ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 1
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ผลขาดทุนจากการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.ที่ระดับ 200,000-300,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่น้อยมากเมื่อเทียบกับทุนสำรองทางการระหว่างประเทศที่มีสูงถึง 2,369,500 ล้านบาท หรือ 66,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการขาดทุนนี้ถือว่าทางการยอมขาดทุนแทนภาคเอกชน ไม่เช่นนั้นเอกชนจะได้รับผลกระทบจากการแข็งขึ้นของค่าเงินบาทมากกว่าที่เป็นอยู่.
:( :( :( :( :( :(
:( :( :( :( :( :(
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 4
ใช้สมองด้วย....
เป็นธนาคารแห่งประเทศไทยจริงๆ เปล่าเนี่ยะ
เป็นธนาคารแห่งประเทศไทยจริงๆ เปล่าเนี่ยะ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 6
งงอะ ขาดทุนสิบเปร์เซนต์นี่ป็นคำตอบสุดท้ายหรือเปล่า
หรือว่านี่คือยอดขาดทุนสุทธินะวันที่แถลง
แล้วถ้าปล่อยไปๆๆ จะขาดทุนได้มากกว่านี้หรือเปล่า
คอนเซป cut loss นี่ไม่เหมาะกับระดับ ธปท หรือ
คนรู้น้อย นักลงทุน VI อย่างเรามึนตึ้บ
อย่างนี้เป็น sign ของมหันตภัยที่กำลังจะมาถึงหรือเปล่า พี่น้อง
:?:
หรือว่านี่คือยอดขาดทุนสุทธินะวันที่แถลง
แล้วถ้าปล่อยไปๆๆ จะขาดทุนได้มากกว่านี้หรือเปล่า
คอนเซป cut loss นี่ไม่เหมาะกับระดับ ธปท หรือ
คนรู้น้อย นักลงทุน VI อย่างเรามึนตึ้บ
อย่างนี้เป็น sign ของมหันตภัยที่กำลังจะมาถึงหรือเปล่า พี่น้อง
:?:
just one life, use it!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 7
[quote="CEO"]นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ผลขาดทุนจากการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.ที่ระดับ 200,000-300,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่น้อยมากเมื่อเทียบกับทุนสำรองทางการระหว่างประเทศที่มีสูงถึง 2,369,500 ล้านบาท หรือ 66,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการขาดทุนนี้ถือว่าทางการยอมขาดทุนแทนภาคเอกชน ไม่เช่นนั้นเอกชนจะได้รับผลกระทบจากการแข็งขึ้นของค่าเงินบาทมากกว่าที่เป็นอยู่.
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 306
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 10
[quote="CEO"]นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ผลขาดทุนจากการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.ที่ระดับ 200,000-300,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่น้อยมากเมื่อเทียบกับทุนสำรองทางการระหว่างประเทศที่มีสูงถึง 2,369,500 ล้านบาท
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 12
[quote="chatchai"][quote="CEO"]นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ผลขาดทุนจากการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.ที่ระดับ 200,000-300,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่น้อยมากเมื่อเทียบกับทุนสำรองทางการระหว่างประเทศที่มีสูงถึง 2,369,500 ล้านบาท หรือ 66,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการขาดทุนนี้ถือว่าทางการยอมขาดทุนแทนภาคเอกชน ไม่เช่นนั้นเอกชนจะได้รับผลกระทบจากการแข็งขึ้นของค่าเงินบาทมากกว่าที่เป็นอยู่.
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 18
'ธปท.' ขาดทุนบักโกรก 3 แสนล้าน [18 ม.ค. 50 - 04:45]
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลจากการออกมาตรการสำรองเงินทุนระยะสั้น จากต่างประเทศ 30% ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาเพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า นักวิชาการได้มีการตั้งข้อสังเกตถึงมาตรการดังกล่าวว่า หลังจากมีผลในทางปฏิบัติได้ประมาณ 1 เดือนก็ปรากฏว่าค่าเงินบาทก็ยังไม่อ่อนค่าลงตามที่ ธปท.ต้องการ นอกจากนั้น ผลจากมาตรการดังกล่าวยังไม่ช่วยลดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ธปท.เข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท ในช่วงปี 2548-2549 ที่ผ่านมา จึงแสดงให้เห็นว่า มาตรการนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อค่าเงินบาทอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธปท.ได้มีการประเมินในเบื้องต้นถึงวงเงินใช้จ่ายการออกพันธบัตร ธปท. และผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการดูแลการแข็งค่าของค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2549 ของ ธปท.ว่าอยู่ที่ประมาณ 199,000 ล้านบาท โดยประเมินว่า เงินตราต่างประเทศที่ ธปท.รับซื้อทันที (spot) ตลอดทั้งปี 2549 อยู่ที่ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 5 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ธปท.จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งสิ้น 110,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ธปท. ได้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (swap) อยู่ที่ 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และถ้าคิดในลักษณะเดียวกัน (ขาดทุน 5 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ) จะขาดทุนประมาณ 35,000 ล้านบาท รวมเป็นผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 145,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธปท.ยังมีรายจ่ายอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร ธปท.ที่ออกมาเพื่อดูดซับสภาพคล่องจากการปล่อยเงินบาทแลกเงินดอลลาร์ ในปี 2549 ซึ่งมียอดคงค้างจากการออกพันธบัตร 900,000 ล้านบาท เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 6% ธปท.จึงต้องจ่ายเงิน เพื่อดูดซับสภาพคล่องออกจากตลาดเงินอีก 54,000 ล้านบาท ทำให้ยอดความเสียหายของ ธปท.จากอัตราแลกเปลี่ยนและการออกพันธบัตรสูงถึง 199,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ในปี 2548 ซึ่งเป็นปีที่ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าต่อเนื่องเช่นกัน ธปท. ได้รายงานผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทสุทธิ 7,943 ล้านบาท เท่ากับว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 2548-2549) ธปท.มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการดูแลค่าเงินบาท ประมาณ 206,943 ล้านบาท
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ผลขาดทุนจากการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.ที่ระดับ 200,000-300,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่น้อยมากเมื่อเทียบกับทุนสำรองทางการระหว่างประเทศที่มีสูงถึง 2,369,500 ล้านบาท หรือ 66,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการขาดทุนนี้ถือว่าทางการยอมขาดทุนแทนภาคเอกชน ไม่เช่นนั้นเอกชนจะได้รับผลกระทบจากการแข็งขึ้นของค่าเงินบาทมากกว่าที่เป็นอยู่.
http://www.thairath.co.th/news.php?sect ... tent=33844
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลจากการออกมาตรการสำรองเงินทุนระยะสั้น จากต่างประเทศ 30% ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาเพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า นักวิชาการได้มีการตั้งข้อสังเกตถึงมาตรการดังกล่าวว่า หลังจากมีผลในทางปฏิบัติได้ประมาณ 1 เดือนก็ปรากฏว่าค่าเงินบาทก็ยังไม่อ่อนค่าลงตามที่ ธปท.ต้องการ นอกจากนั้น ผลจากมาตรการดังกล่าวยังไม่ช่วยลดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ธปท.เข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท ในช่วงปี 2548-2549 ที่ผ่านมา จึงแสดงให้เห็นว่า มาตรการนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อค่าเงินบาทอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธปท.ได้มีการประเมินในเบื้องต้นถึงวงเงินใช้จ่ายการออกพันธบัตร ธปท. และผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการดูแลการแข็งค่าของค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2549 ของ ธปท.ว่าอยู่ที่ประมาณ 199,000 ล้านบาท โดยประเมินว่า เงินตราต่างประเทศที่ ธปท.รับซื้อทันที (spot) ตลอดทั้งปี 2549 อยู่ที่ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 5 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ธปท.จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งสิ้น 110,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ธปท. ได้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (swap) อยู่ที่ 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และถ้าคิดในลักษณะเดียวกัน (ขาดทุน 5 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ) จะขาดทุนประมาณ 35,000 ล้านบาท รวมเป็นผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 145,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธปท.ยังมีรายจ่ายอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร ธปท.ที่ออกมาเพื่อดูดซับสภาพคล่องจากการปล่อยเงินบาทแลกเงินดอลลาร์ ในปี 2549 ซึ่งมียอดคงค้างจากการออกพันธบัตร 900,000 ล้านบาท เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 6% ธปท.จึงต้องจ่ายเงิน เพื่อดูดซับสภาพคล่องออกจากตลาดเงินอีก 54,000 ล้านบาท ทำให้ยอดความเสียหายของ ธปท.จากอัตราแลกเปลี่ยนและการออกพันธบัตรสูงถึง 199,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ในปี 2548 ซึ่งเป็นปีที่ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าต่อเนื่องเช่นกัน ธปท. ได้รายงานผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทสุทธิ 7,943 ล้านบาท เท่ากับว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 2548-2549) ธปท.มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการดูแลค่าเงินบาท ประมาณ 206,943 ล้านบาท
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ผลขาดทุนจากการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.ที่ระดับ 200,000-300,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่น้อยมากเมื่อเทียบกับทุนสำรองทางการระหว่างประเทศที่มีสูงถึง 2,369,500 ล้านบาท หรือ 66,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการขาดทุนนี้ถือว่าทางการยอมขาดทุนแทนภาคเอกชน ไม่เช่นนั้นเอกชนจะได้รับผลกระทบจากการแข็งขึ้นของค่าเงินบาทมากกว่าที่เป็นอยู่.
http://www.thairath.co.th/news.php?sect ... tent=33844
Impossible is Nothing
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 20
CEO wrote
อ๋อ.......นึกออกแล้ว
เพราะเขาเคยเรียกตัวเองว่าหมามาก่อนนี่เอง ดังนั้นคุณ CEO จึงไม่ผิดแต่อย่างไร......
เขาว่านักเล่นหุ้นหน่ะ แค่หมาเห่าก็ขายหุ้นแล้ว อิอิ :lol:
จำได้เหมือนกันว่าตอนนั้นมีธปท.คนเดียวที่ออกมาพูดเรื่องกันสำรอง30%แล้วหุ้นก็ตกนิ.....ถ้าไม่หมายถึงตัวเองจะหมายถึงใครล่ะเนาะ :lol:
ทำไมคุณ CEO ถึงเรียกเขาว่า หมาจนตรอกครับ เป็นคำที่ไม่สุภาพมากๆเลยนะครับผล------- มาตรการหมาจนตรอก
อ๋อ.......นึกออกแล้ว
เพราะเขาเคยเรียกตัวเองว่าหมามาก่อนนี่เอง ดังนั้นคุณ CEO จึงไม่ผิดแต่อย่างไร......
เขาว่านักเล่นหุ้นหน่ะ แค่หมาเห่าก็ขายหุ้นแล้ว อิอิ :lol:
จำได้เหมือนกันว่าตอนนั้นมีธปท.คนเดียวที่ออกมาพูดเรื่องกันสำรอง30%แล้วหุ้นก็ตกนิ.....ถ้าไม่หมายถึงตัวเองจะหมายถึงใครล่ะเนาะ :lol:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 28
ว่าแต่ว่า........
ขาดทุนสองสามแสนล้านนี่ เป็นขาดทุนทางบัญชีหรือขาดทุนจริงๆไปแล้วครับ
แบงค์ชาติถือดอลลาร์ไว้ยาวๆจนเงินดอลล์แข็งแล้วค่อยแลกคืนได้ไหมครับ หรือว่าเป็นแบบเล่นสั้น กำไรขาดทุนรู้เรื่องในหกเดือนหนึ่งปีครับ ??????
ถ้าเป็นแบบเล่นสั้น แปลว่าอะไร ?????
แปลว่าเอาเงินของประเทศไปเล่นการพนันเลยนะครับ โห......ยิ่งกว่านักเล่นหุ้นเสียอีก นักเล่นหุ้นเขาได้กำไรหรือขาดทุนมันก็เงินของเขา อันนี้เอาเงินคนอื่นไปเล่นการพนัน มันน่านักเชียว.......
คุณอาเงินประเทศไปเล่นพนันกับกองทุนระดับโลกคุณจะชนะเขาได้อย่างไร ที่เงินดอลล์อ่อนค่าลงเพราะเศรษฐกิจอเมริกาแย่ เขาขาดดุลมหาศาล อเมริกาเป็นยักษ์ใหญ่ของโลกเลยนะครับ คิดดูว่าเงินดอลล์เหล่านี้มันมีมากมายมหาศาลขนาดไหน คุณจะพนันอย่างไรถ้าเขาเกทับมาเรื่อยๆ แล้วไม่ใช่ขาเดียวแต่เป็นพันเป็นหมื่นขา เงินบาทที่คุณมีมันเล็กน้อยมากจะไปสู้อะไรได้ สุดท้ายคุณก็จะหมดหน้าตักแล้วก็หมอบไปใช่ไหม
คุณเล่นการพนันแบบนี้ก็เหมือนเอาเด็กไปขวางรถสิบล้ออ่ะครับ จะไปเหลืออะไร
ทำไมไม่ทำตามที่น้องเจย์หรือท่านด๊กดิ๊งด่างพูดอะครับ ถ้าเงินบาทแข็งก็ใช้โอกาสนี้ นำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรราคาถูกๆไม่ดีกว่าหรือ นำเข้ามากๆ พอเราขาดดุลเงินเราก็อ่อนไปเองแหละ ใช่ไหมครับ แต่อย่างน้อยเราก็ได้เครื่องมือเครื่องจักรติดไม้ติดมือ
พนันแบบนี้พอแพ้คุณก็ไม่เหลืออะไรเลย สุดท้ายคนขับสิบล้อวิ่งหนีไปแล้วเหลือแต่ศพเด็กนอนพะงาบๆอยู่ ใช่หรือไม่
หวังว่าไม่ได้ขาดทุนเป็นตัวเงินไปแล้วนะครับ.........
ขาดทุนสองสามแสนล้านนี่ เป็นขาดทุนทางบัญชีหรือขาดทุนจริงๆไปแล้วครับ
แบงค์ชาติถือดอลลาร์ไว้ยาวๆจนเงินดอลล์แข็งแล้วค่อยแลกคืนได้ไหมครับ หรือว่าเป็นแบบเล่นสั้น กำไรขาดทุนรู้เรื่องในหกเดือนหนึ่งปีครับ ??????
ถ้าเป็นแบบเล่นสั้น แปลว่าอะไร ?????
แปลว่าเอาเงินของประเทศไปเล่นการพนันเลยนะครับ โห......ยิ่งกว่านักเล่นหุ้นเสียอีก นักเล่นหุ้นเขาได้กำไรหรือขาดทุนมันก็เงินของเขา อันนี้เอาเงินคนอื่นไปเล่นการพนัน มันน่านักเชียว.......
คุณอาเงินประเทศไปเล่นพนันกับกองทุนระดับโลกคุณจะชนะเขาได้อย่างไร ที่เงินดอลล์อ่อนค่าลงเพราะเศรษฐกิจอเมริกาแย่ เขาขาดดุลมหาศาล อเมริกาเป็นยักษ์ใหญ่ของโลกเลยนะครับ คิดดูว่าเงินดอลล์เหล่านี้มันมีมากมายมหาศาลขนาดไหน คุณจะพนันอย่างไรถ้าเขาเกทับมาเรื่อยๆ แล้วไม่ใช่ขาเดียวแต่เป็นพันเป็นหมื่นขา เงินบาทที่คุณมีมันเล็กน้อยมากจะไปสู้อะไรได้ สุดท้ายคุณก็จะหมดหน้าตักแล้วก็หมอบไปใช่ไหม
คุณเล่นการพนันแบบนี้ก็เหมือนเอาเด็กไปขวางรถสิบล้ออ่ะครับ จะไปเหลืออะไร
ทำไมไม่ทำตามที่น้องเจย์หรือท่านด๊กดิ๊งด่างพูดอะครับ ถ้าเงินบาทแข็งก็ใช้โอกาสนี้ นำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรราคาถูกๆไม่ดีกว่าหรือ นำเข้ามากๆ พอเราขาดดุลเงินเราก็อ่อนไปเองแหละ ใช่ไหมครับ แต่อย่างน้อยเราก็ได้เครื่องมือเครื่องจักรติดไม้ติดมือ
พนันแบบนี้พอแพ้คุณก็ไม่เหลืออะไรเลย สุดท้ายคนขับสิบล้อวิ่งหนีไปแล้วเหลือแต่ศพเด็กนอนพะงาบๆอยู่ ใช่หรือไม่
หวังว่าไม่ได้ขาดทุนเป็นตัวเงินไปแล้วนะครับ.........
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 29
เรื่องขุดคอคอดกระ ผมเห็นว่าน่าทำมากจริงๆ เห็นอย่างนี้มาทุกครั้งทุกสมัยที่มีคนยกเรื่องนี้มาพูดกัน (หลายๆปี ต่อครั้ง) แต่ไม่ทราบทำไมโครงการนี้จึงมีสภาพเป็นโครงการในฝันของประเทศมาโดยตลอด ถ้าจะทำคงต้องระวังเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ดีสามัญชน เขียน: ใช่ครับ หรือจะเอาไปขุดคอคอดกระยังได้เลย
Everything I do, I do it for you.
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ผล------- มาตรการหมาจนตรอก
โพสต์ที่ 30
ในอดีต ด้านการส่งออกก็ออกมาโวยวายมาแล้วรอบหนึ่ง
ตอนนั้นท่านที่นั่ง รมว ก็ยังนั่งเป็น ธปท อยู่เลย
ตอนนั้นค่าเงินจาก 40 บาทไปแค่ 37 บาทบ่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง
จำไม่ได้ว่าแก้ไขโดยการใช้เงินIMFหรือเปล่า ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
(ปี 2545-2546)
กลับไปดูได้ว่า มีคนโวยวาย รอบนั้นไม่มีเสียงอะไรเลยน่าจากคนที่ส่งออกเท่านั้น แต่รอบนี้ มีเสียงออกมาทั่วสาทิศเลย
ตอนนั้นท่านที่นั่ง รมว ก็ยังนั่งเป็น ธปท อยู่เลย
ตอนนั้นค่าเงินจาก 40 บาทไปแค่ 37 บาทบ่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง
จำไม่ได้ว่าแก้ไขโดยการใช้เงินIMFหรือเปล่า ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
(ปี 2545-2546)
กลับไปดูได้ว่า มีคนโวยวาย รอบนั้นไม่มีเสียงอะไรเลยน่าจากคนที่ส่งออกเท่านั้น แต่รอบนี้ มีเสียงออกมาทั่วสาทิศเลย