TPIPL หลังปลด H
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 04, 2007 2:42 pm
ล่วงติด Floor ที่ 9.25 บาท
น่ากลัวจังเลย มีใครเข้าไปดูบ้างคับ
:shock: :shock: :shock:
น่ากลัวจังเลย มีใครเข้าไปดูบ้างคับ
:shock: :shock: :shock:
เว็บบอร์ดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้น วีไอ แนวทางลงทุน คลังความรู้หุ้นวีไอ แหล่งรวมนักลงทุนหุ้นวีไอที่ใหญ่ที่สุด พร้อมรับสมาชิก VIP มีหมวดลงทุน ร้อยคนร้อยหุ้น คอมเม้นและข้อมูลดีๆ จากนักลงทุนเน้นคุณค่าผู้มีประสบการณ์ ข้อมูล Oppday ของหุ้นวีไอ
https://v3.thaivi.org/
mprandy เขียน:นึกย้อนไปตอน IPO ที่ 89 บาท
ผู้ถือหุ้นรายย่อยคงสาปแช่ง ให้ติดคุกหัวโตแน่ ๆ
crazyrisk เขียน:
แผ่วเบา เขียน: 25 บาทเป็น book value ครับ
ไม่ใช่ fair value :lol:
ผมลอกมาอีกทีคับ.... ไม่รู้ว่าผิดหรือป่าว
chartchai madman
Regular
Joined: 23 Feb 2007
Posts: 5229
PostPosted: Fri Oct 26, 2007 3:31 pm Post subject: news26/10/07 Reply with quote
เกียรตินาคิน-แนะนำ "ซื้อ" TPIPL
TPIPL : (TPI Polene PCL.)
Sector : Construction Materials
คำแนะนำ : ซื้อ
Fair Value (Bt) : 25
Closed Price (Bt) : 16.30
Up-side Gain : 53%
Dividend Yield 50F : 2.1%
- แนะนำ “ซื้อ” ด้วยประเด็นที่น่าสนใจจาก 1)ธุรกิจ LDPE และ EVA มีแนวโน้มเติบโต 2) คาดการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทภายในสิ้นปี 50 ยังคงเป็นประเด็นบวกต่อบริษัทในอนาคตที่มีความคล่องตัวในการบริษัทมากขึ้น รวมถึงการภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับลดหลังจากการ Refinance นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่จะบันทึกกำไรจากการซื้อหนี้คืนที่ประมาณ 2,160 ล้านบาท ราคาที่เหมาะสมอ้างอิง (Book value)หรือมูลค่าทางบัญชี ณ ปัจจุบันที่ 25บาท มี upside gain ค่อนข้างมาก รวมถึงมีโอกาสที่จะจ่ายปันผลต่อเนื่อง คาด จ่ายปันผลปี 50 ที่ 0.35 บาท Div.Yield “50 ประมาณ 2.1%
บริษัทประกาศผลประกอบการ 3Q50 มีกำไรสุทธิ 450 ล้านบาทลดลง 49%QoQ และลดลง39%YoY
รายได้จากการขายและค่าขนส่ง 7,235ล้านบาท เพิ่มขึ้น18%QoQ และ15%YoY มาจาก 1) รายได้จาการขายปูนซีเมนต์ที่ปรับดีขึ้นจากปริมาณการขายในขณะที่ระดับราคาทรงตัว 2) ธุรกิจปิโตรเคมีจากราคา –ขายที่ปรับดีขึ้นโดยบริษัทเน้นขายสินค้าที่มี Spread margin ที่ดีเช่น สินค้า EVA
อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงอยู่ที่ 25.8% เมื่อเทียบกับ 2Q50 ที่ 27.3% มาจากต้นทุน Energy Cost ที่มาจากระดับราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มรวมถึงระดับราคาน้ำมันที่มีผลต่อค่าขนส่ง ในขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับยอดขายปรับลดลงเป็น18%เมื่อเทียบกับ2Q50 ที่ระดับ 19% และทรงตัวเมื่อเทียบกับ 3Q49
โดยมีการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 71 ล้านบาท มากจากการแข็งค่าของ เงินผลประกอบการ 9M50 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,097 ล้านบาทลดลง 5%YoY มาจากรายได้จากการขาย 19,393 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY โดยบริษัทมีกำไรไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยน 1,778 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 135% เนื่องจากใน9M49 มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากเงินบาทแข็งค่าบันทึกเข้ามาถึง 1,450 ล้านบาท ในขณะที่ใน9M50 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพียง 318.8 ล้านบาท โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ระดับ 27% และมีค่าใช้จ่ายในการชายบริหารที่ทรงตัว ทำให้เมื่อเทียบกับยอดขายมีสัดส่วนที่ปรับลดเป็น 18% เมื่อเทียบกับ 9M49 อยู่ที่ 19%
นอกจากนั้นบริษัทมีดอกเบี้ยจ่าย 382.7ล้านบาทลดลง 60%YoY มาจากที่บริษัทมีการทยอยชำระหนี้จากการปรับโครงสร้างหนี้ทำให้บริษัทมีสถานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้น โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนปัจจุบันอยู่ที่ 0.34 เท่า รวมถึงมีภาระภาษีที่ 59.6 ล้านบาทปรับลด 85%YoY
บริษัทคาดหวังการฟื้นตัวขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่
จากทิศทางของธุรกิจปูนซีเมนต์ของปี50 ประสบปัญหาจากความต้องการภายในประเทศที่ซบเซา ทำให้มีผลต่อปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศที่ชะลอตัว ส่งผลต่อระดับราคาขายที่ไม่สามารถปรับเพิ่มและมีทิศทางที่ลดลง ทำให้ผู้ประกอบการปูนซีเมนต์เพิ่มสัดส่วนการส่งออกเพื่อรักษาระดับการผลิต อย่างไรก็ตามการส่งออกถึงแม้จะมีราคาขายที่ดีกว่าการจำหน่ายภายในประเทศ แต่ก็มีภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
สำหรับแนวโน้มฟื้นตัวผู้บริหารคาดหวังความต้องการภายในประเทศจะดีขึ้น หลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งทีมีคณะรัฐบาลใหม่ ทำให้มีความคล่องตัวในการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศให้ปรับดีขึ้น
ราคาถ่านหินที่ระดับสูง ยังคงปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง ยังคงเป็นประเด็นกดดันให้กับบริษัทที่มีภาระต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่ม
จากระดับราคาถ่านหินซึ่งคิดสัดส่วนเป็น 35% ของต้นทุนการผลิต มีระดับราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ตามกราฟ) คาดว่าเป็นประเด็นกดดัน ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรเนื่องจากต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามทางบริษัทได้มีการเจรจาทำสัญญาระยะยาวกับ Supplier ในระดับราคาใหม่บางส่วนได้ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งจะช่วยลดภาระจากการปรับเพิ่มของราคาถ่านหินได้บางส่วน พร้อมกันนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาการใช้ Waste Heat (แปลงเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 36 MWลดต้นทุนพลังงานลง 500 ล้านบาท) ซึ่งเป็นแนวโน้มในอนาคตที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้บางส่วน
มองบริษัทมีปัจจัยบวกหลังออกจากแผนฟื้นฟูที่คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 50 ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการบริหารมากขึ้น
ทำให้บริษัทดำเนินการออกจากแผนฟื้นฟู ทำให้มีความคล่องตัวในการบริหารมากขึ้น รวมถึงช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่าย โดยบริษัทมีโอกาสจ่ายปันผลต่อเนื่องในปี 51 หลังจากที่บริษัทการจ่ายปันผลของผลประกอบการ1H49 ไว้ที่ 0.25 บาท และ 2H49 ที่ 0.10 บาท ทำให้ทั้งปี 49 บริษัทจ่ายปันผล 0.35 บาทต่อหุ้น บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการ Refinance ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถชำระหนี้คืนเจ้าหนี้ทั้งหมดได้ในภายในปี 50 เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง ที่ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ และบริษัท ทีพีไอ คอนกรีต จำกัด ในฐานะ เป็นบริษัทย่อย โดยมีระยะเวลาสิ้นสุดถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550
นอกจากนั้นหลังบริษัทออกจากแผนบริษัทมีโอกาสบันทึกกำไรจากการซื้อหนี้คืน ประมาณ 2.160 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างรอศาลอุทธรณ์สั่ง ให้เจ้าหนี้มารับเงินชำระหนี้ที่ศาล รวมถึงในปี 50บริษัทมีการบันทึก ดอกเบี้ยค้างชำระที่ทยอยบันทึกเข้ามาในปี 50 ประมาณ 517 ล้านบาท
คาดโรงงานที่ 4 การก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จรอเครื่องจักรเพื่อดำเนินการคาดว่าจะสามารถเริ่มกำลังการผลิตได้ภายใน 2 ปี
โรงงานแห่งที่ 4 การก่อสร้างในส่วนของ Infrastructure แล้วเสร็จ รอเครื่องจักรเพื่อการดำเนินงานต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถใช้กำลังการผลิตใหม่ได้ ภายใน 2ปี ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิม 9 ล้านตัน เป็น 12 ล้านตันเป็นโอกาสรองรับการเติบโตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตถ้ามีการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการพัฒนาสาธารณูปโภคในประเทศเริ่มเดินหน้า
ราคาที่เหมาะสม 25 บาท จากมูลค่าทางบัญชีปัจจุบัน ยังมี Upside gain ค่อนข้างมาก แนะนำ “ซื้อ”
ประมาณการปี 50 คาดบริษัทมีรายได้จากการขาย 24,906 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,487 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรจากการซื้อหนี้คืน) EPS 1.23 บาทต่อหุ้นมูลค่าที่เหมาะสมอ้างอิงจาก (BV) หรือมูลค่าทางบัญชี ณ ปัจจุบันที่ 25บาท โดยมองผลประกอบการในส่วนของ LDPE และ EVAบริษัทมีโอกาสฟื้นตัวนอก รวมถึงการจากออกจากแผนฟื้นฟูกิจการยังคงเป็นประเด็นบวกต่อบริษัทในอนาคตรวมถึงโอกาสที่จะบันทึกกำไรจากการซื้อหนี้คืน ที่ประมาณ 2,160 ล้านบาท
Business Description
บริษัทฯเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ และเม็ดพลาสติก LDPE/EVA โดยมีกิจการร่วมทุนในธุรกิจแอมโมเนียมไนเตรทและกรดไนตริก นอกจากนี้ยังมีกิจการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเหล็กและธุรกิจประกันชีวิต เป็นต้น
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2550
http://www.thunhoon.com/home/
นี่มันคนใกล้ตัวจริงๆด้วยคับเนี่ยแผ่วเบา เขียน: ผมเห็นพี่ป้อมพูดถึง
ก็เลยมาแอบดูด้วยความสนใจครับ อิอิ
ราคาร่วงไปอีกสักฟลอร์สองฟลอร์
จะน่าสนใจมากครับ
เรื่องแบบนี้น่าจะเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นครั้งเดียว
ที่สำคัญประชัยน่าจะหลุดไปจากทีมบริหาร
แต่ไม่รู้จะยังมาป้วนเปี้ยนทุบราคาอยู่อีกหรือเปล่า
แต่ทีมบริหารยังเป็นคนตระกูลนี้อยู่
ตัวน้องสาวของเขาก็ใช่ย่อยในเรื่องปั่นหุ้น
มีประวัติกันทั้งนั้นเลยตระกูลนี้
ผมคงไม่กล้าซื้อหรอกครับ พี่-เค-ซ-โน-ว่า
ประเด็นหลักที่สำคัญคือ
ไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจเขาอ่ะครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 02&start=0por_jai เขียน: 8) แอบเชียร์หุ้น ปรับ6900ล้าน อ่ะ
SEHJU เขียน:ผมอ่อนประสบการณ์ในตลาดหุ้น ฟังข่าวตอนคุณประชัยให้สัมภาษณ์
ออกทีวีเมื่อเดือนก่อน บอกว่าถ้าได้เป็นนายกจะทำให้SETถึง2000จุดในปีเดียว ได้ฟังแล้วก็ยังงง เป็นไปได้หรือ... พอฟังข่าวเมื่อวานและกระทู้นี้ ผมเชื่อว่าแกน่าจะทำได้จริงๆ.................................
ตอนนั้นพาร์เท่าไหร่ครับmprandy เขียน:นึกย้อนไปตอน IPO ที่ 89 บาท
ผู้ถือหุ้นรายย่อยคงสาปแช่ง ให้ติดคุกหัวโตแน่ ๆ