มะรือจะไปประชุม IT มีใครจะฝากคำถาม มั้ยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 12, 2007 6:49 pm
มารอคำถามครับ
เว็บบอร์ดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้น วีไอ แนวทางลงทุน คลังความรู้หุ้นวีไอ แหล่งรวมนักลงทุนหุ้นวีไอที่ใหญ่ที่สุด พร้อมรับสมาชิก VIP มีหมวดลงทุน ร้อยคนร้อยหุ้น คอมเม้นและข้อมูลดีๆ จากนักลงทุนเน้นคุณค่าผู้มีประสบการณ์ ข้อมูล Oppday ของหุ้นวีไอ
https://v3.thaivi.org/
chartchai madman เขียน:ไซรัส-แนะนำ "BUY" IT
IT (บมจ.ที ซิตี้) - BUY
กำไรไตรมาส 3/50 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่พร้อมจะเติบโตสูงในปีหน้า
- กำไรสุทธิไตรมาส 3/50 เพิ่มขึ้นถึง48.5% q-q แต่ลดลง 8.1% y-y และต่ำกว่าคาด เล็กน้อย สำหรับกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนปีนี้มีจำนวน 118.8 ล้านบาท ลดลง 12.9% y-y เพราะค่าเสื่อมที่สูงขึ้นในปีนี้จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นถึง 5 สาขาตั้งแต่ครึ่งปีหลังปีก่อน
- จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 9 เดือนแรก จำนวน 0.24 บาท/หุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 20 พ.ย. และจ่ายเงินวันที่ 30 พ.ย. 2550
- จากสภาพเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศที่ซบเซาในช่วงครึ่งปีแรกทำให้บริษัท ไม่ได้มีการเปิดสาขาใหม่นับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยจำนวนสาขายังคงมี 30 แห่ง สำหรับรายได้ในไตรมาส 3/50 ที่เพิ่มขึ้น 9.1% q-q ถือเป็นสัญญาณที่ดีเพราะเป็นอัตรา การเติบโตที่สูงกว่าในช่วง 2 ไตรมาสก่อน ประกอบกับอัตรากำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง q-q จากการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
- จากสภาพเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้นในปีหน้า ประกอบกับการ ขยายสาขาถึง 8 แห่ง ทำให้เราคาดว่า IT จะกลับมามีรายได้และกำไรที่เติบโตสูงอีกครั้ง ถึง 22.3% และ 25.8% ตามลำดับ
- การเติบโตของ IT ในปี 2551 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เรากำหนด PE ที่ 12.0 เท่า ใกล้เคียงกับ PE ตลาด และต่ำกว่าการขยายตัวของกำไร ทำให้ได้มูลค่าหุ้น 7.70 บาท ยังมี Upside จากราคาหุ้นปัจจุบัน 16.7% จึงยังคงแนะนำ ซื้อ
ลักษณะการประกอบธุรกิจ
IT เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SVOA กลุ่มบริษัทในเครือสห กรุ๊ป พนักงานบริษัท และบริษัทคู่ค้าของ SVOA เพื่อประกอบธุรกิจค้าปลีกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องทางด้านไอทีแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า ไอที ซิตี้ มุ่งเน้นการขายตรงแก่ผู้ใช้สินค้ารายย่อย ณ สิ้นปี 2548 มี 23 สาขา
ปัจจัยความเสี่ยง
1) ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ หากเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อซบเซาจะกระทบบริษัท โดยตรงเพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภครายย่อยทั่วไป
2) ความเสี่ยงจากการที่อยู่ในธุรกิจที่แข่งขันรุนแรง
กำไรไตรมาส 3/50 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่พร้อมจะเติบโตสูงในปีหน้า
- กำไรในไตรมาส 3/50 เพิ่มขึ้น 48.5% q-q แต่ต่ำกว่าเล็กน้อย IT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/50 จำนวน 52.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.5% q-q แต่ลดลง 8.1% y-y และต่ำกว่าคาดเล็กน้อย เมื่อรวมกับกำไรในครึ่งปีแรก ทำให้กำไรสุทธิในงวด 9 เดือนปีนี้มีจำนวน 118.8 ล้านบาท ลดลง 12.9% y-y เพราะต้นทุนค่าเสื่อมที่สูงขึ้นในปีนี้จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นถึง 5 สาขาตั้งแต่ครึ่งปีหลังปีก่อน
- จ่ายปันผลงวด 9 เดือน 0.24 บาท/หุ้น IT ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 9 เดือนแรกปีนี้ จำนวน 0.24 บาท/หุ้น คิดเป็น 68.0% ของกำไรสุทธิ โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 20 พ.ย. และจ่ายเงินวันที่ 30 พ.ย. 2550 เงินปันผลดังกล่าวคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 3.6% จากราคาหุ้นปัจจุบัน
- รายได้ไตรมาส 3/50 เริ่มมีสัญญาณการเติบโตเพิ่มมากขึ้น จากสภาพเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศที่ซบเซาในช่วงครึ่งปีแรกทำให้บริษัทไม่ได้มีการเปิดสาขาใหม่นับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยจำนวนสาขายังคงมี 30 แห่ง (เป็นสาขาในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 17 สาขา และในต่างจังหวัด 13 สาขา) แต่รายได้ต่อสาขาก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับไตรมาส 3/50 รายได้ที่เพิ่มขึ้น 9.1% q-q ถือเป็นสัญญาณที่ดีเพราะเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าในช่วง 2 ไตรมาสก่อน (รายได้ในไตรมาส 2/50 โต 8.6% q-q ส่วนรายได้ในไตรมาส 1/50 ลดลง 2.9% q-q)
- ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น q-q จุดเด่นอย่างหนึ่งของ IT คือบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ค่อนข้างดีมากมาโดยตลอด แม้ในช่วงที่รายได้ลดลง บริษัทก็พยายามประคองอัตรากำไรไม่ให้ลดลงมากนัก สำหรับไตรมาส 3/50 ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นจึงเพิ่มขึ้นเป็น 12.7% จาก ไตรมาสก่อนที่ 12.2% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งเพิ่มขึ้นตามยอดขายแต่เพิ่มในอัตราที่ช้ากว่า จึงมีสัดส่วน 8.9% ของยอดขาย ลดลงจากไตรมาสก่อนที่มีสัดส่วน 9.4% จึงส่งผลให้อัตรากำไร สุทธิในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3.5% จากไตรมาสก่อนที่ 2.6%
- กำไรต่ำกว่าปีก่อนเพราะค่าเสื่อมจากการเร่งขยายสาขาในช่วงครึ่งหลังปีที่แล้ว สำหรับกำไรใน ไตรมาส 3/50 และในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ที่ลดลงจากปีก่อน เป็นเพราะอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าปีก่อน เนื่องจากในปี 2549 IT ขยายสาขาถึง 7 แห่ง โดย 5 แห่งเป็นการขยายตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังปีก่อน จึงทำให้ค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่รายได้ในปีนี้ถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว โครงสร้างทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง การมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งยังคงเป็นจุดแข็งของ IT โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจค้าปลีกที่มีอัตรากำไรสุทธิค่อนข้างต่ำ โดย IT ไม่มีหนี้เงินกู้เลย หนี้สินที่ มีแทบทั้งหมดเป็นเจ้าหนี้การค้า และเมื่อเทียบหนี้สินกับทุน พบว่า IT มีสถานะเป็น Net cash position คงประมาณการเดิมที่คาดว่ากำไรปี 2550 ลดลง 4.1% กำไรในงวด 9 เดือนแรกคิดเป็น 70.7% ของประมาณการทั้งปี เราจึงยังคงประมาณการเดิมที่คาดว่ากำไรในปี 2550 จะลดลงจากปีก่อน 4.1% โดยกำไรในไตรมาส 4/50 มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสนี้เล็กน้อยเพราะการเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่งในช่วงไตรมาสสุดท้าย จะทำให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 8 แห่งในปี 2551 ในปี 2551 ผู้บริหารตั้งเป้าว่าจะเปิด 8 สาขา ส่วนใหญ่จะอยู่ใน ต่างจังหวัด แม้ว่ากำลังซื้อในต่างจังหวัดจะต่ำกว่าในกรุงเทพ แต่ข้อดีคือไม่กระทบกับยอดขายของสาขาเดิม เพราะพื้นที่ห่างไกลกัน ในขณะที่การเปิดสาขาใหม่ๆ ในกรุงเทพ จะกระทบกับยอดขายเดิมของ สาขาที่ใกล้กันที่สุด นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในต่างจังหวัดยังค่อนข้าต่ำ ในขณะที่บริษัทเลือกเปิดสาขาตามเมืองใหญ่ๆ และเปิดในห้าง ทำให้การคืนทุนของสาขาในต่างจังหวัดทำได้ค่อนข้างเร็ว โดยเฉลี่ยจะคุ้มทุนภายใน 3-6 เดือน โดยที่ค่าขนส่งมีผลกระทบน้อยมากเพราะหากเป็นสินค้าใน ประเทศ ทาง Supplier จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าขนส่ง แต่ถ้าเป็นสินค้านำเข้า ก็จะมีอัตรากำไรขั้นต้น มากพอที่จะลดผลกระทบเรื่องค่าขนส่งได้ คาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตถึง 25.8% ในปี 2551 จากสภาพเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มี แนวโน้มดีขึ้นในปีหน้า ประกอบกับการขยายสาขาในเชิงรุกอีกครั้ง ทำให้เราคาดว่า IT จะกลับมามีรายได้และกำไรที่เติบโตสูงอีกครั้งถึง 22.3% และ 25.8% ตามลำดับราคาเป้าหมายปี 2551 เท่ากับ 7.70 บาท ยังมี Upside 16.7% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา IT เป็นหุ้นที่ซื้อ ขายที่ PE ค่อนข้างสูงถึงเฉลี่ย 14.6 เท่า เนื่องจากสภาพคล่องในการซื้อขายต่ำ และมี Free float ใน ตลาดไม่มากทำให้ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ในขณะที่ปัจจุบันมี PE 13.9 เท่าในปีนี้ และจะลดลงเหลือ 10.2 เท่าในปี 2551 เราเห็นว่าการเติบโตของ IT ในปี 2551 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราจึงกำหนด PE ที่ 12.0 เท่า ใกล้เคียงกับ PE ตลาด และต่ำกว่าการขยายตัวของกำไร (PEG = 0.5) ซึ่งเชื่อว่าเป็นระดับ PE ที่เหมาะสม ณ PE 12.0 เท่า IT จะมีมูลค่าหุ้น 7.70 บาท มี Upside จากราคาหุ้นปัจจุบัน 16.7% จึงยังคงแนะนำ ซื้อ
โดยบริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550
http://www.thunhoon.com/home/
ยินดีครับพี่HI.ผมเอง เขียน:แล้ว เจอกันครับ
ไม่รู้พี่ HI.ผมเอง คนไหน วันนี้ผมไปสาย เลิกก็กลับเลย ลองๆมองหาดูแล้วครับ ไม่รู้ใครเป็นใคร ไม่กล้าไปทักครับ ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะครับCopyWriter เขียน: ยินดีครับพี่