sis
-
- Verified User
- โพสต์: 562
- ผู้ติดตาม: 0
sis
โพสต์ที่ 2
ขอตอบเท่าที่รู้นะพี่
sis เป็นบริษัทที่ซื้อมาขายไป สินค้าที่ขายก็เป็นจำพวกเคื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ต่างๆ รมไปถึง PDA และ PDA phone ด้วย เป็นที่รู้กันว่า
สินค้าจำพวกนี้เป็นสินค้าที่ได้กำไรน้อยมาก net margin 1-2% เอง เนื่องจากเป็นธุรกิจค้าส่ง ทำให้มีลูกหนี้การค้าเยอะเพราะต้องขายเป็นเงินเชื่อ และเมื่อยอดขายโตขึ้นก็จะต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มตามไปด้วย ที่ให้ SIS มีอัตราหนี้สินต่อทุนค่อนข้างสูงดังนั้นความเสี่ยงทางการเงินจึงสูงตามไปด้วย(รวมถึงความเสี่ยงที่จะเพิ่มทุน) ในกรีณีที่มีลูกค้าซักรายไม่สามารถจ่ายค่าสินค้าได้ จะทำความเสียหายกับทางบริษัทมากในเรื่องเงินทุนหมุนเวียน เท่ากับว่ากำไรที่ได้จากการทำงานมา 2-3 ปี หายไปเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัท ราคาหุ้นซื้อขายกันที่พีอี5-6 เท่ามาหลายปีแล้วครับ แต่ แต่ละปีก็มีกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนีองเช่นกัน
เรียกได้ว่าผู้บริหารต้อง บริหารการเงินได้เก่งพอสมควรครับถึงจะทำธรุกิจนี้ได้
แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเทรนของเทคโนโลยี่ ทำให้คนเริ่มเปลี่ยนจากการซื้อ PC มาเป็น โน๊ตบุค กันเยอะ ตอนนี้ผมแทบไม่ค่อยเห็นคนรู้จักซื้อ พีซี กันซักเท่าไหร่จะซื้อโน๊ตบุคซะมากกว่า แม้แต่ บริษัทห้างร้านเอง ก็ยังเปลี่ยนมาเป็นซื้อโน๊ตบุคให้ พนักงานใช้ เนื่องการเป็นการประหยัดเนื้อที่ และการพกพาที่สดวกกว่า ราคาก็เรียกได้ว่า ไม่ได้ต่างมันมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว
อีกเรื่องคือ PDA phone ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะ เครือง HTC touch คับ
พี่ jeng ก็ลงดุนะครับความเสียงทั้งหลายนี้มันพอรับได้ไหม แต่สำหรับผม เองผมคงติดตามข่าวสารอย่าสงใกล้ชิดหน่อย เพราะตัวนี้คงไม่ไช้หุ้น ที่ซื้อไว้แล้วทิ้งไว้แบบสบายใจได้แบบตัวอื่นๆ
sis เป็นบริษัทที่ซื้อมาขายไป สินค้าที่ขายก็เป็นจำพวกเคื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ต่างๆ รมไปถึง PDA และ PDA phone ด้วย เป็นที่รู้กันว่า
สินค้าจำพวกนี้เป็นสินค้าที่ได้กำไรน้อยมาก net margin 1-2% เอง เนื่องจากเป็นธุรกิจค้าส่ง ทำให้มีลูกหนี้การค้าเยอะเพราะต้องขายเป็นเงินเชื่อ และเมื่อยอดขายโตขึ้นก็จะต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มตามไปด้วย ที่ให้ SIS มีอัตราหนี้สินต่อทุนค่อนข้างสูงดังนั้นความเสี่ยงทางการเงินจึงสูงตามไปด้วย(รวมถึงความเสี่ยงที่จะเพิ่มทุน) ในกรีณีที่มีลูกค้าซักรายไม่สามารถจ่ายค่าสินค้าได้ จะทำความเสียหายกับทางบริษัทมากในเรื่องเงินทุนหมุนเวียน เท่ากับว่ากำไรที่ได้จากการทำงานมา 2-3 ปี หายไปเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัท ราคาหุ้นซื้อขายกันที่พีอี5-6 เท่ามาหลายปีแล้วครับ แต่ แต่ละปีก็มีกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนีองเช่นกัน
เรียกได้ว่าผู้บริหารต้อง บริหารการเงินได้เก่งพอสมควรครับถึงจะทำธรุกิจนี้ได้
แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเทรนของเทคโนโลยี่ ทำให้คนเริ่มเปลี่ยนจากการซื้อ PC มาเป็น โน๊ตบุค กันเยอะ ตอนนี้ผมแทบไม่ค่อยเห็นคนรู้จักซื้อ พีซี กันซักเท่าไหร่จะซื้อโน๊ตบุคซะมากกว่า แม้แต่ บริษัทห้างร้านเอง ก็ยังเปลี่ยนมาเป็นซื้อโน๊ตบุคให้ พนักงานใช้ เนื่องการเป็นการประหยัดเนื้อที่ และการพกพาที่สดวกกว่า ราคาก็เรียกได้ว่า ไม่ได้ต่างมันมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว
อีกเรื่องคือ PDA phone ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะ เครือง HTC touch คับ
พี่ jeng ก็ลงดุนะครับความเสียงทั้งหลายนี้มันพอรับได้ไหม แต่สำหรับผม เองผมคงติดตามข่าวสารอย่าสงใกล้ชิดหน่อย เพราะตัวนี้คงไม่ไช้หุ้น ที่ซื้อไว้แล้วทิ้งไว้แบบสบายใจได้แบบตัวอื่นๆ
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
sis
โพสต์ที่ 4
ตรงตามที่อยากตอบเลยครับkok2029 เขียน:ขอตอบเท่าที่รู้นะพี่
sis เป็นบริษัทที่ซื้อมาขายไป สินค้าที่ขายก็เป็นจำพวกเคื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ต่างๆ รมไปถึง PDA และ PDA phone ด้วย เป็นที่รู้กันว่า
สินค้าจำพวกนี้เป็นสินค้าที่ได้กำไรน้อยมาก net margin 1-2% เอง เนื่องจากเป็นธุรกิจค้าส่ง ทำให้มีลูกหนี้การค้าเยอะเพราะต้องขายเป็นเงินเชื่อ และเมื่อยอดขายโตขึ้นก็จะต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มตามไปด้วย ที่ให้ SIS มีอัตราหนี้สินต่อทุนค่อนข้างสูงดังนั้นความเสี่ยงทางการเงินจึงสูงตามไปด้วย(รวมถึงความเสี่ยงที่จะเพิ่มทุน) ในกรีณีที่มีลูกค้าซักรายไม่สามารถจ่ายค่าสินค้าได้ จะทำความเสียหายกับทางบริษัทมากในเรื่องเงินทุนหมุนเวียน เท่ากับว่ากำไรที่ได้จากการทำงานมา 2-3 ปี หายไปเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัท ราคาหุ้นซื้อขายกันที่พีอี5-6 เท่ามาหลายปีแล้วครับ แต่ แต่ละปีก็มีกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนีองเช่นกัน
เรียกได้ว่าผู้บริหารต้อง บริหารการเงินได้เก่งพอสมควรครับถึงจะทำธรุกิจนี้ได้
แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเทรนของเทคโนโลยี่ ทำให้คนเริ่มเปลี่ยนจากการซื้อ PC มาเป็น โน๊ตบุค กันเยอะ ตอนนี้ผมแทบไม่ค่อยเห็นคนรู้จักซื้อ พีซี กันซักเท่าไหร่จะซื้อโน๊ตบุคซะมากกว่า แม้แต่ บริษัทห้างร้านเอง ก็ยังเปลี่ยนมาเป็นซื้อโน๊ตบุคให้ พนักงานใช้ เนื่องการเป็นการประหยัดเนื้อที่ และการพกพาที่สดวกกว่า ราคาก็เรียกได้ว่า ไม่ได้ต่างมันมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว
อีกเรื่องคือ PDA phone ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะ เครือง HTC touch คับ
พี่ jeng ก็ลงดุนะครับความเสียงทั้งหลายนี้มันพอรับได้ไหม แต่สำหรับผม เองผมคงติดตามข่าวสารอย่าสงใกล้ชิดหน่อย เพราะตัวนี้คงไม่ไช้หุ้น ที่ซื้อไว้แล้วทิ้งไว้แบบสบายใจได้แบบตัวอื่นๆ
ธุรกิจขาย Hardware Margin ต่ำมากถึงมากที่สุด ธุรกิจแบบนี้เป็นธุรกิจท้ายๆที่ผมอยากทำในกรณีที่เปิดบริษัทเองเลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
sis
โพสต์ที่ 6
ราคาสินค้าลงเร็วด้วยครับ เก็บ stock ไม่ได้
เดี๋ยวจะมี iPhone เข้ามาแข่งอีก
แต่ตอนนี้ ต้องถือว่า HTC กับ O2 เป็น PDA ที่ขายดีที่สุด
แต่ตัวนี้ก็อยุ่ใน watch list ของผมนะครับ
เพราะมีโอกาสสูงที่จะไปจับ product แห่งอนาคต มาขาย
เหมือนที่ apple ทำได้กับ iPod
เดี๋ยวจะมี iPhone เข้ามาแข่งอีก
แต่ตอนนี้ ต้องถือว่า HTC กับ O2 เป็น PDA ที่ขายดีที่สุด
แต่ตัวนี้ก็อยุ่ใน watch list ของผมนะครับ
เพราะมีโอกาสสูงที่จะไปจับ product แห่งอนาคต มาขาย
เหมือนที่ apple ทำได้กับ iPod
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 325
- ผู้ติดตาม: 0
sis
โพสต์ที่ 7
ในฐานะที่ทำงานในวงการ IT ต้องบอกว่า
ผู้บริหารคือ คุณสมชัย และคุณสมบัติ เป็นคนเก่ง ฉลาดและตรงไปตรงมาครับ
แต่ปัญหาคือ
คนรองๆ ลงไปนี่ เทียบไม่ได้ ยังไม่มีตัวตายตัวแทนครับ
ตัว HTC นี่ Margin ไม่น้อยครับ ไม่ต้องกังวลเกิน 5% แน่ๆ เพราะเป็น Sole Distri บน IT channel
SiS ในไทยนี่ใหญ่ แม้ว่าเป็นบริษัทลูกของ SiSTech ของฮ่องกง แต่ว่ายอดขายนี่ดูเหมือนจะพอๆ กันหรือใหญ่กว่า (ที่แน่ๆ คือ ใหญ่กว่า SiSTech ที S'pore แน่นอน)
IT Dsitributor นี่ แม้ว่ามีข้อเสียมาก แต่อย่างที่ re: ข้างบนบอกครับ Barrier of Entry สูงมาก (พูดกันเล่นๆ ว่าไม่ใช่มีเงินอย่างเดียว ต้องโง่ด้วย เพราะ Return of Invested Capital ต่ำ)
คือต้องมีเงินมากเพราะต้องการเงินทุนหมุนเวียนสูงเป็นระดับพันล้าน
มีชื่อเสียง เพราะบรรดา Brand ดังๆ นี้ไม่ให้ distributorship กับบริษัทเล็กๆ
กำไรต่ำ
มี creidt Risk สูง ลุกค้าเบี้ยวเงินได้
แต่...
มี Growth สูง churn cash ได้เร็ว ปกติเราพูดถึง 3-4 เท่าของ GDP growth เช่น GDP โต 5% เดาได้เลยว่าจะต้องมี Growth 12-15% (ใน emergin country)
คู่แข่งน้อย เพราะรายย่อยจะถูกกำจัดออกไป เหลือแต่รายใหญ่ๆ อย่างตอนนี้เหลืออยู่ก็ 4 ต่างชาติ ECS-Value, Synnex, SiS, Ingram (นับตามยอดขายปี 06) ส่วน Techpac โดนซื้อไปแล้วสองปีก่อน (โดย ingram) ส่วน Digiland แม้ว่ายังอยู่แต่ก็เรียกว่าไม่ active เท่าไร กับอีก 3 บริษัทไทย ( DCom, A&L, Com 7) โดยทาง ITDC เพิ่งประกาศเลิกส่วน Distribution ปีนี้
ค่าน้ำมันมีผลกระทบกับการขนส่งสินค้า เพราะมีกำไรต่ำอยู่แล้วและทุก distri offer Free Delivery ทั้งนั้น ไม่ว่ากรุงเทพหรือต่างจังหวัด
Trend ระยะยาว
ธุรกิจ Distri เหมาะสำหรับตลาดที่เป็น Frangmented คือ มีผู้เล่นมากราย แต่ไม่มี dominant (ทั้งในรูป vendor / buyer) ในตลาดแบบนั้น distri จะมีบทบาทมาก ยกตัวอย่าง ขณะที่ตลาดยังขนาดเล็ก เราจะเห็นว่า vendor จะแต่งตั้ง distri มาสร้างตลาด พอเริ่มโตขึ้นก็จะเข้ามาทำตลาดเอง ไม่ว่าจะเป็น consumer / IT / medicine etc.
กระแส M&A ในเมืองนอกที่ผ่านมาส่งผลกระทบกับ Distri เพราะตลาดเริ่ม consolidate ขึ้น ผู้ขายมีอำนาจต่อรอง และ ผู้ซื้อ user ก็เริ่มมีอำนาจต่อรองเพราะเป็นรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ในระดับ distri เองก็มีการรวมตัวกันด้วย เช่น Ingram ซื้อ Techpac และ VST ซื้อ ECS เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง (แต่โชคดีที่ระดับ reseller ในเมืองไทยยังไม่มีการรวมตัวกัน ดังนั้นอำนาจต่อรองของ reseller ระยะหลังจึงลดต่ำลง) ในปีหน้า ผมคิดว่ากำไรขั้นต้นของทุก Distri ในเมืองไทยจะขยับขึ้น อย่างน้อย 50 basis point ก็มองกันไว้ได้ครับ
ถ้านึกอะไรออกจะมาเพิ่มให้ครับ
หมายเหตุ
ผมทำงานอยู่ใน IT Distributor ต่างชาติรายหนึ่ง ไม่มีห้นใน SIS แต่ชื่นชมผู้บริหาร SiS ครับ
ผู้บริหารคือ คุณสมชัย และคุณสมบัติ เป็นคนเก่ง ฉลาดและตรงไปตรงมาครับ
แต่ปัญหาคือ
คนรองๆ ลงไปนี่ เทียบไม่ได้ ยังไม่มีตัวตายตัวแทนครับ
ตัว HTC นี่ Margin ไม่น้อยครับ ไม่ต้องกังวลเกิน 5% แน่ๆ เพราะเป็น Sole Distri บน IT channel
SiS ในไทยนี่ใหญ่ แม้ว่าเป็นบริษัทลูกของ SiSTech ของฮ่องกง แต่ว่ายอดขายนี่ดูเหมือนจะพอๆ กันหรือใหญ่กว่า (ที่แน่ๆ คือ ใหญ่กว่า SiSTech ที S'pore แน่นอน)
IT Dsitributor นี่ แม้ว่ามีข้อเสียมาก แต่อย่างที่ re: ข้างบนบอกครับ Barrier of Entry สูงมาก (พูดกันเล่นๆ ว่าไม่ใช่มีเงินอย่างเดียว ต้องโง่ด้วย เพราะ Return of Invested Capital ต่ำ)
คือต้องมีเงินมากเพราะต้องการเงินทุนหมุนเวียนสูงเป็นระดับพันล้าน
มีชื่อเสียง เพราะบรรดา Brand ดังๆ นี้ไม่ให้ distributorship กับบริษัทเล็กๆ
กำไรต่ำ
มี creidt Risk สูง ลุกค้าเบี้ยวเงินได้
แต่...
มี Growth สูง churn cash ได้เร็ว ปกติเราพูดถึง 3-4 เท่าของ GDP growth เช่น GDP โต 5% เดาได้เลยว่าจะต้องมี Growth 12-15% (ใน emergin country)
คู่แข่งน้อย เพราะรายย่อยจะถูกกำจัดออกไป เหลือแต่รายใหญ่ๆ อย่างตอนนี้เหลืออยู่ก็ 4 ต่างชาติ ECS-Value, Synnex, SiS, Ingram (นับตามยอดขายปี 06) ส่วน Techpac โดนซื้อไปแล้วสองปีก่อน (โดย ingram) ส่วน Digiland แม้ว่ายังอยู่แต่ก็เรียกว่าไม่ active เท่าไร กับอีก 3 บริษัทไทย ( DCom, A&L, Com 7) โดยทาง ITDC เพิ่งประกาศเลิกส่วน Distribution ปีนี้
ค่าน้ำมันมีผลกระทบกับการขนส่งสินค้า เพราะมีกำไรต่ำอยู่แล้วและทุก distri offer Free Delivery ทั้งนั้น ไม่ว่ากรุงเทพหรือต่างจังหวัด
Trend ระยะยาว
ธุรกิจ Distri เหมาะสำหรับตลาดที่เป็น Frangmented คือ มีผู้เล่นมากราย แต่ไม่มี dominant (ทั้งในรูป vendor / buyer) ในตลาดแบบนั้น distri จะมีบทบาทมาก ยกตัวอย่าง ขณะที่ตลาดยังขนาดเล็ก เราจะเห็นว่า vendor จะแต่งตั้ง distri มาสร้างตลาด พอเริ่มโตขึ้นก็จะเข้ามาทำตลาดเอง ไม่ว่าจะเป็น consumer / IT / medicine etc.
กระแส M&A ในเมืองนอกที่ผ่านมาส่งผลกระทบกับ Distri เพราะตลาดเริ่ม consolidate ขึ้น ผู้ขายมีอำนาจต่อรอง และ ผู้ซื้อ user ก็เริ่มมีอำนาจต่อรองเพราะเป็นรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ในระดับ distri เองก็มีการรวมตัวกันด้วย เช่น Ingram ซื้อ Techpac และ VST ซื้อ ECS เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง (แต่โชคดีที่ระดับ reseller ในเมืองไทยยังไม่มีการรวมตัวกัน ดังนั้นอำนาจต่อรองของ reseller ระยะหลังจึงลดต่ำลง) ในปีหน้า ผมคิดว่ากำไรขั้นต้นของทุก Distri ในเมืองไทยจะขยับขึ้น อย่างน้อย 50 basis point ก็มองกันไว้ได้ครับ
ถ้านึกอะไรออกจะมาเพิ่มให้ครับ
หมายเหตุ
ผมทำงานอยู่ใน IT Distributor ต่างชาติรายหนึ่ง ไม่มีห้นใน SIS แต่ชื่นชมผู้บริหาร SiS ครับ
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
sis
โพสต์ที่ 8
เพิ่มเติมคุณ kok นิดหน่อย นอกจาก PDA PHONE กะโน๊ตบุ๊ค แล้ว สินค้าขายดีอีกอย่างที่กำลังมาแรงก็คือ จอ LCD ครับ หลายบริษัทที่ยังคงใช้เครื่อง PC อยู่ ไม่ได้เปลี่ยนมาเป็นโน๊ตบุ๊ค อย่างน้อยก็อัพเกรดจอเป็นจอ LCD ครับ
เรื่องอื่นๆ คุณ kok คงตอบไปหมดแระ พี่เจ๋งมีคอมเมนต์ตรงไหนแนะนำน้องๆ ด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
เรื่องอื่นๆ คุณ kok คงตอบไปหมดแระ พี่เจ๋งมีคอมเมนต์ตรงไหนแนะนำน้องๆ ด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด