Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อยากจะลงทุนตัวนี้ ดูงบก็ออกมาดี บทวิเคราะห์ก็ดี ทำไมราคาลงมาเยอะจังครับ

า/จำหน่าย    หมายเหตุ
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 25/01/2549 23/01/2549 3,600,000 0.00 รับโอน
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 17/04/2549 11/04/2549 2,952,300 3.67 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 17/04/2549 12/04/2549 2,500,000 3.70 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 20/04/2549 17/04/2549 7,624,000 3.79 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 24/04/2549 18/04/2549 1,455,600 3.80 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 28/04/2549 26/04/2549 17,000,000 3.60 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/05/2549 09/05/2549 662,100 3.80 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 21/07/2549 19/07/2549 2,626,000 0.00 โอนออก
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 04/08/2549 02/08/2549 2,626,000 0.00 รับโอน
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 17/08/2549 15/08/2549 1,407,000 3.72 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 17/08/2549 16/08/2549 2,942,300 3.72 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/08/2549 17/08/2549 114,000 3.70 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 21/08/2549 18/08/2549 1,650,000 3.71 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 22/08/2549 21/08/2549 1,464,100 3.71 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 22/08/2549 21/08/2549 500,000 0.00 โอนออก
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/11/2549 14/11/2549 14,212,900 3.90 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 16/11/2549 15/11/2549 6,159,400 3.87 ขาย
ไนยวน  ชิ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 21/11/2549 20/11/2549 9,400,000 3.80 ขาย

เพิ่งจะ XD ไปครับ

[quote="ปรัชญา"] า/จำหน่าย

http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... ntent_id=1

007-s เขียน:http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... ntent_id=1

ขอบคุณมากครับ  :o

Mr.Freeze เขียน:อยากจะลงทุนตัวนี้ ดูงบก็ออกมาดี บทวิเคราะห์ก็ดี ทำไมราคาลงมาเยอะจังครับ

แล้วไม่ดีเหรอครับ จะได้ซื้อถูกๆไง  :D

atsu เขียน:

แล้วไม่ดีเหรอครับ จะได้ซื้อถูกๆไง

MCS มีความเสี่ยงสูงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น หากลูกค้ารายใหญ่เลิกสั่งออเดอร์อาจจะทำให้เกิดวิกฤติกับตัวหุ้นได้ คล้ายๆกับที่เกิดกับหุ้น CEI นะครับ ค่าขนส่งค่อนข้างสูงเพราะเหล็กเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักสูง ดังนั้นหากจีนสามารถผลิตได้ในอนาคตก็เชื่อว่าทางผู้ซื้ออาจะสั่งออเดอร์จากทางจีนแทน สัญญาณไม่ดีมาเริ่มมาจากการที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เริ่มทยอยขายหุ้นออกมานะครับ

จีนยกเลิกการคืนภาษีส่งออกเหล็กตามที่ตลาดคาด แตมีผลช้ากว่าที่ตลาดคาด
1 เดือน จีนยกเลิกการคืนภาษีสงออกเหล็ก HRC จากอัตรากอนหนานี้ที่ 8%
และลดการคืนภาษีสงออกผลิตภัณฑเหล็กคุณภาพสูงจาก 8% สู 5% มีผลบังคับ
ใชตั้งแตวันที่ 15 เม.ย. ชากวาที่ตลาดคาดการณไววาจะมีผลในวันที่ 1 มี.ค. เรา
เชื่อวาการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยทําใหแนวโน้มอุปทานเหล็กโลกดีขึ้นโดยเหล็ก
ส่งออกจากจีนจะลดน้อยลง

ที่มา: SCBS

tuxpower เขียน:จีนยกเลิกการคืนภาษีส่งออกเหล็กตามที่ตลาดคาด แตมีผลช้ากว่าที่ตลาดคาด
1 เดือน จีนยกเลิกการคืนภาษีสงออกเหล็ก HRC จากอัตรากอนหนานี้ที่ 8%
และลดการคืนภาษีสงออกผลิตภัณฑเหล็กคุณภาพสูงจาก 8% สู 5% มีผลบังคับ
ใชตั้งแตวันที่ 15 เม.ย. ชากวาที่ตลาดคาดการณไววาจะมีผลในวันที่ 1 มี.ค. เรา
เชื่อวาการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยทําใหแนวโน้มอุปทานเหล็กโลกดีขึ้นโดยเหล็ก
ส่งออกจากจีนจะลดน้อยลง

ที่มา: SCBS

ชื่อนี้คุ้นๆ นะครับ  :lol:

กำไร MCS ปีที่แล้ว
มีกำไรจากการขายหุ้น STPI ด้วย < ระวังจุดนี้ดีๆ ครับ  เพราะปีนี้จะไม่มีแล้ว   (ใครที่ไปประชุมทั้ง MCS และ STPI แล้วพิจารณาถึงจุดนี้   จะรู้ว่าเกิดกำไรขึ้นเพราะอะไร  ..แล้วคงไม่เกิดอีกแล้วตลอดไป)

ตอนที่ไปประชุม  ceo "อ้าง" ว่าที่ขายหุ้นที่ถืออยู่เพราะต้องการให้ทุกคนเป็นเจ้าของมากขึ้น ...  ฟังดูดีครับ  :!:

ปีที่แล้วเป็นปีดีของ MCS ครับ  เพราะได้กำไรทั้งธุรกิจและหุ้นSTPI  ...  ถ้านักลงทุนซื้อก่อนผลประกอบการออกก่อนก็ดีไป (ดูตัวเลขงบการเงินเป็นหลัก)  แต่ถ้านักลงทุนซื้อตอนที่เกิด Fact ขึ้นแล้วหรือราคาขึ้นไปแล้วนี่    ก็ต้องพิจารณาให้ดีครับ
เพราะบริษัทหลายๆ บริษัทเวลากำไรมากๆ ปีหนึ่งแล้ว   ปีต่อมามักจะนิ่งหรือแย่ลงครับ  **ยกเว้น** ธุรกิจที่ยังมี Growth ของตลาดสูง และยังคู่แข่งน้อย  

แต่แนวโน้มกำไรที่เค้าเป็นคน Project ไว้เองปรากฎว่ากำไรปีนี้จะโตได้อย่างมาก 10% (Best case Scenario) ในกรณีที่ค่าเงินไม่เลวร้ายไปกว่านี้มากนัก  (แต่ผมไม่แน่ใจว่ากำไรที่เค้าคาดว่าโตขึ้น 10% นี้ตัดรายการพิเศษออกแล้วหรือยัง) .. ในความเป็นจริงที่เค้าบอกว่าcapacity ของโรงงานก็ใกล้เต็มแล้ว

ถ้าขยายโรงงาน Burden cost/Fix cost ก็จะเพิ่มขึ้นมากทำให้ performance ไม่ดี (กำไรน่าจะตกลง)  ดังนั้นเค้าบอกว่าจะใช้วิธีหาพันธมิตรตปท.ดู   และสอบถามผู้ถือหุ้นว่าเห็นด้วยหรือไม่
(ผู้ถือหุ้นทุกคนฟังแล้วก็ไม่คัดค้านครับ)

ดังนั้นหากนักลงทุนยังมั่นใจ MCS จริงๆ  ผมว่าต้องไปแกะ/สอบถามการลงทุนของเค้าที่จะไปลงทุนกับตปท.ครับ  ซึ่งต้องใช้วิธีเสาะหาข้อมูลเองให้ลึกพอ   อย่าเพียงแค่ฟังจากผู้บริหาร/คนในบริษัทนั้นเพียงอย่างเดียว

เพราะการลงทุนในตปท. นั้นมีความเสี่ยงทางธุรกิจและความโปร่งใสของบริษัทพอสมควร    ขนาดกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ ของไทยไปลงทุนตปท. ยังสะบัดสบอมกลับมาทุกราย  ไม่ว่าจะเป็น Land&House, CP, Central ซึ่งนับว่าเขี้ยวมากๆ  แล้วยังไปเสียท่าที่พม่า (ก่อนออกไปลงทุนตปท.ทุกกลุ่มมีเส้นสาย  connection ทั้งธุรกิจและการเมือง กับตปท.มากกว่าบริษัทอื่นๆ แน่ๆ )

.. ต้องระวังเรื่อง Transfer pricing, Poison pill, conflict of interrest ระหว่างผู้บริหารและบริษัทจะไปร่วมลงทุน

ปล.1  นักลงทุนส่วนใหญ่จะพลาด เพราะการดูตัวเลขที่เกิดขึ้นในอดีตอย่างเดียวคับ  การลงทุนในหุ้นคือการลงทุนสำหรับอนาคต  ในราคาเหมาะสม มิใช่ลงทุนเพื่ออดีต (ผลประกอบการที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับราคาที่ inflated ขึ้นมาแล้ว): Case Study TTA, CEI

ปล.2 ระวังนิสัยนักธุรกิจไต้หวันด้วยครับ

คุณไนยวน ชิ เป็นคนญี่ปุ่นไม่ใช่หรอครับ

โอ@ เขียน:คุณไนยวน ชิ เป็นคนญี่ปุ่นไม่ใช่หรอครับ

ท่านเป็นคนไต้หวันครับ แต่จบการศึกษาจากญี่ปุ่น

โทรไปคุยกับ IR ของบริษัทมาครับ เลยเอามาฝาก

1. ท่านดร. ไนยวน ชิ เป็นคนไต้หวันครับ ไปเรียนปริญญาเอกทางวิศวกรรมที่ประเทศ ญี่ปุ่นครับ และปัจจุบันถือสัญชาติไทยครับ

2. ลูกค้าบริษัทมี Kajima ซึ่งปีที่แล้วถือเป็นสัดส่วนประมาณ 90 % ครับ ที่เหลือเป็น Kajinaka, Obayashi, แล้วก็ Shimisu ครับ (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือเปล่านะครับ) ส่วนสัดส่วนปีนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ Kajima ก็ยังเป็นลูกค้ารายใหญ่อยู่ดีครับ

ผมเลยถามว่า มีความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่รายเดียว คุณ IR ก็ตอบว่า จริงๆแล้ว Kajinaka และ Shimasu ก็อยากให้เราผลิตให้มากกว่านี้ แต่ Capacity เราไม่พอ ส่วน Kajima ถ้ามีงานก็ต้องแจ้งให้เราทราบล่วงหน้า เพราะว่าถ้า Capacity เราว่าง เราก็จะผลิตให้เจ้าอื่น

3. ปัจจุบันบาททรงๆ อยูที่ 29-30 บาท ต่อ 100 เยน

4. ผมถามเรื่องจีนลดการคืนภาษีส่งออกมีผลอะไรบ้างไหม คุณ IR บอกว่า เรานำเข้าเหล็กจากญี่ปุ่น เพราะว่าคุณภาพของเหล็กจีนยังไม่ได้มาตรฐานพอสำหรับลูกค้าญี่ปุ่น แต่ถ้าปีหน้าได้ลูกค้าที่ตะวันออกกลาง ก็อาจใช้เหล็กจากจีนได้
(ปลายปีหน้ายังว่างอยู่ ส่วนไซต์งานในตะวันออกกลางนี่ก็เป็นบริษัทรับเหมาของญี่ปุ่น แต่ว่ายังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา)

ปล. ผมมีหุ้นตัวนี้อยู่ โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ

ผมเข้าใจว่าบริษัทที่เป็นลูกค้าน่าจะเป็น Takenaka นะครับ

woody เขียน:ผมเข้าใจว่าบริษัทที่เป็นลูกค้าน่าจะเป็น Takenaka นะครับ

ขอบคุณครับ คงฟังผิดแน่เลย

ขอถามพี่ Raphin ครับ เรื่องการร่วมลงทุนกับจีนคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ

และ IR ของ MCS  นี่เบอร์อะไรหรือครับ เผื่อจะโทรไปถามข้อมูลมาแบ่งปันในเวบบ้าง ขอบคุณครับ

[quote="poppo"]ขอถามพี่ Raphin ครับ เรื่องการร่วมลงทุนกับจีนคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ

และ IR ของ MCS

มีท่านใดทราบมั้ยคับว่า ตอนนี้กลุ่ม ดร.ชิ เค้าเหลือหุ้นอยู่กี่เปอร์เซนต์แล้ว

จากเวป www.set.or.th

MCS : บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน)  

ผู้ถือหุ้นรายย่อย ณ วันที่ 07/04/2549  
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) 1,241   % การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (% Free float) 37.64
 
ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29/03/2550 ประเภทการปิดสมุดทะเบียน : XD
จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 1,617   % การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 99.86

ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1 นายไนยวน ชิ  48,395,000 9.68
2 นายไนยวน ชิ  46,026,300 9.21
3 MORGAN STANLEY & CO INTERNATIONAL LIMITED  41,215,800 8.24
4 SOMERS (U.K.) LIMITED  36,759,400 7.35
5 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด  32,268,000 6.45
6 MRS.YOKO KI (CHI)  30,000,000 6.00
7 GOLDMAN SACHS INTERNATIONAL  21,825,400 4.37
8 MISSKARIN (CHIA LING) KI (CHI)  20,000,000 4.00
9 MR.TAIKI (TAI HSU) KI (CHI)  20,000,000 4.00
10 MR.YUKI (YONG KUAN) KI (CHI)  20,000,000 4.00
11 นายประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์  10,000,000 2.00
12 ด.ญ.ชาลิสา ชิ  10,000,000 2.00
13 นายสมพงษ์ เมธาสถิตย์สุข  6,065,000 1.21
14 นายวิชัย มิตรสันติสุข  5,200,100 1.04
15 บริษัท ซี.เอส.แคปปิตอล จำกัด  4,500,000 0.90
16 นางชาณา เหตระกูล  4,182,100 0.84
17 นางพรทิพย์ สายสะอาด  4,000,000 0.80
18 นายสุวิทย์ กิจสัมนางกูร  3,970,000 0.79
19 ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)  3,490,800 0.70
20 กองทุนเปิด เสถียรทรัพย์ปันผล  2,862,600 0.57
21 UBS AG, LONDON BRANCH-ASIA EQUITY  2,788,300 0.56
22 กองทุนเปิด เพิ่มพูนทรัพย์ปันผล  2,683,000 0.54

นับรวมสกุล ชิ (CHI) ได้ 194,421,300 หุ้น
คิดเป็น 38.88% (จาก 500 ล้านหุ้น)

woody เขียน:ผมเข้าใจว่าบริษัทที่เป็นลูกค้าน่าจะเป็น Takenaka นะครับ

น่าจะเป็นทั้ง Kajima และ Takenaka เลยนะครับ ...
แต่ Kajima จะเป็นรายได้หลักกว่า ..
ทั้งคู่เคยทำงานกับ Thai Takenaka มา .. ได้ยินแว่วๆมาว่าประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่

yoyo เขียน: น่าจะเป็นทั้ง Kajima และ Takenaka เลยนะครับ ...
แต่ Kajima จะเป็นรายได้หลักกว่า ..
ทั้งคู่เคยทำงานกับ Thai Takenaka มา .. ได้ยินแว่วๆมาว่าประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่

คือว่าผม เรียก Takenaka ผิดเป็น Kajinaka ครับ คุณ Woody เลยแก้ให้

อ้อ บริษัทจะประกาศงบวันจันทร์ที่จะถึงนี้ครับ

 แป่ว ... ผมอ่านเร็วไปหน่อย ..
Kajima + Takenaka = Kajinaka

Raphin Phraiwal เขียน: 3. ปัจจุบันบาททรงๆ อยูที่ 29-30 บาท ต่อ 100 เยน

จุดนี้ละครับที่ผมว่าน่ากลัว
Q1 ปีที่แล้ว บาทอยู่ที่ 33.5-34.5 บาทต่อร้อยเยน
เท่ากับว่าบาทแข็งมาประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์
อย่างนั้น MCS ต้องทำกำไรเพิ่มกี่เปอร์เซ็นต์ จึงจะทำ EPS ให้ได้เท่าเดิม  และจะทำอย่างไรให้ EPS ปีนี้ ไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว

ผมว่านี่น่าจะเป็นปัญหาหลักของ MCS ในการที่จะรักษาการ growth ในปีนี้นะครับ

smart_investor เขียน:

จุดนี้ละครับที่ผมว่าน่ากลัว
Q1 ปีที่แล้ว บาทอยู่ที่ 33.5-34.5 บาทต่อร้อยเยน
เท่ากับว่าบาทแข็งมาประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์
อย่างนั้น MCS ต้องทำกำไรเพิ่มกี่เปอร์เซ็นต์ จึงจะทำ EPS ให้ได้เท่าเดิม

ผมกลับคิดว่า เรื่อง growth ไม่ได้น่าห่วงเท่าไหร่นะครับ เพราะเราควรจะมองที่ growth ของการดำเนินงานมากกว่า growth ของกำไรที่เป็นเงินบาท ถ้า EPS ลดลงแต่รายได้ที่เป็นเงินเยนหรือปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น หรือ EPS ที่เป็นเยนเพิ่มขึ้น ก็ถือว่า OK นะครับ

แต่เราเล่นหุ้นเป็นเงินบาทไม่ใช่เหรอครับ ...
ผมว่าการกำไรหรือขาดทุนจากค่าเงินนิดๆหน่อยๆ ไม่นับเป็นส่วนของการดำเนินการ แต่ถ้าเป็นการแข็งค่าหรืออ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญทำให้ความสามารถในการแข่งขันเปลี่ยนแปลงไป มองยังไงก็เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการ ผมมองต่างมุมว่าเรื่องของค่าเงินเป็นส่วนหลักที่เจ้าของกิจการต้องเข้าใจและหาทางแก้ครับ

yoyo เขียน:  แต่เราเล่นหุ้นเป็นเงินบาทไม่ใช่เหรอครับ ...
ผมว่าการกำไรหรือขาดทุนจากค่าเงินนิดๆหน่อยๆ ไม่นับเป็นส่วนของการดำเนินการ แต่ถ้าเป็นการแข็งค่าหรืออ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญทำให้ความสามารถในการแข่งขันเปลี่ยนแปลงไป มองยังไงก็เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการ ผมมองต่างมุมว่าเรื่องของค่าเงินเป็นส่วนหลักที่เจ้าของกิจการต้องเข้าใจและหาทางแก้ครับ

จริงอยู่ครับที่เราเล่นหุ้นเป็นเงินบาท และผมก็เห็นด้วยที่การแข็งค่าหรืออ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ (ไม่ใช่การเก็งกำไรหรือเหตุการณ์ชั่วคราว) ต้องส่งผลกระทบต่อ MCS อย่างแน่นอน แต่ถ้าถามว่า แล้วจะหาทางแก้อย่างไร เรื่องจะไปบอกให้ค่าเงินอ่อนลงนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะเป็นปัจจัยภายนอก ทำได้อย่างดีที่สุดก็คงเป็น เพิ่มราคาสินค้า (แน่นอนว่าต้องเกิดปัญหากับลูกค้า) หรือไม่ก็ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนเท่านั้น ส่วนตัวผมไม่เคยได้พูดคุยกับฝ่ายบริหาร ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งก่อนก็พลาดไปเพราะไม่ว่าง เลยไม่รู้ว่า บริษัทจะสามารถจัดการตรงนี้ได้ดีแค่ไหน แต่อย่างน้อย 1 ปีต่อจากนี้ก็น่าจะทำให้รู้กึ๋นของฝ่าย ดร. พอสมควร

แต่อย่าลืมว่า MCS ไม่ได้โดนผลกระทบของการแข็งค่าของค่าเงินอย่างเดียวนะครับ เพราะหนี้ที่เป็นเงินเยนของ MCS ก็มีเหมือนกัน แถมต้นทุน 60% ก็เป็นเงินเยน ดังนั้น ส่วนที่โดนจัง ๆ น่าจะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนการผลิตที่เมืองไทยมากกว่า (นับดูก็ประมาณ 40%) นับจากค่าเงินบาทต่อเยนที่แข็งขึ้นมาประมาณ 20% กับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น + ปัจจัยอื่น ๆ ผมคิดว่าน่าจะกระทบ แต่ไม่ถึงกับเจ็บมั๊งครับ และอีกอย่าง ถ้าบริษัทใช้เงินบางส่วนกับการเพิ่มประสิทธิภาพในต่างประเทศ (บริษัทในจีน, MCS Japan) มันก็มองได้ว่า Cost ส่วนนี้ถูกลงจากการที่เงินบาทแข็งขึ้นไม่ใช่เหรอครับ

แต่สุดท้ายไม่ว่ายังไง ขอแค่ปันผลซัก .30 ในปีนี้ ก็เป็นปลื้มแล้ว

ที่ผม post เรื่องค่าเิงินเพราะ ผมมองว่าปี 50 นี้การแข็งค่าขึ้นมาของเงินบาทจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการครับ

เดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็คงทราบแล้วครับว่ากระทบมากน้อยขนาดไหน

ว่าแต่ดร.ชิ นี่แกขายหุ้นครบรึยังครับ  

ที่ราคาไม่ไปไหนไกลก็เพราะหุ้นแกมาขวางเป็นภูเขาน้ำ้แข็งอยู่ด้วยนะ ผมว่า
แล้วมันก็ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่มั่นใจด้วยครับว่าทำมั๊ย ทำไมเจ้าของขายจัง

แต่ถ้ามองในแง่ของ dividend payout ratio ผมอบหุ้นตัวนี้นะครับ  รู้สึกว่าเค้าก็แฟร์ดี