Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เอาใหม่ คุยกันแบบสร้างสรร

ผมจำได้ว่า คุณบอกว่า โครงการคอนโด 1000 ล้าน ขายหมดใน 5 นาที และจะสร้างเสร็จ จากเดือนมีนาคม ไปอีก 16 เดือน รับรู้รายได้ทั้งหมด ปีหน้า โดยคุณประมาณการกำไรไว้ 20 % คือ 200 ล้าน

และมีโครงการอีก 2 โครงการ เป็นบ้าน ประมาณ 1000 ล้าน คุณก็ประมาณการกำไรว่าจะได้ 15 % คือ 150 ล้าน

รวมทั้งหมด 2000 ล้าน ก็กำไรประมาณ 350 ล้าน

เราคุยกันไปถึงว่า คุณบอกว่า มีอีกแท่ง แต่ยังไม่ได้บอกยอดขายชัดๆ หรือประมาณการยอดขายชัดๆ

ผมก็เลย ถามว่า โครงการทั้งหมดจากที่ดินที่มีอยู่ จะมียอดขายประมาณทั้งหมดเท่าไร ผมไม่ทราบเหมือนกันนะว่าคุณทราบหรือไม่

แต่ถ้าคุณไม่ทราบการลงทุนของคุณก็อาจจะเสี่ยงได้นะ

ถ้าทราบ ยอดขาย ทั้งหมดที่สามารถขายได้ แต่ขายได้จริงเท่าไร ก็ค่อยมาคิดกัน

ส่วนเรื่องกำไรก็สามารถประมาณ กำไร ได้อีกเหมือกนัน ซึ่ง จะทำให้ เราสามารถตีราคาได้ว่า ลงทุนวันนี้กับปรีชา ควรซื้อหุ้นที่ราคาเท่าไร เพราะอะไร

ซึ่งแต่ละคนก็จะตีราคาต่างกันไปตามแนวคิดของตัวเอง ซึ่ง เมือมีการแย้ง แต่ละฝ่าย ก็ต้องแย้งด้วยเหตุด้วยผล

ถ้าปรีชา มียอดขายทั้งหมด 2000 ล้าน และที่ดินที่เหลืออยู่สามารถทำยอดขายให้ได้อีก 1000 ล้าน( คอนโดอีกแท่ง ) อันนี้ผมเดาเองนะ

ก็ เท่ากับ 3000 ล้าน ด้วยสมมุติฐานของคุณเฟยหง กำไรจะเป็น 200+150+200 คือ 550 ล้าน

ซึ่ง มองแบบแง่ดีสุดๆ

1. โครงการขายหมด สร้างเสร็จ โอนหมด ใน 3 ปี ( ในความเป็นจริง มีจำนวนยูนิตเหลือ กว่าจะหมด ต้องเสียค่าการตลาดในการขายใหม่ )

2. สมมุติว่ามีคอนโดอีกแท่ง ราคา 1000 ล้าน ซึ่งผมไม่คิดว่าจะมีนะ ( เป็นแค่ความคิด ใครมีเรื่องจริงก็มาว่ากัน ไม่ต้องมาต่อว่า ว่าผมมองโลกอย่างไร เป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ที่ไหน )

ถ้าเราซื้อทั้งบริษัทตอนนี้ 380 ล้าน แล้ว ก็ ลุ้นให้ทุกโครการ ขายหมด สร้างเสร็จ โอนหมด แล้วได้เงินกลับมา 560 ล้าน

เราจะซื้อหรือไม่ นั่นคือเราจะมีกำไร 560-380 เท่ากับ 180 ล้าน

แต่ความเสี่ยงมีตลอดทาง

1. ขายไม่ได้ ต้องออกแบบใหม่ รณรงค์การขายรอบใหม่ ก็ต้องเสียค่าการตลาด ระยะเวลาขายเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยก็เพิ่มตาม

2. ขายได้แต่ขายไม่หมด บ้านที่เหลือ เป็นกำไร แต่ไม่ใช่เงินสด

3. ลูกค้าผ่อนไม่ครบ ทิ้งเงินดาวน์ต้องขายรอบใหม่ ซึ่งต้องแข่งกับลูกค้าเดิมที่ซื้อไปแล้วด้วย ไม่ใช่มีชื่อจองแปลว่า เขาจะมาซื้อ เพราะหลังจากผ่านไปสักระยะ เขาก็อาจจะไปซื้อที่อื่นแล้ว

4. สร้างไม่เสร็จ เพราะผู้รับเหมามีปัญหา ระยะเวลาสร้างเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

5. ต้นทุนค่าก่อสร้างสูงขึ้น ทำให้กำไรลดลง

6. ขายผิดราคา การขายเสร็จภายใน 5 นาที ก็อาจจะขายถูกเกินไปก็ได้ เช่นเอาทอง 10000 มาขาย 5000 ขาย ไม่ถึงนาทีก็หมด

ใครจะตัดสินใจลงทุน 380 ล้าน เพื่อรอกำไร 180 ล้าน แล้วมาเจอสารพัดความเสี่ยง

สำหรับผมแล้ว มีทางเดียวคือ ปรีชา มีที่ดินซ่อนอยู่ที่พร้อมจะทำโครงการ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามที่ดินที่ซ่อนอยู่ ก็อาจจะกลายเป็นที่ดินเน่าที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยตลอดทางก็ได้

สรุป คือ คุณเฟยหงบอกว่า มีโครการ 2000 ล้าน ประมาณการกำไร 350 ล้าน และยังมีอีกแท่ง

ซึ่ง ผมก็ได้แต่ฟัง เรื่องหุ้นคงไม่ไปยุ่งหรอก เพราะการขายได้ ไม่ได้แปลว่ามีกำไร

โครงการมากมาย ขายได้ แต่สุดท้ายเจ๊งครับ

ขอร่วมแสดงความคิดเห็น  จาก แมลงเม่าหุ้นตัวเล็กๆตัวหนึ่งซึ่งรับ
ประทานข้อมูลเพื่อการดำรงชีพในตลาดนะครับ

รู้สึกว่ากระทู้นี้จะเป็นกระทู้สืบเนื่องจากกระทู้เก่าซึ่งพูดกันเรื่อง precha นะ
ครับ

ผมชอบข้อมูลของทุกๆท่านรวมถึงคุณเฟยหงด้วยครับ เพียงรู้สึกว่าบทความ
ที่คุณเฟยหงเขียนอาจมีบางส่วนหรือบางมุมมองที่อาจทำให้มองได้ว่าเป็น
การชี้นำราคาหรือเปล่า (ในใจคิดว่าคุณเฟยหงคงไม่ได้ทำเช่นนั้น) เพราะ
ถ้าเป็นตามที่คุณเฟยหงกล่าวไว้ราคา ณ.ปัจจุบันถือว่าถูกมาก ซื้อได้ทุกราคา
ที่เดียว แต่หากไม่เป็นตามที่คำนวนไว้หรือมี บริษัทมีปัญหาอื่นซุกซ่อนไว้
ก็อาจทำให้ผู้ลงทุนบางท่านเสียหายได้

เพราะผมรู้สึกว่า thaivi เป็นเว็ปที่มาให้ข้อมูล มาแชร์ความรู้ สร้างผู้ลงทุนใน
แนวการลงทุนจริงๆ มากกว่า ส่วนใครจะซื้อไม่ซื้อก็แล้วแต่ข้อมูลเพิ่มเติม
ภายในของแต่ละบุคคลอีกทอดหนึ่งครับ

ในส่วนตัวคิดว่า ใบจองขายได้หมดไม่ได้เป็นตัวบอกว่า โครงการนั้นขาย
หมดจริงๆ เหมือนอย่างที่คุณ jeng ได้กล่าวไว้นะครับ ยกตัวอย่างเช่น โครง
การศูนย์การค้า หรือ คอนโด หลายแห่ง เวลาเปิดจอง ก็จองจนล้น แต่ท้าย
สุดปรากฎว่า ทุกวันนี้ หลายแห่ง พื้นที่ที่เปิดใช้จริงหรือขายได้จริง มีไม่ถึง
30% ส่วนที่เหลือถูกทิ้งไว้เป็นภาระของโครงการต่อไป ซึ่งหาก Precha
ประสบปัญหานี้ขึ้น เป้าหมายรวมถึงยอดกำไรก็จะคลาดเคลื่อนจากที่กล่าว
มาก็เป็นได้  

ขอบคุณครับ

โดยส่วนตัวผมไม่ชำนาน  อะสังหาริมมะซับ

เรื่องการจอง  แล้วทิ้งใบจอง  เป็นเรื่องการเก็งกำไร

ให้นายหน้าไปจองแล้ว  เพื่อขายใบจองก็มีมาตลอด
สมัยหนึ่ง  ลามจากอะสังหาไปถึงรถยนต์
(ตั๋วผี)ไม่แตกต่าง

เห็นด้วยเรื่องควรระวังการให้ข้อมูล

ยิ่งคนมีชื่อเสียงยิ่งควรสร้างศรัทธามหาซน

ผมเข้าใจคุณเจ๋งดี  ว่าคุณเจ๋งปราถนาดีต่อส่วนรวม  โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่
เพราะรู้จักคุณเจ๋งมาหลายปี  เฮฮา  ปาร์ตี้  แท้งกิ้ว  ฮิ้ว  ฮิ้ว

ส่วนคนที่ว่า  พันเท่าแค่เอื้อม
ผมว่ามันเป็นเรื่อง เว่อซะไม่มี
ตายไปแล้วเกิดใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอหรือเปล่า  เรื่องพันเท่า

เล่นหุ้นมาเกือบ20ปี  ถ้าพันเท่านะ
คุณต้องซื้อหุ้นราคา1บาท  แล้วขายได้ราคา1,000บาท

หู๋ย  แค่คิดก็ไม่ซื้อหนังสือเล่นที่พาดหัวว่าพันเท่าแค่เอื้อม  แล้น

หุ้นตัวนี้ ต้องโยนตำราทั้งหมดทิ้งครับ อยู่ที่เจ้าของเท่านั้น

น้องเคยเป็นผู้บริหารที่นี่ แต่ลาออก
ถามว่าทำไมออกซะล่ะ ขายไม่ดีเหรอ
"ขายใช้ได้ แต่ไม่ให้มีกำไร"
????????????
ก็เลยไม่ซักไซ้ต่อ


อาจจะถึงเวลาไม่ดี แต่มีกำไรแล้วก็ได้ครับ

ถามตัวเองว่ารับความเสี่ยงได้แค่ไหน

[quote="ปรัชญา"]โดยส่วนตัวผมไม่ชำนาน

ขอโทษด้วยครับ ไม่เกี่ยวกับปรีชา แต่ผมว่าถ้าเรารักจะลงทุนเราไม่ควรทิ้งศรัทธาที่มีต่อผลของการลงทุนแบบทบต้นนะครับ

ถ้าทำให้ได้ปีละ 15% เพียง 50 ปี ก็ได้แล้วนี่ครับ 1 บาทกลายเป็น 1083.66 (แต่ต้องลงทุนกันจนเดินไม่ไหวเลยอ่ะ )

หรือถ้าเก่งหน่อย 20% ก็ 38 ปี
25% ---> 31 ปี
30% ---> 27 ปี
35% ---> 23 ปี
40% ---> 21 ปี
45% ---> 19 ปี
50% ---> 17 ปี

ตอนนี้อาจยังมีน้อยหรือไม่มีแต่ผมเชื่อว่าอีกไม่เกิน 30 ปีข้างหน้ามีแน่ครับ เพราะนักลงทุนสมัยนี้เก่งๆและยังเด็กๆกันทั้งนั้น ...

แต่เรื่องพันเท่าในสิบปีผมว่าอาจจะลำบากหน่อย

แฮ่ๆๆๆ ไม่ต้อง 1000 เท่าก็ได้
ผมขอแค่ 10 ปี โตแค่ 30 เท่าของพอร์ต ก็ happy แล้วครับ
จะได้เกษียณซะที ฮ่าๆๆๆๆๆ

อืม จริงๆแล้ว ก่อนตาย ขอได้มีโอกาสดูหุ้นเป็นครั้งสุดท้าย ก็ดีนะ

อิอิ

นี่เรียกว่าแฟนพันแท้ มากกว่า

เงินเป็นเรื่องรอง

แต่ได้ มากๆก็ดี

โดยส่วนตัวผมไม่ชำนาน  อะสังหาริมมะซับ

เรื่องการจอง  แล้วทิ้งใบจอง  เป็นเรื่องการเก็งกำไร

ให้นายหน้าไปจองแล้ว  เพื่อขายใบจองก็มีมาตลอด
สมัยหนึ่ง  ลามจากอะสังหาไปถึงรถยนต์
(ตั๋วผี)ไม่แตกต่าง

เห็นด้วยเรื่องควรระวังการให้ข้อมูล

ยิ่งคนมีชื่อเสียงยิ่งควรสร้างศรัทธามหาซน

ผมเข้าใจคุณเจ๋งดี  ว่าคุณเจ๋งปราถนาดีต่อส่วนรวม  โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่
เพราะรู้จักคุณเจ๋งมาหลายปี  เฮฮา  ปาร์ตี้  แท้งกิ้ว  ฮิ้ว  ฮิ้ว

ส่วนคนที่ว่า  พันเท่าแค่เอื้อม
ผมว่ามันเป็นเรื่อง เว่อซะไม่มี
ตายไปแล้วเกิดใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอหรือเปล่า  เรื่องพันเท่า

เล่นหุ้นมาเกือบ20ปี  ถ้าพันเท่านะ
คุณต้องซื้อหุ้นราคา1บาท  แล้วขายได้ราคา1,000บาท

หู๋ย  แค่คิดก็ไม่ซื้อหนังสือเล่นที่พาดหัวว่าพันเท่าแค่เอื้อม  แล้น

ผมว่าคุณพูดแรงไปไหม โดยส่วนตัวเเล้วผมคิดว่าเค้าก็เว่อร์อยู่ แต่การที่คุณจะมาซ้ำเติมอะไรกันเกินไปอย่างนี้ผมว่ามันไม่เหมาะสม ผมไม่คิดว่ากระบวนการการลงทุนจะต้องอย่างนี้ อย่างนั้นจะดีที่สุดตราบใดที่เราไม่ใช่เจ้าของบริษัทเราก็ไม่มีวันรู้จริง ต่อให้คุณเป็นเจ้าของบางครั้งคุณยังเดาอนาคตบริษัทคุณผิดเลย เข้าเรื่องเลยคือผมเพิ่งมาใหม่ก็ได้อ่านกระทู้มาหลายกระทู้จนมาถึงกระทู้ที่ถูกลบไปนั้น ผมว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับเฟยหงบางคน ใช้คำบางคำดูถูกความคิดไปหน่อย ยังไงก็กลับมามองตัวเองบ้างเเล้วกัน
เพื่อความสมานฉันท์ และมีคนหลากหลายแนวคิดเข้ามาโพสต์มากกว่านี้
ผมว่าเรื่องพันเท่าไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดเลย ดูอย่างคนจีนเสื่อผืนหมอนใบเขาเข้ามามีอะไรติดตัวไหม ตอนนี้มีเป็นล้านๆ เรียกว่าล้านเท่าได้ไหม

ผมว่าอันนี้เป็นความเห็น ผมเสนอว่าอย่าไปตอบโต้อะไรเลย

เชื่อผม ผมอยากเก็บกระทู้นี้ไว้เป็นหลักฐานนะครับ

ใครจะพูดอะไร ลองปล่อยๆ ไปเถอะ เชื่อผม

เพิ่งสังเกตว่ากระทู้โดนลบไปแล้วหรือนี่?

ผมเข้าใจนะครับ

แต่ว่า ไม่น่าจะลบนะครับ

ผมอาจจะมาไม่ทันเหตุการณ์อะไรบางอย่าง (ไม่ได้มา สามวัน)

แต่อย่างที่พี่ jeng ว่า ก็น่าจะให้ได้อ่านกันเป็นความรู้รุ่นหลัง (ไม่ว่าผลสรุปจะเป็นอย่างไร)

อีกอย่าง นี่เป็นเวบบอร์ด ผมคิดว่า ทุกๆ คนในที่นี้มีความรู้มากพอ ให้เชื่อหรือไม่เชื่อ

ทุกท่านในนี้ก็รู้อยู่แล้ว และ รุ่นพี่ทุกๆ คนก็คอยเตือน ว่า
1.ต้อง พิจารณาเองทุกอย่าง
2.จะซื้อจะขาย เป็นความรับผิดชอบของคนที่ลงมือ ไม่ใช่คนที่ โพส เชียร์(หรือไม่ก็ตาม)

สิ่งที่โพสในที่นี้ เป็นความเห็น ส่วนบุคคล จะเชื่อหรือไม่ อยู่ที่วิจารณญาณและ ความขยัน (ถ้าขี้เกียจ จะลอกการบ้านท่าเดียว ก็สมควรอยู่แล้ว)

ผม เข้าใจผู้โพส (แต่ถ้ามีเจตนาแอบแฝงใดๆ ก็สุดจะทราบ เพราะพอดีไม่ได้ศึกษาตัวนี้ เพราะ ไม่ค่อยมีเวลา) และเข้าใจผู้ลบ ว่ามีเจตนาดี ถ้าศึกษาแล้วอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง (แต่อย่างไรมันก็เป็นเรื่องความเห็นครับ อนาคตไม่มีใครรู้ได้)

แต่ผมว่า การทำอย่างนี้มันรุนแรงไปหรือไม่ครับ? การปล่อยกระทู้ไว้ แต่มาแสดงความเห็นที่แย้ง จะดูดีกว่ามั้ยครับ  สุดท้าย เวลาที่ผ่านไปก็จะเป็นคำตอบเอง

ปล.1 ที่ว่าพันเท่า ผมว่าคงเป็นแค่จุดขายมั้งครับ ก็ตามหลักการโฆษณา หลักการทำธุรกิจทั่วๆไป จะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นกับวิจารณญาณอีกแหละครับ ไม่งั้น จะขายได้หรือครับ?
ปล.2 ผมมี คุณวุฒิ วัยวุฒิ ที่น้อยกว่า อยู่แล้ว
ที่โพส เรียนด้วยความเห็นส่วนตัว และ เป็นกลางเท่าที่ทำได้ มิกล้าชี้แนะ ผิดถูกอย่างไร กรุณา ชี้แนะ

ส่วนคนที่ว่า  พันเท่าแค่เอื้อม
ผมว่ามันเป็นเรื่อง เว่อซะไม่มี
ตายไปแล้วเกิดใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอหรือเปล่า  เรื่องพันเท่า

เล่นหุ้นมาเกือบ20ปี  ถ้าพันเท่านะ
คุณต้องซื้อหุ้นราคา1บาท  แล้วขายได้ราคา1,000บาท

หู๋ย  แค่คิดก็ไม่ซื้อหนังสือเล่นที่พาดหัวว่าพันเท่าแค่เอื้อม  แล้น

เขียนแรงไปหน่อยมั้งครับ

อย่างน้อยพี่แกก็กล้าที่จะนำเสนอ และ แนวคิดแกหลายๆอย่างก็เป็นประโยชน์

เรามีสิทธิ์ที่แย้งถ้าไม่เห็นด้วย โดยส่วนตัวไม่ได้มองว่าการโพสต์ลักษณะนี้เป็นการเชียร์หุ้นนะครับ เพราะมีการนำเอาหลักคิด มาวิเคราะห์มาอ้างอิง และก็ถามความเห็นให้โต้แย้งได้

ลองไปดูบอร์ดอื่นเค้าเชียร์กันดิครับ เหตุผลก็ไม่มี บางเหตุผลก็เชื่อถือไม่ได้ <แค่ข่าวมาลอย> แต่ก็ยังเชียร์ให้ คนไปเล่นกัน

ดูอย่างคนจีนเสื่อผืนหมอนใบเขาเข้ามามีอะไรติดตัวไหม

เสื่อผืนหมอนใบ โล้สำเภามาจากเมืองจีน ตอนนี้ก้อยังมีแค่เสื่อผืนหมอนใบเหมือนเดิมครับ ส่วนสำเภาขายกินไปแล้วครับ อิอิ

ผมเข้าใจว่าที่นี่จะเป็นที่แหล่งข้อมูลข่าวสารสำหรับนักลงทุน
ข้อเท็จจริงสำคัญมาก และบางอย่างที่เป็นการคาดการณ์เราก็ควรรับฟังไว้
เชื่อว่าเเต่ละคนมีวิจารณญาณของตัวเอง
ผมว่ายังไงก็ยึดความสมานฉันท์ไว้เป็นที่ตั้งดีกว่า
ส่วนถ้าจะโต้แย้งใครผมว่าอย่าไปโจมตี ที่ตัวคนความคิดคน
ให้หาข้อมูลมาแย้งกันดีกว่า มันจะทำให้มีผู้ที่กล้าเสนอแนวทาง
ใหม่ในการลงทุนมากกว่านี้

เช่นถ้าเขาเสนอหุ้นตัวนี้เช่น Precha ดีมากๆๆๆๆ พีอีต่ำสุดๆๆๆ
ถ้าโต้แย้งว่า เขาจะเอาเงินมาจากไหน หรือว่า เขาจะรับรู้กำไรภายในปีเดียวเหรอ เขามีพื้นฐานบริษัทไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ผู้บริหารไม่น่าเชื่อถือ
อย่างนี้ถือว่าสร้างสรร

แต่ถ้าแย้งว่าทำไมคุณขี้โม้อย่างนี้  คุณตั้งใจจะหลอกให้ข้อมูลผิดไหม คุณมีไรแอบแฝงหรือป่าว ผมว่าต่อไปคงไม่มีใครกล้าเสนอข้อมูลแนวใหม่แน่นอน

สุดท้ายนี้ผมก็ขอชื่นชมคุณเฟยหงที่กล้านำเสนอข้อมูลในลักษณะอย่างนี้
ผมคิดว่ายังไงคุณเฟยหงก็มีตัวตที่สามารถสืบค้นได้จริง และมีต้นทุนทางสังคม ยังไงซะก็อยากให้คุณเฟยหงยังอยู่ในบอร์ดนี้ต่อไปครับอย่าเพิ่งน้อยใจไป

เข้าใจในสิ่งที่mod ทำคือไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดกลับคนที่เพิ่งเข้ามาศึกษาซึ่งยังไม่ได้มีความรู้ในการวิเคราะห์เรื่องต่างๆๆที่ดีพอ อาจนำพาไปสู่ความผิดพลาด แต่รู้ศึกว่าการตอบโต้ครั้งนี้รุนแรงไปนิดส์ๆๆๆๆๆๆๆ
มันอาจไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องตอบโต้ที่รุนแรงไปอย่างนี้ ก็อย่างที่หลายๆท่านว่าเราขัดแย้งกันเรื่องเหตผลต่างๆๆดีกว่าที่เราจะมาขัดแย้งกันโดยมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง และก็ยังชื่นชมคุณเฟยหงด้วยที่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นนี้ออกมาแม้มันจะอล่างฉ่างไปบ้างแต่คุณเฟยหงก็พยายามหาเหตุผลมาแย้งได้ค่อนข้างดีในสิ่งที่โต้แย้ง ไหนๆเหตการณ์นี้ก็ผ่านไปแล้ว ขอให้เหตการณ์นี้เป็นcase study ต่อไป
สรุป เข้าใจในสิ่งที่พี่ๆๆทุกคนตอบโต้ไปและเห็นใจคุณเฟยหงหวังว่าคุณเฟยหงจะเข้าใจนะคร๊าบบบบบ
copyจากคำพูดใครจำไม่ได้แล้ว
แตกต่างแต่ไม่แตกแยกคร๊าบบบ

tae_2323 เขียน: ผมว่าคุณพูดแรงไปไหม โดยส่วนตัวเเล้วผมคิดว่าเค้าก็เว่อร์อยู่ \

หากรุนแรงไปก็ขออภัยด้วยแล้วกัน
โดยส่วนตัวไม่เคยมีอคติดับใคร  เมื่อแสดงความเห็นส่วนตัวก็จบ
ไม่ต้องเก็บไปคิดมาก  เดี๋ยวกินไม่ได้นอนไม่หลับจะเสียสุขภาพ

ตามแต่จะแอบอ้าง  บัฟเฟ่ตบ้าง  เอานั่นมาใส่่เอานี่มาใส่ก็ว่ากันไป
ผมก็ยอมล่ะครับ  หุหุ

สวัดสีครับ  ผมเฟยหงครับ... แต่ต้องใช้ชื่อสมาชิกใหม่
เพราะ  ชื่อเดิม  ถูกลบออกจากการเป็นสมาชิกไปแล้ว

อยากให้เพื่อนๆ มองด้วยใจเป็นธรรมครับ  
ผมพยายามยกเหตุผลต่างๆ มาอธิบาย  ด้วยความสุภาพตลอด
แต่ที่ดูเหมือนผิดพลาดไปอย่างหนี่ง คือ  ผมเขียนว่า
"รู้สึกคุณ jeng จะไม่ค่อยรู้เรื่องคอนโดฯ นะ   คอนโดระดับ 1 พันล้าน ไม่ถือว่าเป็นโครงการที่ใหญ่นัก  และไม่มีคอนโดไหนสร้างใช้เวลาสร้างเกินกว่า 3 ปี หรอกครับ"  
เพราะคุณ jeng เขียนมาก่อนนี้ว่า  : โครงการใหญ่ระดับพันล้าน อย่างน้อยๆ ต้องใช้เวลากว่า 3 ปีกว่าจะสร้างเสร็จ
เท่านั้นแหละ  เป็นการกระทบอัตตาของใครบางคนอย่างแรง  
ที่จริงแล้ว  ถ้ามีคนบอกว่า  นายเฟยหง  ไม่ค่อยรู้เรื่อง  ธุรกิจเหล็ก  หรือ  เรื่องนักร้องดารา  แบบนี้   ผมจะยืดอกรับเลยนะ  เพราะไม่รู้เรื่องจริงๆ  

ไม่เพียงแต่  กระทู้ p/e ต่ำกว่า 1 เท่าจะโดนลบ
กระทู้ precha ในร้อยหุ้นร้อยหุ้น  ก็โดนลบไปด้วย  
เพราะ คุณ triathon ไปเขียนว่าบอกใครบางคนว่า "หัดส่องกระจกดูตัวเองเสียบ้าง"   เชื่อว่ากระทบอัตตาใครบางคนอีกแล้ว  

ไม่เพียงการให้ใบเหลืองด้วยการลบกระทู้   แต่ยังให้ใบแดง  ด้วยการลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกอีกด้วย  

ผมคงไม่เข้ามา post ในเว็บนี้อีก  และ คาดว่ากระทู้นี้คงอายุสั้น....
แต่ฝากบอกเพื่อนๆ ที่ได้เข้ามาดูทัน.....  โปรดคิดดูถึงกรณีนี้ครับ
ผมก็วิเคราะห์วิจารณ์ไปเท่าที่มีข้อมูล  ซึ่งก็ยอมรับว่าผมก็ไม่ใช่นักวิเคราะห์
กลุ่มอสังหาฯ  ที่จะไปรู้รายละเอียดอะไรได้มาก   แล้วเพื่อนๆ ส่วนใหญ่
ก็ไม่ได้เป็นใช่ไหมละครับ  รวมถึงใครบางคนด้วย

ถ้า web master  ยึดมั่นถือมั่น  อัตตาสูง และ เอาแต่ใจตนเอง  มีอคติกับผมแบบนี้  ผมก็คงไม่มา post แล้วละครับ  
ที่จริงแล้ว  10 ปีมานี้  ถ้าลงทุนทบต้นทบกำไร  ผมจะได้กำไร 120 เท่าครับ  (แต่ความเป็นจริงแล้วผมได้ไม่ถึงนั้น เพราะมีภาระหลายอย่างที่ต้องคำนึง)  
แม้จะไม่ได้เป็นผลตอบแทนระดับสูงสุด  ที่จะได้ถึง "พันเท่า"   แต่ก็เชื่อว่ามีหลายคนที่น่าจะทำได้ครับ  
และถ้าให้เวลาต่อไปอีกไม่เกิน 10 ปี  ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เป็นพันเท่า
ผมงงๆ กับคำพูดของ พี่ปรัชญาครับ .......
พันเท่าไม่ใช่ซื้อหุ้น 1 บาท ขาย 1 พันบาท  แต่เป็นการลงทุนแบบ "หุ้นเงา" แล้วทบต้นทบกำไรให้ได้ถึงพันเท่า   พี่ปรัชญาเองก็น่าจะเข้าใจ  
และหากคุณ jeng และพี่ปรัชญา  ทำไม่ได้พันเท่า  ก็กรุณาอย่าไปคิดว่า
คนอื่นจะทำไม่ได้  เพราะแม้แต่ผมยังเชื่อเลยว่า 10 ปีมานี้  มีคนทำได้แน่ๆ  
เลยละครับ  

สวัสีดครับ  เพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านทัน  
ผมอยากให้คุณ jeng เก็บกระทู้นี้ไว้เหมือนกัน...... แต่ก็คงยากครับ

รับทราบครับ

ผมขอเสนอให้ลบบางความเห็นครับ ขัดต่อกฏข้อ 3 ที่ตั้งไว้

3.กรุณาอย่าใช้คำพูดไม่สุภาพ ส่อเสียด ล่อเป้า กระทบกระแทก กระแนะกระแหน หรือสร้างความขัดแย้งระหว่างบุคคล โจมตีบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคล ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม

ผมว่าผมก็ผิดนะ ที่เริ่มต้นตอบด้วยว่าคุณเฟยหง ตกเลข

อิอิ

เรื่องก็เลยไปกันใหญ่

นี่ถ้าบอกว่า คุณเฟยหงเป็นอัจริยะภาพ แล้วก็แสดงความเห็น คงไม่เป็นแบบนี้

ขอโทษที  ทุกท่าน

คงไม่ใช่นะ  คุณ jeng  
ตอนที่ผม post ครั้งแรก กำไร 350 ล้าน mkt.cap ที่ 317 ล้าน
แต่ครั้งหลังสุดนี่ ปรับกำไรขึ้นอาจสูงถึง 600 ล้าน  mkt.cap 380 ล้าน

ไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่ตกเลข.... ผมได้ 4 มาตลอดนะครับ  
วิชาคณิตศาสตร์

คุณ Jeng......................g wrote:

อืม จริงๆแล้ว ก่อนตาย ขอได้มีโอกาสดูหุ้นเป็นครั้งสุดท้าย ก็ดีนะ

ฮ่าๆๆๆ    ถ้ามีคนแบบนี้จริงคงต้องรักหุ้นจริงๆนะครับ
สงสัยมองจอ ชีพจร เป็นกราฟหุ้นได้ก่อนตายเลยนะนี่

ฝากบอกไปที่พี่ปรัชญาด้วยครับ

วอเรน บัฟเฟต์  ว่าไว้จริงๆ ครับ  ว่าถ้าจะประเมินบริษัทเบิร์กไชร์ แฮตเตอร์เวย์ของเขา  ซึ่งหลักๆ เป็นบริษัทประกันภัยและลงทุน
ให้ดูที่ BV  ไม่ใช่ผลกำไรแต่ละปีนะครับ  
เพราะบริษัทประกัน  กำไรมาก  ก็หมายถึง การขายหุ้นที่มีกำไรออกมา
กำไรน้อย  ก็คือ ขายหุ้นที่ขาดทุนออกมา  ก็ได้
การดูจาก BV จะประเมินได้ดีกว่า  ว่าบริษัทปัจจุบัน มีกำไรในหุ้นอยู่มากน้อย
เพียงใดในพอร์ตและขายทำกำไรรวมๆ แล้วเท่าไหร่
โดยรวมๆ แล้ว  บริษัทดีขึ้นและแย่ลง  สักเท่าใด

ตกลงขอให้ดีกันทุกฝ่ายละกัน
สายเลือดนักลงทุนเหมือนกัน

ขอพูดหน่อยเหอะนะคะ.....

รู้สึกมีลูกสมุนนะคะ.... :lol:  :lol:  :lol:

มาใหม่ๆ.....

ปล.ลุงทีมไปญี่ปุ่นนนนน เมื่อไหร่อ่ะ หนุจะไปปลายเดือนหน้าอีกรอบ

ฝากบอกไปยังพี่ปรัชญาอีกรอบ

ถ้าพี่ไม่รู้ว่าวอเรน บัฟเฟต์  พูดอะไรออกมาบ้าง
กรุณาอย่าบอกว่า "นายเฟยหง  แอบอ้างวอเรน บัฟเฟต์" สิครับ  
แบบนี้มันไม่แฟร์เลยละครับ

หนูไม่ได้ว่าใคนคนใดคนหนึ่งนะ  ความรู้สึกล้วนๆเลย...........

"ขอพูดหน่อยเหอะนะคะ.....

รู้สึกมีลูกสมุนนะคะ....      

มาใหม่ๆ..... "

หมายความว่าอะไรเหรอครับ

8) บางกระทู้ที่ความคิดไม่ตรงกัน ออกมาซัดกันประมาณนั้น
พวกที่ไม่เคยทำอะไรให้เวบเลย ประมาณว่ามาดูดอย่างเดียว
ชอบบอกว่าเวบนี้เป็นที่สาธารณะ
ใครก็มาแสดงความเห็นได้
คนที่มาใหม่ยังพอทนนะ เออ ช่างหัวมัน
บางคนดั๊นอ้างว่าเป็นสมาชิกมานาน  พวกนี้น่าเขกหัว(กบาล)ซะที
เอ็งนะเอ็ง เรื่องได้ประโยชน์เอ็งเอา แต่พอเอ็งเสียประโยชน์หรือร้อนก้น
ออกมาแล้ว เราเท่าเทียมกันน๊า
แล้วอย่างนี้เราจะคบเป็นเพื่อนกันได้อย่างไร จริงไหม
คุณไม่เท่าเทียมกับผม มาตั้งกะต้นแล้ว
ไฟไหม้บ้านไหนเราก็เป็นเฮียปอเฮียร่วม
ไป ช่วยผู้คน แจกหยูกแจกยาหยอดตาที่โดนควัน
ตอนนั้นเอ็งนั่งอยู่ที่บ้าน เออ ไม่ใช่หน้าที่
วันนึงที่บ้านเอ็งไฟไหม้บ้าง เออ มาช่วยผมหน่อยครับ เร็วๆหน่อยครับ
พวกผมก็ไปนะครับ ไม่ใช่ไม่ไป
แหมแต่อย่ามาบอกเลยครับว่าเราเท่ากัน
เข้าห้องน้ำมาวัดกันเลยดีกว่า เอ๊ยไม่ใช่
น้ำหนักคุณในหัวใจผม หรือน้ำหนักผมในหัวใจคนอื่นไม่มีวันเท่ากันอยู่แล้วครับ

อืมม????

ถ้าผมทำไรผิดไปโปรดชี้แนะด้วยครับ

แต่กรุณาอย่าลบผมละกันนะครับ คงเสียใจ