หน้า 1 จากทั้งหมด 1

how to differentiate commodity

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 1:26 pm
โดย LEQ
ถามเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ

บ้านเรามีสินค้าที่เป็นประเภท commodity เยอะมากนำมัน เหล็ก ผมเองก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไร แต่ถ้าเราลองยกสินค้าอย่างเช่นถุงพลาสติก หรือโฟมที่ใกล้ตัวมากขึ้น เพื่อนๆ คิดว่าเราสามารถสร้างความแตกต่างของสินค้าเราได้อย่างไร

นอกเหนือจากความแตกต่างแล้วต้องคำนึงถึงต้นทุนด้วย เพราะสินค้าของเราอาจถูกจีนหรือเวียดนามโจมตี เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่า

ที่ผมพอนึกออกก็พวก after sales service หรือการให้ attractive credit กับผู้ค้า

Re: how to differentiate commodity

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 2:43 pm
โดย Kao
LEQ เขียน:ถามเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ

บ้านเรามีสินค้าที่เป็นประเภท commodity เยอะมากนำมัน เหล็ก ผมเองก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไร แต่ถ้าเราลองยกสินค้าอย่างเช่นถุงพลาสติก หรือโฟมที่ใกล้ตัวมากขึ้น เพื่อนๆ คิดว่าเราสามารถสร้างความแตกต่างของสินค้าเราได้อย่างไร

นอกเหนือจากความแตกต่างแล้วต้องคำนึงถึงต้นทุนด้วย เพราะสินค้าของเราอาจถูกจีนหรือเวียดนามโจมตี เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่า

ที่ผมพอนึกออกก็พวก after sales service หรือการให้ attractive credit กับผู้ค้า
การให้ attractive credit กับผู้ค้า ก็ถือเป็นต้นทุนนะครับ นอกจากจะได้ attractive credit จาก suppliers เราอีกที

after sales service อย่างเช่นยังไงครับ นึกไม่ค่อยออก

ตัวอย่าง WG ผมว่าสามารถ differentiate ได้นะครับ โดยร่วมกับลูกค้าพัฒนาสูตรเคมีภัณฑ์ ที่เหมาะสมกับอุตสากรรมของลูกค้า เมื่อลูกค้าใช้จนมั่นใจแล้ว ก็ยากที่จะเปลี่ยนไปซื้อที่อื่น

(คำเตือน: ผมมีWGอยู่อาจทำให้เกิด Bias ได้)

how to differentiate commodity

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 2:57 pm
โดย สุมาอี้
shorter lead time ครับ

how to differentiate commodity

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 4:20 pm
โดย cheaw2528
ุ่ถ้า เรา ไปเน้นที่ 5 Forces แทนจะได้ไหมคับ คือ อย่างเช่น ลด force จาก อื่นๆๆ อ่ะคับ .....ชี้แนะ ด้วยน่ะ คับ

how to differentiate commodity

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 4:45 pm
โดย woody
ส่วนตัวนะครับจะมุ่งเน้นไปที่ 4P นั่นคือ Product, Price, Place, Promotion ไม่ว่าจะตำราสมัยไหน หรือสมัยนี้ที่จะต้องเป็น 4C Blue Ocean และอะไรอีกมากมายที่จะรังสรรค์กันออกมาได้ สุดท้ายผมว่าก็มาลงที่จุดนี้ครับสำหรับงาน Marketing ...4P

สิ่งที่ต้องจำให้ดีก่อนคือ Differentiate or Die ...จริงๆ จะว่าไปในวงการหลักทรัพย์ที่แต่ละบล. อาจจะถือว่าเป็น Commodity อย่างหนึ่งของนักลงทุนนั้นก็พยายามที่จะมี differentiate กันอยู่ไม่ว่าจะทำให้บทวิเคราะห์ดีกว่าที่อื่นบ้าง (จริงๆ มันก็ copy แล้วส่งให้กันได้อยู่ดี) หรือแม้แต่การที่บางบล. จะมีการแจกหุ้น IPO ให้ลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ (น่าเสียดายพักหลังหุ้น IPO ไม่สามารถทำกำไรให้ลูกค้าได้เป็นกอบเป็นกำ) ฉะนั้น อีกเรื่องหนึ่งหลังจาก 4P ที่ต้องเน้นคือ Copy ความสำเร็จหรือจุดเด่นนั้นได้ลำบากหรือเรียกว่า Franchise ป้อมปราการตามที่ Buffet พูด ไม่งั้นก็อาจเป็นเหมือน Beard Papa ได้ ... อืม ทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้นะครับ ไม่ได้เดินผ่านร้านตั้งนานแล้ว

ในส่วนของ Product นั้น ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็ Bodyshop ก็ทำให้เห็นแล้วว่าเครื่องสำอางค์ที่มีจุดยืนในเรื่องสิ่งแวดล้อมแทนที่จะบอกเรื่องคุณสมบัติที่บอกว่าใช้แล้วจะดีอย่างนู้นอย่างนี้ เหมือนผลิตภัณฑ์อื่นๆ นั้นก็สามารถ Differentiate ได้ แม้จะต้องพ่วงด้วยการ promotion campaign ซักหน่อย...Looks beyonds functions and across the industry

Price ในส่วนนี้ผมว่าก็ต้องดูว่าเราจะทำให้ราคาลดลงโดยที่ไม่ได้ลด Value ที่จะมอบให้ลูกค้าได้อย่างไร อย่าง low cost airline อันนี้ผมไม่ได้หมายถึงต้องลดราคาอย่างเดียวนะครับ แต่จะต้องมี innovation ภายในองค์กรที่ทำให้ลดต้นทุนจากวิถีแบบเดิมๆ ให้ได้ด้วย อย่างเช่นการจัดการของ Southwest airline, Virgin Airlines ละครสัตว์ Cirque Du Soleil อืม น่าจะสะกดอย่างนี้นะครับ ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่หนังสือเรื่อง Blue Ocean Strategy ได้กล่างถึงและยกเป็นตัวอย่างที่ดีในการลด Cost...Innovation within is the key

Place คงต้องรวมถึงระบบ logistics โดยรวมเลยครับว่าจะทำอย่างไร จริงๆ การวางขายสินค้าในที่ๆ เป็นเอกลักษณ์นี่ก็เป็นจุดเด่นอีกแบบหนึ่งนะครับ ว่าถ้าต้องการสินค้าแบบนี้ จะต้องดั้งด้นไปที่ๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น ตัวอย่างที่นึกออก อืม เอาเป็น chocolate ยี่ห้อหนึ่งของ Belgium ละกันครับ Pierre Marcolini นอกจากจะไม่มีแบบดาศดื่นทั่วไปเหมือน Godiva แล้ว ร้านแต่ละแห่งจะถูกจัดตกแต่งให้เป็นเหมือน Chocolate Boutique ที่มีความคลาสสิคในตัวด้วย...

ส่วนเรื่องสุดท้ายก็ Promotion อันนี้นอกจากลดแลกแจกแถมแล้วก็คงต้องพ่วงเรื่อง Ad, Media ต่างๆ Above the line, Below the line เข้ามาช่วยด้วย และต้องทำเป็นองค์รวมด้วยนะครับ เพราะเดี๋ยวนี้โลกเราเข้าสู่ยุค the end of advertising, the rise of PR แล้ว CSR และ CRM คงช่วยได้ครับ จริงๆ Promotion ที่ผมชอบและอยากจะไปลองดูซักครั้งนี้ก็นี่เลยครับ Black Planet ฮิฮิ...

how to differentiate commodity

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 9:22 pm
โดย MacroArt
อย่างข้าวสารก็ถือว่าเป็น commodity แต่เราก็พอจะเอามา create value เพิ่มเพื่อให้ราคามันสูงขึ้นได้ เช่น ทำเป็นข้าวกล่องแช่แข็ง

ผมว่าถึงแม้ข้าวสารจะเป็น commodity แต่ถ้าพูดถึงข้าวไทยก็ยังพอมีความแตกต่างจากข้าวประเทศอื่นอยู่นะครับ คือมันมีแบรนด์ว่าเป็นข้าวไทยเนี่ยแหละ เวลาข้าวไทยไปอยู่ต่างประเทศ มันจะอยู่ในถุงที่เขียนว่า Thai Jasmine Rice