ชำแหละเพิ่มทุน TMB รายย่อยเสียเปรียบ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 19, 2007 8:51 pm
ชำแหละเพิ่มทุน TMB รายย่อยเสียเปรียบ
TMB สรุปแผนเพิ่มทุน 2.5 หมื่นล้านหุ้น แบ่งขายผู้ถือหุ้นเดิมยกเว้นกระทรวงการคลัง 6,300 ล้านหุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิมได้ 0.4941 หุ้นใหม่ XR วันที่ 2 พ.ย. 50 เซียนหุ้นตบเท้าเตือนรายย่อย ไม่ควรใส่เงินเพิ่มทุน TMB ชี้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เหตุต้นทุนจะสูงกว่าราคากระดาน ตั้งข้อสังเกตุไม่บอกชื่อพันธมิตร เพราะยังเจรจาไม่ลงตัว งานนี้แนะนำขายสถานเดียว ด้านแบงก์ใหญ่ตบเท้าแจ้งงบโค้ง 3 โบรกฯยก BAY เจ๋งสุด แนวโน้มขึ้นแท่นแบงก์อันดับ 3 รดต้นคอ SCB-KBANK
**โบรกฯพิฆาต TMB ชี้เพิ่มทุนรายย่อยเสียเปรียบ แนวโน้มยังขาดทุนบักโกรก
บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์สรุปการเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย (TMB) ระบุว่า เพิ่มทุนทั้งหมด 25,108 ล้านหุ้น Diluted 57% โดยเสนอขายราคาหุ้นละ 1.40 บาท ให้กับ
1.พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่จำนวน 10,971 ล้านหุ้น
2.TNVDR สำหรับบุคคลในกลุ่มพันธมิตรดังกล่าว 2,142 ล้านหุ้น
3. กระทรวงการคลัง 5,587 ล้านหุ้น
4. ผู้ถือหุ้นเดิมยกเว้นคลัง 6,300 ล้านหุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิม ได้ 0.4941 หุ้นใหม่ XR วันที่ 2 พ.ย. 50
ทั้งนี้ เรายังคงแนะนำ ขาย ราคาเหมาะสมอยู่ระหว่างปรับประมาณการ
ด้านนักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง ระบุว่า ไม่แนะนำให้ผู้ถือหุ้นใส่เงินเพิ่มทุน เนื่องจากคำนวนจากสัดส่วนการจัดสรรหุ้นแล้ว จะมีต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 2.75 บาท จากราคาหุ้นในกระดานปัจจุบัน ขณะที่ราคาหุ้นที่เหมาะสมของ TMB หลังการเพิ่มทุนอยู่แค่ประมาณ 1.60 บาทเท่านั้น
ด้านบล.ฟินันซ่า ระบุว่า ขายหุ้นได้ต่ำกว่าที่เราคาดทำให้ Dilution พุ่งเป็น 60% จากการเพิ่มขึ้นของทุนจดทะเบียนฯเป็น 41,537 ล้านหุ้น (@ พาร์ 10 บาท) และ
ราคาขายต่ำกว่า BV (สิ้น 3Q07) ซึ่งอยู่ที่ 1.54 บาท อยู่ 9% โดย BV หลังเพิ่มทุนจะอยู่ที่ 1.46 บาท/หุ้น
ทั้งนี้เป็นเรื่องน่าแปลกที่ยังไม่บอกชื่อพันธมิตรในตอนนี้ (แสดงว่ารายละเอียดอาจไม่ลงตัวทั้ง100%) แต่จะทราบหลังประชุมบอร์ดอีกครั้งในวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งคงเป็นเพราะจะดูปฏิกริยาของรายย่อย ว่าจะจองซื้อหุ้นสามัญใหม่หรือไม่ เผื่อสถานการณ์ไม่ดีจะได้ถอนตัวทันหรือขอลดราคาลงมาอีก (ตามที่เป็นข่าว พันธมิตรคือ ING) หากรายย่อยไม่เอาพันธมิตรอาจต้องรับเหมาในทั้งหมดดันสัดส่วนการถือเป็น 47% ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจำนวนหุ้นทั้งหมดที่พันธมิตรจะซื้อคือ 19,413 ล้านหุ้น (ใช้เงิน 2.7 หมื่นลบ.) และสัดส่วนการถือหุ้นจะกลายเป็น 47% โดยปัจจุบัน TMB อยู่ระหว่างขออนุญาตคลังเพื่อเพิ่ม Foreign Limit ให้มากกว่า 49% เพื่อรองรับการเข้ามาของพันธมิตรใหม่ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน TMB มีฝรั่งถืออยู่แล้วประมาณ 6 พันล้านหุ้น (36% ก่อนเพิ่มทุน และจะเหลือ 14% หากเขาไม่ใช้สิทธิเพิ่มทุน ซึ่งเมื่อรวมกับพันธมิตรใหม่จะกลายเป็น
61%)
คำแนะนำยังให้ขายจนกว่าจะมีความชัดเจน โดยราคามีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงราคาที่เสนอขายคือ 1.40 บาท Downside อีก 30%
ด้าน บล.ซีมิโก้ ระบุว่า ไตรมาส 3/50 ธนาคารยังคงกันสำรองอีก 4.36 พันล้านบาท (ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ระดับ 5 พันล้านบาท) ส่งผลให้ธนาคารกันสำรองไปแล้ว 1.26 หมื่นล้านบาทใน 9 เดือนแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าธนาคารจะยังคงกันสำรองในระดับสูงต่อเนื่องอีกในไตรมาสสุดท้ายของปี เพื่อให้ครบตามเกณฑ์ IAS39 ขั้นสุดท้าย ทำให้มูลค่าหุ้นทางบัญชีมีแนวโน้มปรับลดลงอีก จาก 1.51 บาท ณ สิ้นไตรมาส 3/50
บล.กรุงศรีอยุธยา คงแนะนำ ขาย คาดว่าในปี 50 TMB จะรายงานขาดทุนสุทธิ 2.4 หมื่นล้านบาท ต่อเนื่องจากที่ขาดทุนสุทธิราว 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 49 เนื่องจากมีภาระต้องตั้งสำรองหนี้ให้ครบ phrase 3 ตามเกณฑ์ IAS 39 ภายในสิ้นปีนี้ แต่คาดว่าในปี 51 จะพลิกมีกำไรสุทธิ 3.2 พันล้านบาท เนื่องจากสมมุติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลดลง
เหลือ 5 พันล้านบาท จากคาดไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาทในปี 50 AYS คงมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานปี 51 ที่ 1.44 บาท อิงจาก P/BV 1 เท่า คงคำแนะนำ ขาย
**BAY โชว์กำไร Q3 พุ่ง 54% โบรกฯยกชั้นเป็นหุ้นสุดเจ๋ง ขึ้นแท่น Top 3 หายใจรดต้นคอ SCB-KBANK
บทวิเคราะห์ บล.ฟินันซ่า ระบุว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/50 สูงถึง 2.88 พันล้านบาท ในขณะที่เคยคาดไว้ที่ 1.43 พันล้านบาทเท่านั้น โดยพลิกจากขาดทุน 8.96 พันล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา จากพิษสำรองฯ ในขณะที่หากเทียบ YoY กำไรโตถึง 54%
ทั้งนี้จับตา BAY ที่กำลังจะหายใจลดต้นคอ SCB-KBANK เพื่อขึ้นแท่น Top 3 (จากปัจจุบันอยู่อันดับ 6 สินทรัพย์รวม 6.5 แสนลบ. Vs. Top 3 ต้องมากกว่า1 ล้านล้านบาท.) โดยเริ่มจากบริษัทในเครือ GE ก่อน (ล่าสุดซื้อ GECAL ดันพอร์ตสินเชื่อ BAY โตประมาณ 20%) คืออีกหนึ่งทางลัดในการเติบโต
แนะนำ ซื้อ-แม่ และ/หรือ เก็งกำไร-ลูก โดยให้ราคาเป้าหมาย BAY ไว้ที่ 35.13 บาท ส่วน BAY-W1 อย่างน้อยต้อง 20 บาท
3Q07A 3Q07F Diff Rating Target Upsid Note
BAY 2,880 1,427 102% Buy 35.13 29% Tunaround และฝันไกลขึ้นแท่น Top 3 ในอีก 3 ปีข้าหน้า ซึ่งเป็นไปได้
KTB 825 4,186 -80% Hold 13.04 19% กำไรต่ำกว่าคาดมาก เพราะสำรองฯ (ของจริง 6.6 พันลบ. Vs เราทำ 1.2 พันลบ.)
BBL 5,153 4,767 8% Buy 141.25 18% กำไรดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นกลับ Underporform?
SCB 5,322 4,436 20% Buy 89.64 11% งบ Q3 ดีกว่าคาด ปรับจากถือเป็น "ซื้อ" และเพิ่มเป้าอีก 4 บาทเป็น 90 บาท
TMB -2,540 n.a. n.a. Sell 1.61 -7% อาการหนักขายหุ้นเพิ่มทุนได้ราคาแค่ 1.40 บาท Dilution 60% แถมต้องลุ้นตัวโกร่ง
KK 581 n.a. n.a. Hold 34.57 10% เหมาะถือเพื่อรับปันผลปีละ ~7%
KBANK 3,412 3,447 -1% Buy 96.04 18% โดดเด่นทั้งฐานะการเงิน คุณภาพสินทรัพย์ และความสามารถในการทำกำไร
TISCO 440 n.a. n.a. Buy 36.44 26% จิ๋วแต่แจ๋ว (โดยเฉพาะเรื่องปันผล) ตั้งเป้าอีก 3 ปี ROE 20%
ที่มา : บล.ฟินันซ่า
**เปิดงบแบงก์ Q3/50
ธนาคารทหารไทย (TMB) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/50 ขาดทุนสุทธิ 2,539.89 ล้านบาท หรือ 0.15 บาทต่อหุ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,285.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท
ส่วนงวด 9 เดือนขาดทุนสุทธิ 20,687.07 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.25 บาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,613.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.34
บาท
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3/2550 สิ้นสุด 30 กันยายน 2550 ว่า มีกำไรสุทธิ 5,153.05 ลบ. หรือหุ้นละ 2.70 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิ 4,232.66 ลบ.หรือหุ้นละ 2.22 บาท
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2550 มีกำไรสุทธิ 5,322 ล้านบาท สูงขึ้นถึง 44% จากไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ที่มีกำไรสุทธิ 3,688 ล้านบาท
ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 13,332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 12,082 ล้านบาท
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/50 มีกำไรสุทธิ 2,880.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.52 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,866.08 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.62 บาท
ส่วนงวด 9 เดือนยังขาดทุนสุทธิ 4,956.97 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.97 บาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,368.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.87 บาท
ธนาคารกรุงไทย (KTB) รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/50 มีกำไรสุทธิ 825.10 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.07 บาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,004.27 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.45 บาท
ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 5,761.34 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.52 บาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13,614.93 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.22 บาท
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/50 มีกำไรสุทธิ 3,411.98 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.43 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,075.54 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.29 บาท
ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 11,376.45 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.77 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,235.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.30 บาท
TMB สรุปแผนเพิ่มทุน 2.5 หมื่นล้านหุ้น แบ่งขายผู้ถือหุ้นเดิมยกเว้นกระทรวงการคลัง 6,300 ล้านหุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิมได้ 0.4941 หุ้นใหม่ XR วันที่ 2 พ.ย. 50 เซียนหุ้นตบเท้าเตือนรายย่อย ไม่ควรใส่เงินเพิ่มทุน TMB ชี้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เหตุต้นทุนจะสูงกว่าราคากระดาน ตั้งข้อสังเกตุไม่บอกชื่อพันธมิตร เพราะยังเจรจาไม่ลงตัว งานนี้แนะนำขายสถานเดียว ด้านแบงก์ใหญ่ตบเท้าแจ้งงบโค้ง 3 โบรกฯยก BAY เจ๋งสุด แนวโน้มขึ้นแท่นแบงก์อันดับ 3 รดต้นคอ SCB-KBANK
**โบรกฯพิฆาต TMB ชี้เพิ่มทุนรายย่อยเสียเปรียบ แนวโน้มยังขาดทุนบักโกรก
บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์สรุปการเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย (TMB) ระบุว่า เพิ่มทุนทั้งหมด 25,108 ล้านหุ้น Diluted 57% โดยเสนอขายราคาหุ้นละ 1.40 บาท ให้กับ
1.พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่จำนวน 10,971 ล้านหุ้น
2.TNVDR สำหรับบุคคลในกลุ่มพันธมิตรดังกล่าว 2,142 ล้านหุ้น
3. กระทรวงการคลัง 5,587 ล้านหุ้น
4. ผู้ถือหุ้นเดิมยกเว้นคลัง 6,300 ล้านหุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิม ได้ 0.4941 หุ้นใหม่ XR วันที่ 2 พ.ย. 50
ทั้งนี้ เรายังคงแนะนำ ขาย ราคาเหมาะสมอยู่ระหว่างปรับประมาณการ
ด้านนักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง ระบุว่า ไม่แนะนำให้ผู้ถือหุ้นใส่เงินเพิ่มทุน เนื่องจากคำนวนจากสัดส่วนการจัดสรรหุ้นแล้ว จะมีต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 2.75 บาท จากราคาหุ้นในกระดานปัจจุบัน ขณะที่ราคาหุ้นที่เหมาะสมของ TMB หลังการเพิ่มทุนอยู่แค่ประมาณ 1.60 บาทเท่านั้น
ด้านบล.ฟินันซ่า ระบุว่า ขายหุ้นได้ต่ำกว่าที่เราคาดทำให้ Dilution พุ่งเป็น 60% จากการเพิ่มขึ้นของทุนจดทะเบียนฯเป็น 41,537 ล้านหุ้น (@ พาร์ 10 บาท) และ
ราคาขายต่ำกว่า BV (สิ้น 3Q07) ซึ่งอยู่ที่ 1.54 บาท อยู่ 9% โดย BV หลังเพิ่มทุนจะอยู่ที่ 1.46 บาท/หุ้น
ทั้งนี้เป็นเรื่องน่าแปลกที่ยังไม่บอกชื่อพันธมิตรในตอนนี้ (แสดงว่ารายละเอียดอาจไม่ลงตัวทั้ง100%) แต่จะทราบหลังประชุมบอร์ดอีกครั้งในวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งคงเป็นเพราะจะดูปฏิกริยาของรายย่อย ว่าจะจองซื้อหุ้นสามัญใหม่หรือไม่ เผื่อสถานการณ์ไม่ดีจะได้ถอนตัวทันหรือขอลดราคาลงมาอีก (ตามที่เป็นข่าว พันธมิตรคือ ING) หากรายย่อยไม่เอาพันธมิตรอาจต้องรับเหมาในทั้งหมดดันสัดส่วนการถือเป็น 47% ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจำนวนหุ้นทั้งหมดที่พันธมิตรจะซื้อคือ 19,413 ล้านหุ้น (ใช้เงิน 2.7 หมื่นลบ.) และสัดส่วนการถือหุ้นจะกลายเป็น 47% โดยปัจจุบัน TMB อยู่ระหว่างขออนุญาตคลังเพื่อเพิ่ม Foreign Limit ให้มากกว่า 49% เพื่อรองรับการเข้ามาของพันธมิตรใหม่ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน TMB มีฝรั่งถืออยู่แล้วประมาณ 6 พันล้านหุ้น (36% ก่อนเพิ่มทุน และจะเหลือ 14% หากเขาไม่ใช้สิทธิเพิ่มทุน ซึ่งเมื่อรวมกับพันธมิตรใหม่จะกลายเป็น
61%)
คำแนะนำยังให้ขายจนกว่าจะมีความชัดเจน โดยราคามีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงราคาที่เสนอขายคือ 1.40 บาท Downside อีก 30%
ด้าน บล.ซีมิโก้ ระบุว่า ไตรมาส 3/50 ธนาคารยังคงกันสำรองอีก 4.36 พันล้านบาท (ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ระดับ 5 พันล้านบาท) ส่งผลให้ธนาคารกันสำรองไปแล้ว 1.26 หมื่นล้านบาทใน 9 เดือนแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าธนาคารจะยังคงกันสำรองในระดับสูงต่อเนื่องอีกในไตรมาสสุดท้ายของปี เพื่อให้ครบตามเกณฑ์ IAS39 ขั้นสุดท้าย ทำให้มูลค่าหุ้นทางบัญชีมีแนวโน้มปรับลดลงอีก จาก 1.51 บาท ณ สิ้นไตรมาส 3/50
บล.กรุงศรีอยุธยา คงแนะนำ ขาย คาดว่าในปี 50 TMB จะรายงานขาดทุนสุทธิ 2.4 หมื่นล้านบาท ต่อเนื่องจากที่ขาดทุนสุทธิราว 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 49 เนื่องจากมีภาระต้องตั้งสำรองหนี้ให้ครบ phrase 3 ตามเกณฑ์ IAS 39 ภายในสิ้นปีนี้ แต่คาดว่าในปี 51 จะพลิกมีกำไรสุทธิ 3.2 พันล้านบาท เนื่องจากสมมุติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลดลง
เหลือ 5 พันล้านบาท จากคาดไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาทในปี 50 AYS คงมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานปี 51 ที่ 1.44 บาท อิงจาก P/BV 1 เท่า คงคำแนะนำ ขาย
**BAY โชว์กำไร Q3 พุ่ง 54% โบรกฯยกชั้นเป็นหุ้นสุดเจ๋ง ขึ้นแท่น Top 3 หายใจรดต้นคอ SCB-KBANK
บทวิเคราะห์ บล.ฟินันซ่า ระบุว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/50 สูงถึง 2.88 พันล้านบาท ในขณะที่เคยคาดไว้ที่ 1.43 พันล้านบาทเท่านั้น โดยพลิกจากขาดทุน 8.96 พันล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา จากพิษสำรองฯ ในขณะที่หากเทียบ YoY กำไรโตถึง 54%
ทั้งนี้จับตา BAY ที่กำลังจะหายใจลดต้นคอ SCB-KBANK เพื่อขึ้นแท่น Top 3 (จากปัจจุบันอยู่อันดับ 6 สินทรัพย์รวม 6.5 แสนลบ. Vs. Top 3 ต้องมากกว่า1 ล้านล้านบาท.) โดยเริ่มจากบริษัทในเครือ GE ก่อน (ล่าสุดซื้อ GECAL ดันพอร์ตสินเชื่อ BAY โตประมาณ 20%) คืออีกหนึ่งทางลัดในการเติบโต
แนะนำ ซื้อ-แม่ และ/หรือ เก็งกำไร-ลูก โดยให้ราคาเป้าหมาย BAY ไว้ที่ 35.13 บาท ส่วน BAY-W1 อย่างน้อยต้อง 20 บาท
3Q07A 3Q07F Diff Rating Target Upsid Note
BAY 2,880 1,427 102% Buy 35.13 29% Tunaround และฝันไกลขึ้นแท่น Top 3 ในอีก 3 ปีข้าหน้า ซึ่งเป็นไปได้
KTB 825 4,186 -80% Hold 13.04 19% กำไรต่ำกว่าคาดมาก เพราะสำรองฯ (ของจริง 6.6 พันลบ. Vs เราทำ 1.2 พันลบ.)
BBL 5,153 4,767 8% Buy 141.25 18% กำไรดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นกลับ Underporform?
SCB 5,322 4,436 20% Buy 89.64 11% งบ Q3 ดีกว่าคาด ปรับจากถือเป็น "ซื้อ" และเพิ่มเป้าอีก 4 บาทเป็น 90 บาท
TMB -2,540 n.a. n.a. Sell 1.61 -7% อาการหนักขายหุ้นเพิ่มทุนได้ราคาแค่ 1.40 บาท Dilution 60% แถมต้องลุ้นตัวโกร่ง
KK 581 n.a. n.a. Hold 34.57 10% เหมาะถือเพื่อรับปันผลปีละ ~7%
KBANK 3,412 3,447 -1% Buy 96.04 18% โดดเด่นทั้งฐานะการเงิน คุณภาพสินทรัพย์ และความสามารถในการทำกำไร
TISCO 440 n.a. n.a. Buy 36.44 26% จิ๋วแต่แจ๋ว (โดยเฉพาะเรื่องปันผล) ตั้งเป้าอีก 3 ปี ROE 20%
ที่มา : บล.ฟินันซ่า
**เปิดงบแบงก์ Q3/50
ธนาคารทหารไทย (TMB) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/50 ขาดทุนสุทธิ 2,539.89 ล้านบาท หรือ 0.15 บาทต่อหุ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,285.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท
ส่วนงวด 9 เดือนขาดทุนสุทธิ 20,687.07 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.25 บาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,613.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.34
บาท
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3/2550 สิ้นสุด 30 กันยายน 2550 ว่า มีกำไรสุทธิ 5,153.05 ลบ. หรือหุ้นละ 2.70 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิ 4,232.66 ลบ.หรือหุ้นละ 2.22 บาท
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2550 มีกำไรสุทธิ 5,322 ล้านบาท สูงขึ้นถึง 44% จากไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ที่มีกำไรสุทธิ 3,688 ล้านบาท
ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 13,332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 12,082 ล้านบาท
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/50 มีกำไรสุทธิ 2,880.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.52 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,866.08 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.62 บาท
ส่วนงวด 9 เดือนยังขาดทุนสุทธิ 4,956.97 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.97 บาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,368.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.87 บาท
ธนาคารกรุงไทย (KTB) รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/50 มีกำไรสุทธิ 825.10 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.07 บาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,004.27 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.45 บาท
ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 5,761.34 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.52 บาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13,614.93 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.22 บาท
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/50 มีกำไรสุทธิ 3,411.98 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.43 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,075.54 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.29 บาท
ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 11,376.45 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.77 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,235.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.30 บาท