หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ขอความช่วยเหลือเรื่องงบไม่เข้าใจหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 17, 2007 9:01 pm
โดย tsutomu
ขอถามพวกพี่ๆหน่อยครับ

คำว่าภาษีรอการตัดบัญชี แล้วเขาก็บวกเข้าไปในกำไร
มันมีความหมายยังไงครับ  เท่าที่อ่าน
เห็นเขาบอกเป็นยอดขาดทุนที่เอาไว้หักภาษีได้ ที่ยังไม่ได้หัก

แต่ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี
ฝากช่วยไขข้อข้องใจหน่อยครับ    

แล้วอีกเรื่อง   การประเมินราคาทรัพย์สิน(พวกที่ดิน เครื่องจักร)ใหม่
เห็นบางที ก็ทำทุน 3-5 ปี บางที่ก็ไม่ทำ ไม่ทราบว่ามันไม่มีมาตรฐานหรอครับ

ขอความช่วยเหลือเรื่องงบไม่เข้าใจหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 19, 2007 10:20 am
โดย cwiboon
อันนี้ถามมาอีกทีนะครับ ถ้าใครรู้ละเอียดก็อธิบายเพิ่มเติมได้หรือถ้าผมเข้าใจผิดก็ช่วยแก้ด้วยนะครับ

ขอตอบเรื่องภาษีรอการตัดบัญชีก่อนนะครับ ปกติเวลาที่มีการคิดภาษีจะต้องมีการบวกค่าเผื่อต่างๆกลับคืนไป เช่น ได้รายได้ 1000 แต่หักมีการค่าเผื่อหนี้สูญไว้ 100 นึง เวลาเอาไปคิดภาษีจริงๆ ต้องมีการบวกพวกค่าเผื่อนี้กลับเข้าไปเพื่อไปคิดภาษี เพราะค่าเผื่อเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แล้วเมื่อนำไปคิดภาษี เช่นจากตัวอย่าง รายได้จะกลายเป็น 1100 ถ้าคิดภาษีที่ 30 % ก็กลายเป็นว่า เราเสียภาษีจากค่าเผื่อที่ตั้งไว้ ประมาณ 30 บาท ส่วน 30 บาทนี้จะไปอยู่ในส่วนของสินทรัพย์ ในชื่อภาษีรอการตัดบัญชีเพื่อให้สามารถรู้ได้ว่าตอนนี้บริษํทเคยหักภาษีไปไว้ก่อนด้วยจำนวนเท่าไหร่ แล้วกรณ๊ที่มีการเกิดค่าใช้จ่ายนั้นจริงๆ เกิดขึ้น ในปีหน้าเราก็สามารถนำไปตัดจากรายการนี้ได้


ปกติการประเมินราคาสินทรัพย์ตามมาตรฐานบัญชีน่ะครับ จะมีทางเลือกให้ประเมินโดยใช้ราคาทุนหรือว่าราคาตลาดก็ได้ ถ้าเป็นราคาตลาดจะต้องมีการปรับเปลี่ยนทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจสภาพที่แท้จริงของสินทรัพย์ของบริษัทขณะนั้น แต่ตอนนี้มีกฏบัญชีขึ้นมาอีกข้อ เกี่ยวกันเรื่องการด้อยค่าของสินทรัพย์น่ะครับ คือต้องมีการประเมินว่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ขณะนั้น มีการด้อยค่าขึ้นหรือไม่ ถ้ามีจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแปลงให้มีมูลค่าลดลงด้วย การที่จะตรวจสอบว่าสินทรัพย์นั้นมีการด้อยค่าหรือไม่นั้นให้พิจารณาว่าสินทรัพย์ที่มีนั้น มีการก่อให้เกิดกระแสเงินสดจากสินทรัพย์นั้นมากน้อยเพียงใด เช่น ที่ดิน เอ กับที่ดิน บีซึ่งอยู่ใกล้กัน แต่ ที่ดินเอ เปิดร้านอาหารซึ่งก่อให้เกิดกำไรมาก แต่ ที่ดินบี เปิดร้านอาหารเช่นกัน แต่ขาดทุน ทำให้ ที่ดิน เอ เหมือนมีมูลค่ามากกว่าที่ดิน บี ถ้ากรณีที่มีการปรับการด้อยค่าของสินทรัพย์ ที่ดินเอ อาจจะไม่ต้องปรับ ว่าสามารถนำสินทรัพย์นี้ไปก่อให้เกิดรายได้มาก แต่ที่ดินบีซึ่งนำไปทำร้านอาหารแล้วยังขาดทุน ต้องมีการปรับการด้อยค่าให้เท่ากับราคาจริง เช่นราคาตลาดถ้านำที่ดิน บี ไปขาย เป็นต้นน่ะครับ