หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 11:53 pm
โดย juntuma
ท่านประธานเว้บบอกในทีวีว่าใช้มาร์จิ้น  เวลามั่นใจเต็มที่

ไม่เคยใช้มาร์จิ้นครับ  แต่ใช้เงินกู้มาเล่นหุ้นล้วน ๆ ครับ

อยากทราบว่าทำอย่างไร  วิธีการต้องเอาหุ้นที่มีค้ำประกันหรือเปล่า  

แล้วโบรคจะให้วงเงินเท่าไร  อัตราดอกเบี้ยเท่าไรครับ

ท่านประธานบอกว่ามาร์จิ้น  ดอกเบี้ยแค่  5.25 %  ทำไมถูกจัง  10%  ผมยังกู้มาเล่น  28% ก้อเคยมาแล้ว   :lol:

ถ้าได้  5.25 %  ต่อปีนี่สุดคุ้ม  กู้มาซื้อหุ้นปันผล 8%  ขึ้นไป  กำไรชัวร์ ๆ  บวกเครดิตภาษีอีก   :lol:  :lol:  :lol:

Re: เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 1:37 am
โดย Can do
มี 2 วิธีครับ ใช้เงินสดไปวาง หรือเอาหุ้นในปอดไปจำนำ

วงเงินกู้แล้วแต่ตัวหุ้นครับ เช่น pttep ได้ margin 100% คือ เอาเงินไปวาง100 บาท สามารถกู้เพิ่มได้ 100 บาท ทำให้สามารถซื้อหุ้นได้ 200 บาท ครับ ส่วนที่กู้มา 100 บาท จะเสียดอกเบี้ย ดอกเบี้ยตอนนี้ประมาณ 5%กว่าครับ

หุ้นบางตัวโบรกให้มาจิ้นน้อย เช่น SNC ถ้าจะซื้อ100บาท โบรกผมให้ใช้เงินตัวเอง 85 บาท กู้ได้แค่ 15 บาท

หุ้นบางตัวที่สภาพคล่องไม่มากโบรกไม่ให้ margin เลยต้องใช้เงินสดอย่างเดียว

ข้อควรระวังคือถ้าราคาหุ้นตกมากๆ (เข้าใจว่าเกิน 30%) ก็จะถูก force sales เอาเงินไปใช้หนี้

Re: เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 3:02 am
โดย Raphin Phraiwal
Can do เขียน:ข้อควรระวังคือถ้าราคาหุ้นตกมากๆ (เข้าใจว่าเกิน 30%) ก็จะถูก force sales เอาเงินไปใช้หนี้

ประโยคนี้สำคัญครับ
มาร์จิ้นมีความเสี่ยงจริงๆ ครับ ผู้ที่ยังไม่ชำนาญต้องคิดดีๆ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มาร์จิ้นนะครับ
ส่วนตัวแล้ว ผมว่ากู้เขามา ดอกแพงกว่านิด แต่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องบังคับขายหรือ force sale ก็สบายใจดีครับ
แต่ถ้าคุณมั่นใจในฝีมือก็อีกเรื่องครับ เพราะมันก็คือเครื่องมือบริหารการเงินชนิดหนึ่ง แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ (เช่นวันที่ตลาด panic) ยิ่งถ้าคุณมีหุ้นต้นทุนแพงด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 9:09 am
โดย bankniti
เคยคิดอยู่เหมือนกัน แต่พยายามยึดหลักการของในหลวง "พอเพียง" ทำอะไรไม่เกินตัว รวยช้าหน่อยแต่นอนหลับสบาย panic sale ก็ไม่กังวลว่าจะโดน force sale เหมือนวันที่ 19 ธค. กู้มาลงทุนไม่ทำเด็ดขาดครับ ชนะอย่างเต่าดีกว่า ต้วม-เตี้ม-ต้วม-เตี้ม :D

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 10:52 am
โดย fantasia
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=24312
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=23916
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=22149

กระทู้เก่า ๆ ที่ผมเคยตอบไว้ครับ อาจจะพอมีประโยชน์บ้าง
ตอนนี้ดอกของ poems ฝาก 2.50% กู้ 5.75%
5.25% ที่ว่านี่ที่อยากรู้จังว่าที่ไหนทำไมถูกจัง

ถ้าอยากรวยเร็ว ๆ ก็เอาเงินที่กู้เดิมนั้นแหละมาเล่นมาร์จิ้นต่อ
เอาให้ Debt/Asset ได้ซัก 80% ขึ้นเลยครับ   :D

ล้อเล่นนะครับ อย่าเอาไปทำจริงล่ะ

โดยส่วนตัวผมว่าถ้ากู้เงินเล่นหุ้นใช้ margin น่าจะดีกว่ากู้มาจากแหล่งอื่นนะครับ แต่ควรจะรักษาระดับ Debt/Asset ให้ต่ำหน่อย ไม่ควรจะเกิน 30%
ถ้าเอาให้ถึง 50% แบบที่โบรกให้นี่เสี่ยงกับการถูก force sell เกินไปครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 10:56 am
โดย สุมาอี้
Margin สำหรับผม ใช้เป็น "ท่าไม้ตาย" เท่านั้น

ในชีวิตหนึ่ง ไอ้มดแดงที่ดี ไม่ควรใช้ท่าไม้ตายเกินสามครั้ง ถ้าใช้ท่าไม้ตายทุกตอนก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนดูเบื่อ :lovl:

ตั้งแต่เล่นหุ้นมายังไม่เคยต้องใช้ท่าไม้ตายเลย

Re: เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 11:16 am
โดย birdflu
[quote="juntuma"]
ท่านประธานบอกว่ามาร์จิ้น

Re: เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 11:43 am
โดย ปรัชญา
juntuma เขียน: ท่านประธานบอกว่ามาร์จิ้น  ดอกเบี้ยแค่  5.25 %  ทำไมถูกจัง  10%  ผมยังกู้มาเล่น  28% ก้อเคยมาแล้ว   :lol:

ถ้าได้  5.25 %  ต่อปีนี่สุดคุ้ม  กู้มาซื้อหุ้นปันผล 8%  ขึ้นไป  กำไรชัวร์ ๆ  บวกเครดิตภาษีอีก   :lol:  :lol:  :lol:
ปันผล   คิดเป็นปี
มาร์จิ้น  คิดเป็นเดือนทบเข้าไป

หากทำได้รวยกันหมดแล้วครับ

แต่ถ้าชอบเสี่ยง  ก็เตรียมหลักทรัพย์หรือเงินเพิ่มตอนหุ้นลงด้วยครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 12:33 pm
โดย hongvalue
สุมาอี้ เขียน:Margin สำหรับผม ใช้เป็น "ท่าไม้ตาย" เท่านั้น

ในชีวิตหนึ่ง ไอ้มดแดงที่ดี ไม่ควรใช้ท่าไม้ตายเกินสามครั้ง ถ้าใช้ท่าไม้ตายทุกตอนก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนดูเบื่อ :lovl:

ตั้งแต่เล่นหุ้นมายังไม่เคยต้องใช้ท่าไม้ตายเลย
โห คารมคมหอกสุดๆไปเลย

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 1:08 pm
โดย juntuma
ขอบคุณลิงค์ครับคุณแฟนฯ  

28% นี่กู้จัสแคช  มาลุยสีบโก้  ครับ  พอหนุก ๆ  ไม่ได้จริงจังอะไรครับ

เด๋วจะไม่ได้เป็นวีไอ กลายเป็นแมงเม่าไปซะก่อน  :lol:  

ของจริงกู้ธนาคารมาซื้อหุ้นปันผลตัวนึง  อัตราดอกเบี้ย 9% ต่อปี

ราคาหุ้นตอนนั้นปันผลบวกเครดิตภาษี  ได้ส่วนต่าง 7%  เสียดายเขาให้กู้น้อยไปหน่อย   :lol:  

ยังไม่ได้คิดถึงส่วนต่างราคากำไรเห็น ๆ  ภาษาปะกิตเขาเรียกอะไรผมก้อลืมไปแย้ว  อ้อ  อาบริเทจ  หรืออะไรเนี่ยแหละ

ตอนกู้มาซื้อก้อคิดแค่ว่า  เรากู้เงินมาลงทุนผ่อนชำระหนี้ระยะยาว  ดีอีส่วนตัวไม่เกินหนึ่ง  ไม่เกินกำลังรับความเสี่ยง

บริษัทยังกู้เงินมาขยายกิจการ  บริษัทถึงโต  เราก้อทำแบบบริษัทมั่งปอดถึงจะโต :lol:

พอได้ฟังท่านประธานพูดในทีวีเรื่องมาร์จิ้น  เลยปิ๊งอีกที  เห็นคุณโยโย่ก้อทำ

ถ้าบอกว่าไม่พอเพียงก้อไม่น่าจะใช่  อยู่ที่การบริหารความเสี่ยงให้เพียงพอมากกว่ามั้งครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 1:31 pm
โดย contrarian
สุมาอี้ wrote:
Margin สำหรับผม ใช้เป็น "ท่าไม้ตาย" เท่านั้น
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ครับ

ถ้าตัดสินใจ จะใช้มาร์จิ้น ก็ควรศึกษา เหตุการณ์ big crash ครั้งต่างๆ เช่น ซัดดัมบุกคูเวต(รู้สึกยังไม่มีมาร์จิ้น),ปี 37 ,ปี40
ไว้เป็นอุทาหรณ์ก่อนว่า เวลาbig crash ถ้าใช้มาร์จิ้นอยู่ต้องทำอย่างไร

ผมเชื่อว่า คนเล่นหุ้นมานาน มีพอร์ตมาร์จิ้นกันทั้งนั้นแหละครับ(และมาร์ ก็จะเปิดให้พร้อมเลย) แต่จะใช้หรือไม่ หรือใช้อย่างไรก็ขึ้นกับยุทธวิธีแต่ละคน

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 7:38 pm
โดย chatchai
ระวังใช้แล้ว  คู่ต่อสู้ไม่ตาย  แต่เราจะตายเองซะก่อน   :cry:

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 9:00 pm
โดย สุมาอี้
contrarian เขียน: ผมเชื่อว่า คนเล่นหุ้นมานาน มีพอร์ตมาร์จิ้นกันทั้งนั้นแหละครับ(และมาร์ ก็จะเปิดให้พร้อมเลย) แต่จะใช้หรือไม่ หรือใช้อย่างไรก็ขึ้นกับยุทธวิธีแต่ละคน
ยังไม่ได้เปิดเลยครับ กลัวเปิดแล้วใช้สุ่มสี่สุ่มห้า ครั้งที่จะใช้จริงๆ จะต้องเป็นครั้งที่ตัดสินใจแล้วค่อยไปเปิดก็ยังใช้ทัน ไม่งั้นไม่ใช้

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 9:05 pm
โดย สุมาอี้
Sir John Templeton รวยขึ้นมาจากการยืมเงินเจ้านายมาซื้อหุ้นตอนสหรัฐฯ ประกาศเข้าร่วมสงครามโลก

โอกาสเช่นนี้ชีวิตหนึ่งมีแค่ครั้งเดียว

Re: เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2007 11:38 pm
โดย fantasia
[quote="ปรัชญา"]

ปันผล

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 08, 2007 12:06 pm
โดย สุมาอี้
ถ้าให้เล่นมาร์จิ้น ผมขอเล่นหุ้นอนาคตดีๆ หนี้สูงๆ จะดีกว่าเพราะได้ tax shield ด้วย อีกทั้งบริษัทมักสามารถกู้เงินได้ถูกกว่าคนธรรมดา

ถ้าหุ้นในพอร์ตของคุณ say ซะว่ามี DE เฉลี่ย 2 เท่า ถ้าคุณเล่นมาร์จิ้น 1 เท่าก็เหมือนกับคุณกำลังกู้เงินมาลงทุนถึง 4 เท่าของเงินตัวเอง

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 3:30 pm
โดย juntuma
ในกระทู้ผลตอบแทนปีนี้ได้เท่าไรกัน  เห็นพี่ลูกอิสานพูดถึงมาร์จิ้นด้วยละ

ตั้งแต่วันทีผมตั้งกระทู้จนถึงวันนี้  ยังไม่ได้เปิดบัญชีมาร์จิ้นเลย  ต้องลองดูซะแร้วว

55 ที่บอกว่ากู้มาซื้อหุ้นอัตราปันผลมากกว่าดอกเบี้ย  ทำมาแล้วครับ  เขาเรียกว่าอาบริเทรจ  ได้สองเด้งครับผมบวกเครดิตภาษี

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 7:48 pm
โดย ลูกอิสาน
ที่น่ากู้ที่สุดก็กู้พ่อแม่หรือญาติที่มีเงินครับ ไม่โดน force sell ประนอมหนีก็ง่าย :D  

รองลงไปก็กู้ธนาคาร ไม่โดน force sell เหมือนกัน กู้มาร์จินนี่มีข้อดีอย่างเดียวคือกู้ง่าย

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 11:27 am
โดย Jangster
มีคำถามนิดนึงครับ... เกี่ยวกับบัญชีมาร์จิ้น... พอดีพึ่งเปิดบัญชีมา

สมมุติว่าผมมีหุ้นตัวนึง มูลค่ารวมหนึ่งล้านบาท.... แล้วเกิดผมอยากเอาเป็นหลักค้ำประกัน....   ถ้าสมมุติว่าหุ้นที่ผมสนใจมี Initial Margin 50%, ผมสามารถซื้อเพิ่มอีก 2ล้าน (ประมาณ) โดยใช้หุ้นตัวนี้ค้ำประกันตอน initial margin ได้เลยใช่ใหมครับ....  โดยที่ดอกเบี้ยจะคิดจากยอด 2 ล้านบาท ใช่ใหมครับ หรือว่าคิดจากส่วนต่าง (2 ล้าน - 1 ล้าน stock = 1 ล้าน net ยอดหนี้)

กำลังคิดจะ leverage ตัวเองเพิ่มในช่วงปันผล (แต่คงไม่ซื้อเพิ่มจนปริ่ม Initial Margin)น่ะครับ เพราะคิดว่าตลาด pessimistic มากเกินไปกับตัวเลขและตลาดน่าจะ rebound ได้ในกลางปี

รบกวนผู้รู้ชี้แนะคำตอบด้วยครับ ขอให้พี่ๆรวยๆเฮงๆหาห่านเจอในช่วง วิกฤติเป็นโอกาสครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 8:42 pm
โดย SunShine@Night
[quote]ที่น่ากู้ที่สุดก็กู้พ่อแม่หรือญาติที่มีเงินครับ ไม่โดน force sell ประนอมหนีก็ง่าย[/quote]

น่าสนใจมากครับ :)

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 9:14 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="Jangster"]มีคำถามนิดนึงครับ... เกี่ยวกับบัญชีมาร์จิ้น... พอดีพึ่งเปิดบัญชีมา
สมมุติว่าผมมีหุ้นตัวนึง มูลค่ารวมหนึ่งล้านบาท.... แล้วเกิดผมอยากเอาเป็นหลักค้ำประกัน....

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 9:27 pm
โดย น้ำครึ่งแก้ว
คุณ สุมาอี้ กล่าวไว้ว่า
Margin สำหรับผม ใช้เป็น "ท่าไม้ตาย" เท่านั้น

ในชีวิตหนึ่ง ไอ้มดแดงที่ดี ไม่ควรใช้ท่าไม้ตายเกินสามครั้ง ถ้าใช้ท่าไม้ตายทุกตอนก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนดูเบื่อ  

ตั้งแต่เล่นหุ้นมายังไม่เคยต้องใช้ท่าไม้ตายเลย
เห็นทุกทีต้องจบด้วยท่าไม้ตายไม่ใช่เหรอครับถ้าไม่ใช้นี่
เตะยังไงผู้ร้ายก็ไม่ตายเลยอะครับ

แฮ่ๆๆๆ  แว๊ปมานอกเรื่องหน่อย ไม่ว่ากันนะครับ

ขอบคุณครับ........แว๊ป

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 10:30 pm
โดย Jangster
[quote="ลูกอิสาน"][quote="Jangster"]มีคำถามนิดนึงครับ... เกี่ยวกับบัญชีมาร์จิ้น... พอดีพึ่งเปิดบัญชีมา
สมมุติว่าผมมีหุ้นตัวนึง มูลค่ารวมหนึ่งล้านบาท.... แล้วเกิดผมอยากเอาเป็นหลักค้ำประกัน....

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 10:51 pm
โดย ลูกอิสาน
น่าจะ 1 ล้านนะครับ เงินหรือหุ้นค้ำก็เหมือนกัน
ดอกเบี้ยคิดเฉพาะเงินที่กู้ครับ ในที่นี้ 1 ล้าน

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 10:56 pm
โดย nanchan
ผมรู้แต่ว่า เวลาที่มั่นใจเต็มที่คือ

เวลาที่ไม่ควรซื้อหุ้นครับ

ทุกสิ่งล้วนไม่แน่นอน

คนเล่นมาร์จิ้นแล้วรวย หรือกำไรเยอะ
เราก็จะได้ยินเสมอ

แต่คนที่เล่นแล้วล้มละลาย คุณอาจจะไม่เคยได้ยินมั้งครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 11:21 pm
โดย yoyo
nanchan เขียน: แต่คนที่เล่นแล้วล้มละลาย คุณอาจจะไม่เคยได้ยินมั้งครับ
ตอกยำอีกครั้งด้วยบทความนี้
คนตายไม่ได้พูด
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 14 มกราคม 2550

               ข่าวสารข้อมูลนั้น   ดูเหมือนว่าจะเป็นอาวุธสำคัญในการเอาชนะหรือสร้างความสำเร็จในชีวิตและการแข่งขันในปัจจุบันในหลาย ๆ ด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุน   ดังนั้น  ผู้รู้หรือกูรูในด้านการลงทุนจึงมักจะบอกให้เราเปิดหูเปิดตารับข่าวสารให้มากที่สุด  ซึ่งรวมถึง  ภาวะการเงิน  ภาวะเศรษฐกิจ  ปัญหาการเมืองทั้งในและต่างประเทศ    ข่าวสารเกี่ยวกับบริษัท  ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งที่จะมีผลต่อพื้นฐานของกิจการ   ความเคลื่อนไหวของ  ขาใหญ่   ความเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างประเทศที่จะมีผลต่อราคาหุ้นที่ขึ้นลงนาทีต่อนาที    นอกจากนั้นแล้วก็ยังต้องจับตาดูสินทรัพย์การลงทุนกลุ่มต่าง  ๆ  ที่กำลังปรับตัวขึ้นกันอย่างหวือหวาตั้งแต่ราคาทอง  น้ำมัน  ตราสารอนุพันธ์  กองทุน FIF ที่ลงทุนในต่างประเทศ    คนเชื่อกันว่า  ผู้ที่มีข้อมูลมากกว่าและสามารถปรับตัวได้เร็วกว่าจะเป็นผู้ชนะ

         แต่ข้อเตือนใจของผมก็คือ   เราต้องรู้ว่าข่าวสารที่เราได้รับนั้น  บ่อยครั้งมันไม่ได้สะท้อนภาพทั้งหมด   ว่าที่จริง  ข่าวสารที่เราได้รับส่วนใหญ่สะท้อนภาพที่แท้จริงเพียงด้านเดียวและเป็นภาพที่เล็กมาก  นั่นคือ  มันสะท้อนมุมมองของผู้ชนะ   ผู้ที่ประสบความสำเร็จหรือเคยประสบความสำเร็จที่มีอยู่จำนวนน้อย    และมันไม่ได้สะท้อนมุมมองของคนที่พ่ายแพ้หรือล้มเหลวในการลงทุนซึ่งมีจำนวนมากกว่ามาก   ดังนั้น  เวลาเราได้รับข่าวสาร  เราจะต้อง  กรอง  และพินิจพิจารณาอย่างระมัดระวังว่า  ข่าวสารนั้นอาจจะมีความ  ลำเอียง  มากน้อยแค่ไหน   เราต้องรู้ว่า   คนที่บอกข่าวสารนั้น   เป็นคนที่   รอด  จากมหันตรายและกลายเป็น  ฮีโร่  คนเดียว  ส่วนคนอื่นอีก  9  คน  ตาย  หมด และไม่มีโอกาสมาพูดเล่าเหตุการณ์นั้นหรือเปล่า   และถ้าเป็นเช่นนั้น   เราควรจะเชื่อข้อมูลที่ได้รับฟังแค่ไหน

               ในช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนได้กำไรจากทองเพราะราคาทองขึ้นไปมาก   ข้อมูลที่ออกมาก็คือ  ทองเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีมาก   ความเสี่ยงก็ต่ำเพราะทองสามารถรักษาคุณค่าไว้ได้เสมอ   ที่สำคัญก็คือ  ทองนั้นไม่มีการหลอกลวงหรือเก๊เหมือนตราสารการเงินเช่นหุ้นที่ราคาอาจถูกปั่นขึ้นไปสูงมาก  หรือพื้นฐานของบริษัทอาจเปลี่ยนแปลงจนทำให้มูลค่าสูญหายได้มาก   แต่ทองอย่างไรก็ยังเป็นทองและมันให้ความรู้สึกที่ดีเสมอเวลาเรามองดูมัน   แต่ข้อเท็จจริงก็คือ  คนที่เคยลงทุนถือทองมานานอาจจะเป็นสิบ ๆ ปี  และไม่เคยได้ผลตอบแทนที่ดีเลยก่อนหน้านี้   ไม่เคยได้มีโอกาสพูดเลยว่า   การถือทองเป็นการลงทุนที่แย่แค่ไหน     ดังนั้น   ก่อนที่เราจะลงทุนในทองคำเพราะมีคน ๆ หนึ่งบอกว่าดี   เราควรจะคิดว่า   ยังอาจจะมีคนอีก 9 คนที่เคยขาดทุนหรือไม่ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำเพียงแต่ว่าเขาเหล่านั้นไม่ได้พูดหรือไม่มีโอกาสพูด

               ในเรื่องของหุ้นเองนั้น   เราคงได้ยินเกี่ยวกับเทคนิคในการลงทุนมากมายที่สามารถทำกำไรได้รวดเร็วและมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ   เทคนิคเหล่านั้น   แน่นอน  ถูกบอกเล่าโดยคนที่ประสบความสำเร็จหรือคนเชื่อว่าเขาประสบความสำเร็จจากการใช้วิธีการลงทุนแบบนั้น   แต่สิ่งที่เราอาจจะลืมไปก็คือ  เทคนิคนั้นอาจจะไม่สามารถใช้ได้ในช่วงเวลาอื่นหรือกับหุ้นตัวอื่น    พูดง่าย ๆ ก็คือ   เป็นเทคนิคที่ขึ้นอยู่กับกาลเวลาและอาจจะใช้ไม่ได้กับหุ้นทุกตัว   ดังนั้น  คนที่ใช้หรือเคยใช้เทคนิคนั้นจำนวนมากอาจจะไม่ประสบความสำเร็จและกลายเป็น  ผู้แพ้  ที่ไม่เคยมีโอกาสพูดว่าเทคนิคนั้นเป็นเทคนิคที่ใช้ไม่ได้

               หลักทรัพย์ชนิดใหม่ ๆ  ที่ออกกันมา    จำนวนมากเป็นตราสารอนุพันธ์ที่มีราคาผันผวนมากหรือมีการได้เสียสูงมากเนื่องจากมีการใช้มาร์จินหรือการกู้ยืมมาลงทุนจำนวนมาก              การลงทุนในตราสารดังกล่าวอาจจะทำให้คนบางคนกำไรมหาศาลอย่างรวดเร็ว   คน ๆ  นั้นอาจจะมีโอกาสและได้พูดในที่ต่าง  ๆ  ทำให้คนรู้สึกว่า  ถ้าจะทำกำไรได้รวดเร็วและมากก็ควรจะลงทุนในตราสารเหล่านั้น   ในขณะที่ผู้แพ้หรือคนที่ขาดทุนมหาศาลที่มีจำนวนมากกว่ากลับไม่มีโอกาสหรือไม่อยากจะพูดถึง

                 แม้แต่ในแวดวงของ Value Investor  เองก็ไม่พ้นจาก  ความลำเอียง  ที่ว่า  ข่าวสารส่วนใหญ่นั้น   มักจะสะท้อนแต่เสียงของ  ผู้ชนะ  นั่นก็คือ  คนที่ใช้หลักการ Value Investment อ ย่างถูกต้องจะได้ผลตอบแทนอย่างมหาศาลเฉลี่ยปีละหลายสิบเปอร์เซ็นต์   เหตุผลก็คือ  ผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงจะเป็นคนที่ได้พูดหรืออยากพูด  ในขณะที่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จจะไม่มีโอกาสหรือไม่อยากพูดถึงความล้มเหลวของตน    ดังนั้น  ภาพที่ออกมาก็คือ  การลงทุนแบบเน้นคุณค่า  คุณสามารถคาดหวังผลตอบแทนระยะยาวปีละ 20-30% ได้ไม่ยาก  และถ้าเชี่ยวชาญอาจจะได้ถึง 30-40%    ในขณะที่ข้อเท็จจริงก็คือ  Value Investment นั้น  โดยเฉลี่ยผมคิดว่าจะทำได้ดีกว่าดัชนีตลาดหุ้นหรือผลตอบแทนของตลาดปีละไม่น่าจะเกิน  5%  สำหรับคนที่ค่อนข้างจะเก่งมาก

               อันตรายของการที่เราไม่แยกแยะว่าข้อมูลที่เราได้รับอาจจะเป็นเสียงของผู้ชนะหรือคนที่  รอดตาย  ก็คือ   เราอาจจะเข้าใจผิดและตัดสินใจที่จะเชื่อตามข้อมูลนั้นทั้ง ๆ  ที่มันอาจเป็นข้อมูลที่มีโอกาสที่จะเป็นจริงหรือเกิดขึ้นน้อยในขณะที่โอกาสที่จะเกิดผลลัพธ์ตรงกันข้ามมีมากกว่า   ผลก็คือ   แทนที่เราจะได้กำไร  เรากลับขาดทุน   ตัวอย่างเช่น   ถ้าเราได้รับฟังข้อมูลว่าทองเป็นการลงทุนที่ดี  แต่ถ้าเราลงทุนตอนนั้น   เราอาจจะขาดทุน     เช่นเดียวกับการลงทุนในกองทุน  FIF ที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ   เช่นเดียวกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย   และเช่นเดียวกับเรื่องอื่น  ๆ  ที่ผู้ชนะหรือผู้ที่อยู่รอดเท่านั้นที่มีโอกาสพูด  และผู้แพ้หรือ  คนตาย  ไม่ได้พูด   วิธีที่จะกรองข้อมูลได้ถูกต้องก็คือ  เราต้องดูจากสถิติที่เป็นตัวเลขที่รวมข้อมูลทั้งผู้แพ้และผู้ชนะหรือทุกคนและดูเป็นระยะเวลายาวนาน   โดยการทำเช่นนี้  เราก็จะไม่ถูกหลอกโดยข้อมูลด้านเดียวของผู้ชนะที่เกิดขึ้นตลอดเวลาน
ผมเองก็ใช้กับ margin แต่ก็อย่าลืมนะครับว่าคนหมดตัวกันกับหุ้นก็เพราะเจ้า margin นี่แหละ ดาบสองคมดีๆนี่เอง ถ้าฟันเป็นก็ดีไป ฟันไม่เป็นมันจะแว้งเข้ามาเฉือนตัวเอง .... ถ้ามั่นใจว่าตัวเองฝีมือดีมากๆ โอกาสผลตอบแทนน้อยกว่า 6% ต่อปีต่ำมากๆ ก็ลองดู แต่ถ้าไม่มั่นใจขนาดนั้น ผมว่าอย่าดีกว่าครับ
55 ที่บอกว่ากู้มาซื้อหุ้นอัตราปันผลมากกว่าดอกเบี้ย  ทำมาแล้วครับ  เขาเรียกว่าอาบริเทรจ  ได้สองเด้งครับผมบวกเครดิตภาษี
อันนี้เป็นความเชื่อที่ผิดนะครับ ถ้าหุ้นที่ซื้อมันปันผลมากกว่าดอกเบี้ย แต่ราคาหุ้นมันลงไปเรื่อยๆๆ สุดท้ายคุณต้องมีเหตุผลให้ขายทิ้ง ไม่ว่าจะขายทิ้งด้วยตัวเอง หรือขายเพราะโดนเค้าบังคับขาย การกู้มาซื้อหุ้นนี่ห่างไกลกับอาบริทราจมากๆครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 11:30 pm
โดย Jangster
จริงๆแล้วผมไม่ได้กะซื้อจนเต็มวงเงินหรอกครับ....  แต่ผมแค่เผื่อไว้ซื้อเพิ่มนิดหน่อยเป็นช่วงๆ เช่นช่วง dividend เพราะ tax credit ก็น่าจะ cover ดอกเบี้ยได้พอสมควรแล้ว.....

ผมคิดว่าคงจะ leverage ซัก 20-30% เท่านั้นล่ะครับ โดยที่จะใช้ซื้อกับหุ้นที่ราคาหล่นมามากจากการ panic (เช่น HANA หากไม่มีอะไรในงบ Q4 แต่เป็นเพียงแค่จ่าย dividend น้อยลง).... ส่วนตัวแล้วผมไม่ยอมให้โดนล้มละลายหรอกครับ พ่อแม่ผมท่านให้เงินก้อนนึงมาหัดลงทุน ลองผิดลองถูกมามาก เลยกะว่าจะลองทำแบบ VI เต็มตัวซะทีกับ Margin Account ส่วน เล่นแบบ short term/speculative ก็ใช้ cash balance เอาเหมือนเดิมครับ...

เรื่องล้มละลายเพราะหุ้นไม่ต้องห่วงครับ ผมยังเด็กอยู่ (26) แต่ไม่มีภาระอะไรเท่าใหร่ เงินเดือนก็เหลือใช้ทุกเดือน (ทำธนาคาร เงินเกือบ 50k) ซึ่งจริงๆแล้วพ่อแม่เค้าก็มี "ฟูกsupport" ให้เหมือนกันหากผมเสียก้อนนี้ไป แต่ผมไม่ค่อยชอบนอนฟูกหรอกครับ อยากหาเงินให้ตัวเองมากกว่า แล้วผมมองว่าการลงทุนใน SET ก็เหมือนกับการที่ผมเปิดกิจการเองเลยครับ เพียงแต่ดีกว่าที่ไม่มี sentiment กับกิจการนั้นๆ อยากขายก็ขายได้ ไม่ต้องมองตาปริบๆเสียดายกิจการที่สร้างมา แถมยังมีโอกาสลงทุนในกิจการที่เราไม่สามารถเปิดเองได้ด้วยครับ

ได้คำแนะนำจากห้องนี้มากมาย ซักวันผมอยากจะขอสร้างอิสระภาพให้กับตนเองให้ได้ตอนเกษียณและกลับมาช่วยน้องๆ ณ ตอนนั้นครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2008 11:38 pm
โดย Jangster
พอดีผมพิมพ์ซะยาวใช้เวลานานเลยไม่ได้อ่านของพี่โยโย่ก่อน post..... ดีใจจริงๆครับที่มีเซียนหลายๆคนมาเตือน.....

ผมคิดไว้แล้วล่ะครับว่าโอกาสเสียมีมากกว่า เพราะหากผมมี "bad year" ซึ่ง return ติดลบ... ไอ้ 6% เนี่ยมันจะตอกย้ำผมมากกว่าเดิมอีกเพราะ breakeven ผมมันโดนดันไปแล้ว เพราะผมเริ่มที่ -6%.....

แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่ผมบอกครับ ผมคงไม่ leverage อะไรมาก และเน้นลงทุนเป็นหลัก (ไม่ใช่เก็งกำไร).... ก็จะพยายามหา MoS ให้ดีขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง โดยเฉพาะตอนหุ้นลงแต่พื้นไม่เปลี่ยน....  แน่นอนครับ ผมคงต้องมีอ่านไม่ขาดบ้าง แต่ผมมองว่า หากผมไม่ลอง ผมก็ไม่เป็นครับ  คล้ายๆกับตอนผมเริ่มสนใจลงทุน ผมตอนนี้ return ยังแพ้พวกกองทุนด้วยซ้ำ แต่ผมได้ความรู้ขึ้นเยอะครับในตลาดที่ผมไม่สามารถเรียนได้จากห้องเรียน

ต้องขอบคุณพี่ๆที่นี่มากครับ

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 16, 2008 11:37 am
โดย yoyo
เพิ่มคำเตือนให้อีกนิด...
แรกๆตอนผมเปิดผมก็คิดคล้ายๆแบบนี้แหละครับ
แต่พอเล่นแล้วมันกำไรเรื่อยๆ ไปๆมาๆเล่นเต็มวงเงินเกือบทุกที
หลายๆครั้งแผนที่เราวางไว้ กับสิ่งที่เป็นจริงมันก็ต่างกันพอควร พอความโลภมันครอบงำ  :lol:

เล่นมาร์จิ้นทำอย่างไรครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 16, 2008 11:55 am
โดย Jangster
[quote="yoyo"]เพิ่มคำเตือนให้อีกนิด...
แรกๆตอนผมเปิดผมก็คิดคล้ายๆแบบนี้แหละครับ
แต่พอเล่นแล้วมันกำไรเรื่อยๆ ไปๆมาๆเล่นเต็มวงเงินเกือบทุกที
หลายๆครั้งแผนที่เราวางไว้ กับสิ่งที่เป็นจริงมันก็ต่างกันพอควร พอความโลภมันครอบงำ