Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เอามาโชว์กันหน่อย อย่าคิดว่าเป็นการคุยโต โม้ หรืออะไร

แต่ จะได้เป็นกำลังใจให้กับน้องๆ vi รุ่นใหม่

ว่าการซื้อหุ้นดีๆแล้วถือหุ้น นี่ได้กำไรจริงๆ

ไม่ต้องเอาของคนอื่นมาอ้างนะ

เอาของตัวเองเลย

ถ้าจะให้ดี ตอนที่ซื้อตอนนั้น ราคาถูกๆ คิดอย่างไร บอกด้วย จะดี กับนักลงทุนรุ่นใหม่มักๆคับ

ขอบคุณครับ

หมายเหตุ ถ้าคิด หักปันผลระหว่างถือด้วย จะดีมากครับ ว่า ต้นทุนปัจจุบัน เหลือเท่าไร

มี 1 ตัว ตอนนี้กำไลอยู่ 54% ถือมา 1 ปีแล้วครับ (ยังไม่รวมปัญผลนะครับ) ผ่านช่วงตลาดแดงหนักๆมา 2 - 3 รอบ ไม่มีขาดทุนสังนิดอุ่นใจมาก ไม่ต้องมานั่งเฝ้าด้วย ดูจอ 3 เดือนทีอะ

egco 70% in one year

UEC  320%  ประมาณ 1 ปีครับ

UEC ตอนนั้นที่ซื้อราคาอยู่บนดอย 8.40 แล้วมันก็ร่วงลงมาอีกนิดหน่อยตกใจเหมือนกันเพราะว่าหุ้นตัวนี้จริงๆไม่ได้มีความรู้อะไรกับมันเลย เพราะตอนนั้นมีพี่ที่รู้จักเขาลงทุนแนว VI เขาเชียร์ก็เลยลองตามดู จนกระทั่งมาเจอ web นี้แล้วได้มานั่งอ่านรายละเอียดเลยถึงตัดใจไม่ยอมขายเพราะเชื่อในความสามารถของบริษัท และเมื่อเทียบกับราคาถือแล้วเงินปันผลได้ค่อนค่างเยอะอยู่

TTA ที่4บาท  (Par 10) 100,000 หุ้น!!!
ถ้าถือมาจนถึงตอนนี้ก็ ...........................

ตอนนั้นที่ซื้อเพราะเป็นหุ้น turnaround  PE แค่ 1เท่ากว่าเอง

8) แหะ แหะ ถ้าไม่รวมเงินปันผลแล้ว

ตัวแรกกำไร 79% ในเวลา 6 เดือน
ตัวที่สองกำไร 69% ในเวลา 1 ปีครึ่ง
ตัวที่สามกำไร 51% ในเวลา 3 เดือน
ตัวทีสี่กำไร 30% ในเวลา 1 ปี
ตัวที่ห้ากำไร 27% ในเวลา 10 เดือน
ตัวที่หกกำไร 19% ในเวลา 1 เดือนครึ่ง
ตัวที่เจ็ดกำไร 4% ในเวลา 10 เดือน
ตัวที่แปดขาดทุน 7% ในเวลา 2 เดือน
ตัวที่เก้าขาดทุน 11% ในเวลา 1 ปี
ตัวทีสิบขาดทุน 20% ในเวลา 7 เดือน

ทั้งหมดยังอยู่ครบ รวมเฉลี่ยกำไร 24% ครับ (ไม่รวมเงินปันผล)

พึ่งเริ่มลงทุนในหุ้นมาปีนิดๆครับ แต่เก็บตัวเลขจริงๆจังๆเดือนธันวาปีที่แล้วเอง คงได้แค่เลขประมาณใกล้เคียง

ดีที่สุดที่มี ก็คงเจ้า DRT ครับ หนักที่สุดในพอร์ต ตั้งใจซื้อเก็บเป็นหุ้นปันผล ซึ่งก็ปันผลดีสมใจ
แต่ถึงตอนนี้ขึ้นมา 99% ของต้นทุน ไม่รวมปันผล รักมากตัวนี้
อีก 3 ตัวได้เฉลี่ย 30% นิดๆ ตัวสุดท้ายใหม่สุดในพอร์ต ซื้อเพราะชอบคุณ IR ที่ขยันเข้ามาตอบคำถาม ได้ 10% ครับ

ดูๆแล้วก็พอใจผลงานในรอบปีกว่าๆ มากๆ ถึงแม้ว่าตอนแรกๆจะออกแนวลูกทุ่งไปหน่อย แต่ตั้งแต่มาเจอเวป VI ก็ปรับปรุงวิธีลงทุนได้ดีขึ้น ขอบคุณทุกคนที่นี่มากๆๆๆๆ ครับ  :D

ดูของพี่ Dino แล้วชัดเจนขึ้นมากว่าหลังจากเราศึกษาบริษัทและธุรกิจแล้ว

เราต้องให้เวลากับบริษัทนั้นในการแสดงผลประกอบการและการเติบโต

แต่เดาว่าบางส่วนอาจจะวิ่งขึ้นช่วงกระทิงนี้พอดีเลยดูสูงพอสมควรนะครับ


หืมม .... ดีครับกระทู้นี้ ขอบคุณพี่เจ๋งมากครับ ที่ตั้งขึ้นมา ...  8)

mint ครับ ซื้อตอนประมาณกลางปี 48(แค่2ปีกว่าเอง)
ราคาเฉลี่ยประมาณ 4 บาท
ตอนนั้นเคยมองๆ mfg มานานแล้วครับ
แต่ไม่ซื้อ เพราะซื้อไม่ได้(ไม่มีสภาพคล่องให้ซื้อจริงๆ ประมาณบิด 65 ออฟเฟอร์110  :lol: )
พอ rgr ทำเทนเดอร์ mfg ก็เลยเริ่มสนใจ
พอดูไปดูมา คิดไปคิดมา(คิดนานจนเปลี่ยนชื่อเป็น mint เลย)
ก็เลยตัดสินใจเข้าซื้อครับ เพราะมันถูกมากๆ จำได้ว่า pe ประมาณ11-12 นี่แหละ
ที่ซื้อเพราะมั่นใจในส่วนโรงแรมด้วยครับ ว่าของเค้าดีจริง

แต่ตอนนี้เหลืออยู่แค่ครึ่งเดียวของตอนเริ่มซื้อแล้วครับ
ใจนึงก็อยากขายหมดเลยแหละเพราะมัน over value พอสมควร
แต่ใจนึงก็อยากลองทำตาม ฟิลลิป ฟิสเชอร์ดูว่าสุดท้ายจะเป็นไง
ก็เลยเก็บไว้ครึ่งนึง

มี kgi ทุน 1.4 เป็นหุ้นสองเด้งตัวแรกครับ แต่ดูผลการดำเนินงานครั้งนี้ท่าไม่ค่อยดีแล้ว ไม่รู้ไปลงทุนในฟิวเจอร์ทำไม ผมไม่เห็นด้วยเลย เดี๋ยวจะโทรไปถามกับฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ก่อน ถ้ายังลงทุนในสัดส่วนที่เยอะละก็ ผมขายไปซื้อหุ้นบริษัทอื่นดี่กว่า

ticon ครับถือประมาณ 3ปีได้

ต้นทุนเฉลี่ย 7 บาทกว่าๆ  ขายไปเฉลี่ยที่ 19.8 ครับ

ซื้อเพราะอ่านบทวิเคราะห์ และความเห็นของ พี่ IH.

เยอะเรื่องกองทุนอสังหา ซึ่งเปลี่ยนธุรกิจจาก

พึ่งกำไรจากค่าเช่า  เป็นกำไรจากการขายซึ่งจะทำให้กำไรก้าวกระโดดมาก

โดยช่วงนั้นทุกคนจะกังวลว่าจะเป็น one time หรือเปล่าราคาเลยไม่ค่อย

ขยับมากมีเวลาให้เก็บได้นานทีเดียวครับ

ขายเพราะเห็นตัวอื่นน่าสนใจกว่า ติดตามง่ายกว่า น่าจะมี upside สูงกว่า

เลยขายครับ

จริงๆ มี คนได้เป็น 10 เท่าในหุ้นตัวเดียวในเว็บด้วยนะครับ รอท่านนั้นมาแสดงเองดีกว่า

ผมเคยถือ Ticon ประมาณ 1 ปี  ได้กำไรประมาณ 300% ( ไม่รวมปันผล )

ดีครับ ให้เขาเฉลยเองดีกว่า ผมก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน

ตัวสุดท้ายใหม่สุดในพอร์ต ซื้อเพราะชอบคุณ IR ที่ขยันเข้ามาตอบคำถาม ได้ 10% ครับ

ตัวเดียวกันเลยครับ

เอาที่จำได้คร่าวๆนะครับ ที่เป็นเกินหนึ่งเท่าก็มี
ticon ปีแรกๆที่ลงทุน
pdi ปีที่สอง-สาม
it ปีที่สาม
tnh ปีที่สาม
trc ปีที่สาม- สี่
snc ปีที่สาม -สี่
ต้องขอบคุณ คุณพี่ IH, yoyo, commonman และอีกหลายๆคนในเว๊ปครับ
ตกผลึกความคิด ก็เพราะเพื่อนๆนี่แหละครับ

sunrise เขียน: commonman

8)  8)  8)

rojana ครับ  
ปีนี้ได้ยีลด์มาประมาณเจ็ดสิบกว่าเปอร์เซนต์
(ไม่เคยนับจริงๆซํกที ได้แค่ไหนก็เอา)

ตอนที่มันยังพาร์สิบบาท
ซื้อไปแปดพันหุ้น ที่ราคาสิบสี่บาท
ที่ถือไว้จนทุกวันนี้
เพราะได้ทำคลายเครียดเรโชระดับจุลภาคไปครึ่งหนึ่ง
ไปที่ ประมาณสามสิบบาท

ปัจจุบันเหลือไม่ถึงครึ่งของที่ซื้อมาครั้งแรกสุด
แต่ก็ถือว่า  มีกำไรทางบัญชี
เกินสิบเท่าตัว ไม่นับเงินปันผลรับ

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[quote="คลายเครียด"]rojana ครับ

[quote="คลายเครียด"]rojana ครับ

1,000 % ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นอดีตกัปตัน และลูกเรืออีกหลายคน  ได้รับจาก PSL

เสียดายว่าผมไม่ได้ขึ้นเรือตอนภาคแรก  แต่มาขึ้นตอนภาค 2 เมื่อปีก่อน  โดยซื้อ TTA หนักสุด  กำไรก็ OK ประมาณ 80 %

ส่วนที่ทำให้ได้กำไรจากส่วนต่างราคามากสุดในการลงทุน  คือ PTT ซื้อตั้งแต่ปี 2545 ที่รคา 35.75 บาท  แล้วมาขายเมื่อกุมภาพันธ์ 2549 ที่ราคา 264 บาท  คิดผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาอย่างเดียวก็ประมาณ 640 % ครับ  8)

จำได้ว่าตอนนั้นผมขาย SSC ทิ้งทั้งหมดแถวราคา 240 บาท  แล้วนำเงินทั้งหมดมาซื้อ PTT

จำได้ว่า  หลังขึ้น XD ไปไม่นานนัก  ราคารูดแรงมาก  ลงมาอยู่แถว  28 - 29 บาท  นอกจากเหตุผลของ XD แล้ว  ยังมาจากข่าวว่าต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน  ตอนแรกก็หวั่นไหวบ้าง  แต่มานั่งทบทวนดูแล้ว  หากปีนั้น PTT ทำ EPS ได้เกิน 10 บาท  เท่ากับว่าที่ราคาประมาณ 30 บาท  PE Ratio ก็แค่ 3 เท่าเท่านั้นเอง  ซึ่งถือว่าถูกมากกับหุ้นขนาดใหญ่  และมี Growth  จากความหวั่นไหวก็เปลี่ยนมาเป็นความมั่นใจแทน   และคิดว่าหากตอนนั้นมีเงินสดเหลือจะซื้อเพิ่มอีก  สุดท้ายผลประกอบการค่อยๆ ทยอยประกาศทีละไตรมาส  ราคามันก็ขยับตามผลประกอบการไปเรื่อย ๆ  และจากการให้น้ำหนักกับหุ้น PTT ในพอร์ต  ทำให้พอร์ตเติบโตอย่างมีนัยสำคัญครับ

KH ครับ แต่ขายไปแล้วนะครับ กำไร 100 กว่าเปอร์เซ็นต์ครับ

จริงๆแล้วถ้านับหุ้นที่เคยได้กำไรจากการ เล่นหุ้น เป็นท่วมๆ ก็จะมีมากกว่านี้หน่อยนึงครับ  แต่ผมว่านับเฉพาะการ ลงทุน ดีกว่าครับ  พวกที่เป็นการเก็งกำไรหรือหุ้นปั่นนี่ปัจจุบันเลิกแล้วครับ ถ้าเอาตามช่วงเวลาที่ซื้อก็ตามนี้ครับ

UMS ซื้อช่วง Oct-2005 ทุนเฉลี่ยประมาณ 15.10 (ก่อนแตกพาร์)
ขายหมดแล้ว     Jul-2007 ราคาขายเฉลี่ย  21.80 (หลังแตกพาร์)
เหคุผลในการซื้อช่วงนั้นหลักๆเป็นเรื่องของแนวโน้มพลังงานทดแทน  เนื่องจากราคาน้ำมันสูงขึ้นเป็นอย่างมาก  ทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ถ่านหินแทน   และอีกส่วนนึงเป็นเรื่องของโครงการคลังสินค้าที่จะช่วยเพิ่มปริมาณการเก็บได้อย่างมีนัยสำคัญครับ

สรุป  กำไร 189%  ในระยะเวลาประมาณ 1 ปี 10 เดือน


KH   ซื้อช่วง Feb-2006 ทุนเฉลี่ยประมาณ 3.08
        ยังคงถืออยู่ ปัจจุบัน (27-Aug-2007) ราคา  9.10
เหตุผลในการซื้อ มาจากการได้มีโอกาสอ่านบทความการวิเคราะห์ของพี่ IH ครับ ว่ากำไรของ KH จะเติบโตแบบก้าวกระโดด จากการรับเหมาจ่ายจากภาครัฐเฉพาะผู้ป่วยนอก ส่วนผู้ป่วยในเปลี่ยนเป็นเหมาจ่ายตามจริง, และจากการที่รัฐบาลปรับเงินให้กับโรงพยาบาลที่เข้าโครงการ 30 บาทต่อหัวเพิ่มขึ้น

สรุป  กำไร 195% (Unrealized gain)  ในระยะเวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน

SNC ซื้อช่วง Sep-2006 ทุนเฉลี่ยประมาณ 5.40
ยังคงถืออยู่ ปัจจุบัน (27-Aug-2007) ราคา  15.70
ตัวนี้หลักๆแล้วมาจาการอ่านข้อมูลในร้อยคนร้อยหุ้นครับ  ชอบตรงที่กำไรเติบโต ปันผลต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรขึ้นเรื่อยๆ  โดยอาศัยช่วงทีรายได้ของ SNC เพิ่ม แต่ Gross Margin ตกจากการผลิตและขาย Metal Sheet เป็นจังหวะเข้าซื้อครับ

สรุป  กำไร (Unrealized gain) 191%  ในระยะเวลาประมาณ 1 ปี

สุดท้ายอยากขอฝากหลายๆท่านไว้ครับว่าตัวเลขที่เห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Port ผมซึ่งแสดงไว้เฉพาะตัวที่ได้กำไรเป็นท่วมๆ ตามที่พี่ Jeng กำหนดไว้  จริงๆแล้วใช่ว่าหุ้นทุกตัวที่ซื้อหรือลงทุนจะได้กำไรขนาดนี้ครับ  มันก็มีตัวที่ขาดทุนรวมอยู่ด้วยครับ   ดังนั้นสำหรับหลายๆท่านที่ยังคงเป็นมือใหม่เช่นเดียวกับผม  อยากจะฝากให้ทำการบ้านในบริษัทที่ตนเองลงทุนอยู่ให้ดี   เพื่อ จำกัด ความเสี่ยงจากการลงทุนให้ได้มากที่สุดครับ

IRC ครับ

เกือบจะ 100% อยู่แล้วครับ  8)  ...

SNC 200% ครับ ใน 2 ปี
MINT 100% ใน 1 ปี
KH 100% ใน 1 ปี

นอกนั้น ไม่มากนักก็ขายๆไป เช่น TCAP SF (ตัวนี้เสียดายจริงๆ) CENTEL CPN

ที่ขาดทุนก็มีครับ เช่น SPF TRT

ปัจจุบันมีเหลือหุ้นแค่ตัวเดียวครับ นอกนั้นขอลาพักร้อน (ให้เงินพักร้อนนอกตลาด)ชั่วคราว ไม่ได้กะว่าจะมีเหตุการณ์ใดๆนะครับ แค่เหตุผลส่วนตัว

2 ปี SCNYL ประมาณ 1.5 เท่าของที่ซื้อ (ยังไม่ไดขายรอขายพร้อมหลายๆคนในที่นี้)
2ปีกว่ากับ UEC ประมาณ 1.3 เท่าของที่ซื้อ (ที่ขึ้นในport )แต่จริง 3.5 เท่าเพราะทุนที่ซื้อครั้งแรก 8 บาท ขายเพราะตกใจซื้อกลับตอน 11 บาทกว่าๆ เลยเอาราคานี้ล่ะกัน  (ทำคลายเครียดไปแล้ว เหลือแต่กำไรเป็นหุ้น)
1 ปี TVO ประมาณ 60% ทำคลายเครียดไปแล้ว

ส่วนที่ขาดทุนมากที่สุด
STAR 50%กว่าๆ 1 วัน
TNX 50% 6 เดือน
THL 60% (ยังมีอยู่) ประมาณ 3 เดือน
STPI 60% ประมาณ 3 เดือน
PTL 60% ประมาณ 3 ปี (ตอนนี้กำไรมากกว่าขาดทุน ถืออยู่)

ตามนี้ครับ
ไม่ต้องถามว่า PORT กำไรหรือขาดทุน
บอกได้ว่ากำไรครับ
เพราะ หลังๆ เล่นแนว VI ถือยาวๆ ดูกิจการที่มีปัญหาช่วงขณะแล้วกลับมาได้แน่นอน

[quote="คลายเครียด"]rojana ครับ

UEC  ประมาณ 300% ครับ แฮ่ม เวลาประมาณ 2 ปี

ตอนที่ซื้อ ล้งลงๆๆๆ ทุกวัน ขอมาร์เกตติ้งตั้งแต่ยัง IPO

แต่ไม่ได้  พอเข้าตลาดวันแรกมาร์โทรมาหาเลย

"ลงมา.... บาทแล้วพี่ เอามั้ย"



ตอนนั้นทยอยซื้อไปเรื่อยๆ จนเงินหมดต้องขาย RATCH

มาซื้อ หลังซื้อก็ยังแป๊กอยู่ที่ 8 บาทเก็บจนไม่กล้าเก็บ

แล้ว กลัวยังมีอะไรที่เราไม่รู้รึเปล่า


ซื้อไปได้ประมาณ 15-20% ของพอร์ต ก็ยังเก็บ

มาถึงตอนนี้ครับ ดีใจจริงโฮ่ๆ

เป็นหุ้นที่ได้เป็นเด้งๆตัวแรกเลยครับ

แต่ก่อนซื้อเป็นแบบชาวสวนมากกว่า VI ครับ ตอนนี้ค่อย

พยายามเปลื่ยนตัวเองมาแนว VI มากขึ้นเริ่มเปลื่ยนก็มา

ได้ตัวนี้เลยครับ มีโชคด้วยครับผม



แต่ก็ยังได้ไม่มากนะครับ เพราะไม่กล้าซื้อเพิ่มตอนนั้น

ที่ไม่ได้ซื้อเพิ่ม ก็เป็นเพราะความไม่รู้ครับ ถ้ารู้กระจ่าง

จริงๆ น่าจะซัดไป 40-50% แล้ว

SCNYL ครับ ทุนประมาณ 15 บาท กว่าๆ ซื้อเมื่อไหร่ก็จำไม่ค่อยได้ น่าจะประมาณ 3 ปีกว่า ตอนก่อนเพิ่มทุนครั้งล่าสุดครับ

ที่ซื้อตอนนั้นเพราะเห็นว่าเบี้ยใหม่จากการขายผ่านธนาคารเติบโตเร็วมาก แต่บริษัทยังลงทุนแบบ Conservative

ไม่รู้เรียกว่าแนวทางแบบ Baby VI ได้มั๊ยครับ เพราะดูแต่ตัวธุรกิจไม่ได้วิเคราะห์ตัวเลขอะไรเท่าไหร่  :oops:

[quote="Acumen"]SCNYL ครับ ทุนประมาณ 15 บาท กว่าๆ ซื้อเมื่อไหร่ก็จำไม่ค่อยได้ น่าจะประมาณ 3 ปีกว่า ตอนก่อนเพิ่มทุนครั้งล่าสุดครับ

ที่ซื้อตอนนั้นเพราะเห็นว่าเบี้ยใหม่จากการขายผ่านธนาคารเติบโตเร็วมาก แต่บริษัทยังลงทุนแบบ Conservative

ไม่รู้เรียกว่าแนวทางแบบ Baby VI ได้มั๊ยครับ เพราะดูแต่ตัวธุรกิจไม่ได้วิเคราะห์ตัวเลขอะไรเท่าไหร่