หน้า 1 จากทั้งหมด 4

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 6:40 am
โดย Jeng
อิอิ ดีใจ

หลังจากดัชนี ร่วงจาก 884 มา 758

หุ้นหลายตัว ก็แสดงนิสัยของคนถือหุ้นกันไป หลายแบบ

บางตัวลงกระหน่ำ บางตัว ลงแล้วเด้ง แล้วลงต่อ

บางตัวยืนนิ่งๆ

ใครมีประสบการณ์อะไรจะเล่าให้เพื่อนๆฟังบ้าง

อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ ดัชนี จะไป 858 หรือ 658 ก็ไม่มีใครรู้

ได้แต่เดาๆกันไป

จริงๆแล้ว ถ้าพวกเราบางคนโชคดี ยังเหลือเงิน แล้ว ดัชนีลงไปสัก 658

ก็กลับไปซื้อ พวก ตัวใหญ่ๆ อย่าง ptt pttep หรืออื่นๆ ก็น่าจะได้กำไรเมื่อตลาด พลิกกลับมา

แต่ตอนหุ้นลง นี่ทำไม เราไม่กล้าซื้อกันนะ เรามักจะอยากซื้อ ตอนหุ้นขึ่น และมีข่าวดี

ทั้งๆที่ the new buffetology บอกว่า buy on bad new

ตลาด ตก เพราะ subprime จริงหรือ

ผมว่าใช่ครับ

แต่ subprime เป็นปัญหาของประเทศไทยจริงหรือ

ผม่ว่าไม่ใช่ครับ

perfect situation to buy คือ stock market correction

ถ้าหุ้นลงเพราะ มันขึ้นไปเยอะ มันจะดีดกลับอย่างรวดเร็ว

จริงๆแล้ว เราลงเพราะ ก่อนหน้านี้มันขึ้นมาเร็ว ก่อนประกาศผลประกอบการ

ถ้าก่อนหน้านี้ผมเป็นต่างชาติ แล้วไม่มันใจ เมืองไทย ผมก็ซื้อขึ้นแหละ

แล้วเมื่อผลประกาศออกมาไม่ดี ผมก็ขายแหละ ขาย ขาย ขาย ไปเรื่อยๆ

กว่าจะประกาศรอบหน้า ก็อีก ราว 3 เดือน ค่อยมาเก็บของถูกๆ

ไม่ได้มาขู่อะไรนะ

vi หาแต่หุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก หรือ ราคาเหมาะสม เหมาะกับการลงทุนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ราคาที่ลดลง ในขณะที่พื้นฐานยังดีอยู่ ไม่มีไรเปลี่ยนแปลง

เราก็ถือ ไม่ใช่หรือ

แต่พักหลังๆอ่านไป อ่านมา เห็น vi มองว่า ถูก เพราะราคามันลดลง

ราคาที่ลดลง แปลว่าถูกจริงหรือ

หรือ ว่า ในนรก มีนรก

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 7:15 am
โดย Jeng
ราคาที่ลดลง ไม่ได้แปลว่าถูก

แต่ราคาที่ลดลง เป็นโอกาสเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี ราคาน่าซื้อ

สำหรับมือใหม่ ก่อนจะเลือกซื้อหุ้นตัวไหน

ลองเขียนเหตุผล สัก 5 ข้อ ว่าหุ้นที่จะซื้อ ณ ราคานั้นๆ น่าซื้อเพราะอะไร

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 7:56 am
โดย Jeng
พักหลังผมเห็นแต่ว่า หุ้นตัวนี้ พื้นฐานดี ราคาลงมาเยอะแล้ว น่าซื้อ สุดท้ายลงต่อ

หุ้นตัวนี้พื้นฐานดี ราคาขึ้นไปเยอะแล้ว สุดท้ายขึ้นต่อ

จริงๆแล้ว ราคาที่เคยสูง หรือ เคยต่ำ ไม่เกี่ยวอะไรเลย

ทางที่ดีไม่ต้องจำราคาในอดีตเลย

เรื่องที่สำคัญคือ คำว่าพื้นฐานนั้น เราแต่ละคนตีความไม่เหมือนกัน

ลองทำการบ้านดูครับ

ว่าคุณซื้อหุ้นตัวไหน ด้วยเหตุผลอะไร แล้วสักพัก หากว่า มีใครก็ตามที่จัดว่า เป็นผู้มีระดับ มีชื่อเสียงในวงการ การลงทุนของเมืองไทย มาซื้อตาม

เช่น ดร.นิเวศน์  

นั่นแหละ แสดงว่า เหตุผลของคุณ เข้าตานักลงทุนชั่นแนวหน้า

ผมว่าหุ้นขึ้นได้ ด้วยเหตุผล และขึ้นต่อมากๆด้วยอารมณ์

หุ้นลงได้ เพราะราคาสูงเกินพื้นฐานมากๆ ลงได้ทั้งเหตุผล และอารมณ์

หากคุณขุดหุ้น ด้วยเหตุผล ไม่ต้องห่วงเลยว่า ตลาดจะเป็นไง ในที่สุด จะมีคนมาซื้อกันเองแหละ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะอยู่ในเว็บ หรืออยู่นอกเว็บ

...................................................................

ลองหาราคาน่าซื้อ และราคาเป้าหมายของหุ้นตัวนั้นๆ โดยไม่ต้องดูราคาในตลาด

หากยัง หาไม่เป็น มีหนังสือเล่มหนึ่ง สอนการหาราคาเป้าหมาย และราคาน่าซื้อ

ชื่อ the new bufettology แปลโดยคุณ web

หรือเล่มอื่นๆก็ได้

เมื่อมีหลักการแล้ว ราคาที่แกว่งขึ้น แกว่งลง จะทำให้ เรามีโอกาสในการซื้อหุ้นพื้นฐาน ดี ในราคาที่น่าซื้อครับ

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 7:59 am
โดย booklover
ขอบคุณครับพี่เจ๋ง :D

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 8:31 am
โดย Jeng
ยกตัวอย่างการคำนวณง่ายๆ เช่น ums

year eps ( fully dilute )

2004   1.13
2005   1.18
2006   1.24
2007   1.70

eps โตเฉลี่ย 14.58 %

อีก 10 ปีข้างหน้า eps จะเท่ากับ 6.63 ( โตเฉลี่ย 14.58 % ) pe 14 ราคาจะเท่ากับ 92.82

หากต้องการผลตอบแทน 20 % ทบต้น ณ ปัจจุบันต้องซื้อราคา 15.00

ปัจจุบัน 20.20 จะซื้อก็ซื้อแบบเก็งกำไรครับ เพราะว่า มีวอร์จะแจก

แต่ถ้าจะซื้อแล้วถือยาว ก็รอราคา 15 บาทครับ

เหตุผลในหนังสือ the buffetology ชัดเจนมาก

ลองคิดตามดูซิ ums eps โตทุกปี ปีละ 14.58 % เป็นเรื่องที่ ดีมากๆ นะ ถ้าทำได้ และผมคิดว่าทำได้แน่ๆ เพราะตลาดถ่านหินกำลังโต สำหรับ ums แต่ไม่ใช่ สำหรับ banpu

eps ที่ได้ คือ 6.63 ถ้าเทรด pe 14 สมมุติไว้สูง เพราะปัจจุบัน เทรด pe 14

นั่นหมายถึง ราคา discount กลับมาที่ ผลตอบแทน 20 %

ปัจจุบัน ต้องซื้อที่ 15 บาท

อันนี้คำนวณแบไม่ต้องสนใจ ราคาในกระดานเลยครับ และให้ลองศึกษาดูว่า ธุรกิจ ของ ums จะโตเฉลี่ยแบบนั้นได้หรือไม่

......................................................................

ลองคำนวณดูแบบนี้กับหุ้นหลายๆตัว เราจะรู้เลยว่า หุ้นตัวไหน แพงเกินพื้นฐาน ตัวไหนถูกเกินพื้นฐาน

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 8:40 am
โดย oatty
งั้นผมก็รอที่ราคาพี่เจ๋งบอกดีกว่า

พูดเอาเคล็ดเหมือน PTTEP เมื่อก่อนโน้น  :D  :D

ว่าแต่ถ้ามันลงมา ยังจะมีคนกล้าเคาะหรือเปล่านะดิ..

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 8:56 am
โดย Jeng
pttep

2001 3.34
2002 3.71
2003 3.69
2004 4.86
2005 7.26
2006 8.55
2007 8.48

6 ปีที่ผ่านมา eps โต 16.79 %

อีก 10 ปี eps เท่ากับ 40.03 pe 13 ราคา 520.39

discount กลับที่ 20 %

ปัจจุบันต้องซื้อราคา 84.00 ครับ

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:00 am
โดย Kuruni
มารับความรู้จากพี่ JENGขอบคุณครับ :D

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:01 am
โดย dino
8)  :bow:  :bow:  :bow:

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:03 am
โดย Jeng
bgh

2003 0.51
2004 0.71
2005 0.72
2006 1.12
2007 0.92

4 ปีที่ผ่านมา eps โต 15.89 %

อีก 10 ปี eps เท่ากับ 4.00 pe 32 ว๊าว pe 32 ราคาเท่ากับ 128

discount 20 %

ต้องซื้อราคา 20.67 ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ราคาเท่าไร

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:11 am
โดย Jeng
bigc

2000 0.99
2001 1.27
2002 1.61
2003 1.76
2004 2.00
2005 2.35
2006 2.65
2007 3.04

7 ปีที่ผ่านมา eps โต 17.38 %

อีก 10 ปี eps 15.09 pe 18 ราคา 271.62

discount 20 %

ปัจจุบันต้องซื้อราคา 43.86

อืม ใกล้แล้วแฮะ ตอนนี้ 48

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:15 am
โดย Jeng
คร่าวๆนะครับ รายละเอียด ไปอ่าน the new buffetology แล้วทำกันเอง จะได้ชัวร์ๆ

อย่างไรก็ตาม

ธุรกิจที่ดีมากๆอย่าง bigc pttep ptt และอื่นๆ จะต้องมีช่วงที่ perfect ในการซื้อ

แต่ เรา จะกล้าซื้อหรือเปล่า

เพราะช่วงที่ perfect มันจะมากับข่าวร้าย

แต่ปัจจุบัน พวกเราโชคดี เพราะตลาด กำลัง panic

คือ รายใหญ่ โดน force sell

เราก็ได้แต่ทำการบ้าน แล้วรอ ตัวที่เราชอบมักๆ

ขอให้โชคดีครับ

การคำนวณด้านบน ไม่ได้เจตนา ทุบหุ้น หรือบอกว่าหุ้นเหล่านั้นไม่ดี หรือ บอกว่า ราคาหุ้นเหล่านั้นจะลง

เป็นการคำนวณตามหลักในหนังสือครับ

ส่วนตัวเลข ประมาณการ ว่า อีก 10 ปีจะโตเท่าไร การ discount กลับมา โดยใช้เปอร์เซ็นต์เท่าไร

ก็ ต้อง ประมาณกันเอง

ผมชอบ 20 % เพราะว่า วอเรนทำกำไรได้ต่อปี เฉลี่ย 23 %

พวกเราเป็นหลานๆวอเรน เราก็ได้สัก 20 % ก็หรูแล้วครับ

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:27 am
โดย tt
ผมเห็นด้วยกับคุณ jeng นะครับ ผมว่าหลังๆผู้คนที่แสดงความเห็นใน
web จะออกไปในแนวทางเก็งกำไรมากกว่า เพียงแต่เป็นการเก็งกำไร
ที่มี class กว่าแต่ก่อนที่แต่ก่อน ได้มาเป็นโพยแล้วก็ซื้อตาม แต่เดี๋ยวนี้
มี story มาประกอบมากขึ้น ดูบริษัทมากขึ้น คือดูดีขึ้น แต่ก็จะมีพวกซื้อตาม
เป็นพรวน คนเข้าตามที่หลังก็ติด คนมาก่อนออกไปแล้ว ก็ไปหาหุ้นใหม่
มาเล่าเรื่องต่อ พอติดหุ้นก็ท่องคาถา VI ว่า หุ้นดีเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง
ผมถึงรู้สึกเป็นห่วงคนที่เข้ามาใหม่ๆมากๆ (เป็นห่วงตัวเองด้วยเช่นกัน)

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:30 am
โดย Jeng
แถม aeonts

2002 1.41
2003 1.86
2004 2.49
2005 3.14
2006 3.92
2007 4.36

5 ปีที่ผ่านมา eps โต 25.32 %

สมมุติว่า อีก 10 ปีโตเฉลี่ย 15 % พอ ( ตัวอย่างด้านบน ไม่ได้สมมุติ โตมาเท่าไร ก็สมมุติให้โตไปเท่านั้น เกรงใจ เพราะถ้าสมมุติต่ำลง ก็จะทำให้ราคาซื้อต่ำลง เกรงใจ คนถือหุ้น เดี่ยวกลายเป็นเราไปทุบหุ้น )

อีก 10 ปี eps 17.63 pe 10 ราคา 176.30

discount 20 %

ซื้อราคา 28.47

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:35 am
โดย booklover
คิดแบบนี้ผิดไหมครับพี่เจ๋ง

2006               EPS = 0.32

2007               EPS = 0.54 ( ประเมิณน้อยไว้ก่อนครับ )

คิดเป็นการเติบโต = 68.75%  

ถ้าคิดให้อีก 5 ปีข้างหน้า เติบโตสักปีละ 20 % เราจะได้

EPS อีก 5 ปี =   0.54 ( 1+ 0.20 ) ^ 5

                =   1.34 bath

PE 10    =    13.4    ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 5.39

PE 11    =    14.7    ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 5.92

PE 12    =    16.08  ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 6.46

PE 13    =    17.42  ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 7

PE 14    =    18.76  ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 7.53

PE 15    =    20.01  ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 8.08

PE 16    =    21.44  ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 8.61

PE 17    =    22.78  ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 9.15

PE 18    =    24.12  ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 9.69

PE 19    =    25.46  ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 10.23

PE 20    =    26.8    ต้องการผลตอบแทน 20%/year price = 10.77

ถ้าผิดช่วยแนะนำด้วยนะครับ :D

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:38 am
โดย century78
อืมมมม อย่างนี้ต้องลองไปหาหนังสือที่คุณ jeng แนะนำแล้วครับ ...  ขอบคุณมากครับ กับแนวทาง


แต่ปัญหาอย่างหนึ่ง ของการวิเคราะห์แบบนี้คือ
เราต้อง speculate  ผลประกอบการล่วงหน้าไปหลายปีเลย
ทั้งๆที่ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงและผันผวนตลอดเวลา

ดังนั้น ผมมองว่า ต้องดูที่โครงสร้างของผู้บริหารและบริษัทดูด้วยครับ ว่ามีฝีมือและจุดยืนอย่างไร  ... ไม่ใช่ ธุรกิจทำกำไรมาได้เพราะเพียงภาวะโดยวมเกื้อหนุนเท่านั้น

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:39 am
โดย century78
century78 เขียน:อืมมมม อย่างนี้ต้องลองไปหาหนังสือที่คุณ jeng แนะนำแล้วครับ ...  ขอบคุณมากครับ กับแนวทาง


แต่ปัญหาอย่างหนึ่ง ของการวิเคราะห์แบบนี้คือ
เราต้อง speculate  ผลประกอบการล่วงหน้าไปหลายปีเลย
ทั้งๆที่ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงและผันผวนตลอดเวลา

ดังนั้น ผมมองว่า ต้องดูที่โครงสร้างของผู้บริหารและบริษัทดูด้วยครับ ว่ามีฝีมือและจุดยืนอย่างไร  ... ไม่ใช่ ธุรกิจทำกำไรมาได้เพราะเพียงภาวะโดยรวมเกื้อหนุนเท่านั้น

ไม่อย่างนั้น จะเหมือนหุ้นไอที ของ us ครับ ... ที่ฝันกันไปไกลเลย

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:39 am
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

คิดแบบนี้ผิดไหมครับพี่เจ๋ง 

2006               EPS = 0.32 

2007               EPS = 0.54 ( ประเมิณน้อยไว้ก่อนครับ ) 

คิดเป็นการเติบโต = 68.75%   
จากหนังสือ the new buffetology

การคำนวณหา eps growth ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 7 ปี ดีที่สุดคือ 10 ปี

หากใช้ ต่ำกว่า 7 ปี หนังสือบอกว่า จะทำให้เกิด error ได้ครับ

เพราะฉะนั้น ข้างบน ถามว่าผิดหรือไม่ที่ประมาณการ ว่าจะโต ทุกปี ปีละ 20 %

พี่ตอบม่ายร่าย

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:41 am
โดย booklover
ขอบคุณครับพี่เจ๋ง :D

ตอบเร็วทันใจมากเลยครับ  ขอบคุณอีกครั้งนะครับ :D

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:42 am
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

อืมมมม อย่างนี้ต้องลองไปหาหนังสือที่คุณ jeng แนะนำแล้วครับ ...  ขอบคุณมากครับ กับแนวทาง 


แต่ปัญหาอย่างหนึ่ง ของการวิเคราะห์แบบนี้คือ 
เราต้อง speculate  ผลประกอบการล่วงหน้าไปหลายปีเลย 
ทั้งๆที่ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงและผันผวนตลอดเวลา 

ดังนั้น ผมมองว่า ต้องดูที่โครงสร้างของผู้บริหารและบริษัทดูด้วยครับ ว่ามีฝีมือและจุดยืนอย่างไร  ... ไม่ใช่ ธุรกิจทำกำไรมาได้เพราะเพียงภาวะโดยรวมเกื้อหนุนเท่านั้น 

ไม่อย่างนั้น จะเหมือนหุ้นไอที ของ us ครับ ... ที่ฝันกันไปไกลเลย 
ลองหาอ่านดูครับ คุณ century78

เพราะผมก็หมดปัญญา จะสื่อให้หนังสือทั้งเล่ม มาอยู่บนเว็บได้

ทุกหลักการ มีข้อแย้งทั้งนั้นครับ

แต่ทุกหลักการ ถ้าศึกษาจริงจัง ก็นำมาสู่การดัดแปลง ให้เป็นหลักการของเราได้ครับ

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 9:49 am
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ผมเห็นด้วยกับคุณ jeng นะครับ ผมว่าหลังๆผู้คนที่แสดงความเห็นใน 
web จะออกไปในแนวทางเก็งกำไรมากกว่า เพียงแต่เป็นการเก็งกำไร 
ที่มี class กว่าแต่ก่อนที่แต่ก่อน ได้มาเป็นโพยแล้วก็ซื้อตาม แต่เดี๋ยวนี้ 
มี story มาประกอบมากขึ้น ดูบริษัทมากขึ้น คือดูดีขึ้น แต่ก็จะมีพวกซื้อตาม 
เป็นพรวน คนเข้าตามที่หลังก็ติด คนมาก่อนออกไปแล้ว ก็ไปหาหุ้นใหม่ 
มาเล่าเรื่องต่อ พอติดหุ้นก็ท่องคาถา VI ว่า หุ้นดีเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง 
ผมถึงรู้สึกเป็นห่วงคนที่เข้ามาใหม่ๆมากๆ (เป็นห่วงตัวเองด้วยเช่นกัน)
ปัจจุบันก็คงต้องเล่นเก็งกำไรหละครับ ท่าน tt

ไม่งั้นไม่ค่อยมีตัวเล่น อิอิ

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 10:18 am
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ผมเห็นด้วยกับคุณ jeng นะครับ ผมว่าหลังๆผู้คนที่แสดงความเห็นใน 
web จะออกไปในแนวทางเก็งกำไรมากกว่า เพียงแต่เป็นการเก็งกำไร 
ที่มี class กว่าแต่ก่อนที่แต่ก่อน ได้มาเป็นโพยแล้วก็ซื้อตาม แต่เดี๋ยวนี้ 
มี story มาประกอบมากขึ้น ดูบริษัทมากขึ้น คือดูดีขึ้น แต่ก็จะมีพวกซื้อตาม 
เป็นพรวน คนเข้าตามที่หลังก็ติด คนมาก่อนออกไปแล้ว ก็ไปหาหุ้นใหม่ 
มาเล่าเรื่องต่อ พอติดหุ้นก็ท่องคาถา VI ว่า หุ้นดีเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง 
ผมถึงรู้สึกเป็นห่วงคนที่เข้ามาใหม่ๆมากๆ (เป็นห่วงตัวเองด้วยเช่นกัน)
ถ้ามีเวลาติดตามก็สนุกนะคับ ท่าน tt

เช่น brock เขาคุยกัน ผมก็ซื้อ แต่ซื้อเก็งกำไร ถือ 1-2 วันก็ขาย เห็นวิ่งยังกะพายุ

อิอิ

แต่ก็ไม่ได้เล่นมาก เล่นติดตามตลาด

เพราะหุ้นพื้นฐานดีจริงๆ ราคาถูกจริงๆ กว่าจะมาให้ซื้อซักกะที

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 11:01 am
โดย noooon010
Jeng เขียน: ลองเขียนเหตุผล สัก 5 ข้อ ว่าหุ้นที่จะซื้อ ณ ราคานั้นๆ น่าซื้อเพราะอะไร
เห็นด้วยนะครับ :D

ถามนิดครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 11:04 am
โดย path2544
สำหรับผม มองว่า การมองอนาคตไกล ขนาด 10 ปี ผมว่ายาวไปแล้วสำหรับปัจจุบัน ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้

สำหรับผม มองว่า รอบของธุรกิจจะสั้นลง ซึ่งเหตุผลมาจาก ทั้งเทคโนโลยี, การตลาด, การเงิน, และอื่นๆ อีกหลายอย่าง

ดังนั้น การที่บ.หนึ่งจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทำได้ยากขึ้น และยากที่สุดเมื่อจำรักษาการเจริญเติบโตไว้ได้

การมองที่การเจริญเติบโตเฉลี่ย จึงทำให้เริ่มเห็นความผิดพลาดมากขึ้น  สำหรับผมกำลังมองหาวิธีอื่นๆ ที่เหมาะกับ ยุคนี้ ก็ยังไม่พบ ใครพบช่วยชี้แนะด้วยครับ

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 11:11 am
โดย Jeng
ยกตัวอย่างการคำนวณง่ายๆ เช่น ums

year eps ( fully dilute )

2004   1.13
2005   1.18
2006   1.24
2007   1.70

eps โตเฉลี่ย 14.58 %

อีก 5 ปีข้างหน้า eps จะเท่ากับ  3.35 ( โตเฉลี่ย 14.58 % ) pe 14 ราคาจะเท่ากับ 46.90

หากต้องการผลตอบแทน 20 % ทบต้น ณ ปัจจุบันต้องซื้อราคา 18.84

.........................................................................

อืมไม่เลวแฮะ มองสัก 3-5 ปีดีเหมือนกัน

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 11:16 am
โดย yakole
ขอบคุณครับพี่ หายหน้าไปนานเลยครับ

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 11:42 am
โดย newbie_12
ถ้าเป็นของ CP7-11 หล่ะครับ

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 11:46 am
โดย path2544
[quote="Jeng"]ยกตัวอย่างการคำนวณง่ายๆ เช่น ums

year eps ( fully dilute )

2004

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 11:52 am
โดย Jeng
หลักจากหนังสือเล่มนี้ ต้องใช้ eps ที่โตขึ้นเรื่อยๆมาคำนวณครับ cp7-11 กำไร ไม่โต

กำไรสุทธิ 1524 ( 6 เดือน )  1,332.40  1,507.73  1,695.92  1,339.44

แต่ยอดขายโตมาก

รายได้รวม  53,769,404 ( 6 เดือน )   104,873.44  98,947.55  78,365.80  61,030.27

ไม่สามารถคำนวณตามหนังสือได้ครับ

คือ กำไรไม่ไปกับยอดขาย

ซึ่งจริงๆแล้ว อาจจะเกิดจากการขยายสาขามากๆ จนกระทั่ง มาร์จิ้นลด

แต่จริงๆแล้ว กำไรไปซ่อนอยู่ในสาขาแทน

ตลาดกำลังจะเปิดแล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 11:57 am
โดย Jeng
ตอนคุณ path 2544

2004   1.13
2005   1.18
2006   1.24
2007   1.70

ums มีการแตกพาร์

2004 2.26 ( 70 ล้านหุ้น )
2005 2.35 ( 70 ล้านหุ้น )
2006 2.48 ( 70 ล้านหุ้น )
2007 0.85 ครึ่งปี  ( 140 ล้านหุ้น )

ปี 2007 ใช้ 1.70 ก็คิดง่ายๆ ไม่ได้ใช้ประมาณการ คือใช้ .85 คูณ 2

ส่วนใครจะใช้อย่างไรก็ลองดูครับ