หน้า 1 จากทั้งหมด 3

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 2:37 am
โดย hongvalue
คืองี้นะครับ

ผมรู้สึกว่ามีคนกลุ่มนึงที่มีความสุขกับการเล่นหุ้น แล้วก็มีความรู้ทางการลงทุนเป็นอย่างดี

ลงทุนหุ้น แต่พอคุยกับคนรอบข้าง ว่าไม่ได้ทำธุรกิจ จะลงทุนหุ้น full time ก็โดน ฝ้ายค้าน (อาจเป็น พ่อ แม่ ญาติ แฟน พี่ เพื่อน ....)

บอกว่า เฮ้ยไอ้ของอย่างนี้น่ะ มันไม่แน่นอน อาตี้ ลื้ออะ ยังไม่เห็นคนยิงตัวตายหน้าตลาดหลักทรัพย์ อั้วว่าลื้อทำมาหากินดีกว่าน้า ถ้ามันง่ายอย่างนั้นจริง
ไม่มีคนขาดทุนเต็มบ้านเต็มเมืองหรอก

ผมก็อยากจะถามพวกเขากลับว่า ไอ้คนที่ยิงตัวตายหน้าตลาดเนี้ย เขาได้ศึกษาเรื่องการลงทุนไหม เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนไหม เคยไปสัมนา อบรมหาความรู้ไหม เคยเข้าหาผู้รู้ไหม หรือว่า เเค่อยากรวยทางลัด

ผมเบื่อที่คนเราชอบปฏิเสธในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้รู้จริง ไม่ได้มองให้ครบทุกด้าน แล้วมาบอกว่า อย่าทำ มันไม่ดี

ผมอยากเป็นกำลังใจให้คนที่ อยากเป็นนักลงทุน full time แล้วมีคนไม่เห็นด้วยว่า อยากให้คุณหนักแน่น ในตัวเอง

ผมชอบการเป็นนักลงทุนเพราะว่า เป็นอะไรที่ท้าทาย ลับสมองดี

ขนาด buffet ยังบอกว่า เขาโชคดีที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบมาตลอดชีวิต คือการลงทุน

แล้วคุณล่ะ ทำสิ่งที่ตัวเองชอบเต็มที่หรือยัง :shock:

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 7:20 am
โดย Radio
เล่นหุ้นมา15 ปี ยังเป็นFull timeไม่ได้เลย

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 9:01 am
โดย cryptonian_man
พึ่งเริ่มลงทุนปีนี้ อยากเป็น full time ใจจะขาด เท่จะตาย เวลาใครมาถามทำงานอะไร จะได้บอกเขาว่าเป็นเจ้าของธุรกิจ WG SSC อะไรพวกนี้ อยากทำอย่างนั้นมากๆ เลย แต่ชีวิตจริงถ้าไม่ทำงานประจำก็ไม่มีเงินมาลงทุน

แต่จะว่าไปผมว่าไม่ต้องเป็น full time part time หรอกครับ ผมคิดว่าพวกเราส่วนใหญ่มองหา อิสรภาพทางการเงิน มากกว่า ผมชอบอย่างที่ Rich dad บอกว่าให้มองหาการลงทุนที่เราไม่ต้องไปทำเอง ไม่ต้องไปเหนื่อยทำเอง คุ้นๆ ว่าบัฟเฟตต์ก้อเคยพูดอะไรคล้ายๆกันนี้นะครับ จำได้เลาๆ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 9:03 am
โดย ลูกไม่ท้อ
ว่าที่จริง ผมกลับอยากไปเป็นนักลงทุนFulltime นะเนี่ย
แต่ก็จริงอย่างที่ว่า ว่าบางทีมันก็เหมือนว่ากำลังหากินกับอะไรที่ไม่เป็นแก่นสาร เอาแน่อะไรไม่ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับมุมมอง(Perception) และวิธีการที่เรา Approach ต่อตลาดทุนนะ
ถ้ามุมมองถูกต้อง , วิธีการถูกหลักก็น่าจะไม่มีอะไรน่ากลัวนะ เพราะวิธีที่ถูกหลักมันจะมีการป้องกันความเสี่ยงไว้อยู่แล้ว เมื่อมีการตกของตลาดหุ้นนักลงทุนกลุ่มนี้จะไม่มีอะไรให้ต้องกังวล

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 9:09 am
โดย wisut
YOU  NEED  20  MILLION  BAHT

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 10:09 am
โดย Akajon
ถ้าคุณมีลูกชาย อายุราวๆ คุณ และลูกคุณขอไม่ทำงาน และเล่นหุ้นอย่างเดียว คุณจะมีวิธีอธิบายยังไง

ลูกคุณจะคิดยังไงถ้าคุณห้ามในสิ่งที่เค้าเชื่อ

คนที่ปราม บางครั้งก็ไม่ใช่ความไม่รู้ ไม่เข้าใจ เพียงแต่ความหวังดี ถูกมองเป็นความไม่เข้าใจ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 10:48 am
โดย miracle
ให้เงินมันทำงานแทนเราบ้าง
เพราะเราทำงานอย่างเดียวก็ไม่ไว้หรอก
ต้องช่วยกันไปสร้างเงินด้วยกันล่ะเนี่ย
:)

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 10:57 am
โดย BHT
ทำงานอื่นที่ชอบแทนได้ครับ แล้วเอาเงินที่ได้แบ่งมาลงทุนก็เท่านั้นเอง

พอเวลาผ่านไปสักหลายปี เงินจะโตมากพอที่จะทำงานอื่นแบบเล่นๆหรือไม่ก็ออกมาลงทุนอย่างเดียวได้ ผลงานที่สั่งสมมาจะเป็นตัวบอกให้คนอื่นเข้าใจและยอมรับได้เอง

แต่ถ้าลงทุนแล้วเจ๊ง ก็ซวยไปครับ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 11:22 am
โดย kvi
I quit from the job so I don't have a good record for work experience.
That's why I can't find the job easily. Now I'm a full time investor and I'm facing the same situation as this message. My dad and my mom don't agree to see me investing in the stocks as a carrer. They think it's too risky. It's very difficult for me to explain them. I always explain them that I invest in the stocks not speculate but they still don't beleive. What should I do?

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 11:27 am
โดย ตาหมูอ้วน.
ผมก็อยากเป็นนักลงทุน แบบ full time ครับ

แต่คงรอให้เงินปันผลที่ได้รับ (ไม่รวม capital gain นะ) ที่ได้ cover ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อน

ตอนนี้ก็ทำงานไป ลงทุนไป มีความสุขกับการหารายได้จาก 2 ทางครับ

การไปถึงจุดหมายเร็ว (อิสรภาพทางการเงิน) เท่าไร ไม่ได้สำคัญมากไปกว่าเราได้ชื่นชอบความงามระหว่างทางที่เรากำลังจะไปครับ :)

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 11:53 am
โดย โอ@
เวลาจะบอกคำตอบให้กับทุกคนเองครับ

แรกๆก็ต้องทนไปหน่อย

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 11:55 am
โดย Saran
ที่ผมมาลงทุนในหุ้น เพราะอยากมีอิสรภาพทางการเงินในระดับหนึ่งครับ
จะได้มีเวลา+ทำงานในสิ่งที่ชอบ(ซึ่งมันเป็นงานที่ไม่ค่อยทำเงินเท่าไร)

ส่วนเรื่องจะเป็นนักลงทุน full time ถ้าไปคุยกับคนที่ไม่เคยศึกษาหุ้นมาก่อน
ก็จะเป็นยังงี้แหละครับ ผมเองยังเอามาบ่นในห้องนั่งเล่นเลย เหอๆ

แต่อย่าไปคิดมากเลยครับ ต้องคิดว่าคนที่เค้าไม่เห็นด้วย นั้นคือเค้าหวังดีกับเรานะครับ
อยากเป็น VI ต้องรู้จักอดทน แล้วให้เวลาเป็นบทพิสูจน์ครับ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 12:08 pm
โดย alexx
ไม่ต้องสนใจครับ  เค้าเตือนมาก็ถือว่าเค้าหวังดีกะเรา  สุดท้ายเวลาก็เป็นเครื่องตัดสิน อย่างที่คุณ โอ๊ตบอกละครับ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 12:25 pm
โดย bmw2681
wazzu เขียน:ถ้าคุณมีลูกชาย อายุราวๆ คุณ และลูกคุณขอไม่ทำงาน และเล่นหุ้นอย่างเดียว คุณจะมีวิธีอธิบายยังไง

ลูกคุณจะคิดยังไงถ้าคุณห้ามในสิ่งที่เค้าเชื่อ

คนที่ปราม บางครั้งก็ไม่ใช่ความไม่รู้ ไม่เข้าใจ เพียงแต่ความหวังดี ถูกมองเป็นความไม่เข้าใจ
ก็จะบอกให้เค๊าเริ่มต้นอย่างถูกวิธี
ขั้นแรกเค๊าต้องมีทุนก่อน แล้วจะหาจากไหนถ้าไม่ทำงาน ป๊าคงให้ได้ก้อนหนึ่ง (ผมเตรียมไว้แล้วส่วนหนึ่ง แต่คิดว่าคงกั๊กไม่ให้หมดหน้าตัก) เริ่มศึกษา แล้วลงทุน ผมว่าแบบนี้ก็น่าจะโอเคนะ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 12:35 pm
โดย สามัญชน
ผมว่า  นักลงทุน fulltime จะได้รับการยอมรับมากขึ้นในอนาคต  ซึ่งก็จะเป็นไปตามทฤษฎีการก้าวหน้าแบบเรขาคณิตเช่นเดียวกับเรื่องวิทยาการที่ใช้ช่วงเวลาน้อยลงเรื่อยๆในการก้าวผ่านแต่ละช่วงแต่ละยุค

มองย้อนไปในอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อนนั้น  สังคมไทยมีค่านิยม "สิบพ่อค้าไม่เท่าพระยาเลี้ยง" ซึ่งก็ดำเนินค่านิยมแบบนี้อยู่นานสองนาน

จนถึงยุค ร.5 ที่มีการปฏิรูปการปกครองแบบใหม่และก่อกำเนิดระบบราชการที่มีประสิทธิภาพ  สังคมไทยก็เริ่มเข้าสู่ยุคส่งลูกหลานเรียนหนังสือเพื่อให้เป็น "เจ้าคนนายคน"  ค่านิยมนี้ก็ฝังรากอยู่ในหัวใจของประชาชนมาตราบเท่าทุกวันนี้เช่นกัน

บ้านไหนที่ลูกหลานได้รับราชการจะถือเป็นความสำเร็จของครอบครัวหรือตระกูลเลยทีเดียว  เพราะอาชีพราชการนั้นมั่นคงมากและมีอำนาจมากด้วย  คนที่เป็นข้าราชการนอกจากจะได้รับความนับหน้าถือตาแล้วยังเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลสูงส่งด้วย (แม้ในปัจจุบันก็เชื่อว่ายังมีคนไม่น้อยที่ยังยึดติดและมุ่งมั่นในค่านิยมนี้อยู่)

จนเมื่อสักสิบหรือยี่สิบปีนี้เองที่ค่านิยมไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่อีกครั้ง  บางกลุ่มในสังคมเริ่มมองว่าระบบราชการเป็นระบบที่ล่าช้าอืดอาดและใหญ่เทอะทะ  แถมประสิทธิภาพในการทำงานเริ่มด้อยลงเรื่อยๆ  องค์กรใดก้ตามที่มีการบริหารในรูปแบบราชการมักจะสะท้อนมาที่ผลงานซึ่งไม่ค่อยได้รับการยอมรับเท่าที่ควร  และเริ่มมีรูปแบบรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชนเข้ามาเสริมจุดบอด  และรัฐถึงกับตั้งเป้าหมายที่จะปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่

ควบคู่ไปกับค่านิยมในการทำงานกับ "บริษัทเอกชน"เริ่มโดดเด่นและเป็นที่นิยมมากขึ้น  ปัญญาชนรุ่นหลังๆเลือกที่จะอยู่ในภาคเอกชนมากกว่าภาครัฐบาลด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่แค่เรื่องค่าแรงที่สูงกว่าเท่านั้นแต่ด้วยระบบที่ตอบสนองต่อ"ไฟในการทำงาน"ที่ดีกว่าด้วย

และโลกเราก็หมุนเวียนเปลี่ยนผันไปเรื่อยๆ  มีเกิดมีดับมีก้าวหน้ามีล้าหลังและมีแนวคิดใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา

บิลเกตต์ลาออกจากมหาวิทยาลัยซึ่งฝืนค่านิยมของสังคมอย่างรุนแรงก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในความฝันของคนรุ่นใหม่จำนวนไม่ใช่น้อยสำหรับการคิดที่แตกต่าง

ดังนั้นความสำเร็จของผู้ที่เป็น fulltime จากการเป็นนักลงทุนจะเป็นอีกก้าวกระโดดหนึ่งของค่านิยมในอนาคต  ถ้านักลงทุนสามารถประสบความสำเร็จได้จริงนะครับ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 12:49 pm
โดย สามัญชน
wazzu เขียน:ถ้าคุณมีลูกชาย อายุราวๆ คุณ และลูกคุณขอไม่ทำงาน และเล่นหุ้นอย่างเดียว คุณจะมีวิธีอธิบายยังไง

ลูกคุณจะคิดยังไงถ้าคุณห้ามในสิ่งที่เค้าเชื่อ

คนที่ปราม บางครั้งก็ไม่ใช่ความไม่รู้ ไม่เข้าใจ เพียงแต่ความหวังดี ถูกมองเป็นความไม่เข้าใจ
คำถามว่าจะมีวิธีอธิบายอย่างไรนั้น  ถ้าในมุมมองของการทำงานของแพทย์  เราเรียกว่า jump to treathment ครับ  คือเราเริ่มที่จะให้การรักษาไปแล้ว ซึ่งผิดขั้นตอน  

เราควรที่จะ "วินิจฉัยโรค"ให้ได้เสียก่อน  การรักษาโดยไม่วินิจฉัยนั้นอันตรายมากครับและมีโอกาสผิดสูง  และยังก่อให้เกิดความทุกข์ทั้งสองฝ่าย  บางทีเป็นความระหองระแหงระหว่างพ่อกับลูกไปเลยเพราะจูนไม่ตรงกัน

วิธีการวินิจฉัยก็ต้องถามก่อนว่า  ที่จะไปเล่นหุ้นอย่างเดียวนั้นมีอะไรที่เชื่อได้ว่าจะประสบผลสำเร็จ  ลองพูดแนวคิดหลักให้ฟังหน่อยสิลูกรัก  พร้อมทั้งขอพยานและหลักฐานด้วยนะลูกพ่อ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 1:53 pm
โดย August
ผู้นำต้องกล้าที่จะแตกต่าง
และจะต้องพบกับแรงเสียดทานสูงมากๆ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 2:08 pm
โดย odacroniandevil
ให้กำลังใจแด่ผู้อยากเป็นนักลงทุน full time ทุกท่าน
แต่ผมไม่อยากเป็นนักลงทุนแบบ full time เลยครับ รู้สึกกดดัน

ได้ทำงานที่ตัวเองชอบ ได้เอาเงินที่หาได้มาหาเงินให้อีกที ก็ความสุขแล้วครับ
ถ้าถึงเวลาที่มีอิสระทางการเงินจริงๆเมื่อไร ก็คงหาไรทำต่อไปอยู่ดีคับ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 2:19 pm
โดย Boring Stock Lover
ผมว่าการทำงานทำให้เล่นหุ้นดีขึ้นนะ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 2:27 pm
โดย dome
ผมว่าเราสามารถลงทุนได้ตลอดชีวิต และชีวิตก็ไม่ใช่ยึดติดแค่ลงทุนในหลักทรัพย์ ใน24ชม.คนที่เป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่าจริงๆ ผมว่าสามารถ ใช้เวลาที่มีคุณค่านี้ได้ตลอด คงไม่ใช่เฉพาะเวลาเทรดหุ้นแค่5ชม. และเวลาหุ้นขึ้นทุกคนที่มีหุ้นอยู่จะบอกว่าดีหมด แต่ตอนมันตกต่ำแบบหลายๆปี ผมก็เห็นหลายคนไม่สามารถถือแบบเจ้าของกิจการได้ตลอด ตัวผมเองคิดว่า รายได้ส่วนหนึ่งมาจากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ รู้สึกอุ่นใจมากเวลาหุ้นตกนานๆ ก็ค่อยๆเอาค่าเช่ามาหาหุ้นดีๆที่หลายคนเอามันมาทิ้งได้ตลอด ที่สำคัญที่สุดผมจะมีเงินสดไว้ส่วนหนึ่งเสมอ เพื่อจังหวะและโอกาสอันดีครับ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 2:30 pm
โดย akekarat
ผมคิดว่าเราต้องเปิดใจยอมรับความคิดเห็นทั้งในแง่บวกและลบครับ คนเราต่างคิดไม่เหมือนกัน สิ่งที่เค้าแสดงออกมาให้เราไม่ได้หมายความว่า เค้าไม่เค้าใจเรา แต่เราต่างหาก ที่ไม่เข้าใจว่าเค้าต้องการสื่ออะไร

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 3:01 pm
โดย LOSO
ผมว่า สุดท้ายแล้วให้ผลงานพิสูจน์ตัวเองดีกว่า ..............

แต่ต้องมั่นใจนะ ว่าคุณสามารถทําให้performanceของคุณดี .............

ไม่งั้นละก้อ โดนยําเหมียนกัน ...........

" กรูเตือนมรึงแล้ว  เป็นไง   ไม่ฟัง  เจ๊งหมดตูดแล้ว  แล้วนี่ลูกเมียจะเอาอะไรกิน" และอีกสารพัดคําสรรเสริญที่จะตามมา .........

แต่ผมว่าจุดสําคัญมันไม่ได้อยู่ที่ Full  time หรือ Part time .............

ผมเชื่อว่า Part timeที่ศึกษาให้รู้จริง รู้ลึก รู้เร็วและมีการตัดสินใจที่ดี จะมีperformaneที่ดีกว่า Full time ที่ไม่ศึกษา  ไม่ทําการบ้านจริงจังครับ ...........

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 3:46 pm
โดย mprandy
ผมว่าถ้าเราไม่ได้เกิดมาพร้อมกับทุนหนา ทุกคนคงต้องทำงานกันก่อนครับ หาทุนรอนเพื่อเอาไปลงทุน แต่พอพบกับอิสระภาพทางการเงินแล้ว อย่างนี้เราจะทำอะไรก็ได้ครับ

You have to love what you do กับ You can do what you love มันต่างกันมากครับ

ถึงผมจะถึงจุดที่มีอิสระภาพทางการเงิน ผมก็คงไม่ทิ้งงานเพื่อไปเป็นนักลงทุนเต็มเวลาอยู่ดี (ยกเว้นว่านั่นคือสิ่งที่คุณรักแบบ Buffet) แต่คงทำสิ่งที่ตัวเองชอบ เช่น ทำงาน part time เอาเวลามาสอนหนังสือ เขียนหนังสือ ทำงานวิจัยในด้านที่ตัวเองสนใจ หรือไปถ่ายรูป (เคยอยากเป็นนักถ่ายภาพธรรมชาติมืออาชีพ) ท่องเที่ยวธรรมชาติ

มีเพื่อนต่างวงการ เอาไว้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น คุย เที่ยว กิน ฯลฯ โลกทรรศน์ไม่แคบดี  :D

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 4:11 pm
โดย earnfinal
ความเห็นไม่ตรงกันก็ถูกแล้ว ถ้ามาเล่นหุ้นกันหมดแล้วใครจะทำงานอะ จิงมั้ย อิอิ

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 7:15 pm
โดย bankniti
ของผมกำลังหาเปิดร้านค้าขาย แต่พ่อแม่บอกว่าให้ทำเป็นอาชีพเสริม ส่วนอาชีพหลักอยากให้ลงทุนในหุ้น เดี่ยววิชาแก่กล้ากว่านี้จะฝากเงินให้ไปลงทุนให้ด้วย ดีใจที่พ่อแม่เข้าใจและสนับสนุน :D

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 7:52 pm
โดย chut
ฮง กำไร SE-EDกับ CP7-11มาเยอะ ก็ไม่อยากทำงานแล้วเหรอ
แซวเล่นนะ  :lol:

ผมเจอสถานการณ์แบบนี้มาเหมือนกัน
ผมว่าวิธีหนึ่งที่ดี คือ ใช้เงินของตัวเองมาลงทุนครับ
การขอยืมเงินพ่อแม่มาลงทุน แม้จะมี financial leverage มาก แต่ก็ต้องพบกับข้อครหาและข้อคัดค้านมากมาย

ในทางกลับกัน ถ้าเงินลงทุน เป็นเงินที่เราเก็บออมเอง แม้จะใช้เวลานาน กว่าจะเป็น fulltime investor ได้
มันเป็นสิทธิของเราที่จะนำเงินออมไปใช้อะไรก็ได้ ซึ่งระยะเวลาสัก 5-10 ปี จะช่วยยืนยันความคิดของเรา ว่าหลักการที่เราใช้ มันได้ผลจริงหรือไม่

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 16, 2007 1:08 am
โดย GTA
ของผมไม่มีใครบอกว่าไม่เห็นด้วยตรงๆนะ
แถมเพื่อนยังชอบบอกว่าน่าอิจฉา งานสบาย มีเวลาไปไหนมาไหน

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 16, 2007 2:19 am
โดย shinnozuke
ผมเล่นหุ้นแบบ full time แต่เวลาใครถามเรื่องงาน ผมจะบอกว่าว่างงาน ตกงาน อยู่เฉยๆ ประมาณนี้อะ
คิดว่าแบบนี้ไม่เรื่องมากดี
      8)

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 16, 2007 9:26 am
โดย setmaker
จากที่ผมได้ลองคุย ลองถาม กับเพื่อนๆ ผม ซึ่งไม่เคยลงทุนในหุ้นมาก่อน
ผมได้คำตอบที่ไม่ตรงกับใจ

เพื่อน จบ ม.3 คิดว่า "การซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์คือการลงทุน"
เพื่อนที่เรียน ราม 8 ปี แต่ไม่จบ คิดว่า "การซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์คือการลงทุน"
พี่ชาย เรียนได้แค่ ม.2 คิดว่า "การซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์คือการลงทุน"

ไม่ยักกะมีใครคิดว่า คือการพนันแฮะ

ผมว่าทัศนคติของคนทั่วๆ ไป กับการซื้อหุ้น เริ่มเปลี่ยนไปมากแล้วล่ะครับ
:D

นักลงทุน full time

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 16, 2007 9:49 am
โดย vivitawin
wazzu เขียน: คนที่ปราม บางครั้งก็ไม่ใช่ความไม่รู้ ไม่เข้าใจ เพียงแต่ความหวังดี ถูกมองเป็นความไม่เข้าใจ
:bow:  :bow: