หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 9:56 am
โดย terati20
ธุรกิจที่  ROA  ต่ำๆ คือการใช้ Asset  ที่ไม่คุ้มค่า
บางธุรกิจต่ำกว่า ผลตอบเเทนดอกเบี้ยซะอีก เช่น
กลุ่มธนาคาร

เเต่ทำไมยังมีคนทำธุรกิจพวกนี้อยู่อีก????

:?:  :?:  :?:  :?:

Re: ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 10:12 am
โดย path2544
[quote="terati20"]ธุรกิจที่

ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 10:56 am
โดย Capo
เพราะ ROA มันรวมสินทรัพย์ส่วนที่เจ้าของไม่ได้เป็นเจ้าของด้วยครับ

งงป่าวครับ ผมก็งง  :shock:


อย่างธนาคาร สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของเขาก็คือเงินฝากของลูกค้า หรือก็คือเจ้าหนี้

ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นจะมีมูลค่าอยู่น้อยกว่ามาก (d/e สูง อย่าง kbank,scb ก็ 8-9 เท่า)

ซึ่งนั่นจะทำให้ ROE สูง จนเป็นที่พอใจของนักลงทุนได้ครับ กิจการจึงได้เกิดขึ้น

ลักษณะพวกนี้เงินกู้จะสูง ครับ แต่ดู ROE ก็ยังถือว่าไล่ ๆ กันกับอุตสาหกรรมอื่น

ผมอธิบายงง ๆ ๆ แหะ

คงต้องพึ่งท่านอื่นมาเสริมล่ะครับ

ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 11:44 am
โดย sunrise
ทำแล้วออกไม่ได้

ลูกจ้าง พนักงาน ที่ต้องเลี้ยงดู
ความภูมิใจส่วนตัว ไม่อยากเลิกทำธุรกิจที่ปลุกปั้นมานาน
ยังหารายได้ทางอื่นไม่ได้ ทรัพสินก็ขายออกไปไม่ได้ราคา
รอจังหวะว่ามันคงฟื้น

และอีกหลายๆอย่าง สรุปแล้ว แล้วแต่ครับ ต้องไปดูลึกๆเป็นกรณีๆ ไป

ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 12:38 pm
โดย doodeemak
ขออนุญาตเสริมคุณ Capo ครับ

ROA ต่ำอาจจะดีก็ได้นะครับ ถ้า... Asset ที่สูงปรี๊ดนั้น finance มาจากเงินเจ้าหนี้การค้า

ยกตัวอย่างบริษัทผลิต อาจจะเห็นภาพชัดกว่านะครับ

เช่น เราทำร้านก๋วยเตี๋ยวปีนึงกำไร 2 บาท มีทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินการ 100 บาท ROA จะเท่ากับ 2% ซึ่งดูเหมือนว่า ฝากแบงค์อาจจะดีกว่า

แต่ถ้าเรามองฝั่งของเงินลงทุนจริงๆ (ด้าน Liability & Equity) เรากลับพบว่าเราลงทุนเพียงแค่ 10 บาท กู้เค้ามาอีก 5 บาท ที่เหลือมาจากเจ้าหนี้การค้า 85 บาท (เพราะเราซี้กับคนขายเส้นก๋วยเตี๋ยว เลยได้ term การชำระหนี้ยาว) เราจะพบว่า ROE จะเท่ากับ 20% และ ROIC เท่ากับ 13% ซึ่งก็ยังพอใช้ได้ เพียงแต่อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องการชำระหนี้ระยะสั้นที่ควรต้องระวัง

ดังนั้นผมว่า ROA สูง ROIC สูงมาก ROE สูงมากๆๆๆ เนื่องจาก Profit Margin สูงและ Sales growth สูง ดีที่สุดนะครับ  :D

ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 1:30 pm
โดย Vangogh
[quote="doodeemak"]ขออนุญาตเสริมคุณ Capo ครับ

ROA ต่ำอาจจะดีก็ได้นะครับ ถ้า... Asset ที่สูงปรี๊ดนั้น finance มาจากเงินเจ้าหนี้การค้า

ยกตัวอย่างบริษัทผลิต อาจจะเห็นภาพชัดกว่านะครับ

เช่น เราทำร้านก๋วยเตี๋ยวปีนึงกำไร 2 บาท มีทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินการ 100 บาท ROA จะเท่ากับ 2% ซึ่งดูเหมือนว่า ฝากแบงค์อาจจะดีกว่า

แต่ถ้าเรามองฝั่งของเงินลงทุนจริงๆ (ด้าน Liability & Equity) เรากลับพบว่าเราลงทุนเพียงแค่ 10 บาท กู้เค้ามาอีก 5 บาท ที่เหลือมาจากเจ้าหนี้การค้า 85 บาท (เพราะเราซี้กับคนขายเส้นก๋วยเตี๋ยว เลยได้ term การชำระหนี้ยาว) เราจะพบว่า ROE จะเท่ากับ 20% และ ROIC เท่ากับ 13% ซึ่งก็ยังพอใช้ได้ เพียงแต่อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องการชำระหนี้ระยะสั้นที่ควรต้องระวัง

ดังนั้นผมว่า ROA สูง ROIC สูงมาก ROE สูงมากๆๆๆ เนื่องจาก Profit Margin สูงและ Sales growth สูง ดีที่สุดนะครับ

ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 10:14 pm
โดย ayethebing
ในบางทีเราไม่สามารถเอาอัตราส่วนทางการเงินตัวเดียวกันไปอธิบายธุรกิจที่แตกต่างกันได้

เช่นถ้าจะดูธุรกิจผลิตก็ดูพวกอัตราส่วนรอบหมุนของสินค้าคงคลังหรือ ROA ได้ ธุรกิจอสังหาก็คงอีกแบบ ธุรกิจบริการก็คงอีกแบบเหมือนกัน

ถ้าเป็นธุรกิจประกันภัยการดูอัตราค่าสินไหมทดแทนที่สามารถใช้วัดความสามารถของการประเมินความเสี่ยง (Underwriting) กับอัตราผลตอบแทนเงินลงทุนซึ่งเป็นแกนหลักสองแกนของธุรกิจประกันภัย มีความสำคัญมากกว่าการดู ROA

ส่วนธุรกิจ bank ยอมรับว่าไม่มีความรู้เลย แต่ถ้าจะจริงนะครับ ที่ Asset ของธนาคารรวมเงินฝากด้วยถ้ายังงี้ยิ่งใช้ ROA ไม่ได้เลย