Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ในวันงานนั้นเรามีกิจกรรมที่จะให้สมาชิกได้ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความรู้
และประสบการณ์กันด้วย นอกเหนือจากการสัมนาที่เข้มข้นและการบรรยายที่ทรงคุณค่า

แต่อุปสรรคสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งลงทุนก็คือ
"เราจะมีวิธีเลือกหุ้น"อย่างไรดี  อะไรๆดูจะยากไปเสียหมด   ในขณะที่มือกลางๆและมือเก่าๆนั้นอาจจะไม่เป็นปัญหานัก

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการดูแลมือใหม่
ผมจึงขอเสนอ Guideline ง่ายๆในการเลือกหุ้น
เพื่อประกอบกิจกรรมดังกล่าว
เพื่อที่จะก่อให้เกิดทั้งความบันเทิง  ความสนุกสนาน ความมัน ความตื่นเต้น และมีสาระในการประชุมกลุ่มย่อยดังนี้ครับ

การเลือกหุ้นนั้นมีมากมายหลายแบบ  เช่นเดียวกับการเล่นหุ้นก็มีมากมายหลายแบบเพราะตัวตลาดหุ้นนั้นประกอบไปด้วยคนมากมายหลายแบบมาร่วมกิจกรรมกัน  และแต่ละคนก็พกพาทัศนคติและวิธีการของตนเข้ามาในตลาดหุ้นด้วย ตลาดหุ้นก็จะเป็นไปตามสมาชิกที่เข้ามาในตลาด  

ถ้านักปั่นหุ้นเข้ามาปั่นมากๆตลาดหุ้นก็จะมองๆดูแล้วคล้ายกับตลาดประมูลสินค้าซึ่งราคาสินค้าขึ้นลงรวดเร็วไม่ค่อยสมเหตุสมผลมีทั้งข่าวจริงข่าวลวงเพื่อการสร้างและทำลายราคาซึ่งเป็นสิ่งที่มีอันตรายรวมทั้งผิดกฎหมายด้วย  และถ้านักพนันเข้ามาในตลาดหุ้นมากๆตลาดหุ้นก็จะแปรสภาพกลายไปเป็น คาสิโนทันทีและเป็นเรื่องที่มีอันตรายมากเช่นเดียวกันแม้มันจะถูกกฎหมายก็ตาม ดังนั้น  ตลาดหุ้นจะเป็นอะไรก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นหุ้นเป็นอะไร

แต่ตัวตลาดหุ้นเองนั้น  โดยตัวมันเองก็มีบุคลิกภาพที่เป็นตัวของตัวเองอยู่ในระดับหนึ่ง  แม้ในบางช่วงบางตอนมันอาจจะเปลี่ยนแปลงบุคลิกไปตาม ผู้เล่น ซึ่งทำให้ตัวตลาดหุ้นมีอันเป็นไปต่างๆนาๆก็ตาม

ตัวตนของตลาดหุ้นหรือพูดให้เจาะจงไปถึง ตัวหุ้น นั้นมันคือตัว ธุรกิจ ชนิดหนึ่งการ มองดู มันในฐานะที่มันเป็นธุรกิจจึงมักจะไม่ค่อยผิดพลาด เพราะตัวมันเองโดยส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเรื่องของธุรกิจจริงๆ

การเล่นหุ้นก็มีมากมายหลายแบบ  ถ้าเราทำ เล่นๆ กับมัน  มันก็จะทำเล่นๆกับเรา ถ้าเราพนันกับมันๆก็จะพนันกับเรา   และถ้าเรา ลงทุนกับมันๆก็จะลงทุนกับเราเช่นกัน

การลงทุนกับมันเป็นวิธีที่ตรงที่สุดและเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับ ธรรมชาติ ของหุ้นเพราะเรื่องหุ้นนั้นเป็นเรื่องของ ธุรกิจการลงทุน นั่นเอง

ทัศนคติที่ถูกต้องจะนำมาซึ่งความสำเร็จในการลงทุน  นักเล่นหุ้นหลายๆคนแม้จะเป็นคนที่ เก่งมากๆ หรือ รอบรู้มากๆ ก็อาจจะประสบกับภาวะขาดทุนได้ง่ายๆและบ่อยๆถ้าทัศนคติต่อตลาดหุ้นไม่ถูกต้องหรือถึงได้กำไรก็จะมีโอกาสแฝงอยู่มากๆเสมอๆที่จะขาดทุนในอนาคต  ทัศนคติจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ

แต่ทัศนคติที่ถูกต้องอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอ  การเลือกหุ้นให้ถูกต้อง ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน  วิธีการเลือกหุ้นนั้นมีมากมายหลายแบบหลายสไตล์  แต่ละแบบก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับเจ้าของทฤษฏีจนร่ำรวยในระดับ เศรษฐีของโลก ก็มีไม่น้อย  หรือรวยชั่วครั้งชั่วคราวแล้วขาดทุนยับเยินเป็นหนี้เป็นสินติดอันดับ คนจนระดับโลกในภายหลังก็มีเยอะเช่นกัน

วิธีที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วอย่างยาวนานว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องก็มีหลายวิธี  ที่ผมนิยมชมชอบก็ได้แก่

1. วิธีของเบนจามิน เกรแฮม


เป็นวิธีที่ คลาสสิคที่สุดและ เก่าแก่ ที่สุดและที่สำคัญ เป็นต้นกำเนิดของ การลงทุนแบบวีไอ  จนทำให้เบนจามิน เกรแฮมได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

1.1 เลือกหุ้นที่มีค่า p/e ต่ำๆ(ซึ่งสามารถหาข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายๆในหนังสือพิมพ์รายวันหรือในเว็บต่างๆ)  แล้วลงมือซื้อไว้หลายๆตัวและเมื่อเวลาเปลี่ยนไป(ซึ่งค่า p/e นี้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามราคาหุ้น อาจจะ3เดือน  6เดือน หรือ1 ปี)ก็จัดการปรับพอร์ทใหม่โดยเลือกตัวที่มี p/e ต่ำๆเช่นเดิม  ทำเช่นนี้หลายๆรอบก็จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจ

1.2 ทำเช่นเดียวกับข้อ 1.1 แต่เปลี่ยนจาก ค่า p/e มาเป็นค่า p/b แทน

วิธีการลงทุนแบบนี้นั้นค่อนข้างง่ายในทางปฎิบัติ  แต่ที่มาที่ไปและเบื้องหลังแนวคิดนี้นั้นไม่ได้ง่ายๆเลย เพราะเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ทางด้านการลงทุนอย่างยาวนานจนสามารถยกขึ้นเป็นทฤษฎีทั้งในฐานะที่เขาเป็น ศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาการลงทุนและในฐานะ นักลงทุนซึ่งนำทฤษฎีมาปฎิบัติและประสบผลสำเร็จจนโด่งดังไปทั่วโลก

2. วิธีของปีเตอร์ ลินช์ หุ้นที่เขาสนใจนั้นมีเพียงหกกลุ่มเท่านั้นเอง ได้แก่

2.1 หุ้นโตเร็ว  ได้แก่ หุ้นที่เป็นบริษัทขนาดเล็กแต่มีการเติบโตปีละ 20-25 % ติดต่อกันหลายๆปี(จนถึงสิบๆปี)และสามารถก็อปปี้ความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำอีก กลุ่มนี้สามารถสร้างผลกำไรได้หลายๆสิบเด้งหรือร้อยๆเด้ง แต่ต้องระวัง กลุ่มบริษัทที่ก่อตั้งไม่นานและมีไฟแรงเกินขนาดและมีทุนไม่เพียงพอหรือหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูงเกินไปเพราะจะไม่สามารถคงระดับไวได้นานเนื่องจากจะมีคู่แข่งเข้ามาแย่งส่วนแบ่ง

2.2 หุ้นวัฎจักร  ได้แก่ บริษัทที่มีธุรกิจขึ้นๆลงๆ  ขยายตัวแล้วก็หดตัวแล้วก็ขยายตัวใหม่และก็จะหดตัวอีกเป็นวัฎจักร  การเลือกจับจังหวะที่ถูกต้องจะสร้างผลตอบแทนได้มหาศาลเช่นเดียวกันกับหุ้นโตเร็วแต่จะใช้เวลาน้อยกว่ามาก  ข้อควรระวังก็คือ หุ้นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีอันตรายสูงที่สุดและมีกับดัก(สำหรับนักลงทุนแนววีไอโดยเฉพาะตามความเห็นผม)มากที่สุด

2.3 หุ้นโตช้า เป็นหุ้นที่เป็นผลพวงมาจากหุ้นขนาดเล็กที่โตเร็วต่อเนื่องอย่างยาวนาน  จนถึงวันหนึ่งหุ้น๖กลุ่มโตช้า)นี้จึงมีขนาดใหญ่มหึมาและตามด้วยอัตราการเติบโตที่น้อยลงเรื่อยๆจนกลายเป็นหุ้นโตช้า  กลุ่มนี้มักจะจ่ายปันผลให้งดงามกว่ากลุ่มอื่นเพราะมันไม่รู้เหมือนกันว่าจะนำเงินไปขยายกิจการในส่วนไหนอีก  ผลตอบแทนหุ้นกลุ่มนี้ก็จะไม่ค่อยหวือหวา  แต่ความเสี่ยงก็จะน้อยตามไปด้วย

2.4 หุ้นแข็งแกร่ง  กลุ่มนี้จะโตมากกว่าหุ้นกลุ่มโตช้าหน่อยหนึ่ง  เพราะมันมีความแข็งแกร่งในตัวสินค้าหรือตัวแบรนด์เนมมากกว่า  ผลตอบแทนโดยรวมก็ไม่หวือหวาเช่นกันแต่จะมีประโยชน์(น่าซื้อ)ในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำลงเพราะกลุ่มนี้ยังอยู่รอดได้เนื่องจากความแข็งแกร่งนั่นเอง

2.5 หุ้นฟื้นตัว  หมายถึงหุ้นที่เคยประสบกับสภาวะย่ำแย่เนื่องจากความสามารถของบริษัทเอง(ไม่ใช่ย่ำแย่เนื่องจากสภาวะแวดล้อมทั้งด้านอุปสงค์อุปทานหรืออื่นๆเพราะนั่นจะทำให้มันกลายเป็นหุ้นวัฏจักร)แต่เมื่ออะไรๆในบริษัทเปลี่ยนไปผลประกอบการก็เริ่มฟื้นตัว กลุ่มนี้ก็จะทำกำไรได้มากเหมือนกัน แต่ต้องระวังว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวได้จริงเพราะไม่อย่างนั้นก็หมายถึงหายนะจากการล้มละลาย

2.6 หุ้นทรัพย์สินมาก กลุ่มนี้จะมีลักษณะคล้ายๆ หุ้นก้นบุหรี่ของเกรแฮม  สามารถทำกำไรได้มากเหมือนกันแต่ต้องมีการกระจายไปหลายๆตัวเพื่อกันความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝัน เนื่องจากกลุ่มนี้มักจะเป็นบริษัทที่ไม่โดดเด่นอะไรทั้งในเรื่องความสามารถของบริษัทหรือตำแหน่งในอุตสาหกรรม

และหุ้นที่ปีเตอร์ ลินช์หลีกเลี่ยง

2.7 หุ้นที่ร้อนแรงในอุตสาหกรรมที่ร้อนแรง
2.8 หุ้นที่จะเป็นตัวต่อไปของบางอย่าง
2.9 หุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงสูงๆ (หมายถึงหุ้นที่ทำธุรกิจมากมายหลากหลายรูปแบบมากเกินไปและยิ่งกระจายยิ่งแย่)

2.10 หุ้นกระซิบ
2.11 หุ้นที่มีลูกค้ารายใหญ่รายเดียวหรือน้อยราย
2.12 หุ้นที่มีชื่อน่าตื่นเต้น

3. วิธีของบัฟเฟตต์&ดร.นิเวศน์ ผมนำมารวมกันเพราะแนวคิดหลายๆส่วนคล้ายๆกันและแม้หลายๆส่วนจะแตกต่างกัน  บัฟเฟตต์บอกว่าเขาเลือกหุ้นที่ มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน  ดร.นิเวศน์บอกว่า เลือกหุ้น great และซื้อในช่วงที่เกิดปัญหาซึ่งทำให้ราคาหล่นลงมา
                 
ทั้งหมดนี้ก็เป็นแนวคิดของนักลงทุนที่ประสบผลสำเร็จมาแล้ว  แต่หลายๆท่านอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกลตัวเนื่องจากตลาดของอเมริกาหรือยุโรปนั้นมีความแตกต่างจากตลาดเมืองไทย  การประยุกต์แนวคิดหลายๆอย่างมาใช้นั้นอาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะก็ได้

แต่ในวันที่ 9 มิย.นี้  เรามีงานสัมนาซึ่งมีวิทยากรที่ลงทุนในตลาดหุ้นเมืองไทยมีแนวคิดแบบคนไทย อยู่ในเมืองไทยสภาพแวดล้อมเดียวกันกับเราๆท่านๆและสามารถเอาชนะตลาดได้ ซึ่งได้แก่ คุณนริศ คุณลูกอิสาน คุณโยโย่ คุณสุมาอี้ และนักลงทุนเน้นคุณค่าคนแรกของเมืองไทย คือ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร มาพบปะแลกเปลี่ยนความรู้กับพวกเราครับ

ขอบคุณท่านประธานครับ มีคุณค่ามากทีเดียวครับ สรุปสาระได้ครบถ้วนเลยครับ

กะลังคิดว่าจะยอมเสียตังค์ค่าเครื่องบินไปดีเปล่าหว่า น่าสนใจจริงๆเลยแหะ เฮ้อเอาไงดีหว่าเรา
อีกหนึ่งทางเลือกก็กำลังว่าจะไปนั่งสมาธิที่วัดเจ็ดวันเจ็ดคืนในช่วงนั้นเหมือนกัน
เอาไงดีหว่า โดนหมอสามัญชนกระตุ้นต่อม เหอะๆ

หูยพี่เขียนอินโทรแบบนี้ ลองเขียนบทความดูมั่งไหมครับ

NinjaTurtle เขียน:หูยพี่เขียนอินโทรแบบนี้ ลองเขียนบทความดูมั่งไหมครับ

ผมว่าคงไม่ใช่แค่ลองเขียนบทความแล้วมั้งครับท่าน NinjaTurtle สำนวนขนาดนี้ออกหนังสือเลยดีกว่าครับ

เยี่ยมครับ


คงได้เห็นหนังสือฝีมือพี่หมอในไม่ช้า





ฟันธง!    8)

สุดยอดเลยครับ  พี่หมอ รวบรัด กระชับใจความ  

หลักการเลือกหุ้นของท่านนริศนั้น เท่าที่ทราบสามารถสรุปเป็นตัวย่อจำง่ายๆได้ว่า T.V.I.

อืม.......สอดคล้องกับชื่องาน TVI. Meeting พอดีเป๊ะเลย  

ลองเดากันดูไหมครับ  ว่า T.V.I. คืออะไรและสำคัญอย่างไรถึงสามารถทำให้ท่านนริศชนะตลาดได้กำไรเป็นเด้งๆต่อปี.......

t=tension=ตึงเครียดตลอด
v=violet=เสียมากๆหน้าเริ่มออกสีม่วงครามปนซีด
i=i"ll go=ไม่เอาแล้ว เฟ้ย ไปทำอย่างอื่นดีกว่า

ปีเตอร์ ลินช์ บอกว่าอย่าเดา

ผมไปรอฟังคำตอบดีกว่า 9/6/2550

สามัญชน เขียน:2.7 หุ้นที่ร้อนแรงในอุตสาหกรรมที่ร้อนแรง
2.8 หุ้นที่จะเป็นตัวต่อไปของบางอย่าง

หมายความถึงหุ้นแบบไหนครับ โดยเฉพาะข้อ 2.8 ผมไม่เข้าใจครับ

น่าจะหมายถึง ยกตัวอย่างเช่น

2.7 หุ้น dot com ซักตัวหนึ่งในช่วงที่กระแส dot com กำลังร้อนแรง (และพังทลายในเวลาต่อมาไม่นาน)
2.8 หุ้น XXX ที่มีลักษณะเหมือนหุ้น YYY ที่เคยร้อนแรงเป็นที่นิยมในอดีต (แต่ก็พังทลายในเวลาต่อมาไม่นาน)

... เขียน:น่าจะหมายถึง ยกตัวอย่างเช่น

2.7 หุ้น dot com ซักตัวหนึ่งในช่วงที่กระแส dot com กำลังร้อนแรง (และพังทลายในเวลาต่อมาไม่นาน)
2.8 หุ้น XXX ที่มีลักษณะเหมือนหุ้น YYY ที่เคยร้อนแรงเป็นที่นิยมในอดีต (แต่ก็พังทลายในเวลาต่อมาไม่นาน)

ใช่แล้วครับ  ปีเตอร์ ลินช์ เขายกตัวอย่างหุ้น IBM ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในอดีตแล้วต่อมาก็มีหุ้น a ที่มีลักษณะหลายๆอย่างคล้ายๆ IBM มาก และคนก็พยากรณ์ว่าหุ้น a นี่แหละจะรุ่งเรืองเหมือน IBM ต่อไป  

แต่ต่อมาก็ปรากฏว่า หุ้น a นอกจากจะไปไม่ถึงฝั่งฝันแล้ว  ยังย่ำแย่อย่างหนักด้วย  ลินช์จึงระวังหุ้นพวกนี้อย่างมากและหุ้นที่เขาหลีกเลี่ยง(อย่างเด็ดขาด)ก็เช่น หุ้น McDonals ตัวต่อไป  Intel ตัวต่อไปหรือ Disneyตัวต่อไป  เป็นต้น

และเมื่อเกิดปรากฏการณ์ " ตัวต่อไปแล้ว " นอกจากตัวต่อไปจะไม่รุ่ง  เจ้าตัวต้นแบบเองที่ใครๆเลียนแบบก็มักจะเริ่มประสบปัญหาด้วยซ้ำไป

เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในวงการหุ้นเท่านั้น  ในวงการอื่นๆทั้งบันเทิงหรือการเมืองก็เป็นเช่นกัน  เราคงเคยได้ยินว่า

"นาย b จะเป็น สรพงศ์ ชาตรีคนต่อไป"  แล้วนาย b ก็หายสาบสูญไปจนกระทั่งเราจำชื่อไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นพูดถึงใครกันนะ.....

หรือ "นางสาว c จะเป็นพุ่มพวง ดวงจันท์คนต่อไป"

"นาย d จะเป็นมหาตมะ คานธีคนต่อไป"  

หรือล่าสุด "นาย e จะเป็น วินสตัน เชอร์ชิล คนต่อไป"  :lol:

แฮ่ๆ ปีเตอร์ ลินช์บอกว่าโอกาสที่ "ตัวต่อไป"จะประสบผลสำเร็จนั้นมีน้อยมั่กๆ

สาเหตุนั้นลินช์บอกว่าอาจจะเป็นเพราะตัวต่อไปเหล่านี้ "ต้องคำสาป" (โทษฐานไม่ยอมคิดอะไรใหม่ๆเอง)

ส่วนในมุมมองของวิชาไสยศาสตร์นั้นบอกว่าหุ้นเหล่านี้โดน "อาถรรพ์" ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะหาเหตุผลมาอธิบาย  :lol:

ส่วนในแง่จิตวิทยานั้นเขาบอกว่าอาจจะเป็นเพราะ "ใครๆก็จับตามอง"

ซึ่งอะไรๆก็ตามที่ถูกคนส่วนใหญ่เพ่งสายตาจ้องอยู่ตลอดเวลามักจะไม่ค่อยมีปรากฏการณ์ "ปาฎิหาริย์" เกิดขึ้นบ่อยนัก.......

สามัญชน wrote

หรือล่าสุด "นาย e จะเป็น วินสตัน เชอร์ชิล คนต่อไป"

 

เข้าใจแล้วค่ะ  แจ่มแจ้งเลย

แล้วใครจะเป็นพี่สามัญชน คนต่อไปคะ

กำ

สามัญชน เขียน:กำ

8) การ์ดหล่นจนได้

แฮ่...
ขอบคุณพี่หมอศรรามสำหรับไกด์ไลน์เลือกหุ้น
และขออนุญาตนอกเรื่องนี๊ดดดดดด

ผมชอบชื่อคุณ คูโบตี้ จัง

ดูวิธีตั้งชื่อ อ่านลีลาการโพสต์ แล้วถูกสเป๊ค เอ๊ย...ถูกจาย...

ยังจำกระทู้ภาพเนกาตีฟได้อยู่ อ่านแล้วขำกลิ้งเลย
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... ht=#269667

โพสต์บ่อยๆนะครับ ชอบ

ลงชื่อ
สมาชิกชมรมนักลงทุนหัวงู

ขอบคุณครับพี่หมอ

ตาสว่างขึ้นเยอะเลย

ขอบคุณครับ

หมอสามัญชน
   
ศรราม คนต่อไป ???    :lovl:

การ์ดหล่นนิดเดียวโดนไปหลายหมัด  :lovl:

อยู่นี่เองหาตั้งนาน

ขอบคุณมากครับผม

หุ้นร้อนแรงในอุตสาหกรรมที่ร้อนแรง  ในปีที่แล้วที่เมืองไทยผมขอยกตัวอย่างคือ Solar ปีที่แล้วราคา 10บาท ทุกโบรกแนะนำให้ซื้อ  แต่ปัจจุบันไตรมาสแรกขาดทุน ราคาไต่ลงเป็นลำดับเหลือแค่  2.6