Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

"วอร์เรน บัฟเฟตต์"คาดปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐบั่นทอนอำนาจซื้อผู้บริโภค
Source - IQ Biz
Friday, 26 October 2007 10:35

วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐและเจ้าของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ อิงค์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐอาจทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยเป็นเวลานานถึง 2 ปี แต่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฝ่าฟันปัญหาดังกล่าวไปได้
         "ปัญหาซับไพรม์กำลังส่งผลกระทบอย่างหนัก และคาดว่าจะมีอานุภาพรุนแรงขึ้น ผมคาดว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรืออาจจะ 1-2 ปีข้างหน้า ปัญหาซับไพรม์จะสร้างปัญหาที่หนักหน่วงให้กับผู้บริโภคและบั่นทอนอำนาจซื้อในสหรัฐอเมริกา" บัฟเฟตต์กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนเกาหลีใต้
         "แต่ที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจสหรัฐสามารถฟันฝ่าวิกฤตการณ์ต่างๆไปได้หลายครั้ง ซึ่งผมก็เชื่อว่าสหรัฐจะสามารถรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ได้เช่นกัน เพราะเมื่อดูจากปัจจัยโดยรวมแล้วจะเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัว" เขากล่าว
         สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บัฟเฟตต์ซึ่งไม่ค่อยเดินทางไปต่างประเทศมากนัก ได้เดินทางไปยังเมืองแดกูซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลประมาณ 300 กิโลเมตร เพื่อเยี่ยมชมบริษัทแทกูเทค ซึ่งบริษัทแฮธาเวย์ของบัฟเฟตต์ได้เข้าซื้อหุ้น 80% ในบริษัทแห่งนี้เมื่อปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ และเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งแรกในต่างประเทศ
         รายงานระบุว่า บัฟเฟตต์ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพนักงานของบริษัทเทกูเทค และเมื่อพนักงานคนหนึ่งขอให้เขาแสดงความคิดเห็นเรื่องกลยุทธ์ในการลงทุน เขาตอบว่า "การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในตัวคุณเอง คุณต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นจงขวนขยายหาความรู้ใส่ตัวเองก่อนที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นหรือตลาดใดๆก็ตาม"

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: [email protected]--

บริษัทแทกูเทค ซึ่งบริษัทแฮธาเวย์ของบัฟเฟตต์ได้เข้าซื้อหุ้น 80% ในบริษัทแห่งนี้เมื่อปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ และเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งแรกในต่างประเทศ

บริษัทนี้ผลิตอะไร ขอความรู้หน่อยครับ

"วอร์เรน บัฟเฟตต์"แย้มซื้อหุ้นปอสโค4% พร้อมลงทุนในบริษัทแดนโสม 19 แห่ง
Source - IQ Biz
Thursday, 25 October 2007 16:36

วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐและประธานบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ อิงค์ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างเดินทางเยือนเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก อันเป็นส่วนหนึ่งของทริปเยือนทวีปเอเชียนั้น ได้กระจายการลงทุนในบริษัทเกาหลีใต้แล้วกว่า 20 แห่ง          
         สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า บัฟเฟตต์ได้ตัดสินใจซื้อหุ้นในบริษัทปอสโคซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ในประเทศในสัดส่วน 4% โดยเขากล่าวว่า ตลาดหุ้นเกาหลีใต้นั้นยังมีความน่าสนใจ แม้นักวิเคราะห์บางรายจะกังวลว่าราคาหุ้นอาจมีมูลค่าสูงเกินกว่าความเป็นจริง
         "ราคาหุ้นในตลาดเกาหลีใต้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้มีมูลค่าการซื้อขายเป็นจำนวนมหาศาลมาโดยตลอด ขณะที่ค่าเงินวอนก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์  นอกจากนี้ หุ้นหลายตัวในตลาดหุ้นยังมีราคาหุ้นที่น่าดึงดูดใจมากกว่าหุ้นในตลาดของประเทศอื่นๆ" บัฟเฟตต์กล่าว
         ทั้งนี้ ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส์ระบุว่า บัฟเฟตต์เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีสินทรัพย์ในครอบครองทั้งสิ้น 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีการลงทุนกระจายตัวอยู่ทั่วโลก สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--

"วอร์เรน บัฟเฟตต์"คาดดอลล์จะอ่อนลงอีก แย้มสนใจลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้
Source - IQ Biz
Thursday, 25 October 2007 15:13

วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐและเจ้าของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ อิงค์ กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนเกาหลีใต้ว่า ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีก และกล่าวว่าเขามีมุมมองที่เป็นลบต่อสกุลเงินดอลลาร์  
         อย่างไรก็ตาม บัฟเฟตต์มีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นเกาหลีใต้ โดยกล่าวว่าเขากำลังสนใจเข้าซื้อหุ้นในบริษัทขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้และประเทศอื่นๆในเอเชีย อีกทั้งเชื่อว่าตลาดหุ้นเกาหลีใต้จะไม่ตกอยู่ในภาวะฟองสบู่
         ทั้งนี้ บัฟเฟตต์กล่าวว่า บริษัทเบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ของเขานั้น ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทในเกาหลีใต้ อาทิ บริษัทปอสโคซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้า บริษัทเกียร์ มอเตอร์ส บริษัทฮุนได สตีล และบริษัทหลักทรัพย์ชินยอง โดยบริษัทเบิร์คเชียร์มีธุรกิจในเครือกว่า 70 แห่ง และมีการลงทุนในรูปหุ้นและพันธบัตรกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์
         จากข้อมูลของนิตยสารฟอร์บส์ระบุว่า บัฟเฟตต์เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีทรัพย์สิ้นรวมมูลค่า 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีการลงทุนกระจายตัวอยู่ทั่วโลก สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--

pk8 เขียน: บริษัทนี้ผลิตอะไร ขอความรู้หน่อยครับ

พอดีไป search ดูเจอ

บจ. แทกูเทค (ไทยแลนด์) จำกัด

จัดจำหน่าย ส่งเสริมการขายและการตลาดเครื่องมือและอุปกรณ์ใช้สำหรับอุตสาหกรรมแยกโลหะ

246/40 หมู่ 8 ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130

ไม่แน่ใจว่าบริษัทแม่อันเดียวกะที่เกาหลี รึเปล่า

ขอบคุณครับ

บัฟเฟตต์จ้องซื้อ กิจการทั่วโลก ยกเว้นตลาดจีน
Source - ข่าวหุ้น
Thursday, 25 October 2007 04:10

ต้าเหลียน บัฟเฟตต์เตรียมซื้อธุรกิจขนาดใหญ่ๆทั่วโลก แต่เมินธุรกิจในจีน เหตุเพราะตลาดจีนร้อนแรงเกินไป อีกทั้งยังปฏฺเสธข่าวซื้อหุ้นไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันซ์
         วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์คไชร์ ฮาธาเวย์ อิงค์กล่าวว่า กำลังเตรียมที่จะซื้อกิจการขนาดใหญ่ในประเทศต่างๆทั่วโลก แต่มีแนวโน้มที่จะไม่เข้าไปซื้อธุรกิจในประเทศจีน เนื่องจากตลาดจีนในขณะนี้ร้อนแรงเกินไป
         บัฟเฟตต์ยังปฏิเสธข่าวลือที่ว่า เขาสนใจที่จะซื้อหุ้นไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันซ์ของจีนด้วย
         บัฟเฟต์ได้ให้ความเห็นในขณะไปร่วมพิธีเปิดบริษัท ไอเอ็มซี ต้าเหลียน ในประเทศจีน ซึ่งบริษัทอิสราเอล อิสคาร์ อินเตอร์เนชันแนล เมทัลเวิร์คกิ้ง คอส ถือหุ้นทั้งหมดและเบิร์กไชร์ ฮาธาเวย์ถือหุ้นใหญ่อยู่ในอิสคาร์ อินเตอร์เนชันแนลฯ
         ก่อนหน้านี้ไม่นาน บริษัท เบิร์กไชร์ ฮาธาเวย์ ได้เทขายหุ้นปิโตร ไชน่าออกมาเป็นระยะๆจนกระทั่งหมด หลังจากที่บริษัทแม่ของปิโตรไชน่า ถูกโจมตีเกียวกับความสัมพันธ์กับประเทศซูดาน
         อย่างไรก็ตาม บัฟเฟตต์ กล่าวว่า การเทขายหุ้นปิโตรไชน่าเป็นไปตามการประเมินคุณค่าเพียงเท่านั้น
         เมื่อวานนี้ดัชนีหุ้นจีนปรับตัวขึ้น โดยมีหุ้นกลุ่มการเงินและอสังหาริมทรัพย์เป็นแรงหนุนที่สำคัญหลังจากที่ค่าเงินหยวนแข็งขึ้นจนฝ่าระดับ 7.5 หยวนต่อดอลลาร์
         อย่างไรก็ตาม การซื้อขายในตลาดหุ้นจีนเมื่อวานนี้ยังต่ำและหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลงซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนจำนวนมากยังคงระมัดระวังต่อการประเมินมูลค่าที่สูงมากและเกรงว่าจีนจะเข้มงวดนโยบายเงินอีก
         ค่าเงินหยวนแข็งขึ้นกว่า 7.50 หยวนต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้หลังจากที่ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางเหนือระดับ 7.5 หยวน ซึ่งชี้ว่ารัฐบาลปักกิ่งเต็มใจที่จะเห็นค่าเงินแข็งขึ้นอีกพอประมาณ