หน้า 1 จากทั้งหมด 1
THL เผย Q1/50 ขาดทุนเพิ่มเป็น 29.52 ลบ. จาก Q1/49 ขาดทุน 23.
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 1:57 pm
โดย metro
THL : สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 1
ปี 2550 2549
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (29,526) (23,352)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) (0.04) (0.03)
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 1
ปี 2550 2549
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (29,526) (23,352)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) (0.04) (0.03)
THL เผย Q1/50 ขาดทุนเพิ่มเป็น 29.52 ลบ. จาก Q1/49 ขาดทุน 23.
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 1:59 pm
โดย nanchan
อ้าว แล้วทำไมรีบออกจากรีฮับโก้หละ
สงสัยต้องกลับไปโก้ใหม่ซะแล้ว
THL เผย Q1/50 ขาดทุนเพิ่มเป็น 29.52 ลบ. จาก Q1/49 ขาดทุน 23.
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:16 pm
โดย Mr. Big
ตามความคาดหมาย สงสัยจะค้างพวกสำรอง รายจ่ายมาลงไตรมาสนี้แหงเลยครับ โหดจัง
THL เผย Q1/50 ขาดทุนเพิ่มเป็น 29.52 ลบ. จาก Q1/49 ขาดทุน 23.
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:17 pm
โดย sirivajj
โอ้สวรรค์ ทุ่งคา พาใจผ่อง
ฝันถึงทอง หัวใจพอง เท่าฝาบ้าน
ทุกวันคืน จิตใจ แช่มชื่นบาน
สุขสราญ รื่นเริง บันเทิงใจ
:lol: :lol:
ใกล้ถึงวัน งบออก กระหยิ่มย่อง
ทองโว้ยทอง เดี๊ยวมันต้อง กำไรหลาย
:lol:
พองบออก ตาเหลือก 'ใจแทบวาย
อ้าว ยังไง ไหงมัน ติดลบ เอย
:'O
โอยยยย ตรูแย่ ............ อีกแล้วคร้าบบบ ท่าน
ขำ ขำ นะครับเพื่อนๆ
อย่าซีเรียส
THL เผย Q1/50 ขาดทุนเพิ่มเป็น 29.52 ลบ. จาก Q1/49 ขาดทุน 23.
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:17 pm
โดย ลูกอิสาน
THL: ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1/2550
บริษทฯมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550 คิดเป็นจำนวนเงิน
29.53 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2549 ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิจำนวนเงิน 23.35 ล้านบาท
บริษัทฯ ขอชี้แจงโดยสรุปถึงสาเหตุที่สำคัญของผลการดำเนินการที่เปลี่ยนแปลง
ดังกล่าวต่อไปนี้:-
3. รายได้จากการขายทองคำ
บริษัทฯได้เริ่มดำเนินการผลิตแร่ทองคำเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2549
เป็นต้นมา โดยในไตรมาสที่ 1/2550 บริษัทฯผลิตทองคำจำนวน 5,079 ออนซ์
และจำหน่ายทองคำทั้งสิ้นจำนวน 5,426 ออนซ์
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายทองคำเป็นเงิน 127.52 ล้านบาท และมีกำไรที่เป็น
เงินสดขั้นต้นคิดเป็นร้อยละ 33 หรือประมาณ 46.76 ล้านบาท สำหรับใน
ไตรมาสที่ 1/2550 นี้ บริษัทฯ ได้บันทึกค่าธรรมเนียมและค่าที่ปรึกษากฏหมาย
ทั้งจำนวนเป็นค่าใช้จ่าย 16.2 ล้านบาท (บันทึกทั้งจำนวนและเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
ในไตรมาส 1/2550 เท่านั้น) และบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนแบ่งการผลิตของปี 2549
ให้กับกระทรวงการคลังเป็นจำนวน 4.07 ล้านบาทและประกอบกับผลผลิตที่ลดลงต่ำ
กว่าประมาณการส่งผลให้เกิดผลขาดทุนสุทธิในบริษัท ทุ่งคำ จำกัด
จำนวน 17.48 ล้านบาท
ล้านบาท ร้อยละ
รายได้
รายได้จากการ
จำหน่ายทองคำ 127.52 90%
กำไรจากอัตรา
แลกเปลี่ยน 9.02 6%
รายได้อื่นๆ 4.87 3%
รายได้รวม 141.40 100%
ค่าใช้จ่าย
ต้นทุนการผลิต
ที่เป็นเงินสด 75.03
ค่าใช้จ่ายในการขาย
และบริหารที่เป็นเงินสด 19.61
กำไรขั้นต้นที่เป็นเงินสด 46.76 33%
ค่าเสื่อมราคา 29.27
กำไรจากการดำเนินงาน 17.49 12%
ค่าธรรมเนียมการกู้ยืม
และค่าที่ปรึกษากฏหมาย* 16.70
ส่วนแบ่งการผลิตของ
ปี 2549** 4.07
ดอกเบี้ย 14.196
ขาดทุนสุทธิ (17.48) -12%
หมายเหตุ: * บันทึกทั้งจำนวน
** ส่วนแบ่งการผลิตของปี 2549 ร้อยละ 1.5จ่าย
ให้กับกระทรวงการคลัง
ในไตรมาส 1/2550 ผลผลิตทองคำของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด (บริษัทย่อย)
สามารถผลิตได้ 5,079 ออนซ์ ผลผลิตที่ลดลงเป็นผลมาจากความสมบรูณ์
ของแร่ที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตลดลงเหลือ 1.6 กรัมต่อตัน
อันเป็นผลมาจากนโยบายการลดค่าต่ำสุดของความสมบรูณ์ของแร่
ที่นำเข้าสู่กระบวนการผลิต (CUT-OFF GRADE) จาก 1.1 กรัมต่อตัน
เหลือ 0.6 กรัมต่อตัน นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจาก การลดลงของความ
สามารถในการสกัดทองคำออกจากสินแร่ (GOLD RECOVERY)
เหลือเพียงร้อยละ 80 จากที่ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 90
การลดลงของความสามารถในการสกัดทองคำออกจากสินแร่ เป็นผล
มาจากการที่พบแร่ชนิดปฐมภูมิ (PRIMARY ORE) ในแร่ชนิดทุติยภูมิ
(OXIDE ORE) ที่บริษัทฯกำลังขุดเจาะอยู่เร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งการปรากฎ
ของแร่ชนิดปฐมภูมิ ยังทำให้เกิดการสิ้นเปลืองของสารเคมีที่ใช้ในกระบวน
การแยกแร่อีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดย
การติดตั้งระบบเติมกาซออกซิเจนเข้าไปในถังละลายแร่ ซึ่งระบบดังกล่าว
ได้ติดตั้งแล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2550 ที่ผ่านมา และในการทดสอบเบื้องต้น
ให้ผลเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ความหนืด (VISCOSITY) ของแร่ ซึ่งสูงกว่าค่า
ที่ประมาณไว้ ส่งผลทำให้ความสามารถในการป้อนแร่เข้าสู่ระบบลดลง
ปัจจุบันฝ่ายผลิตของบริษัทฯ ได้เริ่มตัดชั้นแร่ใหม่ (BENCH) ของแหล่งแร่ T-1
เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งแร่ชนิดทุติยภูมิ (OXIDE ORE) ที่มีค่าความสมบูรณ์
สูงกว่า หลังจากการติดตั้งและทดสอบเดินเครื่องระบบเติมกาซออกซิเจน
สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องบดละเอียด (SAG MILL) ชุดที่สอง
ซึ่งปัจจุบันได้จัดส่งมาที่โรงงานเรียบร้อยแล้ว แต่อุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบ
ของเครื่องจักรบางส่วน อยู่ระหว่างการดำเนินการผลิตและประกอบในประเทศ
ออสเตรเลีย ซึ่งบริษัทวิศวกรที่ดำเนินการต้องใช้เวลาในการดำเนินการ
เนื่องจากปัจจุบันมีงานค่อนข้างมาก ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถดำเนิน
การติดตั้งแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับเครื่องบดละเอียดชุดที่สองได้
ในไตรมาส 4/2550
การลดค่าต่ำสุดของความสมบรูณ์แร่ที่นำเข้าสู่กระบวนการผลิต ทำให้สินแร่จาก
แหล่งแร่ T-1 มีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่กระบวนการผลิตถูกจำกัดด้วยกำลังการผลิตของ
เครื่องบดละเอียดที่มีอยู่ในปัจจุบัน การใช้เงินทุนจากแหล่งเงินกู้ใหม่ที่เพิ่มขึ้น
ส่งผลให้บริษัทฯ มีภาระค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แต่เงินทุนดังกล่าวจะส่งผล
ให้ผลผลิตทองคำในอนาคตเพิ่มขึ้น และช่วยให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการสำรวจ
และประเมินปริมาณสำรองแร่ ในพื้นที่ที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างการขออนุมัติประทานบัตร
ให้ได้รับการพิจารณาเร็วยิ่งขึ้น
4. ค่าใช้จ่ายในการขายและดำเนินงาน
ค่าใช้จ่ายจากการขายและดำเนินงานเพิ่มขึ้น 20.54 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้น
ประมาณร้อยละ 72.68 ทั้งนี้เนื่องมาจากปีนี้บริษัทฯได้เริ่มดำเนินการผลิตและจำหน่ายทองคำ
และได้มีการบันทึกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าภาคหลวง ค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นเงินทั้งสิ้น 8.2 ล้านบาท
นอกจากนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมและการดำเนินงานของบริษัทฯ
5. ผลกระทบการเปลี่ยนนโยบายบัญชีต่องบการเงินรวมและงบการเงินของบริษัทฯ
ตั้งแต่ไตรมาส 1/2550 บริษัทฯและบริษัทย่อยเปลี่ยนนโยบายบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุน
ในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ตามรายละเอียดดังนี้
5.1 การเปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อย และบริษัทร่วมเป็นวิธีราคาทุนเดิม
(HISTORICAL COST)
ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีฉบับที่ 26/2549 และฉบับที่ 32/2549
เรื่องการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อย และ/หรือ
บริษัทร่วมของกิจการในงบการเงินเฉพาะของกิจการ
จากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุนโดยบริษัทฯได้เปลี่ยนใช้วิธีราคาทุนเริ่มตั้งแต่วันที่
1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป และปรับปรุงงบการเงินย้อนหลังโดยปรับปรุงกำไรสะสม
ยกมาต้นปี 2550 และ ข้อมูลในงบการเงินทุกงวดที่นำเสนอในงวดปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้กำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการแตกต่างจาก
กำไรสุทธิของงบการเงินรวม แต่ในกรณีของบริษัทฯที่ผลการดำเนินงานของงบการเงินรวม
เท่ากับงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ เนื่องจากรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนใน
บริษัทย่อยในอนาคตหากบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานที่มีกำไรก็จะทำให้ผลการดำเนิน
งานของงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัทแตกต่างกัน
ในส่วนงบการเงินปี 2549 ที่จะนำมาใช้เปรียบเทียบนั้น ได้เปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุน
ในบริษัทย่อย และบริษัทร่วม เป็นวิธีราคาทุนเดิม
จากงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้บริษัทฯ
ต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสำหรับเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยแห่งหนึ่งจำนวน 4.7
ล้านบาทและบันทึกด้อยค่าจากเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 19.5 ล้านบาท
รวมทั้งสิ้น 24.2 ล้านบาท และ เมื่อรวมผลขาดทุนของบริษัทฯ จำนวน 5.3 ล้านบาท
ทำให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนรวมทั้งสิ้น 29.5 ล้านบาท
THL เผย Q1/50 ขาดทุนเพิ่มเป็น 29.52 ลบ. จาก Q1/49 ขาดทุน 23.
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:23 pm
โดย ลูกอิสาน
ประเด็นหลักๆน่าจะเป็นเพราะการลดลงของความสมบูรณ์ของแร่ จากเฉลี่ย 4 กรัม/ตันตอนที่ประมาณการใหม่ๆ เหลือแค่ 1.6 กรัม/ตัน ในงวดล่าสุด ลดลงมากกว่าเป็นเท่าตัว แถมยังสกัดได้ต่ำกว่าประมาณการอีก
ดูจากรายการกบนอกกะลา ตอนนี้เหมืองทางอัครไมนิ่ง พยายามใช้แร่เกรดสูง ก่อนเพื่อทำกำไรตอนทองคำราคาแพง แต่ดูเหมือนผู้บริหารทุ่งคาจะทำในทางตรงกันข้าม ไม่รู้เจตนาเป็นอย่างไร ชักสงสัย
THL เผย Q1/50 ขาดทุนเพิ่มเป็น 29.52 ลบ. จาก Q1/49 ขาดทุน 23.
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:25 pm
โดย Blueblood
inside กันถล่มทะลาย :evil:
THL เผย Q1/50 ขาดทุนเพิ่มเป็น 29.52 ลบ. จาก Q1/49 ขาดทุน 23.
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 3:33 pm
โดย metro
ราคาไหลเป็นน้ำเลย ..