Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

1. ปันผล
2. ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น

คือผมมานึกๆดู จากที่อ่านหนังสือดร. นิเวศน์  รู้สึกว่า ดร.นิเวศน์เองตอนเขียน ตีแตก ท่านมองเรื่องปันผลเป็นการตอบแทนที่ดี แต่ตอนเขียน ชนะอย่างเต่า รู้สึกว่าท่านจะมองเรื่องการเติบโตของราคามากกว่า

เลยอยากถามทุกท่านในนี้ สนใจเรื่องไหนมากกว่ากันครับ


ส่วนตัวผมแรกๆ หวังเรื่องปันผลมากๆ เลย จะหาหุ้นทีก็ไล่จากการจ่ายปันผล แล้วค่อยมาดูธุรกิจ  แต่พอมานึกว่ากว่าจะได้ปันผลรอเป็นปี ตอนนี้เลยกำลังมามองหาหุ้นที่มีการเติบโตอยู่ แต่มันก็หายากดีนะครับ ไม่เหมือนหาหุ้นปันผล แต่กำไรมันก็ต่างกันอีก

สนใจทั้งสองเรื่องเลยครับ  :D
แต่ตัวที่ปันผลดีๆ ราคาไม่ค่อยวิ่ง ก้ไม่ขายทิ้งนะครับ

การเติบโตของกำไรครับ (ทั้งที่แบบเงินสดและแบบเกณฑ์คงค้าง)

quote]การเติบโตของกำไรครับ (ทั้งที่แบบเงินสดและแบบเกณฑ์คงค้าง)[

แต่มันหายากใช่ป่ะครับ หุ้นที่จะมีการเติบโตดีๆ นี่ แล้วยังเรื่องการวัดมูลค่าหุ้น ตามกำไรที่ควรเป็น สงสัยต้องไปซื้อหนังสือ วัดมูลค่าหุ้น เสียหน่อยแล้ว อิอิอิ

[/list]

หุ้นที่กำไรมีโอกาสเติบโตสูง ที่จริงแล้ว หาไม่ยากเลยครับ คนในตลาดก็มักจะรู้ๆ กันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าราคาที่เข้าไปซื้อแล้วปลอดภัยนี่สิครับที่ยากกว่า

เงินปันผลที่ดี  ย่อมมาจากการดำเนินงานตามปรกติของบริษัท

เงินปันผลที่ดี  ย่อมมาเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

เงินปันผลที่ดีและเพิ่มขึ้นต่อเนื่องยาวนาน  ย่อมนำมาซึ่งราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและยาวนาน

ดังนั้นคงสรุปได้ว่า  ผลการดำเนินงานตามปรกติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนาน  ย่อมนำมาซึ่ง  เงินปันผลที่ดี  และราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น

net worth

จะว่าไปแล้วเราก็ต้องให้เวลากับการเจริญเติบโตของหุ้นด้วยใช่ไหมครับ

แต่ปัญหาคือ ส่วนใหญ่เรามักใจร้อนหรือไม่ก็ทนความผันผวนในตลาดไม่ค่อยได้

cryptonian_man เขียน:จะว่าไปแล้วเราก็ต้องให้เวลากับการเจริญเติบโตของหุ้นด้วยใช่ไหมครับ

แต่ปัญหาคือ ส่วนใหญ่เรามักใจร้อนหรือไม่ก็ทนความผันผวนในตลาดไม่ค่อยได้

Bingo

เอาสามอย่างอ่ะ
1. ส่วนต่างของราคาหุ้น
2. ปันผลที่ได้รับจากหุ้น
3. เครดิตภาษีที่ได้รับจากเงินปันผลจากหุ้นที่ซื้อ
ทั้งหมดคือเป้าหมาย

นั้นคือ กิจการนั้นต้องมีกำไร และสามารถจ่ายกำไรได้
แถมไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม หรือถ้าหากลงทุนต้องไม่ใช้ BOI หรือถ้าใช่ต้องใช้ให้น้อยที่สุด

ลองถามตัวเองว่า กิจการที่เราร่วม "เป็นเจ้าของ" มันดีอย่างที่เราคิดหรือเปล่า ถ้าดีจริง เราก็จะได้ทั้งปันผลและส่วนต่างราคาหุ้นมาเองไม่ใช่เหรอ

1. ปันผล เป็นของจริงที่เราต้องการเวลาเราตัดสินใจ "ลงทุน" ร่วมเป็นเจ้าของกิจการ (แบบ Buffet ว่า.. ไม่มีเหตุผลใดจะทิ้งกิจการที่ดำเนินไปได้ดี ตราบใดที่มันยังดีอยู่) และที่สำคัญคือเป็นของที่จะเป็นเกราะป้องกัน เวลาตลาดหมี ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า แม้บรรยากาศตลาดจะไม่ดี หุ้นไม่วิ่ง (หรือลง) เราก็ปลอดภัย

2. ส่วนต่างราคาหุ้น เป็นของแถม ที่เราจะได้ ถ้ากิจการของเราเจริญเติบโต มีการเติบโตของกำไร (และควรจะเป็นการเติบโตของปันผลด้วย) มันก็จะสะท้อนมาในราคาหุ้นอยู่ดี อันนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรา "อุ่นใจ" ที่จะกอดหุ้นไว้ โดยเฉพาะตลาดกระทิงที่ราคามันวิ่งเอาวิ่งเอา... แต่ลองมองย้อนไปดูครับว่า เราซื้อหุ้นนี้เพราะเราต้องการร่วมเป็นเจ้าของกิจการดี ๆ อันนี้หรือเปล่า ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการดี ๆ เราจะขายมันออกไปทำไมตราบใดที่เราคิดว่ามันยังดีอยู่

ห่านออกไข่เป็นทองคำให้เราทุกวัน ค่าตัวมันก็ขึ้นไปเรื่อย ๆ ... แต่เราเลี้ยงห่านเอาไว้เก็บไข่ไม่ใช่หรือ ถ้าเราขายตัวห่านไป ด้วยความหวังว่าเราจะหาห่านตัวต่อไปที่ยังออกไข่เป็นทองคำ หรือหวังว่าจะกลับมาซื้อห่านตัวเก่าได้ในราคาถูกลง.... คงต้องถามตัวเองดี ๆ ว่า โอกาสมันจะมีมากหรือน้อยแค่ไหน