Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

แก๊งค์ทุ่งคามาเดากันดีกว่าครับว่า ราคาเปิดมาจะไปเท่าไรครับ

ตอนนี้ล่าสุดคิดว่าปีนี้กำไรสักเท่าไหร่ PE ควรจะสักเท่าไหร่กันครับ

ท่านนายพลอีโตะ
ผมลองใช้หลักสมเกินประจำสำนัก
มั่ว เอ๊ยคำนวณดูแล้ว

ปรากฏว่า ที่ระดับราคาสิบบาท
น่าจะมีหุ้น  ที่พร้อมจะขาย
ไม่ต่ำจะกว่า  สี่ร้อยล้านหุ้น

ดังนั้น ถ้าขืนเปิดราคาสิบบาททันที
อาจจะต้องใส่เงินหมุนเวียนเข้าไปตั้งสี่พันกว่าล้านบาท

ปริมาณเงินที่มีอำนาจซื้อนำระดับนั้น  
คงต้องเป็นพวกอีแร้งเรียกพ่อ   เข้ามาผสมโรง
โดยเล่นข่าวราคาทอง

ระดับวีไอพีตามห้องค้า  ทำราคาไม่ไหวหรอก

 :?:  :?:  :?:  :?:  :?:  :?:  :?:  :?:  :?:

ดังนั้น ถึงจะเป็นห้นสามเอ  -----> สามบี ?
ผมก็ขอทำคลายเครียดเรโช

           

             

ขืนมีแปดร้อยล้านหุ้น ก็ติดคุกซิครับ
หุ้นทั้งบริษัท  มีแค่  เจ็ดร้อยห้าสิบเจ็ดล้านหุ้น

 :roll:  :roll:  :roll:  :roll:  :roll:  :roll:  :roll:

พูดถึงการชอร์ตหุ้น  จนเกินตัว
นึกไปถึงตำนานคลาสิก  สมัยเจ้าพ่อซาฟารี
ยังคุมโบรกเกอร์เบอร์แปด  เมื่อสามสิบปีก่อน

พวกขาใหญ่ดันทะลึ่ง  ไม่ดูตาม้าตาเรือ
ชอร์ตหุ้นของเสี่ย ผ  จนเสี่ย ผ นับรวมกับที่ตัวเองถืออยู่

อ้าว  มันเกินทุนทะเบียนอีก
เสี่ยผิน  เลยกระดิกเท้ายืนรับห้นของขาใหญ่ไปเรื่อยๆ

และแล้ววันที่ต้องส่งมอบใบหุ้นก็มาถึง

แหล่งข่าวที่ไม่ได้กรองแจ้งว่า

ในที่สุดขาใหญ่ต้องเข้าไปกราบขอความกรุณาจากเสี่ย ผ
ให้คลายหุ้นคืนออกมาบ้าง  ราคาเท่าไรก็ได้
เพราะไม่อยากจะไปกินข้าวแดงจานละห้าพันเหมือนเสี่ยชูวิทย์

   :roll:  :roll:  :roll:  :roll:  :roll:  :roll:

อืม ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนเลยครับ

ปล.เดาราคา 8.50 บาทครับ

[quote="คลายเครียด"]

ผมเทียบเคียงเอาสูตรสำนักเฮียคลายเครียด มาคำนวนยาว3หน้ากระดาษ
ผมว่า5.25บาทครับ

เสียดายเข้าเร็วไปหน่อย

ประเมินจากประมาณการของบริษัทที่ว่าจะมีรายได้จากการขายทองประมาณ 525 ล้านบาทในปี 2550 และสมมติฐานว่าบริษัทจะมี NPM 40% (ไตรมาส 4 ทำได้ 30%) กำไรต่อหุ้นก็ตกประมาณ 0.28 บาท (สมมติว่าผลกำไร/ขาดทุนจาก product อื่นเป็นศูนย์)

ส่วนตัวแล้วราคาสูงสุดที่ผมจะยอมซื้อคือไม่เกิน 4.2 บาท (P/E 15 เท่า)  ราคานี้ผมก็ว่าแพงแล้วนะครับ เพราะอย่าลืมว่าบริษัทจะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่จากราคาทองที่เพิ่มขึ้นเนื่องจาก condition ที่มีกับธนาคารเจ้าหนี้

Mr. Big เขียน:เสียดายเข้าเร็วไปหน่อย

แค่นี้ก็รอจนแห้งแล้วครับ :lol:


เสียดายเหมือนกัน ผิดคาดไป 2-3 ประเด็น..

1.ผู้บริหารมองยาวไปหน่อย เห็นทองแพงเลยเอาสินแร่เกรดต่ำมาผลิตก่อน กำไรก็เลยน้อยกว่าคาด ปีที่แล้วสินแร่ 1 ตันมีทองประมาณ 2.74 กรม ถ้าขุดถึงชั้นลึกๆ น่าจะได้ 5-6 กรัม/ตันสินแร่

2.ปีนี้คาดว่าจะผลิตทองได้ 25,000 ออนซ์ จากที่เคยบอกว่าจะเป็น 40,000 ออนซ์ ส่วนหนึ่งเพราะเหตุผลข้อแรก แต่การขยายกำลังการผลิตเฟส 2 จากดอยแบงค์ น่าจะผลิตได้ปลายปี 50 คงทำให้ตัวเลข 40,000 เป็นจริง

3.ถ้าทองแพงกว่า 720 เหรียญ/ออนซ์ ส่วนที่เกินจะต้องยกผลประโยชน์ให้ดอยแบงค์ (บางส่วนเท่านั้นไม่ใช่ทองทั้งหมด) แต่จะประกันให้ไม่ต่ำกว่า 500 เหรียญ/ออนซ์ เท่ากับว่าแบงค์ก็ค่อนข้างมั่นใจเช่นกัน ปัจจุบันทองราคาตลาดโลกประมาณ 690 เหรียญ/ออนซ์   สัญญาเงินกู้นี้ข่าวจากเฮียคลายเครียดบอกว่าบริษัทสามารถยกเลิกได้ ถ้ามีแบงค์อื่นยอมรีไฟแนนซ์ และมีเงื่อนใขที่ดีกว่า..

[quote="sunchaiu"]ประเมินจากประมาณการของบริษัทที่ว่าจะมีรายได้จากการขายทองประมาณ 525 ล้านบาทในปี 2550 และสมมติฐานว่าบริษัทจะมี NPM 40% (ไตรมาส 4 ทำได้ 30%) กำไรต่อหุ้นก็ตกประมาณ 0.28 บาท (สมมติว่าผลกำไร/ขาดทุนจาก product อื่นเป็นศูนย์)

ส่วนตัวแล้วราคาสูงสุดที่ผมจะยอมซื้อคือไม่เกิน 4.2 บาท (P/E 15 เท่า)

ลูกอิสาน เขียน:
ตัวนี้ถ้ามองแบบพื้นฐาน คงไม่ผ่าน มีความเสี่ยงหลายเรื่อง แต่ตลาดอาจจะให้พรีเมียมเพราะมี สตอรี่ให้เล่นเยอะ..

คงต้องรอให้ strategic shareholders อยากขายเมื่อไรค่อยสั่งให้นำสินแร่เกรดสูงเข้าโรงงาน

..

การกำหนดระยะเวลาห้ามจำหน่ายหุ้นของบริษัท (SILENT PERIOD)

     ผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารงานของบริษัท (STRATEGIC
SHAREHOLDERS) ได้แก่ ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุม กรรมการและ
ผู้บริหารของบริษัทรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ
กลุ่มบุคคลดังกล่าว รวมทั้งผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 5 ของทุนชำระแล้ว
และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือหุ้น 248,361,416 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 32.81
ของทุนชำระแล้วของบริษัท ให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าจะ
ไม่นำหลักทรัพย์ทั้งหมดของตนออกขายภายใน 1 ปี นับแต่วันที่หลักทรัพย์
ของ บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ กลับมาทำการซื้อขายในกลุ่มทรัพยากร หมวดเหมืองแร่
โดยในช่วง 6 เดือนแรก ผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้รับการผ่อนผันให้ทยอยขาย
หลักทรัพย์ได้ร้อยละ 25 ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขายทั้งหมด และ
ใน 6 เดือนถัดไปสามารถทยอยขายหลักทรัพย์ได้อีกร้อยละ 25 ของ
จำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขายทั้งหมด
..

ผมให้ 2 บาทขาดตัวครับ

ใครจะขายยังทัน
...........

นริศ:

ผมเทียบเคียงเอาสูตรสำนักเฮียคลายเครียด มาคำนวนยาว3หน้ากระดาษ
ผมว่า5.25บาทครับ

แหม........บังเอิญมากครับ คุณนริศตัวเลข ตรงใจเปะ

อย่างน้อยก็ขอให้เปิดมาอย่าแพงมากนะครับ   เห็นใจคนซื้อต่อมาจะได้
เอาไปขายมีกำไรต่ออีกนิด (ผมจะได้มีโอกาสเข้าไปแจมบ้าง :lol: เพราะ
ถ้าแพงมากไปคงต้องได้แต่ยืนเชียร์พี่ๆทุกท่านอยู่ข้างสนามครับ) :lol:

ทุ่งคา............สู้ๆ

ลองเป็นคำถาม(สำหรับคนที่ยังไม่มี)

ราคาเปิดเท่าไหร่  จะยอมซื้อครับ

naris เขียน:ผมเทียบเคียงเอาสูตรสำนักเฮียคลายเครียด มาคำนวนยาว3หน้ากระดาษ
ผมว่า5.25บาทครับ

     

เข้าใจว่าคุณนริสคงแซวเล่น

ทุ่งคามีคนติดหุ้นอยู่ทุกระดับราคา
ตั้งแต่สองบาทยันสิบบาท
สมมติกันเล่นๆ
ถ้าตัดคนที่ไม่พร้อมจะขายขาดทุน
ตีซะว่าครึ่งหนึ่งของหุ้นที่พร้อมจะขายได้

ก็เหลือหุ้นหมุนเวียน ณ ราคา ๕ บาท  ๒๘๕ ล้านหุ้น
หักคนที่กล้าถือต่อเพื่อลุ้นกับผลประกอบการในอนาคต
อีกซักร้อยล้านหุ้น
เหลือหมุนเวียนเพื่อขายจริงๆ ซัก ๑๘๕ ล้านหุ้น
ก็ใช้เงินหมุนเวียนที่แท้จริง ไม่ถึงพันล้านบาท

นี่ผมคิดเล่นๆแบบ vsop นะครับ
เอาจริงๆ  ไม่มีใครรู้ราคา
ขึ้นอยู่กับ  เงินที่อำนาจซื้อนำมากที่สุด มีหน้าตักอยู่เท่าไร

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ต้องยอมรับอยู่อย่างว่า
ทุ่งคาขายฝันที่เริ่มเป็นจริงไปบางส่วน

ส่วนการขุดดีบุกในทะเลอันดามัน
ถ้าค่าภาคหลวงไม่ลด  
ราคาดีบุกในปัจจุบัน ยังไม่คุ้มกับการลงทุน

โครงการดังกล่าว
จึงเป็นการขายฝันที่ยังไม่สามารถเป็นจริง
จนกว่ารัฐจะยอมลดค่าภาคหลวงลงมาให้เท่าประเทศเพื่อนบ้าน
และราคาดีบุกยังคงสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี
ในฐานะสินแร่แบบ green metal  ที่นำมาใช้ทดแทนตะกั่ว

จากคำบอกเล่าของท่านประธานกรรมการ
ทุกวันนี้อุตสาหกรรมดีบุกในไทย
เหลือแค่ไทยซาร์โก้  
นำเข้าสินแร่ดีบุกจากต่างประเทศ มาแปรรูปเท่านั้น

นึกไม่ออก แต่ผมว่าจะรอดูราคาหลังเข้าเทรดแล้วให้ได้อย่างน้อยสักเดือน

มีนักลงทุนจำนวนมากไม่กล้าเข้าซื้อหุ้น Turn around หรือหุ้นเติบโตเร็วเพียงเพราะ มองค่าPE ในอดีตเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจว่าหุ้นถูกหรือแพง และต้องเสียโอกาสในการทำกำไรมหาศาล

หมายเหตุ-หุ้นเรือในอดีต ตอนราคาอยู่1-2บาท หาค่าPEไม่ได้ด้วยซ้ำเนื่องจากขาดทุนติดต่อกันมาหลายปี แต่ราคาหุ้นก็ยังวิ่งขึ้นไปไม่หยุดและTradeกันที่ PE สูงๆมาโดยตลอด และเคยวิ่งขึ้นไปถึง 50 บาท สุดท้ายแค่ 2 ปี ราคาที่ 30-40 บาท ก็กลายเป็นราคาที่ค่าPE 6-7 เท่า

ราคาและมูลค่าต่างกันอย่างไรหนอ  :lol: