หน้า 1 จากทั้งหมด 1

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 9:35 am
โดย chatchai
บริษัทญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย เช่น TOYOTA  HONDA  ISUZU  MITSU  SONY    เวลาลงทุนในไทยมักจะกู้เงินจากใครครับ

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 11:06 am
โดย triathlon
เท่าที่ทราบ โตโยต้าออกหุ้นกู้ บริษัทแม่ค้ำ ได้ดอกเบี้ยถูกมากๆ เพราะ Touota Motor Corporation เป็น AAA
บริษัทอื่นๆหลายบริษัท กู้ ธนาคารญี่ปุ่นในไทย

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 11:15 am
โดย BHT
อ่านเจอในหนังสือพิมพ์บอกว่ากู้จากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นมา ทำให้ได้ต้นทุนถูก

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 12:42 pm
โดย toon
ถ้าเป็นก่อนมาตราการใหม่ บริษัทญี่ปุ่น บางครั้งอาจจะกู้จากธนาคารญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นเลย เพราะดอกเบี้ยถูกกว่าเยอะมาก แล้วก็มาหาวิธีป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลัง แต่หลังจากที่มีมาตราการออกมา การเปลี่ยนแปลงยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 12:51 pm
โดย MO101
mitsu ก็กู้กันเอง
ฝากเอง กู้เอง ไม่ผ่าน แบงค์

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 5:46 pm
โดย chatchai
เงินที่กู้จากบริษัทแม่คงถือเป็นเงินกู้นอก  ก็น่าจะโดนมาตรการ 30%  แล้วต่อไปจะยังกู้แม่อีกไหม?

หรือถ้ากู้จากธนาคารญี่ปุ่นด้วยกันเอง  ธนาคารญี่ปุ่นหาเงินมาจากไหน  ผมไม่เคยเห็นธนาคารญี่ปุ่นมีสาขารับเงินฝากเลย?

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 6:59 pm
โดย j_abac
จริงๆ ก็น่าจะใช่นะแบบพี่ eto พูดนะครับ แต่ผมสงสัยเรื่องหนึ่ง ที่ ptt จะออกหุ้นกู้ refinance รวมถึงขยายกิจการ แต่ก็ติด 30% อยู่

แบงก์ชาติตลกร้าย สกัดPTTกู้เงินนอก ขู่นำเข้าหมดไม่ได้ถูกหัก30%'พิชัย'วิ่งปรับแผนทั้งเครือ
         'แบงก์ชาติ'ตลกฝืด ทำปตท.สะดุด สั่งกู้เงินนอกได้แต่ห้ามนำเข้าทั้งหมด ส่วนซื้อเครื่อง
จักรให้พักไว้ต่างประเทศ และที่นำเข้ามาใช้ขยายการลงทุนต้องถูกหัก 30%ด้าน PTT พูดไม่
ออก กระอักเพราะนโยบายทางการขวางลงทุน กัดฟันสู้ต่อ 'พิชัย'เผยต้องปรับแผนใช้เงินลงทุน
ใหม่หมดทั้งเครือ ส่วนปตท.ปีนี้ต้องใช้ 70,000 ล้านบาทหันกู้ในประเทศเพิ่ม แย่งกับเอกชนราย
อื่น

จาก ข่าวหุ้นนะครับ เลยงง นิดหน่อย

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 9:15 pm
โดย chatchai
เวลาประกาศมาตรการต่างๆ  เราอ่านดูก็เข้าใจง่าย

แต่พอใช้จริง  ไม่ง่ายเหมือนที่คิด รายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่ทางการไม่เคยพูดถึง  (หรือไม่เคยนึกมาก่อน  หรือตั้งใจจะไม่พูดถึง)

การลงทุนในกองทุนรวม  กองทุนอสังหาริมทรัพย์  เป็นตัวอย่าง  ที่เวลาฟังการแถลงจากรัฐบาลแล้วก็เข้าใจเองว่ายกเว้น

แต่พอปฏิบัติจริง  กลับไม่ยกเว้น

กรณีการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศก็เช่นกัน  ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากกับการขยายการลงทุนของบริษัทเอกชนต่างๆ

แล้วการสร้างรถไฟฟ้าที่จะกู้ยืมเงินจากเจบิค  ก็ต้องถูกกักไว้ 30% ด้วยหรือเปล่า

จากมาตรการนี้  ใครคิดจะกู้ยืมเงินจากต่างประเทศก็คงแปลกแล้วละครับ

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 9:23 pm
โดย ด๊กดิงด่าง
หรือว่าแบ๊งค์ชาติรู้ทันว่าพวกนี้ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์  แอบเอามาเก็งค่าเงิน

กรรมประเทศไทย

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 9:45 pm
โดย nana
หากเป็นเงินกู้จากต่างประเทศโดนแน่นอน

การลงทุนทางตรงหมายถึงเข้ามาถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 10%

หากพยายามเลี่ยงโดยไม่เอาเงินที่กู้เข้ามาในประเทศ
โดยให้แบงก์จ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ที่อยู่ในต่างประเทศเลย
จะมีปัญหาตอนชำระดอกเบี้ยและต้นเงินอีก เพราะตอน
ส่งเงินออกต้องแสดงหลักฐานว่านำเงินกู้เข้ามาในประเทศด้วย

อยากรู้เหมือนกันว่า ปตท จะทำอย่างไร

ลองดูประกาศแบ้งก์ชาติที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินได้
ที่เว็บแบ้งก์ชาตินะคะ

http://www.bot.or.th/fipcs/Documents/FO ... 490114.pdf
http://www.bot.or.th/fipcs/Documents/FO ... 490118.pdf

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 16, 2007 2:17 pm
โดย onemanshow
ถ้าเป็นเงินกู้ระยะสั้น ส่วนมากกู้กับธนาคารญี่ปุ่นในไทยครับ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก และเงินกู้ระยะสั้นส่วนมากก็เป็นสกุลบาทนี่แหละครับ

ธนาคารญี่ปุ่นในไทยพวกนี้ จะมีเงินฝากจากพวก บ. ญี่ปุ่นในไทยนี่แหละครับมาปล่อยกู้ต่อ (ไม่ต้องใช้จำนวนสาขา) อาศัยให้ดอกเบี้ยสูงเข้าไว้

ให้ดอกฝากสูง แต่ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ

ส่วนธนาคารไทยทั้งที่ในรูปสกุลบาท น่าจะมีต้นทุนต่ำที่สุด เพราะรับฝากเงินจากประชาชน โดยเฉพาะออมทรัพย์ ต้นทุนต่ำมาก กลับไม่สู้

ถ้าเป็นเงินกู้ระยะยาว ส่วนใหญ่ก็จะกู้จากธนาคารญี่ปุ่น เป็นรูปสกุลเยน แล้วนำมา Cross currency swap ปิดความเสี่ยงทั้งอัตราดอกเบี้ย (แปลงจาก Float Rate เป้น Fixed Rate) และอัตราแลกเปลี่ยน (แปลงจาก เยน เป็น บาท)

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 16, 2007 6:51 pm
โดย chatchai
onemanshow เขียน:ให้ดอกฝากสูง แต่ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ
ปล่อยกู้แบบนี้  แล้วจะมีกำไรหรือครับ

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 16, 2007 10:41 pm
โดย worapong
ให้ดอกฝากสูง แต่ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ
หมายถึงว่า spread ของเค้าจะแคบกว่าแบงค์พาณิชย์ไทยใช่ไหมครับ คงคล้ายๆกับแมคโครที่เน้นขายส่ง เค้าไม่ได้มีธุรกรรมเป็นล้านๆครั้ง แต่จะทำเฉพาะธุรกรรมใหญ่ๆ มีกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ไม่ได้เน้นรีเทล เลยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเยอะๆ ต้นทุนเลยต่ำกว่าแบงค์ไทย เป็นอย่างนี้ใช่หรือไม่ครับ

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 6:44 pm
โดย onemanshow
ถ้าพูดถึง NII ก็แคบกว่าแน่นนอน แต่ผมคิดว่า เค้ามีรายได้ทางอื่น โดยเฉพาะด้านอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจาก บ. ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ จะมีทั้งการ Import และ Export ในสัดส่วนสูง ซึ่งคงพอจะชดเชย NII ที่น้อยลงได้

Give and Take ให้ดอกเบี้ยกู้ต่ำ แต่ขอธุรกิจอัตราแลกเปลี่ยนมาชดเชย

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 10:57 am
โดย CEO
chatchai เขียน:
ปล่อยกู้แบบนี้

บริษัทญี่ปุ่นส่วนมากจะกู้เงินจากใคร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 7:25 pm
โดย bajjo
น่าจะมาจากยุทธการนี้แน่ๆเลย

http://matrix.thaivi.net/2007/01/07/fly ... se/#more-8