Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สวัสดีครับ
รบกวนสอบถามเกี่ยวกับเงินทุนสำรองหน่อยนะครับ
ตามความเข้าใจผม เงินส่วนนี้เก็บและบริหารอยู่ที่แบ็งค์ชาติ
และไม่น่าเกี่ยวข้องกับเงินของรัฐบาลหรืองบประมาณประจำปีที่เก็บมาจากภาษีต่างๆ

ผมสงสัยว่าเงินส่วนนี้มีที่มาจากไหนครับ แบ็งค์ชาติได้มาอย่างไร
และเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้อย่างไรบ้าง

ขอบคุณล่วงหน้าครับ :lol:

pongjaa เขียน:สวัสดีครับ
รบกวนสอบถามเกี่ยวกับเงินทุนสำรองหน่อยนะครับ
ตามความเข้าใจผม เงินส่วนนี้เก็บและบริหารอยู่ที่แบ็งค์ชาติ
และไม่น่าเกี่ยวข้องกับเงินของรัฐบาลหรืองบประมาณประจำปีที่เก็บมาจากภาษีต่างๆ

ผมสงสัยว่าเงินส่วนนี้มีที่มาจากไหนครับ แบ็งค์ชาติได้มาอย่างไร
และเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้อย่างไรบ้าง

ขอบคุณล่วงหน้าครับ :lol:

ที่ผมเข้าใจนะครับ

เงินเข้าหรือออกจากประเทศจะต้องผ่านหน้าต่างนี้เสมอ
คือถ้ามีเงินเข้า ก็ต้องแลกเป็นเงินบาทกับแบงค์ชาติ คนแลกก็จะได้เงินบาท แบงค์ชาติก็จะได้เงินดอลลาร์

กรณีเงินออกก็ตรงกันข้าม คนที่นำเงินออกก็นำเงินบาทไปแลกเป็นเงินดอลลาร์ แบงค์ชาติก็จะมีเงินบาทเพิ่ม แต่ดอลลาร์ลดลง

ผลต่างสุทธิของเงินเข้าออกก็คือเงินทุนสำรองน่ะเองครับ
ตีความได้ว่า ตั้งแต่ประเทศมีการแลกเปลี่ยนเงินเป็นต้นมา มีเงินดอลลาร์เข้ามากกว่าออกประมาณ 60,000 ล้านเหรียญครับ

เงินส่วนนี้ไม่ได้เป็นเงินของรัฐเข้าใจถูกต้องแล้วครับ แต่ถ้ามีมากจริงๆ ก็น่าจะนำไปใช้ได้บางส่วนครับ อย่างจีนมีเงินสำรองเกือบๆ 1 ล้านล้านเหรียญ ก็เลยจะหาทางนำไปลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนมากกว่า ไปซื้อพันธบัตรของเมกาครับ..

ขอบคุณครับคุณลูกอิสาน
ผมพอจะนึกภาพได้คร่าวๆแล้วครับ

ตามที่ผมเข้าใจ เงินสำรองต่างประเทศเป็นการที่ประเทศได้กำไรจากการค้ากับประเทศอื่นแล้วเอาเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินป่าวฮะ ที่เรียกว่าเงินคงคลัง

แล้วรัฐก็บริหารโดยใช้งบประมาณ สองบัญชีคือ บัญชีกำไรขาดทุนกับ บัญชีงบประมาณ

บัญชีงบประมาณก็เป็นการกำหนดนโยบายของรัฐว่าในแต่ละปีจะใช้เงินเท่าไรมีโครงการอะไรบ้าง เช่นปัจจุบันใช้นโยบายเกินดุลงบประมาณ หมายความว่ารัฐใช้เงินมากกว่าที่เก็บได้ เป็นจำนวน 100,000-200,000 ล้านบาท เพื่อให้เงินอัดฉีดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

ส่วนบัญชีกำไรขาดทุนอันนี้เป็นการค้าขายกับต่างประเทศ ว่าเราได้ดุลเท่าไร(เงินไหลเข้าประเทศมากกว่าออกเท่าไร)หรือขาดดุลเท่าไร(เงินออกนอกประเทศมากกว่าเงินไหลเข้า) ที่รมว พานิช เพิ่งออกมาบอกว่าไม่ต้องห่วงส่งออก ไตรมาศหนึ่งยังเกินดุลอะคับ

ส่วนเงินคงคลัง หรือเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นเงินเหลือจากการใช้จ่ายของรัฐ ที่สะสมมาเรื่อยๆ ไงคับ อย่างจีนตอนนี้ได้เงินเข้าประเทศมาก การค้าก็ได้ดุลตลอด การลงทุนก็มหาศาล ทำให้มีภาษีมากและเก็บเงินสำรองได้มากเห็นว่าเกิน 100,000 MUSD แล้วอ่ะคับ อันดับหนึ่งน่าจะยังเป็น JAPAN แต่จีนเห็นว่าจะแซงแล้วนา ไม่แน่ใจ

ส่วนตัวเห็นว่าเงินส่วนนี้น่าจะมีการบริหาร อย่างระมัดระวังที่สุดเพื่อให้ได้ดอกมากๆ แต่ปัจจุบันติดที่กฎหมายมั้งครับ ที่ให้ฝากพันธบัตร หรือฝากประจำอย่างเดียวเพราะกลัวรัฐบาลเอาไปใช้หมดเหมือนรัฐบาลบางสมัย  :twisted:

ทุนสำรองระหว่างประเทศไม่ใช่เงินของรัฐบาล

เงินของรัฐบาลได้จากการเก็บภาษีมีไว้ใช้จ่ายในภาคราชการ ถ้ามีเหลืออยู่ก็เรียกเงินคงคลัง

ถ้าอยู่ดีๆ ความต้องการเงินบาทในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมีมากขึ้น แล้วธปท.กลัวบาทจะแข็ง ธปท.จะเข้าไปแทรกแซงตลาดด้วยการขายเงินบาทออกมาสู่ตลาดเพิ่มขึ้น แล้วซื้อเงินดอลล่าร์เหล่านั้นเก็บไว้เรียกว่า "ทุนสำรอง" เงินดอลล่าร์ส่วนนี้ถือว่าออกจากตลาด ไม่หมุนเวียนอยู่ในระบบอีกต่อไป

ทุนสำรองเกิดขึ้นได้เพราะแบบนี้

ขอบคุณ คุณply33 และคุณสุมาอี้ ครับ
สรุปได้ว่า เงินทุนสำรองและเงินคงคลัง ก็เป็นคนละส่วนกัน
เงินคงคลังเหลือเก็บจากการใช้จ่ายของภาครัฐ
ส่วนเงินทุนสำรองนั้น ก็แบ็งค์ชาติดูแลไป

สุมาอี้ เขียน:ทุนสำรองระหว่างประเทศไม่ใช่เงินของรัฐบาล
เงินของรัฐบาลได้จากการเก็บภาษีมีไว้ใช้จ่ายในภาคราชการ ถ้ามีเหลืออยู่ก็เรียกเงินคงคลัง

ถ้าอยู่ดีๆ ความต้องการเงินบาทในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมีมากขึ้น แล้วธปท.กลัวบาทจะแข็ง ธปท.จะเข้าไปแทรกแซงตลาดด้วยการขายเงินบาทออกมาสู่ตลาดเพิ่มขึ้น แล้วซื้อเงินดอลล่าร์เหล่านั้นเก็บไว้เรียกว่า "ทุนสำรอง" เงินดอลล่าร์ส่วนนี้ถือว่าออกจากตลาด ไม่หมุนเวียนอยู่ในระบบอีกต่อไป

ทุนสำรองเกิดขึ้นได้เพราะแบบนี้

ขอบคุณครับ ท่านแม่ทัพ  

ขอถามด้วยความไม่ฉลาดนะครับ
คือ เงินคงคลังกับเงินทุนสำรองเป็นคนละส่วนกัน (ขอบคูณคูรูทั้งหลายที่ให้ข้อมูลครับ)

เเล้วเเบงค์ชาติ ได้เงินสำรองมาจากไหนครับ(ที่จะนำมาใช้ซื้อขายเเลกเปลี่ยน) เงินทุนสำรอง(เดิม) มาจากไหนบ้าง

เป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ คุณ Javoel
คงต้องรอท่านผู้รู้มาชี้แนะอีกหน่อยน่ะครับ  :o

เริ่มต้นก็เกิดจากการที่คนต่างชาติมีความต้องการสินค้าและบริการของเรา ก็เลยเอาเงินดอลล่าร์มาแลกเงินบาทกับธนาคารนั้นแหละครับ

ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ

คือ เงินคงคลังกับเงินทุนสำรองเป็นคนละส่วนกัน (ขอบคูณคูรูทั้งหลายที่ให้ข้อมูลครับ)

เเล้วเเบงค์ชาติ ได้เงินสำรองมาจากไหนครับ(ที่จะนำมาใช้ซื้อขายเเลกเปลี่ยน) เงินทุนสำรอง(เดิม) มาจากไหนบ้าง

ขอให้ท่าผู้รู้ช่วยอธิบายเเละขยายความให้ด้วยครับ
จะได้เสพข้อมูลด้านนี้ทางโทรทัศน์ ทางหนังสือพิมพ์ได้ถูกต้อง(ตามสภาพเท็จ จริง- Noble truth)