หน้า 1 จากทั้งหมด 2

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 03, 2007 9:51 pm
โดย PP
นั่งฟัง Monish Pabrai ให้สัมภาษณ์ Justin Fuller ตามลิงค์ที่ผมโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้ http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=27004

หัวเรื่อง: A Buffett Disciple Shares His Secrets
http://video.morningstar.com/video/vide ... d=wwhome2v

ไม่ทราบสมาชิก TVI ท่านใดฟังกันมากน้อยบ้างไหมครับ ?

ผมเอง....นั่งฟังแล้วฟังอีกหลายๆเที่ยว   ...แล้วนำมาไตร่ตรองพิจารณาเทียบกับหุ้น" BROCK" ตามข้อมูลที่อ่านจากหลายๆที่และรวมทั้งข้อมูลใน"ร้อยคนร้อยหุ้น"ที่บรรดา VI ผู้เก๋าเกมล์ทั้งหลายถกเถียงกันแล้ว  สรุปออกมาบอกได้คำเดียวว่า  BROCK เป็นหุ้นประเภท low risk, high uncertainty อย่างที่ Monish พูดไว้ไม่ผิดเลยแฮะ !  

ที่ว่า low risk : วิเคราะห์แค่ asset อย่างเดียวอย่างหยาบที่สุดตามที่คุณ yoyo แจงไว้ใน ร้อยคนฯ ดังนี้
yoyo เขียน: ....ลองทบทวน asset ของ brock กันดูดีกว่า จะได้เป็นการทวนให้ตัวผมเองไปด้วย เพราะผมเองก็จำไม่ค่อยได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง (จำได้แต่ที่ภูเก็ต   )

1. ที่ดินบริเวณบายพาส 211 ไร่ ... ตรงนี้ผมถามญาติผมเค้าว่าน่าจะไร่ละ 10 ล้าน Up รวมมูลค่า 2110 ล้าน
2. ที่ดินแหลมยามู 507 ไร่ ติดหาดประมาณ 2 กิโล ... ถามญาติมาเหมือนกัน เค้าว่าที่ประมาณ 4 ล้าน ส่วนที่ติดหาดอาจจะเพิ่มไปได้ถึง 8-10 ล้าน ผมตีให้ต่ำๆ ไว้ก่อนที่ 4 ล้านต่อไร่ละกัน รวมมูลค่า 2028 ล้าน
3. ที่ดินซอยวัชรพล แถวทางด่วนรามอินทรา กม. 5.5 ใกล้ทางด่วนรามอินทรา 3 ไร่หน่อย มูลค่าไม่รู้ ....
4. ที่ดินใกล้สุวรรณภูมิ (ซ. บางเทศธรรม ต. ศรีษะจรเข้น้อย จ. สมุทรปราการ) 32 ไร่ มูลค่าไม่รู้เช่นกัน แต่กำลังทำโครงการบ้านและทาวน์เฮ้ามูลค่า 525 ล้าน
5. ที่ดินบ้านเพ (ถ. สุขุมวิท ลักษณะเป็นที่ราบเนินเขา อยู่ใกล้ทะเล มองเห็นวิวทะเล) 104 ไร่ มูลค่าไม่รู้ ...

ลองรวมเท่าที่รู้ข้อมูลคร่าวๆคือ 1 และ 2 ได้ 4138 ล้าน เงินสด 200 ล้าน หนี้ทั้งหมด 50 ล้าน สุทธิแล้ว 4,288 ล้าน Market Cap ตอนนี้ 1,180 ล้าน
ขี้หมูขี้หมามูลค่าตรงนี้ก็ 4.288 บาท/หุ้นเข้าไปแล้ว  หรือเอาแค่ 50% ก็ 2.144 บาท/หุ้น  ซึ่งก็ยังสูงกว่า ราคาล่าสุด 1.34 บาทต่อหุ้น (3 ส.ค.50)  นั่นคือ ถ้าบริษัทไปไม่ไหว ยังไงเราก็ยังได้เงินคืนจากการขายทอดตลาด asset เหล่านี้แน่ๆ

ที่ว่า high uncertainty: เนื่องด้วยบริษัทมีโครงการณ์ใหญ่โตมโหฬารที่จะทำในอนาคตอันใกล้และไกลเยอะแยะลายหูลายตาไปหมด ทำให้มี range ความไม่แน่นอนอยู่กว้างมาก  ...นับตั้งแต่สำเร็จพอประมาณ ... ไปจนถึงสำเร็จมากๆ กำไรเยอะแยะ เพราะอาศัยมืออาชีพของบริษัทจากสวีเดนมาเป็นคู่ค้าร่วมลงทุน

ฉะนั้นถ้าผลของการเสี่ยงแทงเข้าลงทุนออกมาเป็น "หัว"  นั่นคือ กำไรงดงาม  แต่ถ้าปรากฏออกมาเป็น"ก้อย" การลงทุนในหุ้นนี้ก็แค่เสมอตัว หรือเสียนิดๆหน่อยๆ  เท่ากับปิดประตูเสียและยากมากที่จะเป็นอย่าง N-Park

ท่านใดได้ฟังบทสัมภาษณ์ข้างบนดังกล่าวแล้วเห็นเป็นอย่างอื่นช่วยวิจารณ์เพิ่มเติมด้วยนะครับ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 03, 2007 10:38 pm
โดย yoyo
:shock:

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 03, 2007 11:48 pm
โดย yn
ค่อนข้างจะเห็นด้วยครับ จริงๆผมว่าถ้าบางคนจะบอกว่า high risk ก็ไม่น่าผิด.. เพราะ high uncertainty ถ้าผลประกอบการไม่เป็นไปตามที่คิดกันไว้ จากเวลาที่ต้องถือก็อาจจะทำให้สูญเสียโอกาสมูลค่ามหาศาลไปได้เหมือนกัน

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 12:03 am
โดย woody
ต้องเริ่มที่คำนิยามครับว่า uncertainty กับ risk ต่างกันอย่างไร

สำหรับผม risk นั้นคือความเสี่ยงที่บริหารจัดการได้ด้วยวิธีต่างๆ อย่างเช่นเรื่องค่าเงินก็อาจทำ hedge ไว้

แต่ uncertainty นั้นคือความเสี่ยงที่อยู่นอกเหนือการควบคุมครับ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 8:06 am
โดย Rocker
Asset play ถ้าไม่ขายสินทรัพย์ออกมาเป็นเงินสด ผู้ถือหุ้นก็แทบจะไม่ได้อะไร
ลองกลับไปอ่าน Peter Lynchดูสิ บอกหมดสาเหตุ :(
ใครเคยฟังพี่chatchaiพูดถึง กรณี ที่ซื้อแมนดารีน น่าจะเข้าใจ :shock:

มีคนที่เล่นasset play ถ้าจะเล่นต้องรู้จริงต้องเอาความแน่นอนเป็นที่ตั้ง

:?

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 8:23 am
โดย Pn3um0n1a
ก็น่าจะจริงนะครับ

ทุกอย่างไม่มีความแน่นอน 100% อยู่แล้ว

แต่ high uncertainty มั้ย คงต้องประเมิณกันเอง

การจับมือกับ บ ต่างชาติแล้ว น่าจะ ใช้ asset ได้
แต่ได้หรือไม่ ก็ไม่แน่นอน 100% คงต้อง คำนวณความเสี่ยงกันเอาเอง
ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าจับมือกันแล้ว บ ต่างชาติ เค้าอยากได้ที่ไปทำมากๆ อยู่แล้ว เพราะเค้าทำตรงนั้นสำเร็จมาแล้ว ถึงขั้นมาขอซื้อที่ต่อเลย แต่ brock ไม่ขายให้ ดังนั้นเมื่อร่วมทุนกันแล้ว ตัว บ นั้นคงเป็นฝ่ายเร่งปฏิกิริยามากกว่า
ทำให้ผมคิดว่าการเอา asset ตรงนั้นมาใช้ได้มากขึ้น (มากกว่า brock ทำเอง)
และอีกข้อคือ ใครเป็นเจ้าของที่นั้นเองก็ตาม จะขายที่มั้ยครับ? ถ้าทำให้เกิดกำไรในช่วงที่ ภาษีถูก ในช่วง 4-5 ปีนี้ เรื่องอะไรต้องไปขายตอนที่จ่ายภาษีแพงๆ?

แต่ก็อาจมีความเสี่ยงหลายๆ อย่างที่ brock จะไม่ทำ (ไม่รู้เหตุผลว่าจะจ่ายภาษีแพงขึ้นอีก 5% ทำไม ในเมื่อ 5% นั้น ก็เป็นเงิน 100-150 ล้านบาท :shock: )

แต่ก็ไม่แน่นอนหรอกครับ จะตีว่า high หรือ ไม่ high ก็แล้วแต่คนครับ  8)

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 9:24 am
โดย PP
woody เขียน:ต้องเริ่มที่คำนิยามครับว่า uncertainty กับ risk ต่างกันอย่างไร

สำหรับผม risk นั้นคือความเสี่ยงที่บริหารจัดการได้ด้วยวิธีต่างๆ อย่างเช่นเรื่องค่าเงินก็อาจทำ hedge ไว้

แต่ uncertainty นั้นคือความเสี่ยงที่อยู่นอกเหนือการควบคุมครับ
คำถามนี้ Justin ก็ตั้งขึ้นให้ Monish ช่วยอธิบายตามความเห็นของเขาว่า ความไม่เหมือนกันระหว่าง "risk" กับ "uncertainty"เป็นเช่นใด

ในความเห็นของ Justin ความเห็นของเขา กับคำว่า "risk" หมายถึง ความเสี่ยงกับการที่จะต้องเสียเงินลงทุนไปแบบหายวับไปกับตา ทั้งหมด หรือ ส่วนใหญ่ หรือ บางส่วน  ส่วนคำว่า "uncertainty" หมายความถึง ความถึงความเอาแน่เอานอนไม่ของมูลค่าที่ประเมินออกมาได้ มักแตกต่างกันไปตามวิธีการที่จะใช้ประเมิน ตลอดจนปัจจัยประกอบอื่นๆ ได้แก่ PE หรือ PEG หรือ  DCF  ฯลฯ เป็นต้น

คราวนี้มาฟังความเห็นของ Monish เกี่ยวกับความไม่เหมือนกันระหว่าง "risk" กับ"uncertainty"  โดยเขายกกรณีของ Microsoft ขึ้นมาอธิบาย   โดยในช่วงเริ่มต้นของ Microsoft ทั้งบิล เกตต์ และ พอล อัลเลน  มีความเสี่ยงต่ำ(low risk)มากกับการเริ่มลงทุนธุรกิจของเขาทั้งสอง   เพราะไม่ต้องใช้ทุนรอนอะไรมากมายเลย .....แค่เอาแรงกายกับมันสมองเข้าแลก ไม่ต้องมีค่าแรงสูงๆเป็นแสนเหรียญต่อเดือนที่จะต้องจ่ายแก่แก่ผู้บริหาร   แต่สำหรับเขาทั้งสองมีความ uncertainty สูงมาก เพราะวิสัย หรือ range ที่จะเกิดขึ้นเป็นไปได้ทั้งสองขั่ว ขั่วต่ำสุด ก็คือล้มละลายหากธุรกิจล้มเหลว  และอีกขั่วที่สูงสุด คือ การเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลกกรณีเมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จ และเขาทั้งสองก็ไม่ได้อึดอัดกับสภาวะ low risk, high uncertainty ดังกล่าว   ก้อถือว่าเขาทั้งสองโชคดีที่ประสบความสำเร็จดังที่ปรากฏเช่นปัจจุบัน   สรุปประเด็นคือ ในความ uncertainty ก้อมีโอกาสของการจะได้รับรางวัลเป็นผลตอบแทนที่สูงสุดสอย ขณะเดียวกันก็มี low risk เป็นเกราะคุ้มกัน

ไม่ทราบงงกันหรือเปล่า ผมเองก็งงตั้งนานเหมือนกันกับคำดังกล่าว :lol:  :lol:  :lol:    .......ไงลองๆเอามาเทียบเคียงกับกรณี BROCK ดูนะครับ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 9:42 am
โดย PP
Rocker เขียน:Asset play ถ้าไม่ขายสินทรัพย์ออกมาเป็นเงินสด ผู้ถือหุ้นก็แทบจะไม่ได้อะไร
ลองกลับไปอ่าน Peter Lynchดูสิ บอกหมดสาเหตุ :(
ใครเคยฟังพี่chatchaiพูดถึง กรณี ที่ซื้อแมนดารีน น่าจะเข้าใจ :shock:

มีคนที่เล่นasset play ถ้าจะเล่นต้องรู้จริงต้องเอาความแน่นอนเป็นที่ตั้ง

:?
เคยอ่านข้อมูลจาก ASIA Plus Securities ฉบับ 28 ธ.ค.49 บอกว่าที่ดิน 506 ไร่ หน้ากว้างติดชายทะเลยาวตั้ง 2 ก.ม.ราคาประเมิน 1.7 ล้านบาท/ไร่   เคยมีคนเสนอซื้อ 3 ล้าน /ไร่ และก็ตอบปฏิเสธไป(ไม่ทราบเป็นรายเดียวกับที่คุณPn3um0n1aโพสต์ไว้หรือเปล่า ?)     ผมว่าแค่นี้ก็น่าจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นมี low risk ไม่มากก็น้อย

ของผมเสริมอีกหน่อย  ชายหาดแถบด้านนี้ที่ยาวตั้ง 2 ก.ม.นี้ยังมีจุดขายที่เด่นกว่าผั่งอันดามัน ก็คือ ผลกระทบจาก Tsunami ถ้าจะเกิดขึ้นอีก ต่ำมากๆๆๆๆๆ   ฝรั่งที่จะมาซื้อน่าจะอุ่นใจที่จะมาพักผ่อนอาศัยที่นี่ :D

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 11:07 am
โดย Radio
ผมเห็นด้วยกับคุณ ROCKER ที่ว่าถ้าบริษัทไม่ขายสินทรัพย์ออกมา
ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้อะไรเลย ในตลาดหลักทรัพย์มีหลายบริษัทที่มี
ทรัพย์สิน+กระแสเงินสด+Retained earning มากกว่า Market Cap
เช่น METCO ทรัพย์สิน( 8984 ล้าน),กระแสเงินสด( 1207ล้าน)
Retained earning(4564 ล้าน),ลบด้วย หนี้สิน(2628 ล้าน)=12127ล้าน
ซึ่งมากกว่า Market Cap(4488ล้าน) มากๆ แต่ไม่มีคนสนใจ ราคาหุนไม่ไปไหน
ผู้ถือหุ้นเสียโอกาส,เสียเวลามากๆ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 11:50 am
โดย Raphin Phraiwal
ในความคิดส่วนตัวของผม

Asset ของบริษัทนี้ (ที่ดิน) คือสินค้าของบริษัท หรือถ้าจะเรียกให้ถูก ก็คือวัตถุดิบของบริษัท ช้าหรือเร็ว บริษัทก็ต้องนำมา unlock อยู่ดี (เพราะว่าบริษัทนี้ขายทำเลของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้น) ผมว่า บริษัทนี้ถ้าจะเรียกให้ถูก ควรจะเรียกว่า Raw Material Play มากกว่า Asset Play ครับ

ถ้าเราเปรียบเทียบกับ SSC หรือ เป็ปซี่ ที่มีที่ดินราคาแพงติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็น asset ชิ้นหนึ่ง แต่ asset ชิ้นนั้นจำเป็นต่อการผลิต เขาไม่จำเป็นที่จะ unlock เพราะเขาหากินกับการขาย เป็ปซี่ ไม่ใช่ขายที่ดิน ถ้าเราหวังให้เขา unlock asset ชิ้นนี้ เราอาจต้องรอไป forever เลยครับ

ผมว่า Keyword ของ BROCK น่าจะอยู่ที่คำว่า "ช้าหรือเร็ว" มากกว่าครับ

ผิดถูกช่วยชี้แนะด้วยครับ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 12:19 pm
โดย ลูกอิสาน
Raphin Phraiwal เขียน:ผมว่า Keyword ของ BROCK น่าจะอยู่ที่คำว่า "ช้าหรือเร็ว" มากกว่าครับ

ผิดถูกช่วยชี้แนะด้วยครับ

อีก Keyword คือจะ unlockตูมเดียวเลย 500 ไร่หรือออกกระปิดกระปรอยทีละ 30-40 ไร่ ผลลัพธ์คงต่างกันมาก

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 2:35 pm
โดย DeepTVI
ลูกอิสาน เขียน:
อีก Keyword คือจะ unlockตูมเดียวเลย 500 ไร่หรือออกกระปิดกระปรอยทีละ 30-40 ไร่ ผลลัพธ์คงต่างกันมาก
unlock ที่เดียว 500 ไร่เป็นผลดีมากในระยะสั้นๆ
แต่ปล่อยออกมาที่ละ 30-40 ไร่อาจจะเป็นผลดีในระยะยาวได้นะครับ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 3:36 pm
โดย Luty97
ช่วยเพิ่มข้อมูลในฐานะคนที่ได้ไป Com Visit นะครับ  :P

Low Risk อันนี้ทุกคนคงเห็นด้วย
Hi uncertainty นี้ผมว่าแต่ละคนคงรู้สึกไม่เท่ากัน ถ้าคนที่รู้ข้อมูลน้อย ก็จะมีความไม่แน่นอนสูง แต่เมื่อใดก็ตามที่คนรู้ข้อมูลมากขึ้นหรือบริษัทมี Plan ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ความไม่แน่นอนนี้ก็จะเริ่มลดลง

ส่วนเรื่อง Unlock สินทรัพย์ที่เป็น Key ของตัวนี้

- จะเป็นการขายเข้ากิจการค้าร่วมเป็นระยะๆไม่ใช่ตูมเดียวครับ โดยผู้บริหารบอกว่าผู้ร่วมลงทุนจะทยอยทำโครงการจึงขอให้ทยอยนำที่ดินเข้ามา เพื่อที่เค้าก็จะไม่ต้องนำเงินมาจมทีเดียว

- และข้อดีอีกข้อคือหลังจากโครงการแรกที่เป็นโรงแรม 6 ดาวสร้างเสร็จแล้ว
มูลค่าที่ดินที่เหลือราคาย่อมสูงขึ้น

- ประเด็นที่กลัวเรื่อง Unlock ถ้าไม่ขายก็ไม่มีประโยชน์
     ก็ชัดเจนแล้วว่าที่ดินทั้งหมดอย่างช้าต้องขายเข้ากิจการร่วมภายในปี 2554 เพื่อประโยชน์ทางภาษี

เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมผมว่าลองประเมินว่า ทุกโครงการขายปี 2554 แล้วคิดลดมูลค่ามาเป็นปัจจุบัน
ราคาหุ้นตอนนี้ ผมว่าก็ยังมีMargin of safety อีกเยอะเลยนะครับ  :wink:

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 9:06 pm
โดย naris
เห็นด้วยกับพี่ระพินสุดหล่อว่า asset play ของBROCKต่างจากSSCและอีกหลายบริษัท เพราะเขาเข้าตลาดเพื่อต้องการการปลดปล่อยทรัพย์สินที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ให้เขาได้รับผลประโยชน์สูงสุด นั่นหมายความว่าเขาต้องขายที่ดินแน่นอน แต่เมื่อไหร่เท่านั้นเอง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ความเสี่ยงณ.ราคานี้ที่พอมองเห็นคือ
-เรื่องระยะเวลาที่บริษัทจะปลดปล่อยนำแบงค์ร้อยของตนเองไปแลกแบงค์พันในมือคนซื้อ และคำถามที่ต้องถามตามมาคือจะมีคนมาแลกได้มากน้อยเท่าไหร่จากความสามารถของผู้ร่วมทุนชาวสวีเดน(ที่ต้องยอมรับความเป็นมืออาชีพจากโครงการที่ผ่านมาของเขา)
-เรื่องภาพรวมของธุรกิจอสังหาในประเทศไทย(ทั้งความเชื่อมั่น+นโยบายรัฐ+ค่าเงินบาท)
-เรื่องจังหวะการลงทุน(timing)สำหรับนักลงทุน เพราะการรับรู้รายได้ปีนี้ยังน้อย กำไรคร่าวๆปีนี้น่าจะราวๆ85-100ล้านบาท จากดูยอดpresaleรอโอน และในไตรมาส2ที่จะประกาศงบ ผู้บริหารก็เคยให้ข่าวทางเวบว่ารายได้ไตรมาส2คงราวๆไตรมาส1แต่จะมากขึ้นในไตรมาส3และ4 ซึ่งทำให้กำไรดูไม่น่าตื่นเต้นในปีนี้ ถ้าราคาหุ้นยังขึ้นไปสูงๆอาจทำให้มีคนติดดอยในระยะหนึ่งได้

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 04, 2007 10:35 pm
โดย hongvalue
[quote="naris"]เห็นด้วยกับพี่ระพินสุดหล่อว่า asset play ของBROCKต่างจากSSCและอีกหลายบริษัท เพราะเขาเข้าตลาดเพื่อต้องการการปลดปล่อยทรัพย์สินที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ให้เขาได้รับผลประโยชน์สูงสุด นั่นหมายความว่าเขาต้องขายที่ดินแน่นอน แต่เมื่อไหร่เท่านั้นเอง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ความเสี่ยงณ.ราคานี้ที่พอมองเห็นคือ
-เรื่องระยะเวลาที่บริษัทจะปลดปล่อยนำแบงค์ร้อยของตนเองไปแลกแบงค์พันในมือคนซื้อ และคำถามที่ต้องถามตามมาคือจะมีคนมาแลกได้มากน้อยเท่าไหร่จากความสามารถของผู้ร่วมทุนชาวสวีเดน(ที่ต้องยอมรับความเป็นมืออาชีพจากโครงการที่ผ่านมาของเขา)
-เรื่องภาพรวมของธุรกิจอสังหาในประเทศไทย(ทั้งความเชื่อมั่น+นโยบายรัฐ+ค่าเงินบาท)
-เรื่องจังหวะการลงทุน(timing)สำหรับนักลงทุน เพราะการรับรู้รายได้ปีนี้ยังน้อย กำไรคร่าวๆปีนี้น่าจะราวๆ85-100ล้านบาท จากดูยอดpresaleรอโอน และในไตรมาส2ที่จะประกาศงบ ผู้บริหารก็เคยให้ข่าวทางเวบว่ารายได้ไตรมาส2คงราวๆไตรมาส1แต่จะมากขึ้นในไตรมาส3และ4 ซึ่งทำให้กำไรดูไม่น่าตื่นเต้นในปีนี้ ถ้าราคาหุ้นยังขึ้นไปสูงๆอาจทำให้มีคนติดดอยในระยะหนึ่งได้

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 1:11 am
โดย BLACK-NINJA
ไม่เป็นไร  ถ้าจะ :doi:  ก็รับ dividen payment ไปแล้วกัน  แล้วใครไป company visit ช่วยบอกหน่อยครับว่านโยบายปันผลเปลี่ยนแปลงหรือไม่

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 1:45 am
โดย Pn3um0n1a
[quote="BLACK-NINJA"]ไม่เป็นไร

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 4:19 am
โดย Rocker
ลองทํา reproduction cost ดูคร่าวๆนะ มูลค่า2-3เท่าของราคาปัจจุบันเลย
แต่ต่อเมื่อ unlockหมดแล้วนะ+รับรู้ตามส่วนได้เสียนะ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 9:19 am
โดย naris
[quote="BLACK-NINJA"]ไม่เป็นไร

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 10:12 am
โดย PP
Radio เขียน:ผมเห็นด้วยกับคุณ ROCKER ที่ว่าถ้าบริษัทไม่ขายสินทรัพย์ออกมา
ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้อะไรเลย ในตลาดหลักทรัพย์มีหลายบริษัทที่มี
ทรัพย์สิน+กระแสเงินสด+Retained earning มากกว่า Market Cap
เช่น METCO ทรัพย์สิน( 8984 ล้าน),กระแสเงินสด( 1207ล้าน)
Retained earning(4564 ล้าน),ลบด้วย หนี้สิน(2628 ล้าน)=12127ล้าน
ซึ่งมากกว่า Market Cap(4488ล้าน) มากๆ แต่ไม่มีคนสนใจ ราคาหุนไม่ไปไหน
ผู้ถือหุ้นเสียโอกาส,เสียเวลามากๆ
ผมไม่เคยศึกษากลุ่มอิเลคโทรนิคเลย ...จึงยังไม่เข้าใจกลุ่มนี้เลย  ส่วนที่ยกข้อมูลขึ้นมาอ้างอิง  โดยเฉพาะที่ว่า...ราคาไม่ไปไหน......อาจเป็นเพราะหุ้นนี้จัดอยู่ในจำพวก low risk, และ low uncertainty นั่นก็คือ ความเสี่ยงไม่มี แต่ไม่ค่อยมีอะไรให้ลุ้น(เป็นแบบอย่างงั้นๆ)หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ คนเลยไม่สนใจ   หรือ อาจเป็นไปได้ว่าคนยังมองไม่เห็นมูลค่าก็ได้ ต้องไปศึกษารายละเอียดแล้วลองประเมินมูลค่าดูอีกที

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 11:10 am
โดย PP
Raphin Phraiwal เขียน:....................................................
........................................................................
........ Keyword ของ BROCK น่าจะอยู่ที่คำว่า "ช้าหรือเร็ว" มากกว่าครับ

.................................
"ช้าหรือเร็ว" ก็คือ ช่วงระยะเวลาที่ต้องรอคอย :)  :)  :)

Pabrai พูดไว้ดีนะครับว่า  เวลา คือ อาวุธประจำกายของ VI จากหลายๆสรรพวุธที่อยู่ในคลังอาวุธของตน ได้แก่ ความมั่นคงในอารมณ์(Temperamence), กันชนสำหรับความเสี่ยง(Margin Of Safety) ฯลฯ เป็นต้น   ที่สำคัญ ..เวลาที่ต้องรอ...จะต้องประสานสัมพันธ์กันคุณภาพของธุรกิจ เพราะเวลาเป็นเพื่อนที่แสนดีกับธุรกิจที่ยอดเยี่ยม(wonderful business) แต่เป็นศัตรูตัวฉกาจกับธุรกิจที่ยอดแย่(lousy business)

คราวนี้ต้องมาตามดูว่า BROCK ลงทุนร่วมกับคู่ค้าสวีเดนแล้ว ผลที่ได้เป็น wonderful business จริงหรือเปล่า    ถ้าผลออกมาไม่เป็นดังคาดหวัง เราก็.....ต้องบ๊ายบ่าย  ไม่ต้องรอ forever ก็ได้

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 11:24 am
โดย Blueblood
เท่าที่ผมไปฟังมากับเพื่อนๆ ผมว่าแผนการเปิดโครงการต่างๆของเค้า(เพื่อ unlock asset) ค่อนข้างชัดเจนและให้ความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นพอสมควรเลยครับ

คิดไปคิดมายังงงๆว่าทำไมผมยังไม่มีเนี่ย  :lol:

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 11:46 am
โดย PP
DeepDown เขียน:

unlock ที่เดียว 500 ไร่เป็นผลดีมากในระยะสั้นๆ
แต่ปล่อยออกมาที่ละ 30-40 ไร่อาจจะเป็นผลดีในระยะยาวได้นะครับ
อันนี้แหละจึงเป็นที่มาของคำว่า "high uncertainty"  นั่นคือ มีให้ลุ้นแบบสุดๆของความตื่นเต้น   โดยมี low risk ที่เป็นตาข่ายรองรับอยู่ข้างใต้เส้นลวดขึงที่ผู้ลงทุนขึ้นไปเดินไต่อยู่ (liquidating value สูงกว่าราคาในตลาด) -- ณ ราคาปัจจุบันนะครับ  แต่ถ้าราคาวิ่งไปเกินกว่า liquidating value แบบที่ Mr Market ออกอาการใจถึงเกินขอบเขตที่ว่ามาแต่เดิม จนไม่มีกันชนสำหรับความเสี่ยง (Margin Of Safety) แล้วคนเล่นหุ้นดันขึ้นไปเดินไต่ลวดขึงดังกล่าว(ลงมือซื้อ)    ..... ผมว่า BROCKจะจำแลงแปลงกลายไปเป็นหุ้นจำพวก High Risk, High Uncertainy ในที่สุด ครับ  :D  อย่างนี้แย่แน่ครับสำหรับคนเล่นหุ้นคนนั้น

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 3:05 pm
โดย Pn3um0n1a
ลองคิดดูดีๆ ครับ

unlock หมด 500 ไร่เลย ตื่นเต้นมากๆ

แต่ถึงอย่างไร ทยอยโอน ในปี 2551-2554 (4 ปี)

มันก็  :shock:  อยู่ดีครับ

โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง...  :shock:

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 3:11 pm
โดย Rocker
เท่าที่ทราบ  รับรู้กําไรไม่ได้นี่

อ้างอิง  มาตราฐาน  46  ต้องทํางบรวมแล้วตัดออก เพราะถือ 50%
จริงอยู่รับรู้ตามส่วนได้เสีย  แต่ถือเป็นรายการระหว่างกันอะ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 3:25 pm
โดย Pn3um0n1a
[quote="Rocker"]เท่าที่ทราบ

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 9:23 pm
โดย yoyo
เมื่อวานเพิ่งซื้อหนังสือบัญชีขั้นสูงมาอ่าน ...
กิจการร่วมค้ากรณี brock รับรู้กำไรได้ชัวร์ๆครับ
ตัวอย่างที่แสดงในหนังสือก็แบบเดียวกันเป๊ะๆ รับรู้กำไรในงบ แต่ได้แค่ 50% เท่านั้น
อีก 50% จะทยอยรับรู้เมื่อกิจการร่วมค้ามีการขายสินทรัพย์ตัวนั้นไป  8)

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 9:32 pm
โดย Pn3um0n1a
ถามนิดครับ

ตอนขายที่ให้ บ ลูกเนี่ย
ใครเป็นคนประเมิณราคาที่ครับ?

บ อะไรประเมิณครับ?

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 06, 2007 12:29 am
โดย BLACK-NINJA
มีคำถามสำหรับผู้รู้ (guru) 2 ข้อครับ    1.ที่ดินที่ภูเก็ตตรวจสอบหรือเปล่าว่าเป็นที่ ส.ป.ก.4-01หรือ นส3ก ?  2.มีปันผลกลางปี? สำหรับ 70% dividen  :bow:

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 06, 2007 9:40 am
โดย webuffet
เท่าที่ผมถามคนที่เป็นทัวร์ที่นั้นมา ราคาต่อไร่เฉลี่ยประมาณ 1.5-2 ล้านเท่านั้นครับ และที่ขายดีๆนั้นเป็นของภูเก็ตวิลล่าครับ และ P/S ต่ำมากครับ