Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

P_1 เขียน:อ้าว Misterjai เป็นเลือดหมูชมพูเหมือนกันเหรอครับ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นรุ่นพี่โต๊ะผมเอง


ผมเพิ่งไปงานคืนสู่เหย้ามาพี่เขาบอกจะไปสิบบาทในสามปี
ผมบอกว่ารักษา Margin ปีนี้ให้ได้ก่อนเถอะครับพี่
พี่บอก 20 % เอ็งคอยดู

5555

P_1 เขียน:อ้าว Misterjai เป็นเลือดหมูชมพูเหมือนกันเหรอครับ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นรุ่นพี่โต๊ะผมเอง


ผมเพิ่งไปงานคืนสู่เหย้ามาพี่เขาบอกจะไปสิบบาทในสามปี
ผมบอกว่ารักษา Margin ปีนี้ให้ได้ก่อนเถอะครับพี่
พี่บอก 20 % เอ็งคอยดู

5555

PYLONเริงร่ารับรถไฟฟ้า5สาย
Source - ทันหุ้น
Thursday, 15 February 2007 10:26

ที่มา : ทันหุ้น
         บดินทร์ แสงอารยะกุลผู้บริหารPYLONระบุโครงการรถไฟฟ้า 5 สายส่งผลบวกต่อธุรกิจรับเหมาทั้งระบบเพราะมีงานไหลออกมาจำนวนมาก หวั่นธุรกิจชะงักเพราะผู้ประกอบการรับงานไม่ไหวจากงานล้นมือ เผยปีนี้และอีก 5ปีข้างหน้าเป็นยุคทองของรับเหมา แย้มหากมีงานเข้ามาต่อเนื่องภายใน 2-3 ปีนี้รายได้มีลุ้นทะลุ 800-1 พันล้านบาท วางเป้ารายได้ปีเฉพาะส่วนงานฐานรากปีนี้อยู่ที่ 500-550 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 30% จากปี 2549 คาดอยู่ที่ 370 ล้านบาท
         นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บริษัทไพลอน จำกัด(มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยถึงการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 5 สายของภาครัฐในปี 2550 ว่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจรับเหมาทั้งระบบ เนื่องจากจะมีงานออกมาเป็นจำนวนมาก  แต่จากนโยบายพบว่ารัฐจะเปิดประมูลงานในเวลาไล่เลี่ยกัน ดังนั้นงานที่ออกมาคงจะใกล้เคียงกัน ซึ่งตั้งแต่ปี 2551 ต่อเนื่องอีก 2-3 ปี  บริษัทไม่กลัวว่าจะไม่มีงานแต่กลัวว่างานจะมากจนรับกันไม่ไหว ซึ่งจะทำให้การแข่งขันในธุรกิจนี้หยุดลงเพราะมีงานล้านมือจนไม่มีเวลามาแข่งขันกับใคร นอกจากแข่งขันกันพัฒนาตัวเองเพื่อให้รับงานให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือว่าตั้งแต่ปี 2550 ต่อเนื่องไปอีก 5 ปีจะเป็นยุคทองของธุรกิจรับเหมาอีกครั้ง
         สำหรับปริมาณงานที่จะออกมาค่อนข้างมากจากโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 5 สายของภาครัฐนั้น  แม้ว่ากำลังการรับงานของบริษัทจะมีอยู่อย่างจำกัด สามารถรับงานก่อสร้างรถไฟฟ้าได้ครั้งละ 1 สาย เท่านั้น แต่หากมีงานเข้ามาก็ยังสามารถขยายกำลังการผลิตรองรับงานใหม่ได้อีกประมาณ 20-25% จากกำลังการผลิตเดิมที่มีอยู่ ทำให้มั่นใจว่าจะรองรับงานที่เข้ามาใหม่ได้ และจากงานที่จะเข้ามาดังกล่าวบริษัทคาดว่าภายใน 2-3 ปีหลังจากนี้รายได้จะทะลุ 800-1,000 ล้านบาทได้โดยใช้ฐานกำลังการผลิตที่มีอยู่เดิม ไม่ต้องเพิ่มทุนเพื่อขยายการผลิตใหม่
         งานที่เข้ามามากอาจทำให้บริษัทรับงานใหม่ไม่ทัน  แต่ก็ยังสามารถขยายกำลังที่มีอยู่เดิมให้เพิ่มขึ้นได้ อาทิ บริษัทมีหัวเจาะที่ไม่ได้ใช้งานอีก 2-3 หัวก็ยังเช่าเครนเข้ามาเพิ่มและรับงานเพิ่มขึ้นได้อีก ดังนั้นในเบื้องต้นเชื่อว่าจะรับงานใหม่ที่เข้ามาโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มได้ และในช่วง 2-3 ปีนี้มั่นใจว่ารายได้จะโตแบบก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 800-1,000 ล้านบาท ได้ โดยใช้ศักยภาพที่มีอยู่ในปัจจุบันและไม่ต้องเพิ่มทุนนายบดินทร์กล่าว
         นายบดินทร์ถึงแนวโน้มธุรกิจรับเหมาฐานรากในปี 2550 ว่า มีทิศางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2549 ที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยลบที่กดดันธุรกิจนี้อยู่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งปัจจัยการเมืองที่แม้จะยังไม่นิ่งแต่ก็มีความชัดเจนขึ้น ในขณะเดียวกันปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่เคยผันผวนค่อนข้างสูง ก็ปรับลดลงและมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการกำ-หนดราคาต้นทุนให้กับลูกค้า
         นอกจากนี้งานของทั้งรัฐและเอกชนบางส่วนที่ชะลอลงในปี 2549 ในปีนี้ก็เริ่มเดินหน้าได้บ้างแล้ว โดยเฉพาะงานในส่วนของภาครัฐ ดังนั้น จึงทำให้มั่นใจว่าธุรกิจรับเหมาทั้งระบบในปี 2550 ไม่ใช่เฉพาะแต่ธุรกิจรับเหมาฐานรากเท่านั้นที่จะเริ่มดีขึ้น แต่จะดีขึ้นชัดเจนทั้งระบบ ซึ่งในส่วนของ PYLON  จะให้ความสำคัญในการขยายงานทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน ต่อเนื่องจากปี 2549 หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทเน้นหลักไปในงานของภาครัฐถึง 90% แต่ในปี 2549 ปัญหาทางการเมืองทำให้งานภาครัฐลดลง บริษัทจึงได้แก้ปัญหาด้วยการหันมา
         เจาะงานด้านเอกชนเพิ่มขึ้น โดยมีสัดส่วนระหว่างานภาครัฐ/เอกชนอยู่ที่ 80:20
         สำหรับแนวโน้มรายได้ในปี 2550  มั่นใจว่ามีโอกาสเติบโตจากปี 2549 อย่างแน่นอน เนื่องจาก
         ปัจจัยลบหลายประการได้คลี่คลายลง  ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เคยชะลองานก่อสร้างไว้ในปี 2549 ได้กลับเข้ามาก่อสร้างอีกครั้ง  โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้เฉพาะในส่วนของธุรกิจก่อสร้างฐานรากไว้ที่ 500-550 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 30% จาก 370 ล้านบาทในปี 2549 ในขณะที่งานด้านการก่อสร้างด้วยระบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและงานอื่นๆ รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าที่เพิ่งจะเปิดประมูลในปีนี้ยังไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการ ดังนั้นหากมีงานในลักษณะดังกล่าวเข้ามาก็จะทำให้รายได้เติบโตขึ้นทันที
         ราคาหุ้น PYLON(14 ก.พ.50) ราคาเปิด2.06 บาทปรับขึ้นสูงสุด 2.30 บาทและปิดที่ระดับ 2.28 บาท เปลี่ยนแปลง 0.22 บาทหรือ 10.68% มูลค่าการซื้อขาย 3.78 ล้านบาท

สุมาอี้ เขียน:เห็นหน้า MD แล้วคุ้นๆ ผมรู้สึกจะรุ่นเดียวกันที่ไหนสักแห่ง