ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 2
ผมเจอ software แบบที่เสียสตางค์ในการสั่งซื้อครับ ราคาประมาณ 500$ แต่ลองไปอ่าน output ตัวอย่างดูก่อน แล้วอาจนำแนวทางมาประยุกต์สร้างเป็น Model ของตนเองตามทฤษฎีการเงินที่คุณเรียนมาก็ได้ แล้วตั้งผูกสูตรใน Excel ลองดู อาจจะช่วยทางลัดในการผูกสูตรเป็น Model ของตนเองได้ง่ายขึ้นครับ
ลองไปอ่านดูนะครับ อย่างน้อยก็จะได้เห็นแนวการวิเคราะห์และประเมินมูลค่าหุ้นได้บ้างครับ
http://www.wallstreetprep.com/programs/ ... kage_id=37
ลองไปอ่านดูนะครับ อย่างน้อยก็จะได้เห็นแนวการวิเคราะห์และประเมินมูลค่าหุ้นได้บ้างครับ
http://www.wallstreetprep.com/programs/ ... kage_id=37
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 3
ใช้ได้เลยครับ น่าเอาไปศึกษาดู รูปแบบดูสวยดีด้วยครับthawattt เขียน:ผมเจอ software แบบที่เสียสตางค์ในการสั่งซื้อครับ ราคาประมาณ 500$ แต่ลองไปอ่าน output ตัวอย่างดูก่อน แล้วอาจนำแนวทางมาประยุกต์สร้างเป็น Model ของตนเองตามทฤษฎีการเงินที่คุณเรียนมาก็ได้ แล้วตั้งผูกสูตรใน Excel ลองดู อาจจะช่วยทางลัดในการผูกสูตรเป็น Model ของตนเองได้ง่ายขึ้นครับ
ลองไปอ่านดูนะครับ อย่างน้อยก็จะได้เห็นแนวการวิเคราะห์และประเมินมูลค่าหุ้นได้บ้างครับ
http://www.wallstreetprep.com/programs/ ... kage_id=37
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 4
Discounted Cash Flow
http://www.4shared.com/file/24185057/c8 ... hFlow.html
คลิกตรง Download file
ผมดาวโหลดมาจาก web ข้างล่างหลายปีแล้ว ตอนนี้ไม่มีแล้ว
http://www.focusinvestor.com/scripts.html
http://www.4shared.com/file/24185057/c8 ... hFlow.html
คลิกตรง Download file
ผมดาวโหลดมาจาก web ข้างล่างหลายปีแล้ว ตอนนี้ไม่มีแล้ว
http://www.focusinvestor.com/scripts.html
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 5
ยังมีอยู่ครับ เป็น Excel Spreadsheet
Discounted Cash Flow ver 3.0
http://www.focusinvestor.com/index.htm
Discounted Cash Flow ver 3.0
http://www.focusinvestor.com/index.htm
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 7
ผมลองสรุปวิธีการหามูลค่าของบริษัท โดยใช้ Discounted Cash Flow พร้อมตัวอย่างการคำนวณนะครับ
http://www.4shared.com/file/24223267/99 ... ow_WG.html
ตัวอย่างการใช้ Two-Stage DCF คำนวนมูลค่าของ WG โดยใช้ Assumptions ดังนี้
1. Initial Cash Flow ใช้ Free Cash Flow ของปี 2006 เท่ากับ 69 ล้านบาท
2. ผลตอบแทนที่ต้องการคือ 12% ต่อปี ได้ Discount Rate = 12%
3. สมมุติให้ Cash Flow เติบโต 10% ในห้าปีแรก และ 7% ในห้าปีถัดไป (หลังจ่ายเงินปันผล) ได้ Growth Rate year 1-5 = 10% และ Growth Rate year 5-10 = 7%
4. ให้การเติบโตในปีที่ 11 ถึงบริษัทปิตกิจการเท่ากับ 1% ได้ Terminal Growth Rate = 1%
5. บริษัทมีหุ้นอยู่ 17,850,000 หุ้น ได้ Share Outstanding = 17,850,000
6. บริษัทมีหนี้สินอยู่ 173 ล้านบาทในปี 2006 ได้ Debt Level = 173 ล้านบาท
Cash Flow ที่ทำได้ในปีที่ 1 โดยGrowth Rate 10% และ discounted ด้วย Discounted Rate 12% เท่ากับ 67.768 ล้านบาท
Cash Flow ที่ทำได้ในปีที่ 2 โดยGrowth Rate 10% และ discounted ด้วย Discounted Rate 12% เท่ากับ 66.558 ล้านบาท
.
.
.
Cash Flow ที่ทำได้ในปีที่ 10 โดยGrowth Rate 7% และ discounted ด้วย Discounted Rate 12% เท่ากับ 50.182 ล้านบาท
โดย Cash Flow ตั้งต้นในปีที่ 11 = 157.417 (Terminal Year) ล้านบาทเป็นตัวตั้งในการคำนวณ Terminal Value ตั้งแต่ปีที่ 11 เบ็นต้นไป
Cash Flow 1-10 = 602.435 ล้านบาท
Cash Flow ตั้งแต่ปีที่ 11 เป็นต้นไป = 460.765 ล้านบาท
ได้ Cash Flow รวม = 1063.2 ล้านบาท เอาค่าที่ได้ไปลบด้วยหนี้สินของบริษัท 173 ล้านบาท แล้วหารด้วยจำนวนหุ้นจะได้ Intrinsic Value = 49.87 บาทต่อหุ้น
ถ้าจะซื้อหุ้นด้วย Margin of Safety 25% ควรซื้อที่ 37.40 บาท
http://www.4shared.com/file/24223267/99 ... ow_WG.html
ตัวอย่างการใช้ Two-Stage DCF คำนวนมูลค่าของ WG โดยใช้ Assumptions ดังนี้
1. Initial Cash Flow ใช้ Free Cash Flow ของปี 2006 เท่ากับ 69 ล้านบาท
2. ผลตอบแทนที่ต้องการคือ 12% ต่อปี ได้ Discount Rate = 12%
3. สมมุติให้ Cash Flow เติบโต 10% ในห้าปีแรก และ 7% ในห้าปีถัดไป (หลังจ่ายเงินปันผล) ได้ Growth Rate year 1-5 = 10% และ Growth Rate year 5-10 = 7%
4. ให้การเติบโตในปีที่ 11 ถึงบริษัทปิตกิจการเท่ากับ 1% ได้ Terminal Growth Rate = 1%
5. บริษัทมีหุ้นอยู่ 17,850,000 หุ้น ได้ Share Outstanding = 17,850,000
6. บริษัทมีหนี้สินอยู่ 173 ล้านบาทในปี 2006 ได้ Debt Level = 173 ล้านบาท
Cash Flow ที่ทำได้ในปีที่ 1 โดยGrowth Rate 10% และ discounted ด้วย Discounted Rate 12% เท่ากับ 67.768 ล้านบาท
Cash Flow ที่ทำได้ในปีที่ 2 โดยGrowth Rate 10% และ discounted ด้วย Discounted Rate 12% เท่ากับ 66.558 ล้านบาท
.
.
.
Cash Flow ที่ทำได้ในปีที่ 10 โดยGrowth Rate 7% และ discounted ด้วย Discounted Rate 12% เท่ากับ 50.182 ล้านบาท
โดย Cash Flow ตั้งต้นในปีที่ 11 = 157.417 (Terminal Year) ล้านบาทเป็นตัวตั้งในการคำนวณ Terminal Value ตั้งแต่ปีที่ 11 เบ็นต้นไป
Cash Flow 1-10 = 602.435 ล้านบาท
Cash Flow ตั้งแต่ปีที่ 11 เป็นต้นไป = 460.765 ล้านบาท
ได้ Cash Flow รวม = 1063.2 ล้านบาท เอาค่าที่ได้ไปลบด้วยหนี้สินของบริษัท 173 ล้านบาท แล้วหารด้วยจำนวนหุ้นจะได้ Intrinsic Value = 49.87 บาทต่อหุ้น
ถ้าจะซื้อหุ้นด้วย Margin of Safety 25% ควรซื้อที่ 37.40 บาท
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 9
วิธีการคำนวณ Free Cash Flow ใช้สูตรการคำนวณตามหนังสือ "วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง" ของ คุณสุมาอี้
FCF=NOPAT+D&A-CAPEX-∆WC
การคำนวณอยู่ในแผ่นที่สอง "WG_FCF" ในไฟล์ "DiscountedCashFlow_WG.xls"
ดูข้อมูลงบการเงินมาจาก web ข้างล่างครับ ดูง่ายดี
http://stocks.us.reuters.com/stocks/inc ... s&period=A
FCF=NOPAT+D&A-CAPEX-∆WC
การคำนวณอยู่ในแผ่นที่สอง "WG_FCF" ในไฟล์ "DiscountedCashFlow_WG.xls"
ดูข้อมูลงบการเงินมาจาก web ข้างล่างครับ ดูง่ายดี
http://stocks.us.reuters.com/stocks/inc ... s&period=A
-
- Verified User
- โพสต์: 421
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 10
ถ้าเปลี่ยน ตัว A ตัวสุดท้าย เป็นตัว Q ก็จะได้ข้อมูลรายไตรมาส
แหร่ม มากเลยครับ
ขอบคุณครับ
ปัญหาคือผมเขียนโปรแกรมดึงข้อมูลออกมาไม่ได้
เหมือนกะว่า เค้าบล๊อคไว้ยังไงก็ไม่รู้แหะ เดี๋ยวจะค่อยๆลองดูใหม่ครับ
ถ้าทำได้จรีง ก็คงต้องมานั่งเปิดหนังสือคุณสุมาอี้ ทำเข้าสูตรเลยคงจะดี
ถ้าเขียนโปรแกรมดึงออกมาไม่ได้ ก็คงต้องมานั่งเปิดดูทีละหน้าเว็บ แล้วคลิ๊กก๊อปปี้ข้อความเอา (เสียเวลามากเจรงๆ)
รู้สึกดีๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 11
สำหรับใครที่อยากคำนวณแบบเร็ว ๆ โดยไม่ต้องใช้ Excel ก็ใช้เครื่องคิดเลขตามนี้ได้ครับ สามารถประเมินมูลค่าหุ้นได้หลายแบบครับ
http://www.moneychimp.com/articles/valu ... kvalue.htm
http://www.moneychimp.com/articles/valu ... kvalue.htm
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 12
ถามคุณ tok หน่อยครับ ว่า initial cash flow นี่เอามาจากไหนครับ ผมเข้าไปใน link ของ reuters อันนั้นแล้วก็ไม่เจอ (ใช่ total cash from operations ใน cash flow statement รึเปล่าครับ)
แล้ว period ที่ใช้ forecast ไกลขนาดเป็นสิบปีนี่ มันจะแม่นยำได้ซักแค่ไหนครับ
ผมเพิ่งได้ศึกษาเรื่องการวัดมูลค่าหุ้นจากหนังสือคุณสุมาอี้นะครับ ยังไม่มีความเข้าใจดีเท่าไหร่ แต่สงสัยว่า excel อันนี้ กับวิธีการในหนังสือของคุณสุมาอี้ มันแตกต่างกันใช่มั๊ยครับ
ขอบคุณครับ
แล้ว period ที่ใช้ forecast ไกลขนาดเป็นสิบปีนี่ มันจะแม่นยำได้ซักแค่ไหนครับ
ผมเพิ่งได้ศึกษาเรื่องการวัดมูลค่าหุ้นจากหนังสือคุณสุมาอี้นะครับ ยังไม่มีความเข้าใจดีเท่าไหร่ แต่สงสัยว่า excel อันนี้ กับวิธีการในหนังสือของคุณสุมาอี้ มันแตกต่างกันใช่มั๊ยครับ
ขอบคุณครับ
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 14
Initial Cash Flow ใช้ Free Cash Flow ซึ่งใช้ค่าต่างๆในงบการเงิน มาคำนวณอีกที ใช้สูตรการคำนวณตามหนังสือ "วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง" ของ คุณสุมาอี้
FCF=NOPAT+D&A-CAPEX-∆WC
NOPAT (Net Operating Profit After Taxes) คือกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีเงินได้ หาได้จากงบกำไรขาดทุน (Income Statement) ใช้ Operating Income หักภาษีเงินไ้ด้
ซึ่งในกรณีของ WG ในปี 2006
Operating Income = 136 ล้านบาท
Income Taxes = 39 ล้านบาท
จะได้ NOPAT = 136 39 = 97 ล้านบาท
D&A (Depreciation & Amortization) และ CAPEX (Capital Expenditures) เอามาจากงบกระแสเงินสด (Cash Flow)
Depreciation = 45 ล้านบาท
Amortization = 0
D&A = 45 ล้านบาท
CAPEX (Capital Expenditures) คือเงินสดซื้อสินทรัพย์ถาวรเพื่อใช้ในกิจการ
Capital Expenditures 2006 = 163.76 ล้านบาท
Capital Expenditures 2005 = 22.95 ล้านบาท
Capital Expenditures 2004 = 6.85 ล้านบาท
Capital Expenditures 2003 = 4.80 ล้านบาท
Capital Expenditures 2002 = 4.30 ล้านบาท
เนื่องจาก WG เพิ่งเริ่มใช้เงินสดซื้อสินทรัพย์ถาวรใำนปี 2005 ถ้าใช้ CAPEX ของปี 2006 เท่ากับ 163 ล้านบาท จะได้ค่า FCF ติดลบ เพื่อประมาณมูลค่าของบริษัท ผมจึงใช้ค่าเฉลี่ยห้าปี เท่ากับ 40 ล้านบาท
∆WC (Changes in Working Capital) หรือ เงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น หมายถึงเงินทุนหมุนเวียนในปีปัจจุบัน (2006) ลบด้วยเงินทุนหมุนเวียนในปีที่แล้ว (2005)
เงินทุนหมุนเวียน เอาส่วนที่เป็นสินทรัพย์ลบด้วยส่วนที่เป็นหนี้สิน จากงบดุล (Balance Sheet)
ส่วนที่เป็นสินทรัพย์
ลูกหนี้การค้า (Total Receivables, Net)
สินค้าคงคลัีง (Total Inventory)
สินทรัพย์อื่นๆ (Other Current Assets, Total)
ส่วนที่เป็นหนี้สิน
เจ้าหนี้การค้า (Account Payable)
หนี้สินอื่นๆ (Other Payables and Liabilities)
WC ในปี 2006 เท่ากับ 228 ล้านบาท
WC ในปี 2005 เท่ากับ 191 ล้านบาท
∆WC = 228 191 = 37 ล้านบาท
เอาค่าต่างๆไปคำนวณ กระแสเงินสดอิสระ
FCF=NOPAT+D&A-CAPEX-∆WC = 97 + 45 40 37 = 65 ล้านบาท
FCF=NOPAT+D&A-CAPEX-∆WC
NOPAT (Net Operating Profit After Taxes) คือกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีเงินได้ หาได้จากงบกำไรขาดทุน (Income Statement) ใช้ Operating Income หักภาษีเงินไ้ด้
ซึ่งในกรณีของ WG ในปี 2006
Operating Income = 136 ล้านบาท
Income Taxes = 39 ล้านบาท
จะได้ NOPAT = 136 39 = 97 ล้านบาท
D&A (Depreciation & Amortization) และ CAPEX (Capital Expenditures) เอามาจากงบกระแสเงินสด (Cash Flow)
Depreciation = 45 ล้านบาท
Amortization = 0
D&A = 45 ล้านบาท
CAPEX (Capital Expenditures) คือเงินสดซื้อสินทรัพย์ถาวรเพื่อใช้ในกิจการ
Capital Expenditures 2006 = 163.76 ล้านบาท
Capital Expenditures 2005 = 22.95 ล้านบาท
Capital Expenditures 2004 = 6.85 ล้านบาท
Capital Expenditures 2003 = 4.80 ล้านบาท
Capital Expenditures 2002 = 4.30 ล้านบาท
เนื่องจาก WG เพิ่งเริ่มใช้เงินสดซื้อสินทรัพย์ถาวรใำนปี 2005 ถ้าใช้ CAPEX ของปี 2006 เท่ากับ 163 ล้านบาท จะได้ค่า FCF ติดลบ เพื่อประมาณมูลค่าของบริษัท ผมจึงใช้ค่าเฉลี่ยห้าปี เท่ากับ 40 ล้านบาท
∆WC (Changes in Working Capital) หรือ เงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น หมายถึงเงินทุนหมุนเวียนในปีปัจจุบัน (2006) ลบด้วยเงินทุนหมุนเวียนในปีที่แล้ว (2005)
เงินทุนหมุนเวียน เอาส่วนที่เป็นสินทรัพย์ลบด้วยส่วนที่เป็นหนี้สิน จากงบดุล (Balance Sheet)
ส่วนที่เป็นสินทรัพย์
ลูกหนี้การค้า (Total Receivables, Net)
สินค้าคงคลัีง (Total Inventory)
สินทรัพย์อื่นๆ (Other Current Assets, Total)
ส่วนที่เป็นหนี้สิน
เจ้าหนี้การค้า (Account Payable)
หนี้สินอื่นๆ (Other Payables and Liabilities)
WC ในปี 2006 เท่ากับ 228 ล้านบาท
WC ในปี 2005 เท่ากับ 191 ล้านบาท
∆WC = 228 191 = 37 ล้านบาท
เอาค่าต่างๆไปคำนวณ กระแสเงินสดอิสระ
FCF=NOPAT+D&A-CAPEX-∆WC = 97 + 45 40 37 = 65 ล้านบาท
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 16
วิธีคำนวณใน Excel ตรงกับโมเดลวัดมูลค่าหุ้นเติบโตในหนังสือวัดมูลค่าหุ้นของคุณสุมาอี้
การวัดมูลค่าหุ้นเติบโตสูง เราจะใช่วิธีแบ่งอนาคตของหุ้นเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นช่วงที่เติบโตสูง (ส่วนใหญ่แล้วควรอยู่ระหว่าง 3-15 ปี) ในช่วงนี้ค่า g สามารถมีค่าสูงๆได้ และช่วงที่สองเป็นช่วงที่บริษัเข้าสู่จุดอิ่มตัวแล้ว ค่า g ในช่วงนี้จะมีค่าต่ำๆ (ไม่เกินร้อยละ 3.5 ต่อปี)
ในช่วงที่หนึ่งซึ่งเป็นช่วงที่หุ้นมีอัตราการเติบโตสูง ซึ่งกินเวลาเพียง 3-15 ปี เรานิยมลดกระแสเงินสดอิสระด้วยต้นทุนเงินทุนของบริษัีททีละปีแล้วนำมาบวกกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าอัตราการเติบโตในช่วงสามปีแรกเป็น 25%, 25% และ 20% ตามลำดับ ผลรวมของกระแสเงินสดอิสระในช่วง 3 ปีแรกลดด้วยต้นทุนเงินทุน (r) จะมีค่าเท่ากับ
FCFx1.25/ (1+r) + FCFx1.252/ (1+r) 2 + FCFx1.252x1.20/ (1+r) 3
สำหรับช่วงที่สองที่เป็นช่วงเติบโตน้อยๆ เราสามารถใช้สูตร FCF/(r-g) เพียงแต่มูลค่าที่ได้จะเป็นมูลค่า ณ ปีแรกก่อนที่บริษัีทจะเริ่มเข้าสู่ช่วงที่สอง จึงต้องมีการหักลบด้วยต้นทุนเงินทุนซ้ำอีกเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนปีในช่วงที่หนึ่ง
การคำนวณในตาราง Excel นี้ จะใช้ discounted rate หรือ ผลตอบแทนที่ต้องการ แทนต้นทุนเงินทุน (r)
ส่วนอัตราการเติบโต g เราอาจจะใช้อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรต่อหุ้นย้อนหลัีงหลายๆปี โดยใช้ฟังก์ชัน Rate ใน Excel มีพารามิเตอร์ดังนี้
` = RATE(n,0,-X1,Xn)
โดยที่ n คือจำนวนปีที่ต้องการเฉลี่ย X1 คือ EPS ในปีแรกสุด และ Xn คือ EPS ในปีสุดท้าย
การวัดมูลค่าหุ้นเติบโตสูง เราจะใช่วิธีแบ่งอนาคตของหุ้นเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นช่วงที่เติบโตสูง (ส่วนใหญ่แล้วควรอยู่ระหว่าง 3-15 ปี) ในช่วงนี้ค่า g สามารถมีค่าสูงๆได้ และช่วงที่สองเป็นช่วงที่บริษัเข้าสู่จุดอิ่มตัวแล้ว ค่า g ในช่วงนี้จะมีค่าต่ำๆ (ไม่เกินร้อยละ 3.5 ต่อปี)
ในช่วงที่หนึ่งซึ่งเป็นช่วงที่หุ้นมีอัตราการเติบโตสูง ซึ่งกินเวลาเพียง 3-15 ปี เรานิยมลดกระแสเงินสดอิสระด้วยต้นทุนเงินทุนของบริษัีททีละปีแล้วนำมาบวกกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าอัตราการเติบโตในช่วงสามปีแรกเป็น 25%, 25% และ 20% ตามลำดับ ผลรวมของกระแสเงินสดอิสระในช่วง 3 ปีแรกลดด้วยต้นทุนเงินทุน (r) จะมีค่าเท่ากับ
FCFx1.25/ (1+r) + FCFx1.252/ (1+r) 2 + FCFx1.252x1.20/ (1+r) 3
สำหรับช่วงที่สองที่เป็นช่วงเติบโตน้อยๆ เราสามารถใช้สูตร FCF/(r-g) เพียงแต่มูลค่าที่ได้จะเป็นมูลค่า ณ ปีแรกก่อนที่บริษัีทจะเริ่มเข้าสู่ช่วงที่สอง จึงต้องมีการหักลบด้วยต้นทุนเงินทุนซ้ำอีกเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนปีในช่วงที่หนึ่ง
การคำนวณในตาราง Excel นี้ จะใช้ discounted rate หรือ ผลตอบแทนที่ต้องการ แทนต้นทุนเงินทุน (r)
ส่วนอัตราการเติบโต g เราอาจจะใช้อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรต่อหุ้นย้อนหลัีงหลายๆปี โดยใช้ฟังก์ชัน Rate ใน Excel มีพารามิเตอร์ดังนี้
` = RATE(n,0,-X1,Xn)
โดยที่ n คือจำนวนปีที่ต้องการเฉลี่ย X1 คือ EPS ในปีแรกสุด และ Xn คือ EPS ในปีสุดท้าย
-
- Verified User
- โพสต์: 148
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 18
ผมต้องขอขุดกระทู้ขึ้นมาหน่อยนะครับเพราะว่าหัดหาค่าDCFอยู่ คือจากกระทู้นี้ผมหาค่าWCได้ไม่เท่ากับคุณtokอะครับเลยอยากถามผู้เชี่ยวชาญว่าผมดูค่าอะไรผิดไป
เงินทุนหมุนเวียน เอาส่วนที่เป็นสินทรัพย์ลบด้วยส่วนที่เป็นหนี้สิน จากงบดุล (Balance Sheet)
ส่วนที่เป็นสินทรัพย์ 2005 2006
ลูกหนี้การค้า 191.5 206.6
สินค้าคงคลัง 145.8 152.5
สินทรัพย์อื่นๆ 5.9 6
รวม 343.2 365.1
ส่วนที่เป็นหนี้สิน
เจ้าหนี้การค้า 118.5 106.4
หนี้สินอื่นๆ 10 5.9
รวม 128.5 112.3
WCเท่ากับ 343.2-128.8 = 214 365.1-112.3= 252.8
ผมอยากทราบว่าผมคิดหรือมองค่าตรงไหนผิดครับถึงได้ไม่เท่าคุณTOK
เงินทุนหมุนเวียน เอาส่วนที่เป็นสินทรัพย์ลบด้วยส่วนที่เป็นหนี้สิน จากงบดุล (Balance Sheet)
ส่วนที่เป็นสินทรัพย์ 2005 2006
ลูกหนี้การค้า 191.5 206.6
สินค้าคงคลัง 145.8 152.5
สินทรัพย์อื่นๆ 5.9 6
รวม 343.2 365.1
ส่วนที่เป็นหนี้สิน
เจ้าหนี้การค้า 118.5 106.4
หนี้สินอื่นๆ 10 5.9
รวม 128.5 112.3
WCเท่ากับ 343.2-128.8 = 214 365.1-112.3= 252.8
ผมอยากทราบว่าผมคิดหรือมองค่าตรงไหนผิดครับถึงได้ไม่เท่าคุณTOK
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 20
ลองใช้เวอร์ชั่นล่าสุดของผมดูนะครับ
http://www.4shared.com/file/69092002/4b ... CF_WG.html
ใช้งบการเงินย้อนหลัง 4 ปี เอาข้อมูลงบการเงิน จากเวปข้างล่าง
http://investing.businessweek.com/resea ... mbol=WG.BK
แล้ว copy และ paste ลงใน excel sheet "WG_FCF"
ค่าต่างๆที่ใส่ไป จะนำไปคำนวณ FCF โดยใช้สูตรที่เคยอธิบายข้างบน
ตัวอย่าง
Year 2004 2005 2006 2007
Operating Income 112.1 121.9 135.1 157.4
Income Tax 30.2 32.6 39.2 40
NOPAT 82 89 96 117
Depreciation & Amortization 36.8 38.5 45.2 43.8
Capital Expenditures -6.9 -23 -163.8 -2.6
Total Receivables 197.5 196 211.5 238.2
Inventory 114.8 145.8 152.6 159
Other Current Assets 0 0.6 0.8 0.7
Total Current Liabilities 141.7 151.3 137.2 146.6
Working Capital 171 191 228 251
excel จะนำไปคำนวณ FCF = 85 ล้านบาท
ค่า FCF ที่ได้จะถูกดึงไปใช้เป็น Initial Cash Flow ในการคำนวณ Discount Cash Flow ใน sheet "WG_DCF"
โดยต้องใส่ค่าต่างๆ ดังนี้
- Growth Rate ปีที่ 1-5 (ในตัวอย่างใช้ 12%)
- Growth Rate ปีที่ 6-10 (ในตัวอย่างใช้ 6%)
-Growth Rate ในปีที่ 10 เป็นต้นไป (ผมใช้ 2%) เพื่อหาค่า Terminal Cash Flow
-Shares Outstanding หรือจำนวนหุ้นทั้งหมด
-Dept Level จะใช้เฉพาะหนี้สินระยะยาวเท่านั้น excel จะไปดึงมาจาก Long-Term Debt ในงบการเงิน (sheet "WG_FCF")
จะได้ค่า Intrinsic Value หรือมูลค่าหุ้นตามวิธี DCF
จากงบการเงิน ทีเราคัดลอกมา ทำให้เราได้ค่าต่างๆเหล่านี้ด้วย
- Gross Profit Margin
- SG&A Margin
- Net Margin
-Payable Credit (days)
-Receivables Credit (days)
-Inventory in stock (days)
-Working Capital (days)
-FCF from operations
-FCF/Sale
และค่า ROA, ROE, ROCE, Debt/Equity, ROTC, ROIC
ผมใช้สูตรคำนวณจากหนังสือหลายเล่ม ถ้าใครเจอข้อผิดพลาดในสูตรคำนวณ ขอให้บอกด้วยนะครับ
http://www.4shared.com/file/69092002/4b ... CF_WG.html
ใช้งบการเงินย้อนหลัง 4 ปี เอาข้อมูลงบการเงิน จากเวปข้างล่าง
http://investing.businessweek.com/resea ... mbol=WG.BK
แล้ว copy และ paste ลงใน excel sheet "WG_FCF"
ค่าต่างๆที่ใส่ไป จะนำไปคำนวณ FCF โดยใช้สูตรที่เคยอธิบายข้างบน
ตัวอย่าง
Year 2004 2005 2006 2007
Operating Income 112.1 121.9 135.1 157.4
Income Tax 30.2 32.6 39.2 40
NOPAT 82 89 96 117
Depreciation & Amortization 36.8 38.5 45.2 43.8
Capital Expenditures -6.9 -23 -163.8 -2.6
Total Receivables 197.5 196 211.5 238.2
Inventory 114.8 145.8 152.6 159
Other Current Assets 0 0.6 0.8 0.7
Total Current Liabilities 141.7 151.3 137.2 146.6
Working Capital 171 191 228 251
excel จะนำไปคำนวณ FCF = 85 ล้านบาท
ค่า FCF ที่ได้จะถูกดึงไปใช้เป็น Initial Cash Flow ในการคำนวณ Discount Cash Flow ใน sheet "WG_DCF"
โดยต้องใส่ค่าต่างๆ ดังนี้
- Growth Rate ปีที่ 1-5 (ในตัวอย่างใช้ 12%)
- Growth Rate ปีที่ 6-10 (ในตัวอย่างใช้ 6%)
-Growth Rate ในปีที่ 10 เป็นต้นไป (ผมใช้ 2%) เพื่อหาค่า Terminal Cash Flow
-Shares Outstanding หรือจำนวนหุ้นทั้งหมด
-Dept Level จะใช้เฉพาะหนี้สินระยะยาวเท่านั้น excel จะไปดึงมาจาก Long-Term Debt ในงบการเงิน (sheet "WG_FCF")
จะได้ค่า Intrinsic Value หรือมูลค่าหุ้นตามวิธี DCF
จากงบการเงิน ทีเราคัดลอกมา ทำให้เราได้ค่าต่างๆเหล่านี้ด้วย
- Gross Profit Margin
- SG&A Margin
- Net Margin
-Payable Credit (days)
-Receivables Credit (days)
-Inventory in stock (days)
-Working Capital (days)
-FCF from operations
-FCF/Sale
และค่า ROA, ROE, ROCE, Debt/Equity, ROTC, ROIC
ผมใช้สูตรคำนวณจากหนังสือหลายเล่ม ถ้าใครเจอข้อผิดพลาดในสูตรคำนวณ ขอให้บอกด้วยนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 27
ผมลองเสนอวิธีง่ายๆที่ผมมักจะใช้บ่อยๆ
หลักคิดของผมก็คือ บริษัทไม่มีอัตราการเติบโต ดังนั้น Working Capital เช่น ลูกหนี้การค้า สินค้าคงคลัง และ เจ้าหนี้การค้า ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง
กรณีของ WG ถ้าเราคิดจาก 4 ไตรมาสย้อนหลัง
กำไรสุทธิ = 131.115 + 78.952 - 54.436 = 155.631
ค่าเสื่อมราคา = 43.70 + 21.42 - 22.07 = 43.05
Capital Expend ประมาณ 10
FCF จะได้ประมาณปีละ 155.631 + 43.05 - 10 = 188.681
FCF ต่อหุ้น 10.57 บาท
เทียบกับราคาตลาดที่ 41 บาท ก็ประมาณ 4 เท่า หรือประมาณ 25%ต่อปี
แต่ถ้านำราคาหุ้นหักเงินสด = 41 - 16.62 = 24.38 บาท
ก็ประมาณ 2 ปีเศษ บริษัทก็จะมีเงินสดเท่าราคาตลาดวันนี้
ถ้าฟลุ๊ก บริษัทเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็ได้ผลตอบแทนสูงขึ้นอีก
หลักคิดของผมก็คือ บริษัทไม่มีอัตราการเติบโต ดังนั้น Working Capital เช่น ลูกหนี้การค้า สินค้าคงคลัง และ เจ้าหนี้การค้า ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง
กรณีของ WG ถ้าเราคิดจาก 4 ไตรมาสย้อนหลัง
กำไรสุทธิ = 131.115 + 78.952 - 54.436 = 155.631
ค่าเสื่อมราคา = 43.70 + 21.42 - 22.07 = 43.05
Capital Expend ประมาณ 10
FCF จะได้ประมาณปีละ 155.631 + 43.05 - 10 = 188.681
FCF ต่อหุ้น 10.57 บาท
เทียบกับราคาตลาดที่ 41 บาท ก็ประมาณ 4 เท่า หรือประมาณ 25%ต่อปี
แต่ถ้านำราคาหุ้นหักเงินสด = 41 - 16.62 = 24.38 บาท
ก็ประมาณ 2 ปีเศษ บริษัทก็จะมีเงินสดเท่าราคาตลาดวันนี้
ถ้าฟลุ๊ก บริษัทเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็ได้ผลตอบแทนสูงขึ้นอีก
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution
โพสต์ที่ 29
เช่นกันครับ กำลังศึกษา DCF อยู่ เพิ่งทราบว่ามีกระทู้ที่พี่ๆได้ทำไว้แล้วอยากนำมาศึกษาครับ รบกวนพี่ๆท่านใดมีอยู่รบกวนอัพโหลดทีครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ.....
ขอบคุณล่วงหน้าครับ.....