป็นว่าในมุมมองของผม คือ ใช้กฎหมายไทย บังคับได้

ต่างชาติ ถ้าทำผิดที่เมืงไทย อาจจะต้องมีเรื่อง สัญญาระหว่างประเทศ
(อันนี้ต้องอาศัยผู้รู้)

เรื่อง ทำไมต้องมี กฎหมายที่ห้ามการถือครอง เป็น สัดส่วนเกิน 49%  นั้น

มันก็มีข้อดีของมัน โดยเฉพาะ ในเรื่องความมั่นคง

ก็เลยเห็นว่า เขาจำแนก กลุ่ม ธุรกิจ ที่จำเป็น และ ไม่จำเป็น

ส่วนจะจำแนก ได้เหมาะสมหรือไม่นั้น ก็คงขึ้นอยู่กับ กึ๋น ของรัฐบาล มากกว่า

การที่มีอะไรที่ชัดเจน เรื่องนิยามของ นอมินี นั้น ผมยังมองในแง่บวก

แต่สิ่งที่มองได้ในแง่ลบ คือ สมมติ กรณี รัฐบาลชุดนี้หมดวาระแล้ว

คิดว่า รัฐบาลชุดต่อไปจะแก้ กฎหมายนี้ใหม่หรือไม่ ?

.... ...

[Lady]

ต้องศึกษา การวางตนแบบเรียบง่ายได้แล้วครับ
ใครมีหนังสือ วัฒนธรรม ภูฎาน บ้างครับ จะลองไปศึกษาดู อิอิ พูดเล่น

เท่าที่รู้ค่อนข้างแน่ชัดคือ บัญชี1 กับ บัญชี2 ไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปัญหาก็บัญชี3 อิเล็กก็อยู่ในบัญชี3

         ครม.เห็นชอบหลักการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ระบุ ธุรกิจโทรคมนาคม-เกษตร-ขนส่ง -สิ่งพิมพ์ -ที่ดิน อ่วมหนัก ติดโผบัญชี 1 และ 2  ส่วนค้าปลีกรอดตัว เหตุอยู่ในบัญชี ที่3   ส่วนตลาดหุ้นยันมีแค่ 15 บจ.เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ

ดังนั้นรัฐบาลจึงมีวิธีให้บริษัทที่ทำผิดเกณฑ์ใหม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง คือ
1.ในกรณีที่ถือหุ้นไม่เกิน 50% ไม่มีนอมินี แต่ผิดตรงสิทธิออกเสียงของชาวต่างชาติเกิน 50% นั้น หากเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจในบัญชีที่ 3 เช่น บริการทั่วไป ธุรกิจค้าปลีก-ส่ง นั้นจะต้องมาแจ้งกับกระทรวงพาณิชย์ภายใน 1 ปี และหลังจากนั้นก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยไม่ต้องทำการไปลดสั่ดส่วนหุ้นที่เป็นนอมินี หรือการออกเสียงของชาวต่างชาติแต่อย่างใด

แต่ถ้าหากเป็นบริษัทที่อยู่ในบัญชี 3 แต่เข้ามาจดทะเบียนภายหลังที่การแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแล้ว ก็จะต้องทำตามกฎใหม่ คือ ต้องมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นและสิทธิในการออกเสียงของชาวต่างชาติไม่เกิน 50%

แต่บริษัทที่อยู่ในบัญชีที่ 1 คืออาชีพสงวนคนไทย เช่น ด้านการเกษตรกร วิทยุกระจายเสียง หนังสือพิมพ์ ค้าที่ดิน ทำนาทำไร่ สกัดสมุนไพร

และบัญชีที่ 2 ได้แก่ ธุรกิจประเภทที่กระทบกับความมั่นคง เช่น การขนส่งทางน้ำ อากาศ บก กิจการการบินในประเทศ โทรคมนาคม อาวุทธยุทปกร

มีสิทธิในการออกเสียงของชาวต่างชาติเกิน 50% นั้นต้องมาแจ้งกับกระทรวงพาณิชย์ภายใน 1 ปี และจะต้องดำเนินการปรับลดสัดส่วนการออกเสียงให้ไม่เกิน 50% ภายใน 2 ปี ส่วนกรณีมีนอมินีถือหุ้นเกิน 50% นั้นจะต้องมาแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์ทราบภายใน 90 วัน และทยอยลดหุ้นให้เหลือไม่เกิน 50% ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่กฎหมายออก

เท่าที่ทราบคร่าว ๆ อ่ะค่ะ

[wj]

ผมเป็นคนไทย ผมสนับสนุนเรื่อง กฏหมายนอมินีครับ

ไม่อยากเห็นประโยชน์แค่หุ้นขึ้นลงมาบังผลประโยชน์ของประชาชนทั้งชาติ

หลายคนก็เคยเห็นว่าเรื่องห้างค้างปลีกข้ามชาติทำให้ประชาชนลำบาก คนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย ใหนวันนี้บางคนกลับเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ

ส่วนคนที่ออกความเห็นที่ไม่ได้อ่านกฏหมายให้รอบครอบ ยังไง ต้องศึกษาให้ดีนะครับก่อนออกความเห็น

[artvr4]

ผมว่าการสงวนของบางอย่างไม่ให้ต่างชาติถือเกิน 50% ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ

ไม่อย่างงั้น อนาคตซัก20ปีข้างหน้า ชาติเราอาจเป็นเมืองขึ้นของชาวต่างชาติ

ผมก็คงรับไม่ได้ ถ้าสมมุติ เดินไปที่ไหนก็มีแต่ป้าย คนไทยห้ามเข้า หรือมียามกำกับขอบเขตแบ่งเชื้อชาติ หรือลูกจ้างชั้นล่างเป็นคนไทย เก็บกินได้แค่เศษเงิน แต่กำไรส่วนมากเป็นของ คนอื่นที่เห็นเราเป็นขี้ข้า

ผมรู้ว่าแนวนโยบายท่านคิดถูก แต่วิธีปฎิบัติท่านจะใช้ยาแรงไปเหมือนกับการแทรกแทรงค่าเงินหรือเปล่าผมไม่รู้

ถ้าหักดิบจริงๆ ผมก็คงเจ็บตัวพอๆกับท่านนั่นแหละ :lol:

 :cheers:  

[007-s]

[quote="nanakorn"]ขอคุยเล่นๆสักหน่อยครับ

สมัยนี้เราบอกว่า ไม่ควรตัดสินคนจากเชื้อชาติ (Race) คนเราไม่สามารถกำหนดได้ว่า พ่อแม่จะเป็นเชื้อชาติไหน อาจจะเป็นคนเอเชีย คนผิวดำ คนผิวขาว ควรดูคนจากความดี ความสามารถ

[สามัญชน]

เห็นด้วยกับท่านฉัตรชัยและท่าน ณ.นคร เต็มๆครับ

ปล.ไม่แน่ใจว่าท่านศุภชัยยังเป็นผอ. WTO อยู่หรือเปล่าครับ  ถ้ายังเป็นนี่ ดูไม่จืดเลยอ่ะ

[phobenius]

ผมมีอย่างหนึ่งสงสัยเหมือนกัน

เหมืองทองชาตรี ฝรั่งออสเตรเลีย บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ถือหุ้น 100% มาขุดทองในไทย แล้วได้ boi อย่างนี้จะโดนหรือปล่าวครับ

ผมว่าน่าจะโดนนะต่อให้ได้รับการยกเว้นจากboi

งงเหมือนกัน เพราะ ผจก แบงค์บอกว่าพึ่งไปดูเหมืองมา ใหญ่กว่าของthl เยอะแล้วกำลังกู้เงินเพื่อเปิดเฟสใหม่

นี้เล่นแบบขุดทองเมื่องไทยแล้วขนกลับต่างชาติโดยไม่ต้องเสียภาษีด้วยคิดดูเพื่อนๆ ผมฟังแล้ว มั่นไส้มาก

[phobenius]

http://www.kingsgate.com.au/geology_exp ... ration.htm

เวบไซด์เพิ่มเติม เพื่อใครไปฟ้องให้ถอนboi ซะ

[woody]

ผมมีอย่างหนึ่งสงสัยเหมือนกัน

เหมืองทองชาตรี ฝรั่งออสเตรเลีย บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ถือหุ้น 100% มาขุดทองในไทย แล้วได้ boi อย่างนี้จะโดนหรือปล่าวครับ

ผมว่าน่าจะโดนนะต่อให้ได้รับการยกเว้นจากboi

งงเหมือนกัน เพราะ ผจก แบงค์บอกว่าพึ่งไปดูเหมืองมา ใหญ่กว่าของthl เยอะแล้วกำลังกู้เงินเพื่อเปิดเฟสใหม่

นี้เล่นแบบขุดทองเมื่องไทยแล้วขนกลับต่างชาติโดยไม่ต้องเสียภาษีด้วยคิดดูเพื่อนๆ ผมฟังแล้ว มั่นไส้มาก

Akara Mining aims to list for compliance
ARANEE JAIIMSIN

The gold miner Akara Mining Co Ltd plans to list on the Stock Exchange of Thailand within one year as part of its strategy to adjust its shareholding structure to comply with the amended Foreign Business Act.


Currently, Australia's Kingsgate owns 49% of the total common shares in Akara Mining while Empire Asia, a Thai-owned company, holds 51% of the preferred shares that have reduced voting rights.


An Akara executive who asked not to be named said that raising funds through an initial public offering on the SET within the next 12 months would help the company dilute the holdings of Kingsgate. At the same time, voting rights of shareholders from the Thai side would be augmented.


The funds raised would be used to support expansion of Akara Mining's site covering 2,000 rai in Phichit and Phetchabun provinces.


However, the listing could be delayed if the company did not receive nine new exploration and production licences as hoped in June, according to the source.


The new licences from the Department of Primary Industries and Mines would enable Akara to operate for the next 50 years. The company has been in discussions with the authorities over the licences for six years.


The company is currently permitted to mine only two pits at the Chatree gold mine that straddles Phichit and Phetchabun.


If new licences were not forthcoming, Empire Asia may vote to withdraw some of the Australian management team and fill the positions with its own people, said the source.


''As well, the voting rights of the Australian shareholders would decline,'' said the source.

[phobenius]

แต่จริงๆแล้ว ผจก แบงค์ บอกผมว่า คือที่ถือๆก็นอมินีทั้งนั้นครับ

[phobenius]

แต่นั้นผมคุยกับ ผจก เมื่อสัก หกเดือนที่แล้วน่าจะได้นะครับ ตอนนั้นเค้าโชว์งบการเงินของเหมืองทองชาตรีให้ดู ผมก็นั่งดูๆ เสียภาษีค่าสัปทานน้อยมากถ้าเทียบกับกำไรนะครับ ผมจำตัวเลขไม่ได้ แถมได้รับการยกเว้นภาษีจากboiอีก เลยเงินออกกลับประเทศสบายๆ

[fantasia]

[quote="nanakorn"]

ถ้าคนในโลกส่วนใหญ่ (ผมหมายถึงว่า ส่วนใหญ่จริงๆ) คิดว่า ตนเองเป็นพลเมืองของโลก โลกก็จะสงบสุขมากกว่าปัจจุบันมากนัก

[ลูกอิสาน]

[quote="fantasia"][quote="nanakorn"]

ถ้าคนในโลกส่วนใหญ่ (ผมหมายถึงว่า ส่วนใหญ่จริงๆ) คิดว่า ตนเองเป็นพลเมืองของโลก โลกก็จะสงบสุขมากกว่าปัจจุบันมากนัก

[tanatat]

ผมว่าทุกประเทศก็มีข้อจำกัดเรืองนี้ทุกประเทศครับ เพียงแต่เมืองไทยมีรัฐบาลที่ปล่อยปะละเลยในการที่จะบังคับใช้กฏหมายนี้แถมหัวหน้ารัฐบาลก่อนก็ยังใช้เป็นช่องในการหาประโยชน์ ส่วนรัฐบาลนี้ก็ไม่ได้นำเรื่องช่วงจังหวะในการทำเลยก่อให้เกิดปัญหาผลกระทบตามมามาก

[คัดท้าย]

เห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไง ก็วิจารณ์กันตามอัธยาศัยครับ



ทำให้กฎหมาย"นอมินี"ชัดเจนคือการส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ

11 มกราคม 2550 น.

นักลงทุนต่างประเทศเรียกร้องเสมอให้มีความชัดเจนและโปร่งใสของกฎหมาย และให้ "สนามแข่งขัน" มีความเท่าเทียมกัน อีกทั้งอย่าได้เลือกปฏิบัติกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ประเทศร่ำรวยก้าวหน้าทางตะวันตกพูดเสมอว่า ไทยจะต้องมี good governance หรือ "ธรรมาภิบาล" นั่นคือ ต้องไม่มี "ศรีธนญชัย" และไม่มีการทำอะไรตุกติกใต้โต๊ะ หรือหลบเลี่ยงกฎหมายด้วยวิธีการต่างๆ นานา

ประเทศไทยก็ต้องการเงินลงทุนต่างชาติ และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เปิดประตูค่อนข้างจะกว้างสำหรับชาวต่างชาติมาตลอด แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายนั้นเอาแน่เอานอนไม่ได้ แล้วแต่ว่าเป็นรัฐบาลไหน และขึ้นอยู่กับว่าข้าราชการประจำกระทรวงทบวงกรมนั้นๆ จะเอาจริงเอาจังแค่ไหน

บ่อยครั้ง กฎหมายของไทยที่มีต่อต่างด้าวก็เข้าลักษณะ "ปากว่าตาขยิบ" นั่นคือเขียนเอาไว้อย่าง แต่ในทางปฏิบัตินั้นเคร่งครัดบ้าง ไม่เคร่งครัดบ้าง แล้วแต่ว่าใครจะ "วิ่งเต้น" หนักหน่วงขนาดไหน และมี "เส้นสาย" ตื่นลึกหนาบางเพียงใด

ยิ่งเกิดกรณี "กุหลาบแก้ว" ที่ถูกสอบสวน ว่าเป็น "nominee" ให้กับเทมาเส็กของสิงคโปร์ เพื่อเข้ามายึดครองหุ้นส่วนใหญ่ของชินคอร์ป ซึ่งมีสัมปทานทั้งดาวเทียม โทรศัพท์มือถือ และสถานีโทรทัศน์ ซึ่งถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ว่าด้วยการประกอบธุรกิจในไทยอย่างโจ่งแจ้ง ก็ยิ่งมีความจำเป็นจะต้องทำอะไรให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง

นี่คือที่มาของการแก้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจต่างด้าว พ.ศ.2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอและเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้หอการค้าต่างประเทศออกมาแสดงความคัดค้าน ขอให้คณะรัฐมนตรีเลื่อนการพิจารณาออกไป 6 เดือน เพื่อให้มีการพิจารณาข้อดีข้อเสียของการแก้ไขกฎหมายนี้อีกครั้งหนึ่ง

พร้อมทั้งมีเสียงขู่ว่า ถ้ารัฐบาลไทยไม่ฟังความเห็นคัดค้านของหอการค้าต่างประเทศ ก็อาจจะมีการถอนการลงทุนจากไทยออกไปยังประเทศอื่นก็ได้

แต่คณะรัฐมนตรีก็เดินหน้า มีมติผ่านร่างแก้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนต่างชาติหลีกเลี่ยงกฎหมายในการถือหุ้นธุรกิจในไทย ในลักษณะ "นอมินี" ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นต่อไปไม่ได้

การทำให้คำนิยามของ "ธุรกิจต่างด้าว" ชัดขึ้นนั้นถูกต้องแล้ว และเป็นไปตามคำเรียกร้องของนักธุรกิจไทยและต่างด้าวด้วยซ้ำไป เพราะพอเกิดกรณี "กุหลาบแก้ว" ขึ้นมา ก็มีเสียงเรียกร้องจากนักธุรกิจทั้งไทย และต่างประเทศว่ากรณีชินคอร์ปกับกุหลาบแก้ว จะทำให้บริษัทอีกจำนวนหนึ่ง ที่เข้าข่ายคล้ายๆ กัน ต้องมีปัญหา...ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลไทยได้ชี้แจงให้กระจ่างชัด

เพื่อความกระจ่างชัด กระทรวงพาณิชย์ก็จึงแก้ไขคำจำกัดความของคำว่า "บริษัทต่างชาติ" ให้หมดข้อสงสัย นั่นคือบริษัทไหนที่ต่างชาติถือหุ้นเกิน 50% ก็คือบริษัทต่างชาติ

และระบุต่อไปว่า "รวมถึงส่วนที่คนไทยถือหุ้นแทนด้วย"

แปลว่าถ้าคนไทยทำตัวเป็น "nominee" ให้กับต่างด้าว และรวมกันแล้วเกินร้อยละ 50 ก็ต้องถือว่าบริษัทนั้นเป็น "ต่างด้าว" อย่างไม่ต้องตีความกันอีก

แปลต่อว่า คนไทยก็อย่าได้ไปเป็น "nominee" ให้ต่างชาติเลย เพราะจะไม่มีผลทำให้ "ไทยเทียม" กลายเป็น "ไทยแท้" ได้

ประเด็นที่สอง ก็คือว่ากรณีต่างชาติถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 50 แต่ใช้สิทธิออกเสียงเกินร้อยละ 50 ที่เรียกว่า "voting right" (เพราะมีการทำสัญญาพิเศษขึ้นมาเช่นนั้น) ก็จะทำไม่ได้อีกต่อไป เมื่อกฎหมายฉบับใหม่นี้ออกมา เพราะถือว่าเป็นการยอมให้ต่างด้าวที่ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 50 สามารถครอบงำบริษัท จึงให้มีสิทธิออกเสียงได้ไม่เกินร้อยละ 50 เช่นกัน

ถ้าถามว่า อ้าว ที่แล้วมา ก็เห็นอะลุ่มอล่วยยอมให้ทำกันนี่นา อยู่ดีๆ จะมากติกาเพื่อกลั่นแกล้งกันหรืออย่างไร

ประธานหอการค้าต่างชาติ ปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเรน บอกว่า รัฐบาลไทยควรจะแยก "การเมืองออกจากธุรกิจ" ซึ่งต้องถือว่าเป็นถ้อยแถลงที่ถูกต้อง เพราะการทำให้กติกาชัดเจนนั้น ต้องไม่เอาประเด็นการเมืองมายุ่งเกี่ยว

แต่ต้องย้อนดูด้วยว่าความไม่ชัดเจน นโยบาย "เอาหูไปนา เอาตาไปไร่" ของรัฐบาลก่อนๆ นั้นมิใช่เกิดจาก "การเมือง" และ "ฉ้อราษฎร์บังหลวง" มาตลอดหรือ

กลเม็ดของการหลบเลี่ยงกฎหมายนั้น ไทยเราได้ปล่อยมานาน ถูกต่างชาติมองว่า เป็นประเทศที่มีกฎหมาย แต่ไม่บังคับใช้กฎหมายมานานแล้วเช่นกัน

การแก้ไขให้ชัดเจน ให้ยุติธรรมและโปร่งใส จึงเป็นการส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างจริงจัง

ผมได้ยินบางคนพูดถึงคำว่า "ชาตินิยม" กับความแก้ไขกฎหมายต่างด้าวฉบับนี้แล้วก็ขบขัน เพราะเนื้อหาสาระและลีลาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องชาตินิยมหรือไม่ชาตินิยมเลย

เป็นการเอาใจต่างชาติด้วยซ้ำไป...เพื่อเปรียบเทียบกับข่าวที่ออกวันเดียวกันที่เวเนซุเอลา

ที่นั่นประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ เพิ่งชนะเลือกตั้งรอบใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว ก็ประกาศนโยบาย "สังคมนิยมแห่งศตวรรษที่ 21" โดยจะยึดธุรกิจโทรคมนาคมและไฟฟ้า ซึ่งวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นของอเมริกันมาเป็นของรัฐ...และอำนาจของผู้ว่าการธนาคารกลาง ก็จะกลายมาเป็นของผู้กุมอำนาจการเมืองทั้งหมด

ไทยยังเป็นทุนนิยมเต็มตัว...เพียงขอให้เป็นทุนนิยมที่เขียนกฎกติกาให้ชัดๆ แจ้งๆ เท่านั้นเอง

ประเด็นนี้จะต้องว่ากันต่ออีก เพราะอ่านแค่พาดหัวหนังสือพิมพ์ว่าใครขู่จะถอนการลงทุน เพราะแก้กฎหมายธุรกิจต่างด้าวนั้น อาจจะทำให้เข้าใจไขว้เขวอย่างไม่น่าให้อภัยได้ครับ


- จบ -

[คัดท้าย]

ลืม ลิงค์

http://www.bangkokbiznews.com/viewOpini ... sid=146598

[lekmak333]

ทุนนิยมเต็มตัว ต้องแข่งขันแบบเสรีด้วย คือ มุ่งเน้นให้เกิดการแข่งขันกัน

การกำหนดกฏหมาย รวมถึงนิยาม ว่า ต่างด้าว ให้ชัดเจน
ไม่ได้แปลว่า เป็นการส่งเสริมการลงทุน

ส่งเสริมการลงทุน มันต้องเป็นนโยบาย ที่ทำให้คนอยากจะเข้ามาลงทุน ไม่ว่าในหรือนอกประเทศ

ถ้า กม. นอมินี ทำให้ นักลงทุน แห่เข้ามาลงทุนในไทย ก็เชียร์เต็มที่

งั้นมาพูดกันต่อดีกว่า สมมุติ ถ้าเราเป็นเจ้าของเงิน เป็นต่างชาติ โอเครู้ความชัดเจนเรื่องกฏหมายนอมินีแล้ว แล้วไทยเรามีอะไรน่าดึงดูดใจให้เข้ามาลงทุน
เมื่อเทียบกับ เวียดนาม จีน ? (vi ในห้องนี้ยังอยากย้ายฐานไปเวียดนามเลย)   :lol:

[adi]

เห็นด้วยที่ห้ามต่างชาติถือหุ้นเกินครึ่งในบางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับความมั่นคง  

จริงอยู่เราไม่ควรที่จะตัดสินคนว่าดีหรือไม่ดีจากเชื้อชาติ แต่พื้นฐานของคนมันก็อดที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงเราไม่คิด คนอื่นอาจจะคิด  พื้นฐานของคนทุกคนก็จะรักพวกพ้องมากกว่าคนอื่นเสมอ  

อเมริกาที่เค้าว่าเป็นประเทศเสรีสุดยอด ก็ยังเข้าแทรกแซงการครองธุรกิจของต่างชาติ เช่นจีนเข้าซื้อธุรกิจน้ำมัน หรือแขกซื้อท่าเรือ

ผมอยากให้เปิดเสรีให้หมดเลย เว้นแต่บางธุรกิจที่เห็นว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

[lekmak333]

ผมอยากให้เปิดเสรีให้หมดเลย เว้นแต่บางธุรกิจที่เห็นว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

เห็นด้วย

แล้วตกลงต่างชาติ เข้ามาลงทุนในธุรกิจอะไรได้บ้าง นอกเหนือจาก บัญชี 1 2 3 และเป็นตัวดึงดูดที่จะให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนใน thailand