เลคเชอร์ สัมมนาหัวข้อ "คาถาลงทุนสำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อย
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 08, 2007 10:45 am
ผมนั่งบันไดข้างหน้ามุมขวาครับ คึกคักดีครับตลกฮากลิ้งหลายมุขครับ ลางานไปฟังรอบสุดท้ายบ่ายสาม
อ.เสน่ห์กับคุณไพบูลย์เข้าขากันดีมากกว่าจะเข้าเนื้อหาก็โชว์กันท้องคัดท้องแข็งเช่นมุกแมวที่บ้านคุณสมัครไม่ได้ร้องเมี้ยวๆแล้ว
ร้องว่าแม้วกันเป็นแถว เริ่มเข้าเนื้อหาที่
อ.เสน่ห์ ให้คาถาสำหรับแมงเม่าเจ้าเวหาดังนี้
1.แมงเม่าเข้าเข้ากองทุน อย่าเข้ากองไฟ
2.ขัดใจเพื่อน อย่าเชื่อเพื่อน ต้องศึกษาเองด้วย
3.อย่าขี่แมงเม่าด้วยกัน ต้องขี่ช้าง (หมายถึงทุนนอก) ดูว่าเขาเข้าออกเมื่อไหร่ ได้ยินเสียงช้างมาเมื่อไหร่ให้เข้าก่อนเขา ช้างจะไปให้เราออกก่อน
4.เก็บศพเพื่อนไว้ดูเป็นที่ระลึก เตือนใจให้ระวัง
5.ต้องคิดถึงลูกหลานข้างหน้า เล่น LTF RMF ไว้บ้าง
มีคติของจีนว่า There is a will,There is a way.ขอให้มีความตั้งใจ จะมีหนทางเสมอ
ต้องมีความอดทนต่อความมานะบากบั่น
ดร.สุวรรณ บอกว่าตอนนี้ฝากแบงค์หรือตราสารหนี้จะได้ดอกเบี้ยน้อย แนะนำเล่นหุ้นผ่านเน็ทจะประหยัดค่าคอม
และยังลดโอกาสที่จะพลาดตอนที่เกิดวิกฤต แล้วโทรศัพท์ไม่ว่าง
แนะเล่นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง ได้ส่วนต่างครั้งละ 2-3% ได้ซักเดือนละครั้ง ปีหนึ่งเล่นก็ได้ 24-36%แล้ว
มีกำไรแบ่งไปซื้อทองหรือคอนโดในเมืองเพื่อลงทุน
ดร.นิเวศน์ บอกว่าคนสมัยก่อนลงทุนกับลูก มีลูกมากจะต้องมีส่วนหนึ่งที่เลี้ยงเราได้ตอนแก่
ปัจจุบันมีลูกน้อยลง ควรลงในหุ้นที่เติบโต เป็นธุรกิจที่สามารถเลี้ยงเราได้ตอนแก่
ตัวไหนท่าทางไม่โตให้ตัดทิ้ง ต้องมีปันผลสม่ำเสมอ
ดูย้อนหลัง 3-4 ปีว่าโตตลอดแบมีเหตุผล ไม่ซื้หุ้นที่เราไม่เข้าใจในธุรกิจนั้น
อย่างปตท.นี่ดร.นิเวศน์ไม่เข้าใจในธุรกิจนี้จึงไม่สนใจ (คงเหมือนบัฟเฟต์ไม่สนไมโครซอฟท์)
เราควรเลือกธุรกิจที่เรารู้ดีซัก 5 ตัวก็พอที่มีปันผล ถ้าซื้อหุ้นถูกตัวในราคา 4 บาท อีก 10 ปีข้างหน้าอาจปันผลให้เรา 4 บาทเลยก็ได้
คุณพีรนาท (คุณสามัญชนเปล่าหว่า?) แนะนำว่า
1 ต้องลงทุนกับตัวเองก่อน เรียนดูงบการเงินก่อน อ่านหนังสือ ตั้งจุดหมาว่าจะลงทุนเพื่ออะไร สนุกๆ รายได้เสริม หรือรายได้หลัก
2.อย่าตั้งเป้าสูงเกินไป ถ้าได้ 15 % ก็ควรพอใจแล้ว 3.อย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น ไม่รู้ว่าเขาโม้หรือเปล่า ควรแข่งกับตนเองดีกว่า
3.ศึกษาตัวบริษัทให้ดีก่อน
4.เรียนรู้ข้อผิดพลาด
5.ซื้อหุ้นต้องมีเหตุผลที่สามารถอธิบายได้
คุณมนตรี ณ กิมเอ็ง บอกว่า
1. จะหาหุ้นที่ดีได้ ต้องเข้าใจในตัวหุ้นนั้น
2. อย่าเบื่อหุ้นดี ที่ตปท.ชอบ เช่นบลูชิป อย่าง PTT BBL
3. อย่าเล่นหุ้นที่มีเจ้ามือ เจ้ามักจะเลือกการเล่นแบบได้ 70% เสีย 30% เพื่อให้กำลังใจแมงเม่าบ้าง
4. เลือกหุ้นที่เป็นผู้นำ มีการเติบโต
5. ซื้อถูกขายแพง ดู PE 6.ดูจังหวะ จังหวะที่คนไม่ซื้อมักจะน่าซื้อ
คุณมนตรี ได้ให้กลอนว่า รอหุ้นขึ้นจนมั่นใจแล้วค่อยเข้า รอหุ้นเน่าจนเศร้าใจแล้วค่อยขาย
อ.เสน่ห์ หรือดร.ไพบูลย์ ไม่แน่ใจ ต่อให้ว่า อนาถแท้พวกเราทั้งหญิงชาย ตักน้ำใสใส่กะโหลกชะโงกดู
7.ข่าวดีให้ขาย ข่าวร้ายให้ซื้อ (เฉพาะหุ้นซิกแซก)
8. ถือหุ้นให้ได้นานพอ ควรเป็นเงินเย็น
9. ติดตามข้อมูลข่าวสาร เช่นใน http://www.kimeng.co.th/thai/index.asp
10. ติดอาวุธให้ครบ เล่นหุ้น 2 ปีเป็น 5-10 ปีเก่ง
ผิดพลาดไม่ถูกใจ ขออภัยมา ณ ที่นี้
อ.เสน่ห์กับคุณไพบูลย์เข้าขากันดีมากกว่าจะเข้าเนื้อหาก็โชว์กันท้องคัดท้องแข็งเช่นมุกแมวที่บ้านคุณสมัครไม่ได้ร้องเมี้ยวๆแล้ว
ร้องว่าแม้วกันเป็นแถว เริ่มเข้าเนื้อหาที่
อ.เสน่ห์ ให้คาถาสำหรับแมงเม่าเจ้าเวหาดังนี้
1.แมงเม่าเข้าเข้ากองทุน อย่าเข้ากองไฟ
2.ขัดใจเพื่อน อย่าเชื่อเพื่อน ต้องศึกษาเองด้วย
3.อย่าขี่แมงเม่าด้วยกัน ต้องขี่ช้าง (หมายถึงทุนนอก) ดูว่าเขาเข้าออกเมื่อไหร่ ได้ยินเสียงช้างมาเมื่อไหร่ให้เข้าก่อนเขา ช้างจะไปให้เราออกก่อน
4.เก็บศพเพื่อนไว้ดูเป็นที่ระลึก เตือนใจให้ระวัง
5.ต้องคิดถึงลูกหลานข้างหน้า เล่น LTF RMF ไว้บ้าง
มีคติของจีนว่า There is a will,There is a way.ขอให้มีความตั้งใจ จะมีหนทางเสมอ
ต้องมีความอดทนต่อความมานะบากบั่น
ดร.สุวรรณ บอกว่าตอนนี้ฝากแบงค์หรือตราสารหนี้จะได้ดอกเบี้ยน้อย แนะนำเล่นหุ้นผ่านเน็ทจะประหยัดค่าคอม
และยังลดโอกาสที่จะพลาดตอนที่เกิดวิกฤต แล้วโทรศัพท์ไม่ว่าง
แนะเล่นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง ได้ส่วนต่างครั้งละ 2-3% ได้ซักเดือนละครั้ง ปีหนึ่งเล่นก็ได้ 24-36%แล้ว
มีกำไรแบ่งไปซื้อทองหรือคอนโดในเมืองเพื่อลงทุน
ดร.นิเวศน์ บอกว่าคนสมัยก่อนลงทุนกับลูก มีลูกมากจะต้องมีส่วนหนึ่งที่เลี้ยงเราได้ตอนแก่
ปัจจุบันมีลูกน้อยลง ควรลงในหุ้นที่เติบโต เป็นธุรกิจที่สามารถเลี้ยงเราได้ตอนแก่
ตัวไหนท่าทางไม่โตให้ตัดทิ้ง ต้องมีปันผลสม่ำเสมอ
ดูย้อนหลัง 3-4 ปีว่าโตตลอดแบมีเหตุผล ไม่ซื้หุ้นที่เราไม่เข้าใจในธุรกิจนั้น
อย่างปตท.นี่ดร.นิเวศน์ไม่เข้าใจในธุรกิจนี้จึงไม่สนใจ (คงเหมือนบัฟเฟต์ไม่สนไมโครซอฟท์)
เราควรเลือกธุรกิจที่เรารู้ดีซัก 5 ตัวก็พอที่มีปันผล ถ้าซื้อหุ้นถูกตัวในราคา 4 บาท อีก 10 ปีข้างหน้าอาจปันผลให้เรา 4 บาทเลยก็ได้
คุณพีรนาท (คุณสามัญชนเปล่าหว่า?) แนะนำว่า
1 ต้องลงทุนกับตัวเองก่อน เรียนดูงบการเงินก่อน อ่านหนังสือ ตั้งจุดหมาว่าจะลงทุนเพื่ออะไร สนุกๆ รายได้เสริม หรือรายได้หลัก
2.อย่าตั้งเป้าสูงเกินไป ถ้าได้ 15 % ก็ควรพอใจแล้ว 3.อย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น ไม่รู้ว่าเขาโม้หรือเปล่า ควรแข่งกับตนเองดีกว่า
3.ศึกษาตัวบริษัทให้ดีก่อน
4.เรียนรู้ข้อผิดพลาด
5.ซื้อหุ้นต้องมีเหตุผลที่สามารถอธิบายได้
คุณมนตรี ณ กิมเอ็ง บอกว่า
1. จะหาหุ้นที่ดีได้ ต้องเข้าใจในตัวหุ้นนั้น
2. อย่าเบื่อหุ้นดี ที่ตปท.ชอบ เช่นบลูชิป อย่าง PTT BBL
3. อย่าเล่นหุ้นที่มีเจ้ามือ เจ้ามักจะเลือกการเล่นแบบได้ 70% เสีย 30% เพื่อให้กำลังใจแมงเม่าบ้าง
4. เลือกหุ้นที่เป็นผู้นำ มีการเติบโต
5. ซื้อถูกขายแพง ดู PE 6.ดูจังหวะ จังหวะที่คนไม่ซื้อมักจะน่าซื้อ
คุณมนตรี ได้ให้กลอนว่า รอหุ้นขึ้นจนมั่นใจแล้วค่อยเข้า รอหุ้นเน่าจนเศร้าใจแล้วค่อยขาย
อ.เสน่ห์ หรือดร.ไพบูลย์ ไม่แน่ใจ ต่อให้ว่า อนาถแท้พวกเราทั้งหญิงชาย ตักน้ำใสใส่กะโหลกชะโงกดู
7.ข่าวดีให้ขาย ข่าวร้ายให้ซื้อ (เฉพาะหุ้นซิกแซก)
8. ถือหุ้นให้ได้นานพอ ควรเป็นเงินเย็น
9. ติดตามข้อมูลข่าวสาร เช่นใน http://www.kimeng.co.th/thai/index.asp
10. ติดอาวุธให้ครบ เล่นหุ้น 2 ปีเป็น 5-10 ปีเก่ง
ผิดพลาดไม่ถูกใจ ขออภัยมา ณ ที่นี้
