หน้า 1 จากทั้งหมด 1
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 5:16 pm
โดย burengnong
ใครพอจะให้ข้อมูลได้บ้างครับว่าหนี้สูญในงบการเงินเท่าไหร่ของยอดขายและกำไรเท่าไหร่ถึงจะดี( หนี้> 12 เดือนนะครับ ) และควรตั้งสำรองเท่าไหร่ถ฿งจะเหมาะสม
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 7:29 pm
โดย Pekko
การตั้งประมาณการหนี้สูญมักจะตั้งตอนสิ้นปี ซึ่ง มี 2 วิธี ครับ
1. ตั้งตามยอดขาย คือ กำหนด% ตายตัว เช่น ยอดขาย 100 ล้าน กำหนด .1%
2. ตั้งตามความเสี่ยงลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระ คือ รู้ว่าลูกหนี้นี้ไม่จ่ายแน่ ต้องตั้งเลยครับ+ค่าเผื่ออีกนิดหน่อย
การตั้งสำรองหนี้ ทางบัญชีจะลงเป็นค่าใช้จ่ายทันที แต่ในทางภาษีไม่ยอมรับ เพราะฉะนั้นการตั้งสำรองหนี้จึงต้องรวมกลับเป็นรายได้ เพื่อเสียภาษีนิติบุคคลประจำปี (จ่ายภาษีเพิ่มขึ้นนั่นเอง)
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 7:49 pm
โดย burengnong
แล้วบริษัทที่ดีควรจะมีหนี้>12เดือนไม่ควรเกินเท่าไหร่ของยอดขายครับถึงจะดี
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 9:19 am
โดย cwiboon
ผมว่า ขึ้นอยู่กับลัษณะธุรกิจน่ะครับ ว่ามีระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ยยาวแค่ไหน ถ้าบริษัทที่ระยะเวลาเก็บหนี้ยาวมาก แล้วมีลูกหนี้ที่ดิวเกิน 1 ปี อาจมีนัยสำคัญไม่เท่ากับบริษํทที่ระยะเวลาเก็บหนี้สั้นน่ะครับ
แต่คิดว่า กรณีเกิน 1 ปีขึ้นไป ลูกหนี้ตรงส่วนนี้ทั้งก้อน สามารถตั้งเป็นค่าเผื่อหนี้สูญได้หมดเลยครับ ถ้าตั้งเยอะมากก้อคิดนิดนึงน่ะครับ ไม่น่าจะมีตัวเลขแน่นอนว่ากี่เปอร์เซ็นต์ สำหรับผมเกิดเกิน 20% ก็เริ่มน่ากลัวแล้วครับ
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 1:50 pm
โดย dino
แหะ แหะ ผมว่าไม่มีหนี้น่าจะดีที่สุดนะครับ
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 2:00 pm
โดย beammy
dino เขียน:แหะ แหะ ผมว่าไม่มีหนี้น่าจะดีที่สุดนะครับ
บางบริษัท มีหนี้ ก้อไม่เป็นไร ครับ (แต่ไม่มีนี่ ดีที่สุดครับ อย่างคุณ dino ว่า)
แต่ขึ้นอยู่กับว่า จะชำระคืนได้เร็วแค่ไหน เมื่อดูจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน / และถ้ามีหนี้ มันจะโตขึ้นได้อีกไหม / ไม่ใช่กู้มาแล้วยังย่ำอยู่กับที่ แบบนี้ไม่เอา
สมมติ ทั้งบริษัทราคา 1 พันล้าน / ไม่มีหนี้ / มียอดขาย 2.5 พันล้าน / กำไร 300 ล้าน
ต่อมา กู้เพิ่มมาขยายงานตามที่ตนเองถนัด 100 ล้าน
เหมือนเดิม ทั้งบริษัทราคา 1 พันล้าน / แต่มีหนี้ 100 ล้าน / แต่สามารถเพิ่มยอดขายได้เป็น 3 พันล้าน / กำไร 400 ล้าน
ผมชอบแบบหลังนี้มากกว่าแฮะ ...
ว่าแต่ ผมจะหาบริษัทแบบนี้เจอมั้ยเนี่ย ในปีนี้ :P ...
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 2:42 pm
โดย BHT
หนี้สูญ หมายถึง ค้าขายแล้วลูกค้าดันไม่จ่ายเงินเราซะงั้น กลายเป็นเหนื่อยฟรี
เป็นผม ไม่ว่าธุรกิจไหน ก็ขอให้ไม่มีหนี้สูญเลยครับ จ่ายช้าก็ดีกว่าไม่จ่าย แต่จ่ายตรงเวลาเยอะๆนี่ดีมากๆครับ
ส่วน หนี้ คงเป็นเงินกู้ที่เรากู้แบงค์หรือที่อื่นมา อันนี้มีบ้างไม่เสียหาย แต่ต้องรับภาระไหว ไม่กู้เกินตัว แต่ไม่มีเลยก็ดี กำไรมา ก็ถึงผู้ถือหุ้นเต็มๆ
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 7:06 pm
โดย Pekko
[quote="cwiboon"]ผมว่า ขึ้นอยู่กับลัษณะธุรกิจน่ะครับ ว่ามีระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ยยาวแค่ไหน ถ้าบริษัทที่ระยะเวลาเก็บหนี้ยาวมาก แล้วมีลูกหนี้ที่ดิวเกิน 1 ปี อาจมีนัยสำคัญไม่เท่ากับบริษํทที่ระยะเวลาเก็บหนี้สั้นน่ะครับ
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 11:03 pm
โดย burengnong
pekko wrote
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ส่วนที่คุณ burengnong ถาม ผมมองว่าไม่ควรเกิน 0.1% ของยอดขายทั้งปี หรือไม่ควรเกิน 1.30 % ของลูกหนี้ตอนสิ้นปี (คิดที่การเก็บเงินเฉลี่ย 60 วัน)
ขอบคุณมากครับที่ให้ข้อมูล แต่อยากจะให้ช่วยยกตัวอย่างเพื่อเพิ่มความเข้าใจตรงไม่ควรเกิน 1.30 % ของลูกหนี้ตอนสิ้นปี (คิดที่การเก็บเงินเฉลี่ย 60 วัน)
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 24, 2007 6:05 pm
โดย กระทิงแดง
อย่างที่คุณ BHT บอกครับ
หนี้สูญเกิดจากขายของ แล้วไม่ได้เงิน ถามว่าแล้วของที่ขายไปให้กับลูกค้ามาจากไหน?
-ก็มาจากการซื้อของมาขาย หรือการให้บริการ
ก็ถามว่า สินค้าที่ซื้อมาขาย หรือบริการ นี่ได้มาจากไหน?
-ก็มาจากต้นทุนวัตถุดิบ หรือต้นทุนการให้บริการ
ก็ถามว่าต้นทุนวัตถุดิบ และการให้บริการมาจากไหน?
-ก็มาจาก Cash ที่เราลงทุนไปนั้นเอง
แสดงว่าเงินสดเราหายไปฟรีๆใช่ หรือไม่ครับ?
-ผมว่าใช่นะครับ
ฉนั้นอย่ามีหนี้สูญเป็นลาภอันประเสริฐครับ
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 27, 2007 2:10 pm
โดย Pekko
[quote="burengnong"]pekko
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 28, 2007 3:40 pm
โดย burengnong
ขอบคุณท่าน pekko มากๆครับสำหรับความรู้ในเรื่องนี้ครับ ขอให้ท่านๆที่ให้ความรู้ในเวปนี้รำรวยทุกท่านด้วยเทอญ
หนี้สูญเท่าไหร่ถึงจะดี
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 28, 2007 6:27 pm
โดย Pekko
เช่นกันครับ :) :)