หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 8:58 am
โดย crazyrisk
ปุจฉา คับ
ระหว่าง วีไอดั้งเดิม ที่ซื้อหุ้นไว้ตัวเดียว
ไม่มีการขายเอา capitalgain แต่กอดไว้ยาวๆ
และจะรอขายเมื่อพื้นฐานเปลี่ยนเท่านั้น
เช่น กอด pttep จนกว่าฟ้าดินสลาย ประเทศไทยใช้
ซีอิ๊วแทนน้ำมัน...
กับเซียนเหยียบเมฆ ซื้อตัวนี้ วิ่งขึ้นสักพัก
ก้อขายทิ้ง แล้วโยกไปเข้าตัวนู้น
วิ่งขึ้นต่อ ก้อโยกไปเข้าตัวนี้...
ว่าจะถามคำถามนี้มานานแล้ว...
ลองแชร์ประสบการณ์หน่อยได้ไหมคับ
ถ้าตอบยาก เอาแค่ลองเทียบกันระหว่าง
กอดหุ้น 1 ตัว ไว้ ในช่วง 1-3 ปี
ราคาขึ้นก้อกอด ราคาลงก้อหาเงินมาซื้อเพิ่ม
กับ
เปลี่ยนหุ้น เรื่อยๆ ทุก 3-6 เดือน
และจะขายเมื่อมันราคามันขึ้น...
หรือเห็นตัวอื่น มีอนาคตมากกว่า
อันไหน สร้างความมั่งคั่งได้มากกว่าครับ
ปีนี้ ผมถือหุ้นได้ ตัวละ 1 เดือนบ้าง 3 เดือนบ้าง
บางตัว ถือมา เกือบ 6 เดือนแล้ว...
กอดไว้จนราคาเท่าทุนก้อมี...
ขอคำชี้แนะด้วยคับ
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:04 am
โดย por_jai
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:04 am
โดย cwiboon
รักออกแบบไม่ได้นะครับ
แหะๆ เข้ามาแซวเล่นน่ะครับ :D
จริงๆขออีกช้อยได้มั้ยครับ
แบบว่าเดิมถือหุ้นกอดไว้ แต่บางทีพอมีเงินเพิ่ม ไปเจอะอีกตัวที่น่าสนก็โดดเข้าไปซื้ออีกตัวแทน (บางครั้งหุ้นที่เรากอดไว้ ณ ราคาตอนนี้มันก็ไม่ได้น่าสนอีกต่อไปแล้วน่ะครับ หมายถึงน่าสนที่จะซื้อเพิ่มน่ะครับ แต่อีกตัวนี่สิเพิ่งเจอะเจอ ดูท่าทางก็ดี แถมม่ะมีใครสนใจ อีกตะหาก แต่ก็ไม่ได้ขายตัวเดิมนะครับ) อืมยังงี้เรียกว่ารักไปหมดหรือเปล่าหว่า
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:14 am
โดย crazyrisk
ขอบคุณพี่พอใจ ในการเอื้อเฟื้อข้อมูลครับ
แต่รู้สึกว่าแนวคำถามผมต่างกับของกระทู้ล่อเป้าทั้งสองอันนาคับ
เพราะว่าอันนั้นคือดูกราฟ แข่งกับดูมูลค่า
แต่อันนี้ คือ ดูมูลค่า แข่งกับดูมูลค่า
โดยที่ อันนึง เห็นว่า ราคาขึ้นมาเยอะมากๆ ในช่วงระยะเวลาอันสั้นๆ
โดยเกิดคาดไปเยอะ
เช่นผมถือหุ้นบางตัวมาตั้งนาน คิดว่า ระยะยาวอีกสัก ปี สองปี
คงจะเริ่มแสดงผล
ปรากฏว่า ภายในไม่กี่เดือน ราคาวิ่งทะลึ่งไป 50% ใน ไม่ถึง
1 สัปดาห์
ก้อเลยถามว่า ถ้าเจอแบบนี้ ยังจะกอดไว้เรื่อยๆ หรือว่า ขายไปก่อน
น่าจะไม่เหมือนกันนะคับ
เอาง่ายๆคับ
ระหว่าง คนที่กอด pttep ไว้ จน 5 เด้ง
กับ คนที่ซื้อ snc แล้วย้ายไปเข้า ums
หรืออะไรก้อแล้วแต่ ที่เห็นราคาขึ้นมาเยอะๆ ไปหน่อย
แล้วก้อขาย เพื่อซื้อตัวอื่นที่ราคายังถูกอยู่
แบบนี้ น่าจะไม่เรียกว่าเก็งกำไรตามเทคนิคนะคับ
เพราะว่าเท่าที่สังเกตุ ส่วนใหญ่ชาววีไอเรา
ก้อเก็งกำไรจากผลประกอบการ ทั้งนั้นนิคับ...
(ถ้าเข้าใจผิดอย่างไร โปรดชี้แนะด้วยความทะนุถนอมคับ 8) 8) )
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:22 am
โดย ayethebing
หุ้นมีไว้ถือครับ เมียถึงมีไว้กอด
อิอิ เข้ามาป่วน
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:25 am
โดย ก้อนหิน
ผมอ่านแล้วคิดถึงบทความของพี่ม้าเฉียวครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=17595
ถ้าโดดไปแล้วไม่ตกม้า มันอาจจะเป็นกลยุทธที่ดีครับ
แต่ใครจะรู้ว่าเราจะพลาดเมื่อไหร่ แล้วม้าตัวไหนจะเข้าขากับเราเท่ามาคู่ใจ
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:33 am
โดย crazyrisk
เป็นบทความ ที่ดีมากคับก้อนหิน
แล้ว ในเวปนี้มีใครเป็นลุงชื่น
ใครเป็น ราชัน ของกระทู้ พี่ม้าเฉียว... ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิคับ
ในส่วนตัวแล้วผมยังรู้สึกว่า การเป็น
ราชัน เปลี่ยนม้าควบ ไปเรื่อยๆ
น่าจะสามารถ ไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่า
เพราะบางที ม้าที่รู้ใจ อาจจะมี surprise
ทั้งวิ่งเร็วขึ้้นมากๆ กับ แก่ตายเอาซะืดื้อๆนะคับ
แต่ถ้าเป็นราชัน บางที เสียจังหวะ อาจจะหยุด และก้อค่อยๆ
ออกมายืนดูอยู่ข้างนอกสักพักก้อได้นะคับ
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:46 am
โดย ...
บางทีจุดหมายอาจไม่สวยงามเท่าทัศนียภาพระหว่างทางนะครับ
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:53 am
โดย ก้อนหิน
crazyrisk เขียน:
เป็นบทความ
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 10:12 am
โดย chatchai
จากบทความของคุณ IH ที่เป็นเอกสารแจกในงาน Meeting ปีนี้
ซื้อแล้วขายกับซื้อแล้วถือ อะไรดีกว่ากัน?
อีกเรื่องที่อยากจะพูดถึงคือ Reinvestment risk ผมขอเปรียบเทียบหุ้น 2 ตัวดังนี้ครับ
1 ) หุ้นตัวแรก น่าจะให้ผลตอบแทนจาก capital gain + เงินปันผล 20% ต่อปี และมีแนวโน้มที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนดังกล่าวได้อย่างน้อย 5 ปีจากนี้ไป
2 ) หุ้นตัวที่ 2 น่าจะให้ผลตอบแทนจาก capital gain + ปันผล 30%-40% ในปีนี้ แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อหุ้นขึ้นแล้วต้องขายทำกำไรเนื่องจากกำไรที่เพิ่มขึ้นนี้มีโอกาสที่จะเป็นกำไรที่เกิดขึ้นในปีนี้ส่วนปีหน้ากำไรมีความไม่แน่นอนและมีโอกาสลดลง
ไม่ทราบเพื่อนๆ คิดว่าหุ้นตัวไหนน่าซื้อกว่ากันครับ ในความเห็นของผม ผมชอบหุ้นประเภทแรกมากกว่าเพราะว่าผมสามารถถือไปได้เรื่อยๆ โดยหากไม่เจอหุ้นตัวใหม่ที่จะให้ผลตอบแทนระยะยาวสูงกว่า ผมก็ไม่จำเป็นต้องขายหุ้นประเภทแรกนี้ออกมาก็ได้เพราะผลตอบแทนในระยะ 5 ปีที่ 20% ( รวมปันผล ) เป็นผลตอบแทนที่ไม่เลวทีเดียวครับ ในขณะที่การลงทุนในหุ้นประเภทที่ 2 เมื่อขายทำกำไรออกไปแล้ว นักลงทุนหลายคน อาจจะดีใจกับกำไรที่ออกมาเป็นตัวเงิน เพราะ เพื่อนผมบางคนชอบบอกผมว่าเค้าชอบเห็นกำไรที่เป็นตัวเงินมากกว่ากำไรทางบัญชี เวลาหุ้นขึ้นทีไรแล้วร้อนรนอยากขายทุกที และเมื่อเค้าขายหุ้นกำไรไปแล้วก็จะต้องถามผมว่ามีหุ้นตัวไหนอีกรึเปล่า ดังนั้นการซื้อหุ้นประเภทที่ 2 นี้เมื่อขายหุ้นได้กำไรแล้วเราก็ต้องถือเงินสดและต้องพยายามหาหุ้นตัวใหม่ๆ เข้ามาอีก ผมคิดว่าปัญหาการหาหุ้นใหม่ๆ นั้นไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพราะหุ้นดีๆ ราคาไม่แพงยังมีเยอะ แต่ถ้าตลาดหุ้นเป็นแบบภาวะปัจจุบันที่หุ้นใหม่ๆ ธุรกิจดีราคาไม่แพงเกินไปหายากเต็มที เมื่อเราไม่สามารถหาหุ้นใหม่ๆ ได้เราก็ต้องถือเงินสดที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า หรืออาจจะดันทุรังที่จะลดกฎเกณฑ์ของ VI ลงไปถือหุ้นที่คุณภาพรองลงมาซึ่งอาจจะส่งผลให้เรามีความผิดพลาดในการลงทุนด้วย
และเมื่อเราทำกำไรจากหุ้นประเภทที่ 2 มาได้เรื่อยๆ วันหนึ่งพอร์ตการลงทุนของเราจะเริ่มใหญ่ขึ้น ซึ่งหุ้นประเภทที่ 2 บางตัวอาจจะเป็นหุ้นขนาดเล็กและมีความเสี่ยงในการลงทุนมากกว่าประเภทที่ 1 ซึ่งเมื่อพอร์ตเราใหญ่ขึ้น เราจะหาหุ้นประเภทที่ 2 เริ่มยากขึ้นเพราะขนาดที่ใหญ่ขึ้นของพอร์ตจะเป็นอุปสรรคต่อการซื้อและการขาย ซึ่งหากเราโชคร้ายไปซื้อหุ้นที่ผลลัพธ์ผิดคาด เราอาจจะต้องติดหุ้นตัวนั้นเป็นระยะเวลานานได้ครับ
ดังนั้นเท่าที่ผมสังเกตผลตอบแทนการลงทุนของนักลงทุนชื่อดังที่มีผลตอบแทนระยะยาวสูงๆ เช่น Buffet หรืออาจารย์ ดร. นิเวศน์ จะเห็นว่าจะประกอบไปด้วยหุ้นประเภทที่ 1 เกือบทั้งหมดครับ ส่วนหุ้นประเภทแบบที่ 2 นั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะลงทุนไม่ได้นะครับ แต่ไม่ควรให้มีหุ้นประเภทนี้ในสัดส่วนมากเกินไปในพอร์ต และเมื่อลงทุนแล้วควรจะติดตามใกล้ชิดเพราะหุ้นประเภทนี้มักจะมีการเปลี่ยนแปลงในพื้นฐานค่อนข้างจะเร็ว
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 10:47 am
โดย por_jai
ก้อนหิน เขียน:มาคู่ใจ
8) มี มา(ร์)คู่ใจ แล้วหรือ
จะไปฟ้องคนที่ธรรมศาสตร์
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 10:49 am
โดย por_jai
ชักม้ากลางศึก
ระวังม้าชักให้ดี
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 11:37 am
โดย yoyo
ประเด็นสำคัญอยู่ที่หุ้นที่ถือ จำนวนหุ้นที่ถือ...
ผมว่าระยะเวลาไม่เกี่ยว
ถ้าหุ้นที่ถือราคามันเกินมูลค่า หรืออาจจะเจอหุ้นใหม่ที่มีโอกาสได้มากกว่าก็เปลี่ยนตัว ... แต่บางครั้งการเปลี่ยนตัวถ้าเล่นที่จะตัวเดียว ผมหาจังหวะไม่ถูก ... ถ้าถือตัวเดียวแล้วมันนิ่งจัดๆ ไม่ไปไหนเลย ก็พลาดโอกาสในการทำกำไรจากตัวอื่น แต่ถ้าถือมาตัวไปกำไรมาก็ไม่เป็นกอบเป็นกำ...
สุดท้ายก็จบลงที่ทางสายกลาง
ผมถือประมาณ 3-5 ตัว ถ้าตัวนึงเริ่มๆใกล้เต็มมูลค่า ขณะที่อีกตัวมันยังต่ำกว่ามูลค่ามากๆ ก็อาจจะเปลี่ยนสัดส่วนใน port ลดไอ้ตัวที่ขึ้น มาซื่อไอ้ตัวที่ลงๆ หรือยังไม่ไปไหน
อย่างน้อยการทำแบบนี้ก็ช่วยทำให้ port ไม่นิ่งจนเกินไป .. (บางคนอยู่นิ่งๆนานไม่ได้ คันมือ) และหุ้นที่เราซื้อขายนั้นก็เป็นหุ้นที่เรารู้จักดีอยู่แล้ว ก็เดิมก็ถืออยู่แล้ว
ผมว่าจัดแบบนี้น่าจะดีกว่านะ
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 6:34 pm
โดย trillionaire
...ผมเอง ติดนิสัย ถือหุ้นตัวเดียว อย่างมากก็สองตัว(ถือชั่วคราว)มานาน...
...อาจเพราะ ทุนน้อย <--ข้ออ้าง อิอิ มีล้าน รึ มีสิบล้าน ก็ซื้อตัวเดียว...
...ความฝัน คือ อยากนามสกุล สิงวังชา เอ๊ย ไม่ใช่ ...
...อยากจะมีชื่อ ติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่กะเค้ามั่ง...
...ถูกของคุณYoYoที่ว่า ถ้าถือผิดตัว พอร์ตจะนิ่ง ซึ่งประสบมาแล้ว...
...แต่ถ้าบทมันจะวิ่ง พอร์ตจะพองโตจนยิ้มไม่หุบ...
...ดูง่ายๆจาก กำไรในclick2win รายสัปดาห์...
...บางสัปดาห์ อยู่อันดับที่3พันกว่า บางสัปดาห์ขึ้นมาที่20...
...ก็หวังว่า จะติดอันดับtop ten รายweekก็ยังดี...
...สรุป ถ้าแน่ใจว่า หาข้อมูลดีแล้ว จับหุ้นถูกตัว ก็เล่นไปเลยตัวเดียว...
...แต่ถ้ากลัวทำใจ มองหุ้นคนอื่น วิ่งไม่ได้ ก็มีซัก3-4ตัวพอ...
...อ่อ นอกเรื่องหน่อย เมื่อเช้า กำลังซิ่งรถเข้าโค้ง...
...ตลาดหลักทรัพย์โทรมา ตกใจหมด...
...นึกว่า จะโดนจับปั่นหุ้น โธ่ โทรมาเรื่องclick2win...
...พอดี มาร์เก่าผมเพิ่งโดนจับ ยึดใบอนุญาต...
...ตอนนี้ เทรดผ่านเน็ตมาสามเดือนแล้ว...
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 8:41 pm
โดย crazyrisk
ขอบพระคุณพี่บู
ที่ช่วยโทรมาชี้แนะถึงประสบการณ์ในการลงทุนที่แสนเก่งกาจครับ
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 28, 2007 4:43 am
โดย ย้ำคิดย้ำฝัน
ผมเพิ่งลงทุนไม่ถึงปีนะครับ ขอบังอาจแชร์ประสบการณ์นะครับ
ส่วนตัวคิดว่าสำหรับมือใหม่ กอดไว้รวยกว่าครับ
คืองี้ครับมีอยู่ตัวนึง ใช้ความรู้อันน้อยนิดแต่ทำการบ้านอย่างหนักนะครับเลือกมาได้เป็นตัวที่สองในชีวิตให้เป็นเรือธงด้วย จนถึงตอนนี้ยังกอดไว้แน่นครับ ตามmarket price กำไรอยู่ประมาณ 50% ก็ยังเชื่อว่ายังดีอยู่กว่าเกือบทุกตัวที่อยู่ใน short list ถือข้ามปีแน่ครับ
ทีนี้ก็เลยลองเติมเงินส่วนน้อยบางส่วนลงไปเล่นตัวอื่น ๆ ที่คิดว่าดีบ้าง อยากลองเล่นสั้นดูครับ แต่มีข้อแม้ว่าทุกตัวต้องมี MOS (ในสายตาเด็กอ่อนหัด) คือคิดเข้าข้างตัวเองว่าต่อให้ซื้อมาแล้วราคาลงก็ไม่กลัวครับควรซื้อเพิ่มด้วยซ้ำเพราะMOSเพิ่ม ถูกมั้ยครับ
ลองซื้อมาขายไปอยู่หลายครั้ง
โดยเฉพาะช่วงที่ผลประกอบการออก ซื้อมาหลายตัวเลยครับอยากลองดู ถ้าตัวไหนขึ้นมาหน่อยก็ขายทำกำไรไปซื้อตัวที่ยังไม่ขึ้น กำไรนะครับสนุกมากเลยตอนนั้น คิดว่ามาถูกทางแล้วแน่นอน
และแล้วก็พลาดจนได้ ความโลภมันเยอะครับแต่ความขยันน้อยลงอย่างมาก พลาดไปซื้อเข้าตัวนึง ดูแต่ตัวเลขครับและก็รู้แค่ว่าเค้าทำอะไรแค่นั้นจริง ๆ พลาดครับมันลงเอาลงเอา เลยมาศึกษาลึกขึ้นก็เลยรู้ว่ากำลังคบกับตัวอันตราย รีบขายเลยครับไม่ต่อลองราคาเลย ขายครับขาย ขาดทุนยับ เข้าออกกำไรมาหลายยกหายเกือบหมด ไม่คุ้มค่าเลย
มาคิดดูอีกที แบบหลังนี้มีความเสี่ยงมากครับ เสี่ยงที่เรารู้จักหุ้นเหล่านั้นน้อยเกินไปอย่างมาก ต่อไปนี้จะไม่ทำอีกแล้ว เหนื่อยมากเสี่ยงมากผลตอบแทนต่ำ ดีที่โชคช่วยครับรอดมาได้ สรุปได้ว่าที่ผ่านมาฟลุ๊กครับ
ตั้งใจว่าต่อไปนี้จะยึดหลักพี่ๆ VI พันธุ์แท้ครับ จะถือแค่ 3-4 ตัว หมั่นศึกษาและติดตามตัวที่เราถือไว้ให้มาก ๆ และจะขายก็ต่อเมื่อ
1.พื้นฐานเปลี่ยน
2.ราคาขึ้นมามากเกินไปจนคิดว่าถูกกว่านี้ซัก 10%20% ก็ไม่น่าซื้อ
3.มีตัวอื่นที่น่าสนใจกว่ามาก
มีอะไรอีกมั้ยน้า.....
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2007 4:41 pm
โดย Huang007
... Posted: Tue Nov 27, 2007 9:46 am Post subject:
--------------------------------------------------------------------------------
บางทีจุดหมายอาจไม่สวยงามเท่าทัศนียภาพระหว่างทางนะครับ
ชอบคำนี้มากๆ
ระหว่างรักเดียวใจเดียว กับ รักหลายใจ อันไหนรวยกว่ากัน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 11:52 pm
โดย NightStalker
อืมประเด็นนี้ ผมก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกันครับ หมอเค
ขอบคุณพี่พอใจ ที่หากระทู้เก่ามาให้อ่าน
ขอบคุณพี่โย ที่ตอบสั้นๆแล้ว เข้าใจง่ายครับ