Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตัวที่เลือกมามีสี่ตัว  ความน่าสนใจคือ  อาโออี  อาโอเอ  เอ็นพีเอ็ม  สูง  พีอี/  พีบีต่ำ  ยีลด์สูง  กำไรต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าสามปี  
 
หุ้นตัวที่หนึ่ง  เป็นกิจการบรรจุภัณฑ์  

ข้อมูล  ณวันที่  31/12/2549  200531/12/2548   200431/12/2547        

สินทรัพย์รวม 1,182.71  1,096.20  944.73        

หนี้สินรวม 389.46  346.68  218.94        

ส่วนของผู้ถือหุ้น  793.25  749.52  725.80        

มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 300.00  300.00  300.00        

รายได้รวม  1,180.94  1,026.76  1,022.97        

กำไรสุทธิ 129.42  93.65  99.89        

กำไรต่อหุ้น(บาท)  0.43  0.31  1.78        

ROA(%)* 15.97  12.05  14.70        

ROE(%)*  16.78  12.70  16.46        

อัตรากำไรสุทธิ(%) 10.96  9.12  9.76        

ณ วันที่ 10/04/2550  29/12/2549  30/12/2548  30/12/2547    

อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(เท่า) 6.54  6.48  7.41  7.66    

อัตราส่วนราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(เท่า) 1.07  1.01  0.92  1.15    

มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) 2.64  2.55  2.43  11.79    

อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%) 10.64  9.69  9.38  7.41    

ราคาล่าสุด(บาท) 2.82  2.58  2.24  13.50    

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 846.00  774.00  672.00  810.00    

* - ปรับเต็มปี

ตัวที่สอง
          ณ          2549         2548
สินทรัพย์รวม 2,094.34  2,190.11          

หนี้สินรวม 918.65  1,149.12          

ส่วนของผู้ถือหุ้น  1,175.69  1,040.99          

มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 500.00  500.00          

รายได้รวม  2,980.81  2,356.30          

กำไรสุทธิ 342.63  281.81          

กำไรต่อหุ้น(บาท)  0.69  0.62          

ROA(%)* 21.89  18.41          

ROE(%)*  30.91  27.07          

อัตรากำไรสุทธิ(%) 11.49  11.96          

ณ วันที่ 10/04/2550  29/12/2549  30/12/2548        

อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(เท่า) 4.96  5.17  5.91        

อัตราส่วนราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(เท่า) 1.45  1.63  1.40        

มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) 2.35  2.29  1.95        

อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%) 10.29  8.02  -        

ราคาล่าสุด(บาท) 3.40  3.74  2.72        

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1,700.00  1,870.00  1,360.00        

* - ปรับเต็มปี  
         
เป็นกิจการ  หนักนักเอาไหม  เหล็กล้วน ๆ

ตัวที่สาม  เป็นกิจการโรงงานผลิตหลังคามุงกระเบื้อง

31/12/2549  2005       31/12/2548          

สินทรัพย์รวม 1,847.75  1,767.66          

หนี้สินรวม 445.67  499.63          

ส่วนของผู้ถือหุ้น  1,402.08  1,268.04          

มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 1,000.00  1,000.00          

รายได้รวม  2,404.56  2,108.02          

กำไรสุทธิ 314.04  201.13          

กำไรต่อหุ้น(บาท)  1.57  1.22          

ROA(%)* 24.02  16.92          

ROE(%)*  23.52  15.86          

อัตรากำไรสุทธิ(%) 13.06  9.54          

ณ วันที่ 10/04/2550  29/12/2549  30/12/2548        

อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(เท่า) 5.89  6.32  6.55        

อัตราส่วนราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(เท่า) 1.32  1.35  N.A.        

มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) 7.01  6.65  N.A.        

อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%) 11.89  4.47  -        

ราคาล่าสุด(บาท) 9.25  8.95  6.00        

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1,850.00  1,790.00  1,200.00        

* - ปรับเต็มปี

ตัวที่สี่ปิโตรเคมี  ฝรั่งชอบ
31/12/2549  2005     31/12/2548          

สินทรัพย์รวม 123,094.24  86,517.59          

หนี้สินรวม 32,914.83  29,032.40          

ส่วนของผู้ถือหุ้น  88,400.16  55,760.69          

มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 14,901.15  11,311.41          

รายได้รวม  73,821.24  4,869.18          

กำไรสุทธิ 17,305.82  996.46          

กำไรต่อหุ้น(บาท)  14.91  0.88          

ROA(%)* 20.70  1.44          

ROE(%)*  24.01  1.79          

อัตรากำไรสุทธิ(%) 23.44  20.46          

ณ วันที่ 10/04/2550  29/12/2549  30/12/2548        

อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(เท่า) 6.85  6.55  7.76        

อัตราส่วนราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(เท่า) 1.34  1.94  1.76        

มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) 59.32  49.55  46.05        

อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%) 5.85  5.20  -        

ราคาล่าสุด(บาท) 79.50  73.00  81.00        

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 118,464.17  108,778.42  91,622.42        

* - ปรับเต็มปี

ตัวสอง mcs ปะครับ

ว่าแต่การบ้านยังไงเหรอครับ?

ตัวสาม DRT

ตัวที่สี่เป็น pttch ?

[quote="juntuma"]ตัวที่เลือกมามีสี่ตัว

ทั้งสี่ตัว  มีอยู่ในปอดแล้วหนึ่ง  ใช้เวลาคัดอยู่เจ็ดวัน
พี่ ๆ  คิดว่า ที่ผมเลือกตามสุตร  นี้  อาโออี  อาโอเอ  เอ็นพีเอ็ม  พีอี/พีบีต่ำ  ยีลด์สูง  หุ้นเหล่านี้พอจะสู้ศึกดอกเบี้ยต่ำ  กับตลาดหุ้นซบเซาได้มั้ยครับ
เลิกหวังรวยทางหุ้นแระ  เอามันแบบนี้แหละ  ง่ายดีไม่ปวดหัว :lol:  :lol:  :lol:

อีกกิจการที่กำลังสนใจ  กำลังเล็ง ๆ  อยู่คือให้เช่าทรัพย์สิน  
ให้เช่าโรงงาน  กับให้เช่ารถยนต์  วิเคาะแบบง่าย ๆ  ก้อคือ
ถ้าซื้อบ้านราคาสี่ล้าน  ให้เช่าเดือนละหมื่น  ผลตอบแทนสามเปอร์เซ็นต์ต่อปี
ไหนจะตามเก็บค่าเช่า  ทำสัญญา  บำรุงรักษา  ยื่นเสียภาษีต่าง ๆ
ไปยื่นเอง  ทำรายการเอง  เสียเวลาเป็นวัน  ปวดหัว ๆ

ซื้อหุ้นพวกนี้ดีกว่า  ดีกว่าทำกิจการบ้านเช่าเอง  ภาษีไม่ต้องเสีย
ปันผลบวกเครดิตภาษี  ผลตอบแทนรายปีได้มากกว่าซื้อบ้านให้คนเช่า
ค่าเสื่อมไม่มี  อีกยี่สิบปีข้างหน้า  ราคาบ้านเทียบกับราคาหุ้น  
ถ้าบริษัทไม่เจ๊งไปซะก่อน  ราคาหุ้นน่าจะสูงกว่าราคาบ้าน :lol:  :lol:  :lol:

คุณใกล้เป็นวีไอ  ถูกต้องแล้วครับ  เก่งจัง  
ตอบถูกแป๊บเดียวเอง  เหลือตัวแรกถ้าบีไอโอ  บีโอไอหมดปีนี้กับปีหน้า
ไม่รู้เป็นงัย  ในร้อยหุ้นไม่มีซะด้วย  คนไม่สนใจดี  
ผมเล็งตั้งกะปีกลาย  ไม่ค่อยแน่ใจเพราะมีกิจการเกี่ยวพันกะหุ้นของกะทิ
ซื้อไปแล้วร้อยหุ้น   :lol:  :lol:  :lol:

ดูแค่ตัวเลขทางการเงินอย่างเดียวไม่พอครับ คุณต้องดูปัจจัยเศรษฐกิจภายนอกประกอบด้วย ตัวเลขการเงินเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

ผมมีความรู้แค่ตัวที่สอง จะลองยกตัวอย่างให้ละกัน

1. บริษัทนี้เป็นบริษัทรับจ้างผลิต ส่งออกสินค้ากว่า 90% ออกต่างประเทศ (ญี่ปุ่น) ฉะนั้น รายได้จะเป็นเงินเยน ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาท จะส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างมีนัยสำคัญ (มาก ๆ ๆ)

2. ต้นทุนวัตถุดิบ โชคดีที่ต้นทุนกว่า 60% ก็เป็นเงินต่างประเทศ ทำให้ปัญหาเรื่องการแข็งค่าเงินบาท มีผลกระทบไม่รุนแรงเหมือนบริษัททำในไทยส่งออกนอก แล้วราคาวัตถุดิบมีโอกาสโตขึ้นเท่าไหร่ต่อปี (ยิ่งมากก็ยิ่งไม่ดี)

3. ลูกค้าบริษัท เป็นอย่างไร?? มีลูกค้ากี่ราย ผูกขาดหรือเปล่า ถ้าเสียลูกค้าจะเป็นอย่างไร จะกระทบรายได้ในอนาคตอย่างไร สภาพเศรษฐกิจของประเทศลูกค้าหลักเป็นอย่างไร ความต้องการสินค้ามากขึ้นหรือลดลง

4. Production Capacity เต็มแล้วหรือยัง มีแนวโน้มจะเพิ่มหรือคงที่?

5. ผู้บริหารเป็นอย่างไร มีธรรมภิบาลหรือไม่ (อันนี้สำคัญที่สุด)

ผมว่าปัจจัยพวกนี้ จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของบริษัทครับ พวกตัวเลขการเงินที่คุณเห็น ๆ เป็นแค่ปัจจุบันและอดีต ไม่ค่อยได้บอกอะไรเลยว่า อนาคต บริษัทจะเติบโตมั๊ย หรือว่าจะร่วง  ลองศึกษาดูให้ละเอียดครับ ว่าง ๆ ไป download form 56-1 จาก website ของ set ก็ได้... สู้ ๆ

[quote="juntuma"]ทั้งสี่ตัว

ขอโทนะครับ ผมงงๆ  ว่ามี 2 ชื่อใน 1คน หรือเปล่า (ไม่ได้มากวนนะครับ)


juntuma

ทั้งสี่ตัว  มีอยู่ในปอดแล้วหนึ่ง  ใช้เวลาคัดอยู่เจ็ดวัน

ใช้เวลาน้อยไปครับ

ไม่ได้ดูงบกระแสเงินสดเลยหรือครับ

เท่าที่ดูมา เหมือนขับรถโดยมองแต่กระจกหลังอย่างเดียวเลยครับ ... ผมว่าอนาคตนี่สิสำคัญกว่า ไอ้ตัวเลขที่เห็นสวยๆในอดีต ไม่รู้อนาคตมันจะสวยเหมือนเดิมรึเปล่า

แต่ก่อนผมก็ติดกับดักทางตัวเลขพวกนี้อยู่พอสมควร ทางที่ดีดูที่ตัวธุรกิจดีกว่าครับ มองอนาคตว่าบริษัทจะเป็นอย่างไร แล้วค่อนเอาตัวเลขในอดีตมา recheck อีกทีว่าบริษัทดังกล่าวนั้นผลงานเป็นอย่างไร

คุณใกล้เป็นวีไอ  ถูกต้องแล้วครับ  เก่งจัง  
ตอบถูกแป๊บเดียวเอง  เหลือตัวแรกถ้าบีไอโอ  บีโอไอหมดปีนี้กับปีหน้า
ไม่รู้เป็นงัย  ในร้อยหุ้นไม่มีซะด้วย  คนไม่สนใจดี  
ผมเล็งตั้งกะปีกลาย  ไม่ค่อยแน่ใจเพราะมีกิจการเกี่ยวพันกะหุ้นของกะทิ
ซื้อไปแล้วร้อยหุ้น  

แอบงงกับข้อความนี้ครับ เหมือนกับถามเองตอบเองเลยครับ ... สงสัยนิดหน่อยครับ ช่วงนี้เห็นเวปมันแปลกๆ

คุณใกล้เป็นวีไอ  ถูกต้องแล้วครับ  เก่งจัง

คุณใกล้เป็นวีไอ  ก็คือคุณ nearly_vi   :lol:

ผมไม่เกี่ยวครับ

เออ จะว่าไป แล้ว ตอนแรกตั้งชื่อ ก็ไม่รู้ตั้งอะไรดี คิดว่าจะมาศึกษาให้ได้เป็นกะเขาบ้าง ศึกษาไปๆ ยิ่งรู้ว่า ไม่เคยได้ย่างใกล้เข้าไปเลย

สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อ log in ซะแล้วสิ  :oops:

ถ้าจะดูพวกROEหรือROA ต้องใช้เวลาประมาณ 5 ปีขึ้นไปในการดู เนื่องจากบ้างครั้งอาจจะยังไม่ถึงรอบการขึ้นลงของกลุ่มธุรกิจนั้นก็เป็นไปได้

ถ้าหากดูBV ให้คุณไปดูกลุ่มประกันภัย หลายตัวต่ำกว่าBV แต่ทำไมถึงคนไม่สนใจ เพราะอะไร ไปหาคำตอบที่กลุ่มนั้นได้

ส่วนผมตอบแทนนี้ต้องดูในระยะยาวประกอบกับสองตัวแรกคือROEและROA อาจจะมีปันผลพิเศษได้ ในช่วงเวลาปีเดียว แต่ปีอื่นๆขาดทุนก็เป็นไปได้

ข้อมูลพวกนี้ต้องใช้ระยะเวลา

แต่ถ้าคุณเข้าใจธุรกิจของบริษัท หรือแกะงบเก่งๆ อาจจะไม่ต้องเพิ่งพึ่งพวกนี้ก็ได้ครับ

อันนี้คุณถือว่าเริ่มต้นที่ดีถูกทางแล้ว
แต่อาจจะเหลือให้ถือได้ไม่กี่ตัวจริงๆน่าครับ
ต้องระวังด้วยน่าครับ

ชอบคำตอบคุณ yoyo จังครับ

งบกระแสเงินสดเพิ่งได้ดู  mcs    
อ่านไม่เป็น  ให้พี่ฉัตรชัยช่วยด้วยครับ

กำไรสุทธิงวดนี้  342,628
1.เงินสดสุทธิได้มาจาก (ใช้ไปใน) กิจกรรมดำเนินงาน

2547           2548            2549  หน่วย/พันบาท
367,037      217,279 529,301

2.เงินสดสุทธิได้มาจาก (ใช้ไปใน) กิจกรรมลงทุน
(87,175) (84,914) (234,601)

3.เงินสดสุทธิได้มาจาก (ใช้ไปใน) กิจกรรมจัดหาเงิน (217,040) 51,973           (165,000)

4.  เงินสดเพิ่มขึ้นระหว่างงวด  129,700

5.เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นงวด 302,123               488,623         610,505

ตอบข้อ1.  ที่สำคัญ ค่าเสื่อม  +61,213  ลูกหนี้-266,218  เจ้าหนี้+175,277

ตอบข้อ2.  ที่สำคัญเงินลงทุนระยะยาว-82,164  ที่ดินอาคารและอุปกรณ์  -51,186  เงินฝากติดภาระค้ำประกัน  -103,990

ตอบข้อ3.  จ่ายปันผลทั้งจำนวน  -165,000



ตอบข้อ 4.  เงินสดงวดนี้ +129,700

ตอบข้อ5.ยกมาต้นงวด  +488,623  สิ้นงวด +610,505เงินสดเหลือเยอะจริง ๆ

ปีที่แล้วมีการเพิ่มทุน  240,000

สรุปมีการลงทุนเพิ่ม  จ่ายปันผลตั้งเยอะ  เงินยังเหลือตั้งแยะอนาคตน่าจะดีจากกระแสเงินสด  วิเคาะได้เท่านี้ครับ

ข้อมูลเชิงปริมาณของ  mcs
ลูกหนี้การค้า  5%  และ สินค้าคงเหลือ  26% ของทรัพย์สินรวม
ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับเจ้าหนี้การค้า  แสดงว่าทรัพย์สินที่ได้มา  เท่ากับหนี้สิน  เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้

ไม่มีหนี้ระยะยาว  ไม่มีเงินเบิกเกินบัญชี  ใช้เงินสดลงทุนล้วน ๆ  ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย  กำไรรับเต็ม ๆ  

รายได้เพิ่มขึ้น  ลูกหนี้ลดลงแสดงว่าเก็บหนี้ได้เร็วขึ้น  สินค้าคงเหลือลดลง  แปลว่าผลิตออกมาแล้ว  ขายได้ไวขึ้น

ข้อมูลเชิงคุณภาพ  ค่าเงินบาทที่แข็ง  ไม่ระคายผิว  พิสูจน์จากปีที่แล้ว  2549  ยังทำกำไรได้เพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง

บอกก่อนนะครับ  ไม่มีหุ้นตัวนี้  และไม่ได้ลอกจากห้องร้อยหุ้น
ไม่ได้เชียร์  เพียงแต่หัดทำการบ้าน  เผื่อจะเนียลี่วีไอมากขึ้น   :lol:  :lol:  :lol:
เหลืออีกสามตัว  หวังว่าครูจะมาตรวจให้  ศิษย์จะได้ส่งการบ้านที่เหลือนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบ
:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

มีหุ้นอยู่สามตัว  ที่ผมเล็งอยู่  ปรากฏว่าพี่สุมาอี้  ค้านแหลก
ตัวแรกให้เช่าโรงงาน
ตัวที่สองให้เช่ารถยนต์
ตัวที่สามเหล็ก
เซ็งจริง ๆ  ยังไม่มีซักตัวหรอกครับ  
เซียนทักเลยแหยง ๆ  กว่าจะหาที่ดี ๆ เจอคงอีกนาน
ถึงว่า  การเรียนรู้มันน่าเบื่อ  เลยพากันอยากไปทางลัด ถามเอาดีกว่ากันเยอะ   :lol:  
อยากรู้จังว่าพี่เขาชอบกลุ่มไหน  
ยังค้นไม่เจอว่าพี่สุมาอี้เชียร์กลุ่มไหน
อ่านไปเรื่อย ๆ  เหมือนอ่านการ์ตูน  มีคนว่างั้นแหละ

หุ้นที่หลายคนว่าดี  ไปดูแล้วก้อดีจริง ๆ  แต่มันแพงจัง
ความปลอดภัยสูง  แต่ส่วนต่างราคานี่นะสิ  ไม่รู้จะเอากำไรจากใครมาซื้อต่อ  

ต้องซื้อลงทุนยาว  ๆ  ให้มูลค่ามันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  โตไปเรื่อย ๆ  
เดี่ยวพีอีมันก้อต่ำลงมา   :lol:  

แล้วถือไปเรื่อย  ๆ  อยู่กับเราไปตลอดชีวิตแบบพี่ครรชิต  กับปู่บัฟฟ์  ว่าไว้

หุ้นปีที่แล้วก้อยังดี  ปีนี้ก้อยังดี  แต่มีพี่ ๆ  ตีแตกกันไปหมดแล้ว
ต้นทุนต่ำ ๆ  กันทั้งนั้น
uec  ums  tnh  pb  aprint  

คงต้องขุดต่อไป  เผื่อว่าจะมีเพชรเหลืออยู่  ว่าแต่กระทู้วันนี้
พี่เลือดสีน้ำเงิน  บอกว่าขุดยากมาก ๆ  มีใครเจอแล้วมั่งครับ

8) แหะ แหะ เดาว่าตัวที่หนึ่ง SPACK ตัวที่สาม DRT

[quote="juntuma"]ข้อมูลเชิงปริมาณของ  mcs

สินค้าคงเหลือลดลง

[quote="juntuma"]ข้อมูลเชิงปริมาณของ

[quote="chatchai"]
สูตรก็เป็น

เรื่องตีแตกนั้น มันแล้วแต่ครับ
เพราะที่ขุดกันเจอเพราะ ไม่มีใครสนใจมอง
ราคาไม่ไปไหน แถมหุ้นก็ซื้อขายกันน้อย

ก่อนซื้อลองถามมาร์ว่ามีบทวิเคราะห์อะไรหรือเปล่า
ถ้าไม่มีก็แสดงว่าเรามองอยู่ ถ้าตีแตกได้ จะได้พวก10เด้งก็ได้ครับ

Raphin Phraiwal เขียน:จำนวนวันพวกนี้ยิ่งน้อยยิ่งดีใช่ไหมครับ (ยกเว้นจำนวนวันชำระหนี้การค้า)

ใช่แล้วครับ  แต่ถ้าน้อยเกินไป  เราก็ต้องระวังเหมือนกันครับ  ต้องหาสาเหตุว่าทำไมถึงน้อยกว่าบริษัทอื่นมากๆ  และน้อยอย่างสม่ำเสมอไหม