Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

KTB ทำไมลงแรงครับ
ติดดอยที่ 12.10 อยู่เยอะเลย
Q1 กำไรต่อหุ้นลดลงนิดเดียวเอง จาก 0.42 เป็น 0.39
และ npl เพิ่มจาก 6.26% ณ สิ้นปี เป็น 6.88%

อ่านงบก็ดูไม่เป็น ใครพออ่านงบเก่งๆบ้างบอกหน่อย ขาดทุนไป 5 % แล้ว

ถ้าทนเห็นการลดลงแค่ 5 % ไม่ได้ ทำไมถึงซื้อ KTB ครับ การเปลี่ยนแปลงของราคาระยะสั้นเป็นแค่อารมณ์ของนายตลาดเท่านั้น

:roll:

ตัวนี้ ผมโคตรโชคดีเลย ปล่อยไปได้ที่ 13.90 บาท
จำได้ว่า ปล่อยเสร็จยังขึ้นไปต่ออีกนิดนึงนะครับ

เรื่องตั้งสำรอง ไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว ไม่ได้ตามเลยครับ

ผมไม่ค่อยเห็น กรุงไทย ไปเปิดสาขาตามห้าง เลย
ในขณะที่แบ๊งค์ใหญ่ๆ ระดับเดียวกัน
เขาไปเปิด รอลูกค้า ตามห้างกันเกลื่อนแล้ว

ยอดซื้อขายผ่าน NVDR นี่ขายออกมา 60 กว่าล้านหุ้นนะครับ

ลองดูได้จาก Link ด้านล่างครับ

http://www.set.or.th/static/nvdr/nvdr_stockval_1_1.html

https://partner.settrade.com/settrade/n ... 5F5F675441

KTB ลบ 4.39% หลัง NPL พุ่ง-กังวล NIM ลดใน Q2
Source - IQ Biz
Monday, 23 April 2007 11:01
นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า หุ้น KTB เช้านี้ราคาปรับลงต่อ จากที่ประกาศงบไตรมาส 1 ออกมาอาจดูแย่ในส่วน NPL ที่ขึ้นประมาณ 5,000 ล้านบาท ทำให้ Sentiment ตลาดอาจจะไม่ค่อยดีสำหรับ KTB
ปรับคำแนะนำจากซื้อเป็นถือ
"คิดว่าคงลงเพราะ NPL ปรับขึ้นไปเยอะ และ Coverage ratio ก็ไม่ดี แต่ไม่ถึงกับขายเพราะราคา Fair อาจจะใกล้เคียงกับราคาตลาดหลังราคาปรับลงเยอะแล้ว ในเชิง Action ถ้ามีต้องปรับพอร์ตออก โดยมีแนวรับที่ 10.30 บาท" นางภรณี กล่าว
ให้ Fair price อยู่ที่ 12.60 บาท แนวโน้มไตรมาส 2 ก็อาจจะยังไม่ดี
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย ได้ปรับลดคำแนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นน้อยกว่าตลาดในช่วงที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยลบที่กดดันผลการดำเนินงานระยะสั้น 3 ประการคือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระบบลง 25-50bp นำโดย KTB ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ NIM ในงวด 2Q50 อย่างเต็มที่ การตั้งสำรองหนี้ฯ ตามเกณฑ์ IAS 39 ซึ่งจะต้องดำเนินการมากขึ้นใน 2Q50 และ NPL ของระบบที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ ใน 1Q50 เป็นสัญญาณไม่ดีนัก
โดยยังคงเลือก KBANK และ SCB เป็นหุ้น Top picks พร้อมกับปรับลดคำแนะนำหุ้น KTB เป็นถือ จากเดิมให้ซื้อ เพราะกังวลเรื่อง NPL และ Coverage ratio ที่ลดลงมาก
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.55 น.
หุ้น KTB อยู่ที่ 10.90 บาท ลดลง 0.50 บาท (-4.39%)
หุ้น BBL อยู่ที่ 112.00 บาท ลดลง 1.00 บาท (-0.89%)
หุ้น BAY อยู่ที่ 21.20 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.47%)
หุ้น KBANK อยู่ที่ 67.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้น SCB อยู่ที่ 67.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--

โพสต์แล้ว: **จันทร์ เม.ย. 23, 2007 3:09 pm**

ราคาหุ้น KTB ปรับตัวลดลงมา 5.26% ในช่วงเช้าวันนี้สู่ระดับ 10.70 บาท เนื่องจากความกังวลต่อการตั้งสำรองและอัตราเงินกองทุนของธนาคาร

ธนาคารประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/50 ตรงตามคาดการณ์ของตลาดและไม่ควรจเป็นสาเหตุของราคาหุ้นที่ปรับลงในช่วงเช้าวันนี้

ประเด็นที่น่ากังวลสำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/50 คือหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้เดือนมีนาคม(NPLs)ที่เพิ่มขึ้นจาก 9.22% ของสินเชื่อรวมเป็น 9.82% ของสินเชื่อรวม ตามข้อมูลจากทางธนาคารพบว่าหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากลูกหนี้รายใหญ่รายเดียวซึ่งก็คือรัฐวิสาหกิจ โดยเป็นผลมาจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาล ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของ NPLs เป็นเพียงการเพิ่มขึ้นของหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ทางเทคนิคและหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นก้อนดังกล่าวจะกลับมาเป็นหนี้ในชั้นปกติได้หากมีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดังเดิม

นอกเหนือจากหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นชั่วคราวแล้ว KTB ก็ยังต้องตั้งสำรองฯ อีก 10,000-12,000 ล้านบาทในปีนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม KTB มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 35,819 ล้านบาทซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ 36,238 ล้านบาทอยู่เล็กน้อย

เราเชื่อว่าตลาดมีการตอบรับเชิงลบมากเกินไปต่อข่าวดังกล่าว ธนาคารมีเงินทุนเพียงพอที่จะตั้งสำรองเพิ่มเติมในปีนี้ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม ธนาคารมีสำรองตามกฎหมาย 117,315 ล้านบาทและสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ 14.5% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดโดย ธปท. ที่ 8.5% ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดี แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงมามากแต่ราคาหุ้นยังคงไม่ถูก โดยซื้อขายที่ P/BV ที่ 1.20 เท่า ณ ราคาหุ้นที่ 10.70 บาท เราจึงแนะนำ ถือ แต่แนะนำ BBL ซึ่งมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ ซื้อขายที่ P/BV 1.32 เท่า

โพสต์แล้ว: **จันทร์ เม.ย. 23, 2007 6:26 pm**

cut ไปแล้วที่ 11.10
2 วัน ขาดทุนไปแสนกว่าๆ เซ็งเลย
รอรับลับตอนเด้งแล้วกัน ให้ฝรั่งหมดแรงขายก่อน

โพสต์แล้ว: **จันทร์ เม.ย. 23, 2007 7:34 pm**

เมื่อสมัย 6 ปีก่อน ผมเคยซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร 4 ตัว

BBL 35 บาท
KTB 11.50 บาท
TFB (KBANK) 18.75 บาท
SCB 17 บาท

หุ้นแบงค์ใหญ่ 3 ตัวราคาไปไหนต่อไหนแล้ว แต่ KTB ราคาย่ำอยู่กับที่ หากใครถือไว้เท่ากับเสียเวลาเปล่า

ธนาคารที่มีรัฐถือหุ้นใหญ่ คงไปคาดหวังอะไรมากไม่ได้ นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายของรัฐ ผมว่าบางทียังอาจจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ในทางที่เป็นผลลบต่อธนาคารและผู้ถือหุ้นด้วย เพราะฉะนั้นหุ้นธนาคารที่รัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จึงเป็นหุ้นที่ควรอยู่ห่าง ๆ เอาไว้ครับ