หุ้นเด็ด ( ? ) จากสมาคมนักวิเคราะห์
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 23, 2007 6:58 pm
หลักทรัพย์ SET
หัวข้อข่าว SET News Release :ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์...
วันที่/เวลา 23 เม.ย. 2550 08:52:45
ข่าว SETฉบับที่ 60 / 2550
23 เมษายน 2550
ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และ บ.เซทเทรด ดอท คอม
แนะแหล่งข้อมูลให้ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และ บ.เซ็ทเทรด ดอท คอม แนะแหล่งข้อมูลสำหรับผู้ลงทุนสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน บทวิเคราะห์ และงานวิชาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านสมาคมนักวิเคราะห์เผยผลวิเคราะห์พบมี 9 บริษัท มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 7% ถึง 27%
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด จะยังคงทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการเผยแพร่ข้อมูล อาทิ ข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน ข้อมูลสถิติสำคัญ ๆ บทวิเคราะห์ และงานวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"เจตนารมณ์ของการเผยแพร่ข้อมูลก็เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน เนื่องจากเมื่อผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในหลักทรัพย์ที่ครบถ้วน สมบูรณ์ จะทำให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุน และมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุนระยะกลาง หรือผู้ลงทุนระยะยาว" นางภัทรียากล่าว
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถหาข้อมูลประกอบการลงทุนและตัวเลขสำคัญทางการเงินรายบริษัท รวมทั้งคำแนะนำสำหรับการลงทุน จาก SAA consensus ซึ่งเป็นผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่าง ๆ ที่ติดตามข้อมูลรายบริษัทอย่างใกล้ชิด และได้นำเผยแพร่ไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ที่ www.settrade.com ภายใต้หัวข้อ "SAA Consensus" หรือศูนย์รวมประมาณการตัวเลขของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลที่น่าสนใจ ได้แก่ สรุปหุ้นที่มีการคาดการณ์ตัวเลขกำไรเฉลี่ยถูกปรับขึ้น / ลดลงมากที่สุด 10 อันดับแรก หุ้นที่มีค่าเฉลี่ยการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 2007 เติบโตสูงสุด / ต่ำสุด 10 อันดับแรก ตารางสรุปหุ้นที่มีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ต่ำสุด EPS Growth สูงสุด และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงสุด 10 อันดับแรก
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (SAA) เปิดเผยว่า ได้นำข้อมูลที่บริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมนักวิเคราะห์ฯ จัดทำและเผยแพร่ใน SAA Consensus มาพิจารณาต่อ โดยเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
นายสมบัติกล่าวว่า "จากผลการวิเคราะห์พบว่า ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แม้สถานการณ์ตลาดหุ้นในปัจจุบันจะซบเซา โดยบริษัทที่คาดว่าจะมี EPS Growth ปี 2550 สูงสุด 10 อันดับแรก มี EPS Growth ระหว่าง 200% ขึ้นไป ถึงเกือบ 3,000% โดยบริษัทที่มี EPS Growth สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค (PF) มี EPS Growth 2,950% บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) มี EPS Growth 1,116% และ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) มี EPS Growth 650%
นอกจากนี้ 7 ใน 10 ของบริษัทที่มี EPS Growth สูงสุดยังมีมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานโดยเฉลี่ยสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันมากพอสมควรมีตั้งแต่ 14% ถึง 71% โดยบริษัทที่มีมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานโดยเฉลี่ยสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ชินแซทเทลไลท์ (SATTEL) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 71.97% บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 41.23% และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 40.71%"
นายสมบัติกล่าวด้วยว่า "อย่างไรก็ตาม สำหรับ บมจ.ชินแซทเทลไลท์ ที่ติดอันดับแรกนั้น อาจเป็นผลจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับข่าวความเสี่ยงบางประการทางธุรกิจและข่าวเชื่อมโยงบางประการกับผู้ถือหุ้น ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำลงกว่ามูลค่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ซึ่งนักลงทุนควรหาข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวได้ในรายละเอียดบทวิจัยของสำนักวิจัยต่างๆ ด้วย"
นอกเหนือจากหุ้นที่มี EPS Growth สูงสุดข้างต้น เมื่อสำรวจหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่โดยทั่วไปสมาคมนักวิเคราะห์ฯ ยังพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนที่นักวิเคราะห์มีความเห็นว่ามีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิดอยู่มากพอสมควร จากการสุ่มสำรวจใน SAA Consensus พบว่ามีทั้งสิ้น 9 บริษัท ที่มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 7% ถึง 27% โดยบริษัทที่มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิดโดยเฉลี่ย 3 อันดับแรกได้แก่ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 27.03 % รองลงมาคือ บมจ.ปตท. (PTT) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด โดยเฉลี่ย 25.13% และ บมจ. อสมท (MCOT) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด โดยเฉลี่ย 18.93 %
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีแหล่งข้อมูลปัจจุบันที่ผู้ลงทุนสามารถค้นหา เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th/setresearch ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่มีเนื้อหาที่เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับตลาดทุนในขณะนั้น โดยจะนำเสนอสาระโดยสรุปพร้อมกับการเชื่อมโยงเนื้อหาประเด็นจากข่าว และบทความที่น่าเชื่อถือและผ่านการคัดกรองทั้งของประเทศไทยและของโลก โดยอยู่ภายใต้หัวข้อ "In the Spotlight" ซึ่งจัดทำโดยฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นางภัทรียากล่าวเสริมว่า "การเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนเป็นหนึ่งในภารกิจที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งเสริมให้มีการจัดทำบทวิเคราะห์ และสรุปข้อมูลสำคัญโดยสมาคมนักวิเคราะห์และหน่วยงานต่างๆ ในตลาดทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่หลากหลาย ประกอบการตัดสินใจ และนำไปประยุกต์ใช้ในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนได้ศึกษาทั้งข้อมูลพื้นฐานและใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุนด้วย"
สรุปข้อมูลโดยสมาคมนักวิเคราะห์
บริษัทจดทะเบียนที่มีค่า EPS Growth สูงสุด และมีมูลค่าที่สูงกว่าราคาปิด เกิน 14 %
โดยใช้ประมาณการของปี 2550 (เรียงตาม EPS Growth)
อันดับ ชื่อหุ้น ชื่อบมจ. ราคาปิด (18 เม.ย.50) มูลค่าเหมาะสม มูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด EPS Growth ปี 50 (%)* P/E** ปี 50
1 PF พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 3.08 4.35 41.23% 2,950.00 5.06
2 AI เอเชียน อินซูเลเตอร์ 6.25 7.56 20.96% 1,116.67 8.56
3 SLC โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) 2.88 4.00 38.89% 650.00 6.40
4 IRPC ไออาร์พีซี 6.10 6.96 14.10% 580.00 11.46
5 SATTEL ชินแซทเทลไลท์ 6.85 11.78 71.97% 475.00 44.92
6 BCP บางจากปิโตรเลียม 8.50 11.96 40.71% 310.00 10.33
7 KTECH เค-เทค คอนสตรัคชั่น 1.39 1.80 29.50% 262.50 10.69
Note:*EPS Growth = 100* (Forecasted 2007 - Actual 2006) / Actual 2006
**P/E = P/EPS เฉลี่ย
ที่มา : สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์, www.settrade.com
สรุปข้อมูลโดยสมาคมนักวิเคราะห์
บริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 7% ถึง 27%
(เรียงตามตัวอักษรย่อของหลักทรัพย์)
ชื่อหุ้น ชื่อบมจ. ราคาปิด (บาท) (18 เม.ย.50) มูลค่าที่เหมาะสม (บาท)
มูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด คาดการณ์อัตราเงินปันผล ปี 50 P/E ปี 50 (18 เม.ย.50)
คาดการณ์ EPS ปี 50 (บาท)
BBL ธ.กรุงเทพ 114.00 135.51 18.87% 2.31% 11.14 10.23
KBANK ธ.กสิกรไทย 68.00 78.06 14.79% 2.47% 11.73 5.80
MCOT อสมท 24.20 28.78 18.93% 6.11% 12.76 1.90
PTT ปตท. 214.00 267.77 25.13% 4.90% 7.01 30.52
PTTEP ปตท.สผ. 90.50 101.48 12.13% 3.40% 10.93 8.28
QH ควอลิตี้เฮ้าท์ 1.32 1.42 7.58% 4.14% 12.07 0.11
SPAL ศุภาลัย 3.44 4.37 27.03% 7.91% 5.94 0.58
THAI การบินไทย 46.75 53.59 14.63% 3.74% 8.93 5.24
TOP ไทยออยล์ 61.50 67.31 9.45% 5.25% 8.02 7.66
หมายเหตุ โปรดศึกษารายละเอียดตัวเลขคาดการณ์และบทวิจัยใน SAA Consensus ได้ทาง www.settrade.com ทั้งนี้หุ้นต่างๆ อาจมีบางสำนักวิจัยให้คำแนะนำขาย ขณะที่บางสำนักแนะนำให้ซื้อ
คิดยังไงกันบ้างครับ :(
หัวข้อข่าว SET News Release :ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์...
วันที่/เวลา 23 เม.ย. 2550 08:52:45
ข่าว SETฉบับที่ 60 / 2550
23 เมษายน 2550
ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และ บ.เซทเทรด ดอท คอม
แนะแหล่งข้อมูลให้ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และ บ.เซ็ทเทรด ดอท คอม แนะแหล่งข้อมูลสำหรับผู้ลงทุนสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน บทวิเคราะห์ และงานวิชาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านสมาคมนักวิเคราะห์เผยผลวิเคราะห์พบมี 9 บริษัท มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 7% ถึง 27%
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด จะยังคงทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการเผยแพร่ข้อมูล อาทิ ข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน ข้อมูลสถิติสำคัญ ๆ บทวิเคราะห์ และงานวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"เจตนารมณ์ของการเผยแพร่ข้อมูลก็เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน เนื่องจากเมื่อผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในหลักทรัพย์ที่ครบถ้วน สมบูรณ์ จะทำให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุน และมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุนระยะกลาง หรือผู้ลงทุนระยะยาว" นางภัทรียากล่าว
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถหาข้อมูลประกอบการลงทุนและตัวเลขสำคัญทางการเงินรายบริษัท รวมทั้งคำแนะนำสำหรับการลงทุน จาก SAA consensus ซึ่งเป็นผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่าง ๆ ที่ติดตามข้อมูลรายบริษัทอย่างใกล้ชิด และได้นำเผยแพร่ไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ที่ www.settrade.com ภายใต้หัวข้อ "SAA Consensus" หรือศูนย์รวมประมาณการตัวเลขของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลที่น่าสนใจ ได้แก่ สรุปหุ้นที่มีการคาดการณ์ตัวเลขกำไรเฉลี่ยถูกปรับขึ้น / ลดลงมากที่สุด 10 อันดับแรก หุ้นที่มีค่าเฉลี่ยการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 2007 เติบโตสูงสุด / ต่ำสุด 10 อันดับแรก ตารางสรุปหุ้นที่มีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ต่ำสุด EPS Growth สูงสุด และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงสุด 10 อันดับแรก
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (SAA) เปิดเผยว่า ได้นำข้อมูลที่บริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมนักวิเคราะห์ฯ จัดทำและเผยแพร่ใน SAA Consensus มาพิจารณาต่อ โดยเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
นายสมบัติกล่าวว่า "จากผลการวิเคราะห์พบว่า ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แม้สถานการณ์ตลาดหุ้นในปัจจุบันจะซบเซา โดยบริษัทที่คาดว่าจะมี EPS Growth ปี 2550 สูงสุด 10 อันดับแรก มี EPS Growth ระหว่าง 200% ขึ้นไป ถึงเกือบ 3,000% โดยบริษัทที่มี EPS Growth สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค (PF) มี EPS Growth 2,950% บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) มี EPS Growth 1,116% และ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) มี EPS Growth 650%
นอกจากนี้ 7 ใน 10 ของบริษัทที่มี EPS Growth สูงสุดยังมีมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานโดยเฉลี่ยสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันมากพอสมควรมีตั้งแต่ 14% ถึง 71% โดยบริษัทที่มีมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานโดยเฉลี่ยสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ชินแซทเทลไลท์ (SATTEL) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 71.97% บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 41.23% และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 40.71%"
นายสมบัติกล่าวด้วยว่า "อย่างไรก็ตาม สำหรับ บมจ.ชินแซทเทลไลท์ ที่ติดอันดับแรกนั้น อาจเป็นผลจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับข่าวความเสี่ยงบางประการทางธุรกิจและข่าวเชื่อมโยงบางประการกับผู้ถือหุ้น ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำลงกว่ามูลค่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ซึ่งนักลงทุนควรหาข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวได้ในรายละเอียดบทวิจัยของสำนักวิจัยต่างๆ ด้วย"
นอกเหนือจากหุ้นที่มี EPS Growth สูงสุดข้างต้น เมื่อสำรวจหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่โดยทั่วไปสมาคมนักวิเคราะห์ฯ ยังพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนที่นักวิเคราะห์มีความเห็นว่ามีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิดอยู่มากพอสมควร จากการสุ่มสำรวจใน SAA Consensus พบว่ามีทั้งสิ้น 9 บริษัท ที่มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 7% ถึง 27% โดยบริษัทที่มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิดโดยเฉลี่ย 3 อันดับแรกได้แก่ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 27.03 % รองลงมาคือ บมจ.ปตท. (PTT) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด โดยเฉลี่ย 25.13% และ บมจ. อสมท (MCOT) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด โดยเฉลี่ย 18.93 %
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีแหล่งข้อมูลปัจจุบันที่ผู้ลงทุนสามารถค้นหา เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th/setresearch ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่มีเนื้อหาที่เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับตลาดทุนในขณะนั้น โดยจะนำเสนอสาระโดยสรุปพร้อมกับการเชื่อมโยงเนื้อหาประเด็นจากข่าว และบทความที่น่าเชื่อถือและผ่านการคัดกรองทั้งของประเทศไทยและของโลก โดยอยู่ภายใต้หัวข้อ "In the Spotlight" ซึ่งจัดทำโดยฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นางภัทรียากล่าวเสริมว่า "การเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนเป็นหนึ่งในภารกิจที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งเสริมให้มีการจัดทำบทวิเคราะห์ และสรุปข้อมูลสำคัญโดยสมาคมนักวิเคราะห์และหน่วยงานต่างๆ ในตลาดทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่หลากหลาย ประกอบการตัดสินใจ และนำไปประยุกต์ใช้ในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนได้ศึกษาทั้งข้อมูลพื้นฐานและใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุนด้วย"
สรุปข้อมูลโดยสมาคมนักวิเคราะห์
บริษัทจดทะเบียนที่มีค่า EPS Growth สูงสุด และมีมูลค่าที่สูงกว่าราคาปิด เกิน 14 %
โดยใช้ประมาณการของปี 2550 (เรียงตาม EPS Growth)
อันดับ ชื่อหุ้น ชื่อบมจ. ราคาปิด (18 เม.ย.50) มูลค่าเหมาะสม มูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด EPS Growth ปี 50 (%)* P/E** ปี 50
1 PF พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 3.08 4.35 41.23% 2,950.00 5.06
2 AI เอเชียน อินซูเลเตอร์ 6.25 7.56 20.96% 1,116.67 8.56
3 SLC โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) 2.88 4.00 38.89% 650.00 6.40
4 IRPC ไออาร์พีซี 6.10 6.96 14.10% 580.00 11.46
5 SATTEL ชินแซทเทลไลท์ 6.85 11.78 71.97% 475.00 44.92
6 BCP บางจากปิโตรเลียม 8.50 11.96 40.71% 310.00 10.33
7 KTECH เค-เทค คอนสตรัคชั่น 1.39 1.80 29.50% 262.50 10.69
Note:*EPS Growth = 100* (Forecasted 2007 - Actual 2006) / Actual 2006
**P/E = P/EPS เฉลี่ย
ที่มา : สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์, www.settrade.com
สรุปข้อมูลโดยสมาคมนักวิเคราะห์
บริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 7% ถึง 27%
(เรียงตามตัวอักษรย่อของหลักทรัพย์)
ชื่อหุ้น ชื่อบมจ. ราคาปิด (บาท) (18 เม.ย.50) มูลค่าที่เหมาะสม (บาท)
มูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด คาดการณ์อัตราเงินปันผล ปี 50 P/E ปี 50 (18 เม.ย.50)
คาดการณ์ EPS ปี 50 (บาท)
BBL ธ.กรุงเทพ 114.00 135.51 18.87% 2.31% 11.14 10.23
KBANK ธ.กสิกรไทย 68.00 78.06 14.79% 2.47% 11.73 5.80
MCOT อสมท 24.20 28.78 18.93% 6.11% 12.76 1.90
PTT ปตท. 214.00 267.77 25.13% 4.90% 7.01 30.52
PTTEP ปตท.สผ. 90.50 101.48 12.13% 3.40% 10.93 8.28
QH ควอลิตี้เฮ้าท์ 1.32 1.42 7.58% 4.14% 12.07 0.11
SPAL ศุภาลัย 3.44 4.37 27.03% 7.91% 5.94 0.58
THAI การบินไทย 46.75 53.59 14.63% 3.74% 8.93 5.24
TOP ไทยออยล์ 61.50 67.31 9.45% 5.25% 8.02 7.66
หมายเหตุ โปรดศึกษารายละเอียดตัวเลขคาดการณ์และบทวิจัยใน SAA Consensus ได้ทาง www.settrade.com ทั้งนี้หุ้นต่างๆ อาจมีบางสำนักวิจัยให้คำแนะนำขาย ขณะที่บางสำนักแนะนำให้ซื้อ
คิดยังไงกันบ้างครับ :(