เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

กระทู้การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น วีไอ มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมไปดูที่พี่ไปโพสต์ไว้ใน Pantip.com

ช่วงนี้พี่ฉัตรชัย และ VI ชื่อดังหลายๆคนพยายามชักชวนคนให้เข้ามาสู่การเป็น Value Invetor ผมว่าดีครับ

พี่ครับ ผมอยากให้พี่ฉัตรชัย บอกให้ละเอียดเกี่ยวกับ VI ให้มากกว่านี้

การลงทุนแบบ VI นั้นมันไม่ใช่ว่าจะมาซื้อหุ้นโดยอ่านงบการเงินลวกๆแล้วจะเป็น VI ได้ ไม่ใช่ว่าจะหาหุ้น VI เพื่อซื้อวันพรุ่งนี้ก็ได้ VI ต้องรอโอกาส รอ รอ รอ ... วิเคราะห์ แล้ว รอ เมื่อมีจังหวะ ค่อยเข้าซื้อ

อย่างพี่ฉัตรชัยเองก็ยังบอกเลยว่า การปรับตัวลงครั้งนี้ หุ้นก็ยังไม่ถูกถึงขั้นที่พี่อยากซื้อ ซึ่งผมเห็นด้วยมากๆ ว่า VI เองต้องรอเข้าซื้อเมื่อหุ้นอยู่ที่จุดต่ำจนมี Margin of Safety จริงๆ

ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไม VI หลายๆท่านไม่บอกน้องใหม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ให้ชัดเจน ? เพราะมันบาปมากนะครับ ชวนเค้ามาแต่ให้เค้าเข้าใจไปผิดๆ บอกเค้าไม่ให้ Cut Loss แต่ไม่บอกเรื่องหัวใจของการเข้าซื้อ

เพราะถ้าไม่ Cut Loss นั่นหมายความว่า Skill ในการอ่านงบการเงิน Skill ในการวิเคราะห์ ต้องมองขาดจริงๆ เพราะถ้าไม่แล้ว โศกนาฎกรรม นะครับพี่

ยังไงพี่ๆช่วยบอกให้ละเอียดด้วย หากจะชวนคนที่เพิ่งเล่นหุ้นเข้ามา เพราะว่าไม่งั้นคนเล่นหุ้นแล้วเสียหุ้นหนักๆเพราะยึดหลักอะไรก็ไม่รู้ ที่เค้านึกว่าเป็น VI นี่ผมว่า คนจะเสื่อมศรัทธา VI ในที่สุดนะครับ

หวังว่าจะไม่โกรธผมเรื่องนี้นะครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 2

โพสต์

การลงทุนแบบ VI นั้นมันไม่ใช่ว่าจะมาซื้อหุ้นโดยอ่านงบการเงินลวกๆแล้วจะเป็น VI ได้ ไม่ใช่ว่าจะหาหุ้น VI เพื่อซื้อวันพรุ่งนี้ก็ได้ VI ต้องรอโอกาส รอ รอ รอ ... วิเคราะห์ แล้ว รอ เมื่อมีจังหวะ ค่อยเข้าซื้อ

อย่างพี่ฉัตรชัยเองก็ยังบอกเลยว่า การปรับตัวลงครั้งนี้ หุ้นก็ยังไม่ถูกถึงขั้นที่พี่อยากซื้อ ซึ่งผมเห็นด้วยมากๆ ว่า VI เองต้องรอเข้าซื้อเมื่อหุ้นอยู่ที่จุดต่ำจนมี Margin of Safety จริงๆ

ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไม VI หลายๆท่านไม่บอกน้องใหม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ให้ชัดเจน ? เพราะมันบาปมากนะครับ ชวนเค้ามาแต่ให้เค้าเข้าใจไปผิดๆ บอกเค้าไม่ให้ Cut Loss แต่ไม่บอกเรื่องหัวใจของการเข้าซื้อ

เพราะถ้าไม่ Cut Loss นั่นหมายความว่า Skill ในการอ่านงบการเงิน Skill ในการวิเคราะห์ ต้องมองขาดจริงๆ เพราะถ้าไม่แล้ว โศกนาฎกรรม นะครับพี่

ยังไงพี่ๆช่วยบอกให้ละเอียดด้วย หากจะชวนคนที่เพิ่งเล่นหุ้นเข้ามา เพราะว่าไม่งั้นคนเล่นหุ้นแล้วเสียหุ้นหนักๆเพราะยึดหลักอะไรก็ไม่รู้ ที่เค้านึกว่าเป็น VI นี่ผมว่า คนจะเสื่อมศรัทธา VI ในที่สุดนะครับ


" ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และ ถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี" ไม่มีสูตรสำเร็จในการคิดมูลค่านี้ คุณต้องรู้ซึ่งในกิจการ นั้นๆ
ขอนำ motto ของพี่ครรชิต มาอีกครั้งนะครับ
เพราะมันครบถ้วน อยู่ในตัวมันเองอยู่แล้ว

ผมคิดว่าหลายท่านก็บอกและพูดบ่อยๆ แต่นักลงทุนรุ่นใหม่จะทำตามหรือเปล่า
หรือเข้าใจ หรือเปล่าคงไ่ม่แน่ใจ เพราะพื้นฐานการรับรู้ของแต่ละคนคงแตกต่างกันไป ว่าที่จริงท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย ก็ไม่ได้รับอะไรเป็นสิ่งตอบแทนเลยนะครับ
สงสัยว่าจะเป็นแบบ "เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กระดูกแขวนคอ" ซะแล้ว :lol: :lol: :lol:

แต่เห็นด้วยกับน้องคัดท้ายนะครับว่า
การเป็น vi ที่จะประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้มาง่ายๆเลยครับ กว่าจะมีวันนี้ ผมคิดว่าแต่ละคนก็ลองผิดลองถูก มีบทเรียน มาเยอะแล้ว สุดท้ายก็เลยจบที่ vi และได้มารวมกันอยู่ที่นี่ ดังนั้นหากท่านใดคิดว่าเป็น vi แต่ลงทุนแล้วไม่ประสบความสำเร็จ (ในระยะยาวนะครับ) คงต้องกลับไปอ่านที่ motto หรือที่กระทู้คุณวิบูลย์อีกครั้ง
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมมาโพสต์เตือน เพราะทาง ตลท และสิ่งพิมพ์หลายๆอัน และ บทความหลายๆบทความ พยายามที่จะบอกรายย่อยว่า

"VI ง่ายนิดเดียว" อ่านทีไรสะอึกทุกทีครับ

เอาแค่ มูลค่าที่แท้จริงของกิจการ นี่หายังไง แค่นี่ก็ยากพอแล้วสำหรับน้องใหม่อย่างผม

และที่อยากแนะนำคือ อยากให้ตัดคำว่า ไม่ต้อง Cut Loss ออกไปเถอะครับ
เพราะถ้ายังไม่เข้าถึงหลักการ และการวิเคราะห์ที่ลึกจริงๆ โดยเฉพาะที่ดัชนี SET สูงๆ และ PE ตลาดจริงๆเท่านี้ ละก็ Cut Loss ยังจำเป็นครับสำหรับมือใหม่


นอกจากนี้คนที่พูดถึง VI ที่พันทิพย์ ค่อนข้างจะไม่เข้าใจคำนี้จริงๆ
ผมเลยเป็นห่วงครับ ใน Web TVI เองก็ไม่ค่อยพูดถึงกันหลังๆ เหมือนกับว่าเป็นที่รู้กันแล้ว เพราะว่าที่นี่ก็มีแต่คนเก่าๆเล่นซะเป็นส่วนใหญ่ เลยไม่ค่อยมีการนำเอาประเด็น หรือ ข้อความเดิมขึ้นมาพูดซ้ำๆกันอีก

ผมเองยังเคยโพสต์บอกที่นั่นไว้เลยว่า อย่าทำเหมือน VI เป็นแฟชั่น เพราะมันจะเหมือนกับ คลื่นฮิตชาเขียว สายเดี่ยว และสาหร่ายสไปรูรีน่าครับ :lol:

ประโยชน์หนะมีแน่ แต่เข้าใจและใช้อย่างถูกต้องหรือเปล่า เท่านั้นเอง
แก้ไขล่าสุดโดย คัดท้าย เมื่อ อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 9:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
เพนกวิน (ไม่ได้ล็อกอิน)
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 4

โพสต์

[quote="ลูกอิสาน"]


ผมคิดว่าหลายท่านก็บอกและพูดบ่อยๆ แต่นักลงทุนรุ่นใหม่จะทำตามหรือเปล่า
หรือเข้าใจ หรือเปล่าคงไ่ม่แน่ใจ เพราะพื้นฐานการรับรู้ของแต่ละคนคงแตกต่างกันไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ถามคุณเพนกวินว่า

ถ้ามือใหม่ คำนวณผิด เค้าจะรู้ได้ยังไง ว่าเค้าคำนวณผิด?

ราคาหุ้นที่มือใหม่ VI ใสปิ๊งถือ ก็ลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ

ไม่ต้อง Cut Loss ? ผมฟังผิดไปหรือเปล่าครับ ?
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
เพนกวิน
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 6

โพสต์

หวัดดีครับ พี่คัดท้าย
พอดีผมขอนำแนะนำกระทู้จากพี่ฉัตรชัย ไว้ที่เว็บพันธ์ทิพย์ครับ

ผมกำลังสื่อความหมายครับ (อาจเข้าใจความผิด) ต้องขอโทษด้วยครับ
.............................................................................................
ส่วนคำถามที่ว่าต้อง cut loss หรือไม่
ความคิดเห็นผมนะครับ
1 stop loss หมายถึงการหยุดการขาดทุน กรณีระยะสั้นตลาดได้รับข่าวร้ายทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยพื้นฐานราคาไม่ได้เปลี่ยน
2 cut loss หมายถึงกรณีที่มีการวิเคราะห์ผิดพลาด ทั้งการวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่างไรก็ต้อง cut loss ครับ ------> ผู้ลงทุนวิเคราะห์หุ้นที่จะเข้าทำการลงทุนผิดพลาด หรือ กรณีเกิดเหตุการณ์ภายนอกที่มากระทบโดยทำให้บริษัทที่ถืออยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน ตย. กลุ่มโรงแรมเมื่อปลายปีที่แล้ว และ ต้นปี ผมมองไว้ว่าดี แต่พอเกิดเห็ตการโรคระบาด ซึ่งส่งผลกระทบพอสมควร (อาจมากกว่าที่คิด ผมคงตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ) ซึ่งต้องกลับมาทบทวนการลงทุนในกลุ่มโรงแรมกันใหม่อีกครั้งหรือถอนการลงทุนทันที

ผิดตก ยกเว้น
ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ครับคุณเพนกวิน

จริงๆผมไม่ได้ว่า VI ไม่ดี ไม่งั้นผมไม่มาเล่นอยู่ที่นี่หรอก VI หนะดีแน่ แต่มันไม่ง่าย
ไม่ชอบเลยที่ รัฐ และ ตลท ชอบปลูกฝังว่า เล่นหุ้นแบบ VI ไม่ยาก และ เป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้ไม่ขาดทุน ผมเห็นแล้วเศร้าใจมาก

อย่างเรื่อง งบการเงินของ PSL นี่เป็นตัวอย่างนึง ขนาดพี่ๆที่อ่านงบกันมาเยอะ ยังเจองบหลอกกันไปตั้งหลายท่าน

แล้วคนใหม่ๆ อย่างผมละ ? จะเหลือเหรอครับ ?
ถ้ายังฝีมือไม่ถึง จะให้ถือหุ้นโดยไม่สนใจว่าราคาจะแกว่งแค่ไหน อันนี้ผมว่าอันตรายนะครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Penguins
Verified User
โพสต์: 366
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 8

โพสต์

:oops: แก้ไขอีกครั้งครับ

คือ ขอคำแนะนำจากพี่ฉัตรชัย
และ กำลังสื่อความหมายไปยังพี่_ลูกอีสานครับ

ส่วนปัญหาเรื่องการหลอกกันเรื่องงบ ----->ถ้าลงทุนในหุ้นตัวนั้นเป็นปริมาณเงินลงทุนมากๆ มีปัญหาพอสมควรครับ ... แต่มีวิธีการแก้ไขได้ครับ(ไม่ได้แก้ใขการป้องกันเรื่องการปกปิดงบการเงินนะครับ) แต่ป้องกันตั้งแต่ต้นด้วยการวางแผนการลงทุน

หมายเหตุ ไม่ได้บอกว่าหุ้นตัวดังกล่าว ปกปิดงบการเงินครับ (เป็นการยกตัวอย่าง)

แต่คงไม่ใช่วันที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงครับ :cry:

ขอบคุณครับ
เพนกวิน
Boring Stock lover
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมคิดว่าเวลาเราคุยเรื่องราคาหุ้นนั้น คงไม่มีใครตอบได้หรอกนะ ส่วนตัวผมเองใช้การกำหนดช่วงราคาว่า ถูก ไม่ถูกไม่แพง (ตรงนี้กว้างมาก) เริ่มแพงแล้ว ราคาหุ้นนั้นตลาดโดยรวมเป็นตัวตัดสิน พอผ่านช่วงนี้ อาจกินเวลา เดือนเดียว หรือ 3 เดือน หรือ มากกว่า แล้วมองย้อนกลับ ก็คงจะเห็นว่า ราคาที่ตลาดให้นั้น เป็นอย่างไร

ปัจจัยทางด้านราคามีมากกว่าผลประกอบด้วยนะครับ มีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบายเรื่องนี้ ในแวดวงการตลาดก็จะพูดว่า Brand Value หรืออย่าง EVA ของทาง Stern ก็พยายามอธิบายเรื่องนี้เช่นกัน

ก็ลองดูนะครับว่าเป็นเราคิดอย่างไรกับ หุ้น ลักษณะนี้

PE = 28
PB = 8.9
Erning Growth = 6%

แพงน่าดูเลยนะ แต่ถ้าผมบอกว่าหุ้นนี้อยู่ในตลาดนิวยอร์คละ

ก็ยังแพงอญู่ดีหรือเปล่า แต่ถ้าข้อมูลเพิ่มเติมมีว่า Buffet ถืออยู่ละ

ก็ลองตอบดูนะครับ


กลยุทธ์ในการซื้อมีให้อ่านมากมาย เช่น การซื้อเฉลี่ยตลอดช่วงเวลา การซื้อเฉลี่ยขาลงโดยกำหนดช่วงราคา การ Short Against Port และอื่นๆ ทั้งนี้เราต้องมั่นใจในสิ่งที่วิเคราะห์แล้วนะครับ

กลยุทธ์ในการลงทุนที่ควรกระจายความเสี่ยงในการถือหุ้นให้หลากหลายขึ้นก็เป็นอีกอย่างที่ช่วยได้


เรียนคุณคัดท้าย สำหรับประการสุดท้ายนะครับ ผมคงไม่ใช่ VI แต่ผมมักลงทุนกับสิ่งที่ผมเข้าใจและพอประมาณความเสี่ยงด้านราคาได้บ้าง แน่นอนหลายครั้งที่ผมพูดเรื่องการถือหุ้นยาวๆๆๆๆๆๆ แล้วราคากลับมาเองนั้น (เฉพาะบริษัทที่ดีนะครับ) ผมคงไม่ตั้งใจหลอกใครนะครับ แต่ประสพการณ์ที่ผมถือมา มันเป็นเช่นนั้น อย่าให้ถึงขั้นเป็นบาปเป็นกรรมเลยครับ :(
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผิดประเด็นแล้ครับ คุณ Boring Stock lover

ผมไม่ได้ว่าคุณทำบาป แต่ว่าผมกำลังพูดถึงการนำเสนอข้อมูลให้กับ คนใหม่ๆที่กำลังจะหัดทำการลงทุนในแบบ Value Investor

เช่น

จริงๆแล้ว VI ก็ขาดทุนได้
จริงๆแล้ว ถือยาวๆ หุ้นก็ลงได้
จริงๆแล้ว VI ไม่ง่าย
จริงๆแล้ว การอ่านงบการเงินได้อย่างแตกฉานจำเป็นสำหรับ VI
จริงๆแล้วการรอคอย เพื่อให้ได้หุ้นในราคาที่ถูกเพียงพอ นั้นจำเป็น ไม่ใช่นึกจะซื้อก็ซื้อ
จริงๆแล้ว VI ก็ต้อง Cut Loss ถ้าเลือกหุ้นผิด

บอกแต่เรื่องดีๆ ไม่ใช่สิ่งดีครับ ควรบอกกัน 2 ด้าน

ผมอดนึกถึงเรื่อง Star War Episode I ไม่ได้ครับ ตอนที่อนาคินตอนเด็กคุยกับเจไดมัสเตอร์ ไดกวันจิน
อนาคินบอกไดกวันจินว่า อยากเป็นเจได เพราะไม่มีใครฆ่าเจไดได้
ไดกวันจินก็ไม่ได้ตอบอะไร และตอนจบ ไดกวันจินก็ถูกซิท ฆ่าตาย
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 11

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

จริงๆแล้ว VI ก็ขาดทุนได้ 
จริงๆแล้ว ถือยาวๆ หุ้นก็ลงได้ 
จริงๆแล้ว VI ไม่ง่าย 
จริงๆแล้ว การอ่านงบการเงินได้อย่างแตกฉานจำเป็นสำหรับ VI 
จริงๆแล้วการรอคอย เพื่อให้ได้หุ้นในราคาที่ถูกเพียงพอ นั้นจำเป็น ไม่ใช่นึกจะซื้อก็ซื้อ 
จริงๆแล้ว VI ก็ต้อง Cut Loss ถ้าเลือกหุ้นผิด 
เห็นด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ครรชิต ไพศาล
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4637
ผู้ติดตาม: 1

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมซื้อหุ้นทุกครั้ง มันไม่เคยขึ้นเลย ระยะแรกมันมักจะลงไปจากราคาที่ผมซื้ออยู่เรื่อยเลย

เพราะผมชอบเลือกซื้อหุ้นที่มันราคา ลงไปอยู่ค่อนข้างจะนอนนิ่งๆแล้ว เราก็คิดว่ามันนิ่งแล้ว ก็พยายามตรวจสอบอัตราตอบแทนส่วนต่างๆ ว่าคุ้มและเราพอใจ ตามประโยค

" ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และ ถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี" ไม่มีสูตรสำเร็จในการคิดมูลค่านี้ คุณต้องรู้ซึ่งในกิจการ นั้นๆ

แต่พอซื้อปุ๊บ มันมักลงต่ออีกทุกที่ ผมต้องงัดเอาประโยคนี้มาปลอบใจตัวเองอยู่เสมอ เลยครับ

เราไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อมันตอนที่มันราคาต่ำที่สุด ขอเพียงแต่ให้ราคาขายนั้นต่ำกว่ามูลค่าที่คุณคิดว่ามันควรจะเป็น และธุรกิจนั้นต้องบริหารงานโดยคนที่มีความซื่อสัตย์ และมีความสามารถ หากวันนี้ คุณสามารถซื้อธุรกิจที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าของมัน ประกอบกับคุณมั่นใจในทีมผู้บริหารนั้น ๆ คุณกำลังจะทำเงินแล้ว


วอร์เรนท์ บัฟเฟทท์ เคยพูดถึงความอดทนเอาไว้ว่า

ความอดทน

วอร์เรนท์ บัฟเฟทท์ เขาบอกว่าเขาเคยได้บทเรียนจากความไม่อดทน ของเขา ตั้งแต่เมื่อเขา อายุเพียง 11 ขวบ เขาและพี่สาวได้ซื้อหุ้นบุริมสิทธิของซิติ้เซอร์วิส จำนวน 3 หุ้นด้วยราคา 38 เหรียญต่อหุ้น เขาได้รับบทเรียนเรื่องความอดทน เมื่อพวกเขาเริ่มกังวลใจตอนที่ราคาหุ้นตกลงไปเหลือ 27 เหรียญ แต่ต่อมามันได้ถีบตัวสูงขึ้นเป็น 40 เหรียญ พวกเขารีบขายหุ้นไป แต่ทว่าราคาของมันก็พุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนในที่สุดมันมีราคาถึง 200 เหรียญต่อหุ้น

(จากหน้าที่ 65 หนังสือ ของ สำนักพิมพ์ บริษัท ซัคเซส มีเดีย จำกัด เรื่อง วาทะ ของ วอร์เรน บัฟเฟทท์ เจเน็ต โลว์ เขียน เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ แปล ครรชิต ไพศาล พิมพ์ส่งมาให้อ่าน)


เมื่อกองไฟเพิ่งจะมอดลง มันยังคงมีความร้อน อย่าเพิ่งเอามือล้วงเข้าไปควานหาโลหะมีค่าที่เหลืออยู่เพราะมันยังร้อน เดี่ยวมือพอง

เราต้องรอให้แน่ใจว่า มันดับเย็นจริงๆแล้ว ถึงจะค่อยเข้าไปจับมัน จะได้ไม่ร้อนมือ
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ถึงทุกท่านที่คิดจะมองทางสายนี้

"Yes, There are two paths you can go by. But it's a long run.
There's still time to change the road you're on."

-Stairsway to Heaven


มีทางสองทางที่คุณจะเลือกเดิน
แต่นี่ยังอีกยาวไกล
ยังมีเวลาที่จะเปลี่ยนถนนที่คุณเดินได้เสมอ

ท่านใดไม่เคยรู้จักกับแนวการลงทุนแบบนี้ ก็เชิญอ่านหนังสือ "ตีแตก" ก่อนก็แล้วกันครับ ผมว่าอ่านแล้วก็ได้ความเป็นนักลงทุนคุณค่าแบบไทยๆดี ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยนะ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขอบคุณครับคุณคัดท้าย

ผมเห็นด้วยอย่างมากที่บอกว่าการลงทุนแบบ VI นั้นไม่ใช่ของง่าย

ผมมักเห็นหน่วยงานของตลาด  หรือนักลงทุนอาวุโส  มักจะชักชวนคนมาลงทุนโดยมักจะสื่อให้เข้าใจว่า  ถ้าลงทุนแนว VI แล้วจะประสบความสำเร็จ  ซื้อหุ้นพื้นฐานดี  คอยดูซิว่าสินค้าไหนขายดีเป็นผู้นำตลาด  ใช้เงินเย็นในการลงทุน  ลงทุนระยะยาว

ผมว่าแค่นี้ไม่เพียงพอหรอกครับสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่มีความรู้เรื่องงบการเงิน  เศรษฐศาสตร์การเงินที่ดีพอ

คุณซื้อห้นที่พื้นฐานดีแต่ราคาแพง  ก็มีสิทธิที่ขาดทุนได้  แล้วหุ้นที่คิดว่าพื้นฐานดีนั้นดีจริงหรือเปล่า

การคำนวณหาราคาที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดนะครับ  ถ้าคุณคำนวณราคาที่เหมาะสมไม่ได้  คุณจะซื้อทุกราคาเลยหรือ  เปรียบเหมือนคุณจะซื้อบ้าน  คณก็ต้องพิจารณาราคาบ้านที่เหมาะสมจริงไหมครับ  อย่างน้อยก็ต้องสอบถามราคาบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกัน  ที่มี Quility ที่เหมือนกัน  เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะซื้อในราคาที่สมเหตุสมผล

ลองเสนอ Webmaster จัดทำบทความพิเศษข้อปฎิบัติสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ดีไหมครับ
แก้ไขล่าสุดโดย chatchai เมื่อ อังคาร มี.ค. 04, 2008 8:36 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Penguins
Verified User
โพสต์: 366
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 15

โพสต์

การคำนวณหาราคาที่เหมาะสม -------> เป็นการคาดการณ์การดำเนินงานของบริษัทที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในอนาคตไม่สามารถบอกได้ว่าราคา ณ วันนี้เหมาะสมแล้วหรือยัง แต่ราคา ณ วันนี้ที่เกิดจากการวิเคราะห์คำนวณปัจจัยพื้นฐานนั้นได้ราคาที่หมาะสมแล้ว

การวิเคราะห์ทางเทคนิค ----------> เป็นการคาดการณ์การดำเนินงานของบริษัทในอนาคต โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และมั่นใจว่าบริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง (และในอนาคตยังดีอยู่) รูปแบบของราคาที่ถูกบันทึกไว้จะสามารถสื่อให้เห็นออกมาในรูปแบบของกราฟ (แนวโน้ม)

:?:

ขอบคุณครับ
Penguins
Verified User
โพสต์: 366
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 16

โพสต์

http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... php?t=2868

การซื้อน้ำมันมาใช้งานไม่ใช่การลงทุน ------> สำหรับผู้ลงทุน
ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้ลงทุนเลยดีใจครับ ที่น้ำมันราคาถูกลงครับ

แต่ผู้ประกอบการที่ลงทุนด้านอื่น โดยต้องใช้ทรัพยากรน้ำมันน่าจะดีใจมากครับ ที่ราคาน้ำมันถูกลง--------> เพราะ...

สำหรับผู้ลงทุนแล้ว ราคาหุ้นลดลงอันเกิดจากผลกระทบระยะยาว แล้วดีใจเป็นเรื่องที่แปลกครับ (ความคิดเห็นผม) เพราะนั่นหมายถึงการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจหลายด้าน จะถูกผลกระทบนี้ด้วยครับ

แต่ถ้าเป็นการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น ในสภาวะการณ์ปกติ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีใจได้ครับ ---------> จะได้ซื้อหุ้นที่มีราคาหุ้นลดลง ตามการวิเคราะห์ราคาที่เหมาะสม ณ วันที่ทำการวิเคราะห์

หมายเหต ผมหมายถึงสภาวการณ์ที่มีผลกระทบในทุกๆ ด้านเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องกันทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่เกี่ยวกับบางกรณีที่มีผลกระทบในวงแคบ (กระทบบางบริษัท -------> ถ้าบริษัทนั้นพื้นฐานดี และได้รับผลกระทบเพียงบริษัทเดียว นั่นหมายถึงโอกาสที่จะเข้าทำการลงทุน แต่..........)
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ปัญหาคือ คำว่า "ถูก"

ถูก แค่ไหน ถึงเรียกว่า ถูก

เคยได้ยินมั้ยครับ ในนรก ยังมีนรก
ถูก แล้ว ยังมีโคตรถูก และ บรรพบุรุษของความถูก ถูกยิ่งกว่าถูก!!!


คำว่าถูกเป็นคำที่ต้องระวังในการใช้ ผมไม่ชอบคำว่าถ้าคนจะซื้อหุ้นเพราะถูก
แต่ผมเห็นด้วยกับคำว่าซื้อหุ้นเพราะราคา ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง


ส่วนเรื่องกราฟ ไม่ใช่เป็นประวัติของผลประกอบการอย่างที่คุณเพนกวินเข้าใจครับ มันเป็นการวาดกระแสเงิน เพื่อดูความโลภ ความกลัว ของคน ไว้ถ้ามีโอกาสจะพูดให้ฟัง แต่ที่นี่คงไม่เหมาะ เพราะมันผิดวัตถุประสงค์ของ TVI ครับ

ข้างล่างนี่คือ ตัวอย่างของการซื้อหุ้นเพราะคิดว่ามัน ถูก แต่ละเลยมูลค่าที่แท้จริง
จากความเห็นของคุณ ติ๊กต็อก ครับ

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 50465.html

ขอบคุณที่โพสต์นะครับ แม้ปัจจุบันผมจะเล่นทางเทคนิก(ขออนุญาตเขียนแบบพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ) แต่ก็เคยเป็น VI มาก่อน (จริง ๆ ปัจจุบันต้องเรียกว่าผสมผสานมากกว่า เพราะของเก่าก็ยังไม่ทิ้งครับ)

เพราะผมก็ห่วงเช่นกันครับ เนื่องจากเห็นกระทู้หลายกระทู้ในช่วงนี้แนะนำคนที่ถือหุ้น(ที่เชื่อว่า)พื้นฐานดี แล้วไม่ต้อง cut loss คำถามอยู่ที่ว่า หุ้นพื้นฐานดีก็จริง แต่ตอนเข้าซื้อนั้น ราคาต่ำกว่าพื้นฐานหรือเปล่า ราคาถูกพอมั้ย ซึ่งผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่มาโพสต์ว่าซื้อหุ้นพื้นฐานดีนั้น ซื้อตอนไม่ใช่ช่วงเซลล์แล้ว

(อีกอย่าง Intrinsic Value นี่ หาได้ยากมาก ๆจริง ๆ ครับ ผมไม่รู้ว่าคนที่ซื้อหุ้นที่เชื่อว่าพื้นฐานดีนี่จะสามารถหาได้เหมาะสมหรือเปล่าด้วย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ละคนยังหาได้ไม่ตรงกัน และต่างกันมาก ๆ ด้วย )

ไม่ว่าคุณจะเป็น VI (หรือ VS ก็เถอะ) เมื่อพลาดก็ต้องรู้จัก cut loss ครับ จะใช้คำกล่าวที่ว่า ตลาดในระยะยาวจะชนะได้ โดยไม่ดูพื้นฐานสำคัญมาก ๆ ของ VI ในที่คุณคัดท้ายได้กล่าวถึงไว้ในลิงค์ข้างบนก็คงกระไรอยู่

เห็นด้วยกับคุณ Arriba ครับ VI ดี แต่ไม่ง่าย

ประวัติศาสตร์มันมีอยู่ครับสำหรับคนที่ไม่เข้าใจ VI จริง ๆ แต่ดันไปเชื่อว่าตัวเองถือหุ้นพื้นฐานดี มีอนาคตเติบโต (แต่ดันไม่ถูกตอนซื้อ) เมื่อราคาลงแล้วไม่ยอม cut loss ลองมองย้อนไปที่ปี 35 TA ตอนนั้นก็ดูดีสุด ๆ ครับ(แต่ไม่ถูกแล้ว แต่คนที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ยังเชื่อว่าพื้นฐานใช้ได้ และน่าจะเติบโตได้อีก) จากราว ๆ 100 บาท ขึ้นไป 163 บาท ตอนนี้เหลืออยู่ 7-8 บาท และนึกไม่ออกเลยว่าจะกลับไปถึงที่นั่นได้อย่างไรแม้ในระยะยาว

ถ้าคุณลงทุนไปล้านห้าแสน คุณจะเสียเงินไปล้านสี่แสนสามหมื่น เกือบหมดเลยนะครับ ถ้าไม่ cut loss

อีกตัวอย่างก็ GFPT เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว โบรคเกือบทุกโบรคบอกว่าพื้นฐานดีมาก ราคาตอนนั้นขึ้นไปถึงราว ๆ 60 บาท ซึ่งก็ดูมีอนาคตอยู่ Set ยังไม่ถึง 430 รอบก่อน (แน่นอน น่าจะแพงสำหรับชาว VI แล้ว) แต่ภาพมันดูพื้นฐานดีมาก คนที่ไม่เข้าใจ VI จริง ๆ ก็ซื้อไปโดยคิดว่าเค้าลงทุนแบบนี้ เหมือนผมเคยเห็นคนถามในสินธรตอนนั้นเหมือนกันว่าควรขายทิ้งมั้ย ก็มีคนแนะนำกลับว่า ไง ๆ ก็คงไม่มีคนเลิกกินไก่ อนาคตส่งออกดี
เป็นผู้นำตลาดด้านนี้ อย่าขาย ตอนนี้ Set มากกว่าตอนนั้นเท่าตัว เศรษฐกิจดีกว่าเดิม แต่ราคาตกไปสามเท่ากว่า มีล้านหายไปเจ็ดแสนได้เลยถ้าไม่ cut loss

เคสที่ยกตัวอย่างนี่ก็อาจจะเกินไปหน่อย เพราะคนที่ศึกษา VI จริง ๆ คงไม่ลงทุนแน่ แต่ที่ผมกำลังบอกคือ สำหรับคนที่คิดว่าลงทุนแบบ VI แต่ไม่เข้าใจแก่น และไม่ได้ทำตามหลักสำคัญ ๆ ของมันนี่น่ากลัวครับ แล้วเมื่อพลาดแต่ไม่ตัดขาดทุน คุณดูตัวอย่าง 2 ตัวข้างบนที่ผมบอกมาก็ได้ ว่าจะเป็นอย่างไร

ที่มาบ่นนี่ เพราะเห็นหลายกระทู้ มีคนแนะนำว่าอย่าตัดขาดทุนอย่างเดียวเลยถ้าคิดจะลงทุนแบบ VI ก็เลยรู้สึกเป็นห่วงมือใหม่ ๆ ที่ยังไม่รู้อะไรครับ กลัวจะหมดกับตลาดหุ้นไปอย่างรวดเร็วเสียก่อน ที่ผมเห็นที่มาปรึกษาว่าจะ cut loss ดีมั้ย แล้วได้รับคำแนะนำว่าอย่า cut ด้วยสาเหตุข้างต้นนั้น ส่วนใหญ่ซื้อตอนยอดของรอบนี้ทั้งนั้น ซึ่งผมว่าไม่ถูกเลย และอาจจะ(แค่อาจจะครับ ไม่มีอะไรแน่นอน)เป็นบทเรียนราคาแพงเกินไปก็ได้
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
genie
Verified User
โพสต์: 1474
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ขออนุญาติใช้สิทธิถูกพาดพิง :wink: ตามที่อยากให้มีบทความสำหรับหน้าใหม่ใสปิ๊งนั้น ถ้าหากได้ลองไปอ่านทบทวนใน investor guide ในบทแรกๆที่หลายๆท่านได้เขียนบทความเอาไว้ ผมว่าน่าจะเป็นประโยชน์มากๆ ว่าแต่ว่าได้ไปอ่านกันรึเปล่าเอ่ย :twisted:
Penguins
Verified User
โพสต์: 366
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ขอบคุณ พี่คัดท้ายครับ
^.^
แก้ไขล่าสุดโดย Penguins เมื่อ อังคาร ก.พ. 03, 2004 12:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
genie
Verified User
โพสต์: 1474
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ยังไงก็แล้วแต่เอาไว้คงต้องไปปรึกษากับท่านmon money ซักหน่อยว่าพอเป็นไปได้รึเปล่า :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ดีครับ ที่คุณคัดท้ายมาเตือนอย่างงี้

VI มันก็ไม่ง่าย VI ก็ขาดทุนได้ VI ต้องรอได้ ดีครับเห็นด้วยทุกประการ

ทีนี้ไม่ต้อง cut-loss นี่ ผมยังงงๆ นะ ว่าเราเคยบอกว่าไม่ต้อง cut-loss กันด้วยเหรอ มีคนเคยถามเรื่อง TA ผม ผมก็ไม่ได้บอกตรงๆ ว่าให้ cut-loss แต่บอกว่าเป็นผม ผมไม่เล่นครับ เราคงไม่กล้าบอกว่า cut-loss หรือไม่หรอก เพราะมันขึ้นอยู่กับ Mr. Market พอสมควรว่าเค้าอารมณ์ดีแค่ไหน ถ้าบอกให้ cut-loss แต่ Mr. Market บอกเจ้ามือขอซื้อหุ้นกลับมาขึ้น อิอิ TVI มันจะกลายเป็นสมรภูมิไปนา

ผมว่าเราคงให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับ ผลประกอบการและอนาคตของบริษัทได้ดีกว่าจะบอกว่า cut-loss หรือเปล่านะครับ

VI ถ้าพลาด ก็ขายครับ ขาดทุนก็ต้องขาย อย่างนี้มันเรียก cut-loss หรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ครับ แต่ส่วนใหญ่มันไม่ใช่จาก ราคาหุ้นที่ตกลง แต่เป็นการรู้ข้อมูลใหม่ หรือเข้าใจกิจการขึ้นทำให้รู้ว่าการลงทุนไปนั้นเป็นการลงทุนที่ผิดพลาดครับ ผมเคยขายหุ้นที่ครึ่งเดียวของราคาทุน เพราะพื้นฐานมันเปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ขาดทุนยังไงก็ต้องขายครับ

ขอให้ทุกๆ ท่านโชคดีครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 22

โพสต์

เหรียญมีสองด้านครับ :)

ผมเคยลงทุนในหุ้นตัวหนึ่ง หวังว่าผลประกอบการจะออกมาดี
มากในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า แต่กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด
ครับ ผมจึงขายทิ้งไปทั้งหมดโดยไม่ได้ดูราคาทุนของตัวเอง

สุดท้ายพอมาคำนวณรวมปันผลกับราคาขาย พบว่ากำไรประมาณ
10% ครับ เพราะเป็นตลาดกระทิงพอดี หุ้นเน่าๆก็ยังขึ้นได้

สรุปว่าเป็นการ cut loss หรือไม่ ผมก็ไม่ทราบครับ แต่ไอ้ประเภท
ซื้อเมื่อเช้า 13.5 แล้วปิดตลาดขายไปที่ 12.2 นี่เรียก cut loss
แน่นอนครับ เพราะมันตกไป 10% เท่าที่ผมตั้งเป้าไว้ (เพิ่งทำไป
เมื่อวันศุกร)

ส่วนใหญ่ถ้ามีใครมาถามว่าติดหุ้นทำไงดี ผมก็ทำอย่างคุณ
Ayethebing ว่าครับ คือให้ข้อมูลไปมากที่สุด แล้วก็บอกว่า
แล้วแต่คุณละกัน เพราะผมไม่อยากตัดสินใจแทน แต่ถ้าผม
มีหุ้นเหมือนคุณ ที่ทุนเดียวกัน ผมคงจะขายครับ เพราะไม่
เข้าใจและไม่สามารถคาดเดาทิศทางราคาหุ้นในอนาคตได้

แล้วไปซื้อตัวที่มั่นใจดีกว่า
Penguins
Verified User
โพสต์: 366
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 23

โพสต์

เพนกวิน เขียน:

ส่วนคำถามที่ว่าต้อง cut loss หรือไม่
ความคิดเห็นผมนะครับ
1 stop loss หมายถึงการหยุดการขาดทุน กรณีระยะสั้นตลาดได้รับข่าวร้ายทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยพื้นฐานราคาไม่ได้เปลี่ยน
2 cut loss หมายถึงกรณีที่มีการวิเคราะห์ผิดพลาด ทั้งการวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่างไรก็ต้อง cut loss ครับ ------> ผู้ลงทุนวิเคราะห์หุ้นที่จะเข้าทำการลงทุนผิดพลาด หรือ กรณีเกิดเหตุการณ์ภายนอกที่มากระทบโดยทำให้บริษัทที่ถืออยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน ตย. กลุ่มโรงแรมเมื่อปลายปีที่แล้ว และ ต้นปี ผมมองไว้ว่าดี แต่พอเกิดเห็ตการโรคระบาด ซึ่งส่งผลกระทบพอสมควร (อาจมากกว่าที่คิด ผมคงตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ) ซึ่งต้องกลับมาทบทวนการลงทุนในกลุ่มโรงแรมกันใหม่อีกครั้งหรือถอนการลงทุนทันที

ผิดตก ยกเว้น
ขอบคุณครับ
Penguins
Verified User
โพสต์: 366
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 24

โพสต์

genie เขียน:ขออนุญาติใช้สิทธิถูกพาดพิง :wink: ตามที่อยากให้มีบทความสำหรับหน้าใหม่ใสปิ๊งนั้น ถ้าหากได้ลองไปอ่านทบทวนใน investor guide ในบทแรกๆที่หลายๆท่านได้เขียนบทความเอาไว้ ผมว่าน่าจะเป็นประโยชน์มากๆ ว่าแต่ว่าได้ไปอ่านกันรึเปล่าเอ่ย :twisted:
ผมขอขยายความครับ :wink:

Why a low P/E may not mean a share is attractive (or 'cheap') may reflect a combination of :
* uncertainty over a company's prospects for earnings
* a highly cyclical sector - again giving a hingh level of uncertainty
* company serving volatile markets
* a sector with overcapacity and weak pricing power
* a sector or company with consistently low returns (operating profic margins and / or ROIC) and not adding economic value
* a mature sector, with little prospect of growth
* a company which is ex growth
* poor management
* a management with no convincing strategy for growth
* poor cash generation
* weak balance sheet
........................

คัดลอกมาจาก หนังสือ Analyzing Companies & Valuing Shares หน้า 147
Michael Cahill
Prentice Hall
ISBN 0 273 6636 1

:oops: เนื้อหาบางส่วนครับ.........อาจไม่สมบูรณ์ และอาจทำให้การตีความข้างต้นผิดได้
BPT
Verified User
โพสต์: 143
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 25

โพสต์

No Pain No Gain.

ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินบนเส้นทาง VI หรือ VS หรือผสมผสาน หรือไม่ใช่สักอย่าง หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ คุณต้องเรียนรู้ ทำงานอย่างหนัก และแน่นอนต้องยอมรับความผิดพลาดกับความเจ็บปวด และนำไปเป็นบทเรียน พ่อแม่ยังไม่สามารถเลี้ยงเราให้สุขสบายได้ทุกวันเลย ต้องมีวันเจ็บ วันหกล้ม เป็นเรื่องธรรมดา แล้วคุณจะหวังให้คนที่รู้จักกันแค่ผิวเผินมาคอยดูแล เป็นห่วงเป็นไยกันสักขนาดไหน

เท่าที่ผมเห็น Motto ของคุณพี่ครรชิต ครบถ้วนและสมบูรณ์มาก แต่ก็เช่นกัน คนที่ต่อว่า หรือคนที่ลงทุนแล้วขาดทุนนั้น มักจะเป็นผู้ที่อ่านไม่ครบ หรือเข้าใจไม่ถึงแก่น ทั้งนี้ เป็นเพราะธรรมชาติของมนุษย์ จะเลือกเสพเฉพาะสิ่งที่ตัวเองต้องการ พอตัวเองรู้สึกว่าอยากซื้อหุ้นตัวนั้นตัวนี้ ก็เอาสารพัดเหตุผลมาอ้าง ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานดี เทคนิคดี อะไรก็ตาม พอหุ้นตกก็หาแพะ

การให้ถือเป็นทาน แต่คงไม่ถึงกับต้องไปตามดูแลคนรับให้สุขกายสบายใจมั้งครับ อาจจะฟังดูใจร้ายไปหน่อย แต่ผมว่าการมีคนเจ็บตัวเป็นเรื่องปรกติ แม้แต่การสอนในห้องเรียน ได้ยินพร้อมกัน บางครั้งนักเรียนยังเข้าใจไม่เหมือนกันเลยครับ ไม่ว่าจะเดินสาย VI หรือ VS ย่อมมีคนที่เก่งและคนที่ไม่เก่ง ซึ่งถ้าเข้าใจไม่กระจ่างก็แน่นอนต้องเสียตังครับ
แผ่วเบา
Verified User
โพสต์: 391
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ขอบคุณกระทู้ดีๆแบบนี้ครับ

ถ้าให้ขุดหาเอง คงไม่มีโอกาสเจอเป็นแน่
InnoVI
Verified User
โพสต์: 44
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 27

โพสต์

อ่านแล้วได้ข้อคิดมากมายครับ :D

ปล. 1.รบกวน พี่ๆในเวปช่วยแนะนำด้วยครับว่ากระทู้ไหนที่แนะนำการคำนวน Intrinsic Value แบบเบื้องต้นบ้างครับ
      2.ผมอ่านหนังสือของพี่สุมาอี้ แล้วยังไม่เข้าใจอีกเยอะเลยครับ ตอนนี้เลยใช้ P/E แบบเดาๆเอาเองไปก่อน
"ถ้าไม่เริ่มต้น ก็ไม่มีวันจะพบความสำเร็จ"
V_accy
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 28

โพสต์

อืม..
หรือผมอาจจะเป็น1ในที่พี่คัดท้ายบอกหว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 29

โพสต์

สุดยอดกระทู้นะครับเนี่ย  :bow:  :bow:

อยากให้ยอดเซียนเหล่านี้มาสอนสั่งต่อไปครับ
Tlk
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 405
ผู้ติดตาม: 0

เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

โพสต์ที่ 30

โพสต์

พอดีผมเพิ่งเข้ามาอ่านและเพิ่งเป็นมือใหม่ VI จาก  
"อย่างเรื่อง งบการเงินของ PSL นี่เป็นตัวอย่างนึง ขนาดพี่ๆที่อ่านงบกันมาเยอะ ยังเจองบหลอกกันไปตั้งหลายท่าน"
ไม่ทราบว่างบของPSL มีความผิดปกติอย่างไรครับอยากทราบไว้ประดับความรู้ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ :bow:
โพสต์โพสต์