Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ประเทศไทยมีอะไรที่เป็นจุดแข็ง หรือข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวหน้ากว่าประเทศอื่น
และอะไรที่เป็นข้อด้อยของประเทศไทยที่คอยถ่วงให้ล้าหลังกว่าประเทศอื่น

1.ความมั่นคงทางการเมือง
2.ความสามารถของบุคคล
3.ค่าแรงราคาถูก
4.ทรัพยากรธรรมชาติ
5.ความเป็นมิตรของคนไทย
6.การคมนาคมขนส่งสะดวก
7.ความได้เปรียบทางที่ตั้งของประเทศ
8.ภูมิปัญญาท้องถิ่น
9.ความมีวินัย และขยันขันแข็งของคนไทย
10.ความสามัคคีของคนในชาติ
11.สิ่งแวดล้อม และสภาพสังคมที่ดี
ฯลฯ

ยกมา 11 ข้อ อาจจะมีแค่ข้อ 7 ที่เรียกว่าเป็นจุดเด่น
ส่วนข้ออื่นๆ      

คนไทยจริงๆ ตามต่างจังหวัด นับถือศาสนาพุทธ อย่างศรัทธา อันนี้เป็นข้อเด่นของคนไทยครับ

สังเกตุดูดีๆนะครับ ย่านไหนมีวัด ย่านนั้นเจริญ

ประเทศไทย วัดเยอะครับ ข้อเด่นครับ

 :D  :D

Jeng เขียน:คนไทยจริงๆ ตามต่างจังหวัด นับถือศาสนาพุทธ อย่างศรัทธา อันนี้เป็นข้อเด่นของคนไทยครับ

สังเกตุดูดีๆนะครับ ย่านไหนมีวัด ย่านนั้นเจริญ

ประเทศไทย วัดเยอะครับ ข้อเด่นครับ

 :D  :D

เห็นจริงตามที่พี่เจ๋งว่าครับ
ถ้าคนไทยนับถือศาสนาพุทธอย่างจริงๆ
แค่รักษาศีล 5 ข้อ ก็พอ ที่นี่คือสวรรค์บนดินทีเดียว

จริงๆนะครับ ตอนซึนามิ พิสูจน์ให้เห็นเลยว่า คนไทยนี่ น้ำใจงามจริงๆ นี่เป็นส่วนหนึ่ง ที่สะท้อนให้เห็นว่า โดยรวมคนไทย น่าคบครับ

เช้าๆ ไปดูเลยครับ คนไทย ทั้งประเทศ ตักบาตรกันกี่คน ผมว่ามีมากมหาศาลนะครับ เพราะวัดและพระก็มีไม่น้อย

คนดีๆเหล่านี้ครับ ที่คอยสั่งสอนลูกหลานให้เป็นคนดีครับ

อาจเป็นไปได้ว่า ในประเทศไทยมีคนดี มากกว่าคนไม่ดี
แต่สิ่งที่เป็นจริง คือ คนชั่วที่มีอยู่น้อยกว่า กลับทำความเสียหายที่มากมาย

มีสิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นเพียงครั้งหนึ่ง มันกลบสิ่งดีๆนับร้อยๆครั้งได้ทีเดียว

ยกตัวอย่าง
ทุกวันนี้ ประเทศไทยมีอันตรายมากจริงๆสำหรับผู้หญิง ดูเหมือนว่า ผู้หญิงคนหนึ่ง พร้อมจะถูกข่มขืนได้ทันที ถ้าเผอิญไปอยู่ในที่เปลี่ยวๆ ได้ยินข่าวแบบนี้แทบทุกจังหวัด ไม่มียกเว้น ทั้งที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ
พวกนี้ถ้าไม่เป็นข่าว ถูกลงโทษน้อยมาก จนเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว กับข่าวการข่มขืน

จำได้ตอนผมเด็กๆ เคยดูหนังเรื่องเตือนใจ คงเป็นคดีแรกๆ ที่มีการข่มขืนแล้วฆ่า ถือเป็นข่าวสะเทือนขวัญ แต่เดี๋ยวนี้ ลงเป็นข่าวย่อย ที่เห็นได้เป็นประจำ

หวังว่าศีลธรรมคงกลับมา  สาธุ

ถ้าแต่ก่อนนี้ก็ต้องบอกว่า จุดเด่นคือ ความรู้สึกแบ่งแยกเชื้อชาติมีน้อยกว่าประเทศอื่นมาก

ที่สิงคโปร์แม้จะไม่มีการแสดงออกอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นที่รู้ๆ กัน ว่า มาเลย์คบกันเอง จีนคบกันเอง อินเดียคบกันเอง เป็นต้น

แต่เด๋วนี้จุดเด่นนี้ด้อยลงไป

จุดอ่อนคือ มีการใช้อภิสิทธิ์อยู่ทุกหย่อมหญ้า ใช้เงิน ใช้เส้น กันมากเสียจนใครใช้ช่องทางปกติกลายเป็นเรืองที่แปลกไป ดูเป็นคนเถรตรงไม่ได้เรื่องซะงั้น วัฒนธรรมแบบนี้ทำให้จะปฏิรูปอะไรสักอย่างก็สำเร็จได้ยาก เพราะจะมีคนแอบใช้เงิน ใช้เส้น ทำให้ทำไม่สำเร็จ

สุมาอี้ เขียน: จุดอ่อนคือ มีการใช้อภิสิทธิ์อยู่ทุกหย่อมหญ้า ใช้เงิน ใช้เส้น กันมากเสียจนใครใช้ช่องทางปกติกลายเป็นเรืองที่แปลกไป ดูเป็นคนเถรตรงไม่ได้เรื่องซะงั้น

เคยมีลูกค้าผมคนหนึ่ง
ตอนนั้นกำลังมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นักการเมืองท่านหนึ่ง
ทันทีที่เขาเจอผม เขาก็เริ่มคุยเรื่องการเมือง แล้ว ตบท้ายด้วยคำว่า
"นักการเมืองคนนี้โคตรโกงจริงๆนะครับ"
ผมก็ได้แต่รับฟัง

พอเสร็จธุรกิจ เขาบอกให้ผมออกใบเสร็จปลอม ไม่ตรงกับงานที่ทำ ...ซะงั้น...เฮ้อ
ผมไม่ตกลงครับ

จุเด่นคนไทยคือลืมง่ายครับ ไม่ค่อยจำ

เอ่อ ผมพูดว่าจุดเด่นนะ ไม่ได้บอกว่าข้อ'ดี' หรือ 'ไม่ดี'

ถ้าถามคนต่างชาติที่มองเราว่า จุดเด่นของประเทศไทย มีอะไรบ้าง สิ่งที่ได้

รับได้ฟังมามีมากมายจนจดจำไว้ไม่หวาดไม่ไหว ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศ ภูมิ

อากาศ อาหารการกิน ค่าครองชีพราคาถูก ทรัพยากรธรรมชาติ ศาสนา ขนบ

ธรรมเนียมประเพณี นิสัยใจคอของคนไทยส่วนใหญ่พื้นฐานเป็นคนดี ฯลฯ

ส่วนข้อเสีย ก็สั้นๆว่า ไม่ค่อยรักษาหรือเห็นความสำคัญของสิ่งดีดี ต่างๆที่มี

อยู่ ที่นานาประเทศเฝ้ามองอย่างคำพูดว่า เสียดายแทน

จุดด้อยคือ
เอาเปรียบภาคเกษตรเพื่อ trading และภาคอุตสาหกรรมมากไป
เอาเปรียบแรงงานเพื่อภาคธุรกิจมากไป
เอาเปรียบคนจนเพื่อให้แรงจูงใจคนรวยมากไป
เอาเปรียบคนจนโดยมองว่าคนจนขี้เกียจและโง่เกิน มากไป
ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ทำให้ขาดความเป็นธรรมในสังคม

คนจนขาดโอกาส ความเสี่ยงในชีวิตสูงกว่าคนรวยสุดกู่ เช่นป่วยหนักก็โอกาสรอดโอกาสอยู่น้อยกว่าคนรวยมากๆ เรียนเก่งไงแต่ถ้าจนมากก็เรียนไปตามความสามารถไม่ไหว  อาชีพการทำกินถ้ามี accident สะดุดอะไรก็แทบจะตายไปเลย ฯลฯ

ส่วนรัฐก็ช่วยเป็นกรณีๆไปแล้วแต่ใครดังมากก็ได้มาก ดังน้อยก็ได้น้อย  ช่วยทีก็ออกสื่อที  แบรนด์นี้บริจาคนั่น แบรนด์นั้นให้นี่ คนนี้สมทบ  มั่วมากครับ ไร้ระบบ  ขอให้ดังไว้ก่อน  คนซวยแต่ไม่ดังก็แป้ก

จาก http://info.channelnewsasia.com/bb/view ... c&start=80

[quote = "touchring"] Thailand got nothing, no real resources, they depend on the tourism and night/massage buiness to prosper, and maybe a few car factories the Japanese investors build. Tjhey are muich poorer than resource rich Malaysia and Inodonesia. But mabybe slightly better off than the Philippines.[/quote]
เศรษฐกิจเราเป็นอย่างเขาว่าหรือเปล่าครับ
แล้วเศรษฐกิจของสิงคโปร์ นอกจากกองทุนขนาดยักษ์ที่มีเงินมหาศาลไปลงทุนในประเทศต่างๆ เขาี้มีภาคการผลิตอะไรบ้างครับ

Accidental Hero เขียน:จาก http://info.channelnewsasia.com/bb/view ... c&start=80

[quote = "touchring"] Thailand got nothing, no real resources, they depend on the tourism and night/massage buiness to prosper, and maybe a few car factories the Japanese investors build. Tjhey are muich poorer than resource rich Malaysia and Inodonesia. But mabybe slightly better off than the Philippines.

เศรษฐกิจเราเป็นอย่างเขาว่าหรือเปล่าครับ
แล้วเศรษฐกิจของสิงคโปร์ นอกจากกองทุนขนาดยักษ์ที่มีเงินมหาศาลไปลงทุนในประเทศต่างๆ เขาี้มีภาคการผลิตอะไรบ้างครับ[/quote]

การผลิตคงไม่เยอะครับ แต่การบริการนี่คงไม่ต้องพูดถึง

ที่ผมยกเรื่องศาสนาพุทธมานั้น

ก็เพราะอยากให้เข้าใจคนไทยครับ

เรื่องการรักษาหรือเห็นความสำคัญของสิ่งที่ดีดีต่างๆที่มี นั้น

ทางศาสนาพุทธก็ไม่ได้ให้ไปติดยึดมากครับ เพราะตายไปก็เอาไปไม่ได้ เพราะคำว่าสิ่งที่ดีๆ ทางโลก กับทางธรรม เป็นคนละเรื่องกันครับ

เข้าปริศนาธรรมที่ว่า สี่คนหาม สามคนแบก หนึงคนนั่งแคร่ สองคนพาไป

สองคนพาไป คือ บุญ บาปครับ

เพราะฉะนั้น รากเหง้าของประเทศไทย คือคนไทยนั้น เค๊าสะสมบุญกันครับ สะท้อนมาให้เห็นในนิสัยคนไทย ที่ดี มีเมตตา เอื้ออาทร

ซึ่งตรงนี้เอง ที่ทำให้ ระบบพังหมดครับ

เช่น ถ้าเรามีกฎเกณอะไรสักอย่าง แต่เราไปเจอคนที่มีบุญคุณกับเรา เราซึ่งมีอำนาจ หน้าที่ตรงนั้น เราก็อาจจะผ่าฝืน กฎนั้นครับ

เพราะเราคือคนไทย

แต่ไปต่างประเทศนี่ คนเยอะครับ ไม่มีใครรู้จักใคร และเน้น ระบบ เน้น อำนาจ หน้าที่

ทำให้ เขาภูมิใจในหน้าที่ของเขา เช่น ยามรักษาประตู ใครหน้าไหน ก็แซงไม่ได้ ต่อให้ตำแหน่งใหญ่ เป็นต้น

เพราะฉะนั้น คำว่า ข้อดี ข้อเด่น ข้อด้อย นี่ผมว่า เป็น เรื่องที่บอกไม่ได้เลย ไม่สามารถชี้ผิด ชี้ถูกได้ครับ ว่าอะไรดี หรือไม่ดี

ปัจจุบัน ควรเน้น ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรดีกว่าครับ

อะไรที่ควรทำ คือ ทำแล้วเกิดประโยชน์ ต่อคนอื่น

อะไรไม่ควรทำ คือ ทำแล้วคนอื่นเดือดร้อน ครับ

เพราะฉะนั้น ตอนนี้คนไทยควรทำอย่างไรครับ กับเหตุการณ์สารพัดที่เจอ

ก็ขอให้กลับมาดูตัวเองครับ ว่าเรามีตำแหน่ง หน้าที่การงาน อย่างไร แล้วเราก็เป็นคนไทย

ขอให้มาร่วมกัน

ทำในสิ่งที่ควรทำ และเพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนอื่นครับ

เศรษฐกิจของสิงคโปร์เติบโตด้วย trading company เป็นส่วนใหญ่ นำเข้าสินค้าของเพื่อนบ้านแล้วส่งออกไปขายในประเทศอื่น ภาษีนำเข้าส่งออกแทบไม่มี กระบวนการก็รวดเร็ว ภาษาเขาก็ดี ต่างชาติย่อมอยากค้าขายกับประเทศแบบนี้ บริษัทข้ามชาติทุกบริษัทเลือกเปิด regional headoffice ในสิงคโปร์ทั้งสิ้น

สิงคโปร์ที่เป็นภาคการผลิตที่ใหญ่ก็จะมีโรงกลั้นน้ำมันน่ะครับ นำเข้าน้ำมันดิบจากเพื่อนบ้านมากลั่นแล้วส่งออกไปขายเช่นเดียวกัน

สิงคโปร์เปิดเสรีทางการเงิน ทุนต่างประเทศจึงหลั่งไหลเขามาในสิงคโปร์อย่างมากมายมหาศาล สิงคโปร์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่อันดับสามของโลกแล้ว เวลาคนต่างประเทศไปเปิดบัญชีธนาคารเขาจะไม่ถามอะไรเลย ทำให้บรรดานักการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านนำเงินมาฝากที่นี่กันเป็นแถว

เขาไม่ได้ขนทรัพยากรออกมาขายเพราะเขาไม่มีทรัพยากร กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่เป็นการ add value ทั้งสิ้น ไม่ต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ

แต่ต่อไปจะแย่นะครับ เพราะประเทศเพื่อนบ้านเริ่มเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุนมากขึ้น (ยกเว้นไทย) ทำให้สิงคโปร์เริ่มมีความโดดเด่นน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเที่ยบกับประเทศอื่นในภูมิภาค

ข้อเสีย

ขี้เกรงใจ ขี้โมโห  ใช้อารมณ์มากกว่าปัญญา  

ปากว่าตาขยิบ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง

เฮไหนเฮนั่น ไม่รู้จักคำว่าระบบระเบียบ

คิดแต่เรื่องไกล้ตัว เป็นหนี้เป็นสินง่ายๆ  ฯลฯ

ที่ว่ามานี่ผมเคยเป็น กำลังเป็น กำลังแก้ อยู่

รวมๆแล้วเราคิดไกลๆ  วางแผนระยะยาวไม่เก่ง ไม่ค่อยหาความรู้ใหม่ๆ คิดวิเคราะห์แล้วสรุปนำไปปฏิบัติไม่ค่อยเก่ง พลาดอยู่เรื่อยความแม่นยำต่ำ

เรื่องเมตตาธรรม ผมคิดว่าประเทศไทยไม่แพ้ใครในโลก
อย่างอเมริกาที่ว่าเจริญแล้ว แต่ผมว่าไม่เจริญเท่าไหร่ในเรื่องเมตตาธรรม
อย่างที่เกิดพายุใต้ฝุ่นแถวฟลอริดา คนอยู่นิวยอร์กหรือ LA จะสนใจไปช่วยมั้ย

แม้เราจะมีเรื่องราวกันขนาดนี้
แต่ถ้าวันนี้พรุ่งนี้ เกาะกระจิ๊ดริดอย่างสิงคโปร์โดนภัยธรรมชาติ อย่างสึนามิซัด หรือแผ่นดินไหวจนพวกปากเก่งๆทั้งหลายล้มตายเป็นเบือ ประเทศแรกๆที่จะยื่นมือไปช่วยคือไทย......เชื่อมั้ย

จริงหรือครับคนไทยดี ชอบช่วยเหลือ มีเมตตา

ผมว่า ฝรั่งดูดีกว่าเสียอีกน่ะครับตรงจุดนี้ พูดจริงๆน่ะครับ
เพียงแต่ คนของเขาถูกฝึกมามีระเบียบวินัย และ ช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่าเรา

ผมไม่ค่อยแน่ใจที่พี่เจ๋งพูดซักเท่าไร  ตัวเองก็ไม่ได้คลุกคลียกับคนชนบทที่แท้จริงซักเท่าไร

แต่ภาพที่เห็นจากข่าว  อ่านจากหนังสือพิมพ์  มักจะเป็นชาวบ้านมักจะไหว้พระขอหวย  แก้บน  สะเดาะเคราะห์ซะมากกว่า  ถึงจะสนใจดำเนินชีวตตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

แค่ศีล 5  ผมว่าก็ยังน้อยคนที่จะตั้งใจรักษาศีลกันจริงๆ  

ส่วนใหญ่ทำบุญก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น  จะได้ร่ำได้รวย  จะได้เกิดมาชาติหน้ามีหน้าตาดี  

ส่วนคนในเมือง  ก็เป็นประเภท  ข้าทำได้  ข้ามีเหตุผลของข้า  แต่ถ้าคนอื่นที่เหม็นขี้หน้าทำอย่างเดียวกัน  ก็ด่าแหลกราน

สุมาอี้ เขียน:เศรษฐกิจของสิงคโปร์เติบโตด้วย trading company เป็นส่วนใหญ่ นำเข้าสินค้าของเพื่อนบ้านแล้วส่งออกไปขายในประเทศอื่น ภาษีนำเข้าส่งออกแทบไม่มี กระบวนการก็รวดเร็ว ภาษาเขาก็ดี ต่างชาติย่อมอยากค้าขายกับประเทศแบบนี้ บริษัทข้ามชาติทุกบริษัทเลือกเปิด regional headoffice ในสิงคโปร์ทั้งสิ้น

สิงคโปร์ที่เป็นภาคการผลิตที่ใหญ่ก็จะมีโรงกลั้นน้ำมันน่ะครับ นำเข้าน้ำมันดิบจากเพื่อนบ้านมากลั่นแล้วส่งออกไปขายเช่นเดียวกัน

สิงคโปร์เปิดเสรีทางการเงิน ทุนต่างประเทศจึงหลั่งไหลเขามาในสิงคโปร์อย่างมากมายมหาศาล สิงคโปร์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่อันดับสามของโลกแล้ว เวลาคนต่างประเทศไปเปิดบัญชีธนาคารเขาจะไม่ถามอะไรเลย ทำให้บรรดานักการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านนำเงินมาฝากที่นี่กันเป็นแถว

เขาไม่ได้ขนทรัพยากรออกมาขายเพราะเขาไม่มีทรัพยากร กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่เป็นการ add value ทั้งสิ้น ไม่ต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ

แต่ต่อไปจะแย่นะครับ เพราะประเทศเพื่อนบ้านเริ่มเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุนมากขึ้น (ยกเว้นไทย) ทำให้สิงคโปร์เริ่มมีความโดดเด่นน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเที่ยบกับประเทศอื่นในภูมิภาค

ผมเสริมนิดจากสิ่งที่ผมเห็นแล้วกัน

ผมจำได้มีอยู่ปี ผมอยู่ที่สิงคโปร์ในวันชาติเค้าพอดี เลยได้เห็นเหตุการณ์นึงที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็น

คือ คนสิงคโปร์ในวันชาติ เค้าจะไปรวมตัวกันที่สนามกีฬากลางเกาะสิงคโปร์มีการร้องเพลงชาติกัน ซึ่งผมก็เห็นเป็นเรื่องปกติ

ผมก็ออกมาเดินเที่ยวตามถนน พอถึงเวลาเค้าร้องเพลงกัน เค้าใช้เพลงที่ชื่อว่า "This is Home" หรืออะไรนี่แหละ ผมจำไม่ได้แน่ชัด แต่แปลว่า ที่นี่คือ บ้าน"

สิ่งที่ผมไม่คาดว่าจะเห็นคือ วัยรุ่น เด็กๆในสิงคโปร์ ยืนนิ่ง ร้องเพลงกันตามถนน และ บางคน ก็ร้องไป น้ำตาไหล ไป

ผมรับรู้ได้ทันทีถึงความรักชาติของคนสิงคโปร์ก็วันนั้น แล้วก็พาลนึกถึงเมืองไทยในบัดดล

อันนี้ จากประสบการณ์ ที่เคยบวชพระ และไปช่วยบิณฑบาตร ก็เลยเห็นว่าคนไทย ชอบทำบุญตักบาตร ส่วนใหญ่ก็เป็นบ้านเดิมๆนะครับ

แปลกนะ คนทำดี ไม่มีใครไปถ่ายรูปลงไทยรัฐ หรือ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

ถ่ายรูปมาทุกวัน หน้าหนึ่งเลย ลุงคนนี้ ป้าคนนั้น บ้านจน แต่น้ำใจดี ช่วยเหลือคนทุกวัน

แทน รูปโป้ และข่าวฆ่ากันตาย

เห็นด้วยกับพี่เจ๋งครับเรื่องใสบาตร

แต่เกรงว่า  พอตกค่ำ  คนในบ้านก็ดื่มสุรากันนะซิครับ  

โดยเฉพาะคนวัยกลางคน  วัยรุ่น  และเด็กรุ่นใหม่  ห่างไกลคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านะครับ

อย่าว่าแต่คนธรรมดาเลยครับ  พระสงฆ์ในปัจจุบันมีการศึกษาพระธะรมคำสอนกันมากน้อยแค่ไหน

คุณฉัตรชัยครับ คนใส่บาตร ร้อยละ 90 % เป็นผู้หญิงครับ

และมากกว่า ครึ่งเป็นผู้สูงอายุครับ

คนเหล่านี้ครับ ที่ยังค้ำจุนสังคมของคนไทย ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข

เวลาผมไปเดินคลองถม  แล้วเห็นพระสงฆ์เดินแทรกเข้าไปท่ามกลางฝูงชน  เพื่อคัดเลือก DVD  VCD   เห็นแล้วก็ได้แต่คิดว่า  ทุกสังคมก็มีคนดี  และคนไม่ดี  

แต่พระสงฆ์ที่เดินอยู่ในไม่ได้รู้สึกอะไรเลยหรือ  ทั้งๆที่ห่มผ้าเหลืองอยู่

คุณฉัตรชัย พระสงฆ์ที่ไม่สำรวม เราก็ไม่นับถือ ใช่หรือไม่ เพราะฉะนันมองข้ามไปดีกว่าครับ

ฟังคนว่าพระมามากมาย ขอมองต่างมุมสักนิด
ถามพวกเราในเวบนี้ มีบวชกี่คน เวลาบวชๆนานแค่ไหน หนึ่งถึงสามเดือนใช่หรือไม่
มีพวกเรา ญาติพี่น้องพวกเรากี่คนที่ต้องบวช เพื่อที่จะได้เรียนหนังสือ
สำหรับเด็กยากจน ลูกหลานชาวไร่ชาวนา การบวช หมายถึงโอกาศที่จะได้เรียนหนังสือ เรียนเปรียญต่างๆ และเรียนศึกษาผู้ใหญ่เพื่อสอบเทียบ

ประเทศของเราให้โอกาศคนจนแค่ไหน ไม่มีเงินค่ากินอยู่ ค่าหนังสือ ต่อให้เรียนฟรี จะกินที่ไหน นอนที่ไหน โรงเรียนมัธยมไม่ได้อยู่ใกล้บ้านเสมอไป

รอคิดดูนะคะ บางทีเห็นพระเด็กๆนะ คิดเสียบ้างว่าเขาคือพี่น้องของเรา ที่กำลังไต่ไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าผ่านทางศาสนา มองในแง่นี้ ทำให้ดิฉันยังยินดีทำบุญกับพนะ เพราะถือว่าได้สองเด้ง
ได้สืบทอดพระศาสนา และได้ช่วยน้องๆที่ไร้โอกาศทางการศึกษาปรกติ
ส่วนเรื่องพระดี พระเลว คนมันมีดีเลวทุกอาชีพ ถ้ารอว่าพระต้องดีหมดถึงทำบุญ ตายแล้วเกิดใหม่ก็จะยังไม่ได้ทำ

จริงๆแล้วคุณฉัตรชัยเป็นคนดีครับ เพียงแต่คงต้องการสะท้อนภาพของสังคมไทย

ขอเสริมอีกนิดว่า

การเทน้ำที่มีอาหารเหลือ ลงไปในน้ำ แล้วมีจิตเป็นกุศล ด้วยหวังว่า สัตว์ในน้ำจะได้กินเป็นอาหาร ก็ยังได้บุญ

สัตว์ที่อยู่ในน้ำเป็นสัตว์เดรัจฉาน

การทำบุญกับพระที่ทุศิล ก็ยังดีกว่า การให้อาหารสัตว์เดรัจฉานนะ

แต่ถ้าจะให้ดี ก็ทำบุญกับพระ ที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ แต่ก็คงหายากหน่อย

เรื่องนี้ขออนุญาติพูด เพราะ เป็นเรื่องเป็นราวกันมานาน เช่นการตักบาตร แล้วพระเอาอาหารชุด ไปเวียนขายใหม่ แล้วทำให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา

จริงๆแล้ว ขณะที่ตั้งใจใส่บาตร จิตเราเป็นกุศล พอใส่ไปแล้ว จิตก็เป็นกุศล

เมื่อไปเห็น หรือนึกว่า มีการเอาไปเวียน แบบนี้ จิตไม่เป็นกุศลนะครับ

สรุปคือ ท่านจะเอาไปเวียนก็เรื่องท่าน เราใส่แล้ว

เราได้ทำบุญแล้ว

จุดด้อยคือ
เอาเปรียบภาคเกษตรเพื่อ trading และภาคอุตสาหกรรมมากไป
เอาเปรียบแรงงานเพื่อภาคธุรกิจมากไป
เอาเปรียบคนจนเพื่อให้แรงจูงใจคนรวยมากไป
เอาเปรียบคนจนโดยมองว่าคนจนขี้เกียจและโง่เกิน มากไป
ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ทำให้ขาดความเป็นธรรมในสังคม

คนจนขาดโอกาส ความเสี่ยงในชีวิตสูงกว่าคนรวยสุดกู่ เช่นป่วยหนักก็โอกาสรอดโอกาสอยู่น้อยกว่าคนรวยมากๆ เรียนเก่งไงแต่ถ้าจนมากก็เรียนไปตามความสามารถไม่ไหว  อาชีพการทำกินถ้ามี accident สะดุดอะไรก็แทบจะตายไปเลย ฯลฯ

ส่วนรัฐก็ช่วยเป็นกรณีๆไปแล้วแต่ใครดังมากก็ได้มาก ดังน้อยก็ได้น้อย  ช่วยทีก็ออกสื่อที  แบรนด์นี้บริจาคนั่น แบรนด์นั้นให้นี่ คนนี้สมทบ  มั่วมากครับ ไร้ระบบ  ขอให้ดังไว้ก่อน  คนซวยแต่ไม่ดังก็แป้ก

...

ผมมาย้ำว่าการกระจายรายได้ แทบจะเป็นที่มาของทุกปัญหาของไทยตอนนี้ โดยเฉพาะการเมือง

ผมว่าถ้าเศรษฐกิจมีการกระจายความอยู่ดีกินกินดีให้คนอย่างทั่วถึง จะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง  ความสงบเรียบร้อย การศึกษา  ฯลฯ  ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ในประเทศก็จะเป็นอย่างเราๆในเว็บนี้ที่ใช้สติปัญญาและรักสงบ ฯลฯ

ตัวอย่างหนึ่งที่ผมคิดมานานคือคอคอดกระ ฝ่ายความมั่นคงกลัวไม่ขุดๆมานานแสนนานเพราะกลัวเรื่องแบ่งแยกดินแดนความมั่นคง    สุดท้ายเศรษฐกิจภาคใต้ตอนล่างแย่ ก็เกิดขบวนการแบ่งแยกดินแดนมาเรื่อยๆอยู่ดี ซ้ำร้ายยิ่งหนักในหลายปีหลังนี้  ถ้าขุดแต่แรกๆ เศรษฐกิจคึกคัก กระจายให้ทั่วถึง คงไม่มีวันนี้ที่วุ่นวาย

ฮ่าๆๆๆ โยงมาถึงคอคอดกระจนได้ เข้าประเด็นดีมากครับ

แล้วใครล่ะที่เสียประโยชน์มากที่สุดถ้าไทยมีคอคอดกระ

It's business, nothing personal

:lovl:

ตอนเด็กๆไปอยู่กับปู่ย่าตายายซึ่งทำไร่ทำนาช่วงปิดเทอมบ่อยๆ  ยืนยันตามคุณเจ๋งบอก  คนบ้านนอกชนบทไทยแท้ๆนี่ชอบทำบุญมีความโอบอ้อมอารีย์รักใคร่กลมเกลียวช่วยเหลือกัน ไม่มักมากไม่มองคนอื่นแบบหวาดระแวง  เวลาผมไปถึงบ้านตาบ้านยายจะมีคนออกมาทักทายเยอะมากยกมือไหว้ไม่หวัดไม่ไหวอบอุ่นจริงๆ

สังคมชนบทอิงอยู่กับการเกษตรซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ทำมาหากินได้พออยู่รอด มีอะไรเหมือนๆกันไม่แตกต่างไม่แข่งขันกันมาก จึงไม่ค่อยมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่พอกระแสบริโภคที่ผ่านสื่อต่างๆเข้าไปด้วยอิทธิพลของทุนนิยมไม่จำกัดนี่แหละทำให้สังคมชนบทเริ่มแตกแยก พัฒนาการไปคนละทิศละทางไม่ว่ารวยขึ้นจนลงมีอิทธิพลมากหรือเป็นเบี้ยล่างถูกรังแก สมัยนั้นผู้ใหญ่ในชุมชนก็เพียงพอที่จะปกป้องปกครองให้สงบสุขได้แล้ว ทุกวันนี้เอาไม่อยู่เพราะปัญหามันเยอะความต้องการมันแยะ ต้องพึ่งกลไกภายนอกที่ดูเหมือนว่าจะขลังแต่เอาเข้าจริงก็แย่พอๆกัน บทบาทของกำนันและผู้ใหญ่บ้านลดลงอย่างมากเพราะต้องดูท่าทีอำนาจหลัก ก็หวังการกลับมาให้ความสำคัญกับหลักศาสนาอย่างเดียวที่จะทำให้กลับมาดีเหมือนเดิม

ขอเพียงให้ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ น้ำท่าป่าไม้ มีพอก็พอมีหวังครับ

ถ้าเจาะคลองแถวๆเส้นละติจูดที่ 10 องศาเหนือ เรือสินค้าจากไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ จะไป อินเดีย ตะวันออกกลาง และเรือน้ำมันจากตะวันออกกลาง จะไปขายจีน ญี่ปุ่น จะไม่ต้องไปอ้อมที่ไหนเอ่ย

ประหยัดน้ำมันดีเซลไปเท่าไหร่กันนะ เรือสินค้าทั้งหลาย ทั้งเรือเทกอง ทั้งเรือตู้ เรือน้ำมัน

แล้วแถวๆ 6องศาเหนือ เค้าเรียกว่าอะไร เกิดเหตุอะไรกันบ้างเอ่ย



It's business, nothing personal

:lovl: