Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ใกล้ถึงวันจองแล้ว ผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นหุ้นที่ดีหรือไม่ มีจุดเด่นจุดด้อย ยังไงบ้าง ยังไงรบกวน พี่ๆ VI ช่วยชี้แนะให้ผม ซึ่งเป็นเด็กใหม่ด้วย อีกคำถามคือราคา IPO พี่ถือว่าเหมาะสมไหมคับ ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
แมงมัน

ดูมาคร่าวๆ ว่า
EPS หลัง หักภาษีแล้ว ประมาณ 2.6

ถ้าเทียบที่ราคา 37 บาท จะได้ P/E ประมาณ14

อิอิ....

ราคาไม่ค่อย มี margin of safety เท่าไหร่ง่ะ

ตรวจสอบอีกทีนึงนะครับ..... อันนี้เล่าเท่าที่จำได้

ข่าวไอพีโอนี่หาได้จากที่ไหนเหรอครับ ไม่เคยรู้เลย

ลองไปที่นี่คับ

http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... 2003-12-31

EPS 2.66 เป็นกำไรจากงบปีล่าสุดหารด้วยจำนวนหุ้นหลัง IPO ครับ
ถ้าเป็นก่อน IPO จะได้ EPS ที่ 3.80 คิดเป็นค่า P/E ประมาณ 10-11 เท่า
กำไรปีล่าสุดค่อนข้างจะน้อยกว่าปีก่อน ๆ สาเหตุหลักคงเพราะการก่อสร้างสนามบินใหม่ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารสูงขี้น ผมมองว่ากำไรตามปกติถ้าไม่มีการก่อสร้างสนามบินใหม่น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 บาท เพราะฉะนั้นราคา IPO ที่ประมาณ 40 บาทเป็นราคาที่ไม่แพง
ปัญหาใหญ่มากของหุ้นตัวนี้คือโครงการสนามบินใหม่ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มากคงต้องใช้เวลาอีกค่อนข้างนานกว่าจะสามารถสร้างรายได้ได้ แม้ว่าแนวโน้มของรายได้เมื่อสนามบินใหม่เสร็งจะค่อนข้างสวยหรูชนิดที่รายได้จาก ดอนเมืองเทียบไม่ได้ แต่กว่าจะถึงเวลานั้นหุ้น AOT คงต้องฝ่ามรสุมหลายครั้งครับ
ผมว่าคนที่คิดจะถือยาวต้องเป็นคนที่หัวใจต้องค่อนข้างแข็งแรงทีเดียว

ถ้าในเชิงความสามารถในการแข่งขันนั้น ผมคิดว่ามีความสามารถสูงมากเลยทีเดียว หากเทียบคู่แข่งอื่นๆแล้ว (ในกรณีของท่าอากาศยานต้องเทียบกับท่าอากาศยานของประเทศอื่นๆ)
1. ประเทศไทยเป็นประเทศน่าท่องเที่ยวอันดับต้นๆของโลก
2. ภูมิศาสตร์ของประเทศไทยมีชัยภูมิที่ดีกว่าหลายๆประเทศในแถบนี้ อันเนื่องมาจากไทยเป็นกึ่งกลางระหว่างเอเชียตะวันออกและตะวันตก ซึ่งจะเป็นจุดที่จะต้องมีการเปลี่ยนเครื่องหรือแวะเติมน้ำมันที่สำคัญ
3. ขนาดและเทคโนโลยีของสนามบินบ้านเราถือเป็นอันดับต้นๆของเอเซียเลยทีเดียว

3ข้อข้างต้นถือเป็นจุดแข็งในเชิงผูกขาดหรือเข้าตำรา monopoly power ได้เลยทีเดียว ตอนนี้ถ้าจะติดก็ติดตรงที่ราคาอย่างเดียวแหละครับ

แต่อย่างไรก็ดีก็มีเรื่องที่น่ากังวลอยู่บ้างนั้นก็คือความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเป็นอันรู้ๆกันอยู่

นั่นสิครับ ดูโฆษณาทีวีแล้วติดใจ
อยากถือหุ้นเป็นเจ้าของ

ผมห่วงอยู่ 2 เรื่องครับ

1. ความโปร่งใส และความสามารถของผู้บริหาร

2. หุ้นอีสป

อะไรคือหุ้นอีสปครับ

ถ้าเป็นผม ผมรอมันเข้าตลาดก่อนดีกว่า เดี๋ยวเป็นเหมือน grand แล้วอย่างอาจารย์ ว่า ต้องกลัวไว้ด้วย เช่น กลัวว่าเกิดมีข่าวลอบวางระเบิดสนามบิน ของ ขจก. หรืออื่นๆ ราคา ipoผมว่า เขาอิงจาก หุ้น ipo ปีก่อนที่มันพุ่งกระฉูดหลังเข้าตลาด แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ขนาด ผู้จัดการยังเปลี๊ยนไป๋ เลย

หนังสือ Intelligent Investor เขาเตือนไว้ว่า
IPO อาจตีความได้(ในตอนหลังว่า) It's Probably Overpriced.
ตาปี

ไม่ทราบว่าใครมีข้อมูลเปรียบเทียบในเรื่องนี้ไหมครับ
1. free float
2. market cap (คิดจากราคา ipo )
คือผมสังเกตว่าหุ้น ipo หรือ po ตัวยักษ์ ส่วนใหญ่เข้ามาวิ่งไม่ค่อยออก
ส่วนใหญ่เช่น PTT, KTB, SCIB พวกนี้รอมาซื้อในตลาดก็ยังถูกกว่าด้วย
อีกอย่างเห็นช่วงนี้ยิ่งรณรงค์กันให้รายย่อยเยอะๆ ด้วย ???

Employee's Stock OPtions

รบกวนขยายความด้วยค่ะ

อีสป

หุ้นพนักงาน ESOP บางทีก็เรียกกันเล่นๆ ว่า อีสปครับ

แม่นยำ เขียน:ไม่ทราบว่าใครมีข้อมูลเปรียบเทียบในเรื่องนี้ไหมครับ
1. free float
2. market cap (คิดจากราคา ipo )
คือผมสังเกตว่าหุ้น ipo หรือ po ตัวยักษ์ ส่วนใหญ่เข้ามาวิ่งไม่ค่อยออก
ส่วนใหญ่เช่น PTT, KTB, SCIB พวกนี้รอมาซื้อในตลาดก็ยังถูกกว่าด้วย
อีกอย่างเห็นช่วงนี้ยิ่งรณรงค์กันให้รายย่อยเยอะๆ ด้วย ???

หุ้นเก่า 1000 ล้าน หุ้นใหม่ประมาณ 350-400 ล้าน
คิดเป็น free float ประมาณ 25-30% ครับ

market cap ถ้าคิดว่า IPO 40 บาท ก็จะได้ 1400 x 40 = 56 พันล้านได้ครับ

market cap ขนาดนี้ ประมาณใกล้เคียง ปูนนครหลวง / แบงค์นครหลวงได้ครับ

ดูจากงบที่ให้ มา คือปี 44 45 46

ก็ขอเทียบ 44 กับ 46 แล้วกัน

ดูจากงบแล้วทำไมกำไรสุทธิลดลงจาก 7400 เหลือ 3808 ซึ่งลดเยอะมากน่าจะไปดูรายการใหญ่ๆ

1. ค่าใช้จ่ายพนักงาน 1458 เพิ่มเป็น 2076 เพิ่มขึ้น 618
2. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 1453 เพิ่มเป็น 1732 เพิ่มขึ้น 279
3. ค่าเสื่อมเพิ่มจาก 1052 เป็น 1366 เพิ่มขึ้น 314
4. กำไรขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน จาก กำไร 199 เป็นขาดทุน 257 ทำให้กำไรลดลง 456

คิดเล่นๆเพียง 4 รายการกำไรก็ลดลงไปแล้ว 1667 ล้านบาท

กำไรปี 44 ก่อนดอกเบี้ยและภาษี เท่ากับ 7639 จ่ายดอกเบี้ย 236 ไม่ต้องจ่ายภาษี กำไรสุทธิ เท่ากับ 7400

กำไรปี 46 ก่อนดอกเบี้ยและภาษี เท่ากับ 5777 จ่ายดอกเบี้ยเพียง 5 แต่เสียภาษีเยอะมากคือ 1964 คิดเป็น 34 % ของกำไรซึ่งปี 44 ปี 45 ไม่ต้องเสียเลย

ทำให้ได้กำไรสุทธิ 3808

เรื่องของดอกเบี้ย และภาษี ทำให้กำไรสุทธิ ลดลงอีก 1733 ล้านบาท

เพราะฉะนั้นปี 44 ได้กำไร 7400 แล้วปี 46 เหลือ 3808 กำไรลดลงไปเยอะ ไม่ได้เกิดจากการไปสร้างสนามบินใหม่นะ เท่าที่ผมดูงบแบบหยาบๆ เพราะไม่เห็นรายจ่ายในการสร้างสนามบิน

กำไรต่างกันตั้ง 3592 ล้านบาท เป็นเรื่องที่ต้องหาคำอธิบาย

ซึ่งได้ข้อสรุปในการอธิบาย คร่าวๆดังกล่าว

จาก 4 รายการแรกคือ 1667 และจากเรื่องดอกเบี้ยและภาษี อีก 1733 รวมเป็นตัวเลขที่ทำให้กำไรลดลง 3400 ล้านบาท

สรุปว่า กำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากยังไม่มีการย้าย ก็จะได้ประมาณเท่านี้แหละ เพราะไปดูรายได้แล้วไม่ก้าวกระโดด ปี 44 45 46 รายได้รวมก็ประมาณ 12000 ล้านบาท

กำไร 3808 เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ 62430 เมื่อเทียบส่วนของผู้ถือหุ้น 37688 ก็ลองคิดดูว่าดีหรือไม่

แต่เดิมบริษัทมีทุน 10000 ล้านบาท มีหุ้น 1000 ล้านหุ้น พาร์ 10 บาท

และได้ทำการเพิ่มทุนเป็น 14285.7 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็น เสนอขายประชาชน 358.8 ล้านหุ้น
ขายให้พนักงาน 16 ล้านหุ้น
ขายให้บริษํทหลักทรัพย์ 53.77 ล้านหุ้น

เงินที่ได้จะนำไปสร้างสนามบินสุวรรรณภูมิ และส่วนที่เหลือจะเก็บไว้ใช้ดำเนินงาน

สรุปคือ ผมขอเดาเล่นๆ ว่า ถ้าจะซื้อทั้งบริษัท ต้องใช้เงินเท่าไร โดยที่ยังไม่นับการเพิ่มทุน เอาแบบของเดิมก่อน

คือต้องคิดซื้อที่ 1000 ล้านหุ้น พาร์ 10 บาท เราอยากซื้อที่ราคาเท่าไร

โดยมีกำไร ต่อปี 3808 ล้านบาท ถ้า PE 10 เราก็ต้องซื้อราคา 38080 ล้านบาท หาร 1000 ล้านหุ้น เราก็ต้องซื้อให้ได้ราคา 38 บาทต่อหุ้น

แต่เนื่องจากมีโครงการเพิ่มทุน และขยายงาน ตรงนี้ก็ต้องไปดูให้ได้ ว่าเมื่อเพิ่มทุน และขยายงานเสร็จแล้ว จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาเป็น % เท่าไร คือต้องเข้าใจธุรกิจตรงนี้ให้ได้

เช่น สนามบินดอนเมือง ยังใช้อยู่หรือไม่ หรือยกเลิกไปเลย

รายได้จากสนามบินสุวรรณภูมิ ยังไงก็ต้องมากขึ้น เพราะสนามบินใหญ่ขึ้นแต่อยากรู้ว่า มากขึ้น 10 50 100 หรือ 200 %

ตรงนี้ใครมีตัวเลขบอกหน่อยครับ

สำหรับผมแล้ว ดูๆแล้ว ราคา IPO แถว 41 บาท ไม่น่าซื้อครับ เพราะ

1. ต้องรอการก่อสร้างอีกนาน กว่าจะรับรู้รายได้
2. กำไรน้อย เพราะกำไรในอดีต ไม่ต้องเสียภาษี
3. ช่วงนี้ตลาดไม่ดี วอลลุ่มน้อย และยังมีหวัดนกเล็กน้อย
4. รอซื้อตอนข่าวระเบิดก็ยังได้

ลองคิดเล่นๆนะครับ ถ้าไม่มีการเพิ่มทุน การท่าอากาศยานต้องใช้กำไร 3808 ล้านบาท เพื่อไปกลบหนี้ 24,742 ล้านบาท ต้องใช้ระยะเวลาถึง 6.5 ปี กว่าจะจ่ายหนี้หมด

ซึ่งหนี้ที่มีทั้งหมด 24,742 ล้านบาทนี้ เป็นเงินกู้ระยะยาวสูงถึง 16000 ล้านบาท ซึ่งถ้าใช้กำไร 3808 เพื่อไปกลบเงินกู้ระยะยาว ยังต้องใช้เวลาสูงถึง 4.20 ปี

อิอิ ผมว่า Makro นี่ไม่มีหนี้สินระยะยาวเลยนะ ยอดขาย ก็ 4 หมื่นล้านบาทต่อปี แต่ราคาปัจจุบัน ของ makro ไม่รู้น่าซื้อหรือเปล่า ก็ลองคิดดูเอาเองนะครับ

เอ เข้าซื้อขายในตลาดเมื่อไรครับ

ชอบมุมมองของคุณ Jeng ผมเองก็ไม่อยากจองครับ พอคิดสารตะแล้ว น่าชื้อที่ 24 บาท

หนี้ 24,000 ล้านที่พี่เจ๋งว่านี่คือ หนี้จากการก่อสร้างสุวรรณภูมิ หรือเปล่าค่ะ
ถ้าใช่ งั้น หลังจาก สนามบินเปิด กำไรก็ต้องมากขึ้น
เราก็ไม่ควรเอา 3800 ล้านไปลบ มันควรต้องมีกำไรมากกว่านั้น รึเปล่าค่ะ

ขอเสียงเลยครับใครจะจองบ้างครับ

หนี้สินดังกล่าวเป็นของสุวรรณภูมิเฉพาะส่วนที่เบิกจ่ายมา หากสร้างเสร็จแล้วจะต้องใช้เงินประมาณมากกว่าหนึ่งแสนล้านบาทอาจจะถึงแสนห้าถ้ายังไม่หยุดกิน ซึ่งเป็นเงินกู้กับเงินที่จะได้จากการ IPO คงพอมองเห็นภาพนะครับ อีกอย่างศักยภาพของสุวรรณภูมิก็ยังไม่กระจ่างในหลายประเด็น

เพราะตอนนี้มีสนามบินหกที่ ที่ภาคเหนือสอง เชียงราย เชียงใหม่ ภาคใต้สอง หาดใหญ่ ภูเก็ต ภาคกลาง ดอนเมือง กะสุวรรณ ครับ แต่ตอนนี้กำไรที่เดี่ยวคือดอนเมือง หลังจากสุวรรณเสร็จก็จะย้ายไปสุวรรณครับ ดอนเมืองก็ยังไม่รู้ไปทำอะไรมีแผนจะเอาไปทำธุรกิจอื่นซึ่งตอนนี้กำลังจะขออนุมัติจากครม. ครับ
และหลังจากย้ายดอนเมืองไปสุวรรณ(อภิมหาโปรเจคเนี่ย) คือแรก ๆ งบก็น่าจะออกมาขาดทุนครับ -__-" ผมว่ารอไปซื้อในตลาดดีกว่า

ขอ share ข้อมูลด้วยนะครับ ผมไม่แน่ใจว่า
1. รายได้เค้า 60 % ได้จากการเก็บค่าธรรมเนียม และอีก 40 % เป็นรายได้อื่น เนี่ยถือว่าดีหรือป่าวนะครับ แต่โดยความคิดส่วนตัวคิดว่ารายได้ หลัก ควรจะสูงกว่า60 % นะครับ เพราะว่าตัวเงอก้อเป็นคนให้บริการด้านเก็บค่าธรรมเนียมอยู่แล้วแต่ทำไม ถึงรับรายได้หลักแค่นี้หละครับ
2. จะเป็นไปได้หรือครับว่าเมื่อสนามบินหนองงูเง่าสร้างเสร็จแล้วเราจะกลายเป็นศูนย์กลางการบินในเอเชีย จิงๆๆอะครับ มีเหตุผลอะไรถึงคิดว่า ประเทศไทยจะได้เป็นศูนย์กลางการบินหละครับ

อีก40%น่าจะเป็นรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ โฆษณา หรือไม่รู้ว่ารวมค่าเก็บรักษาเครื่องบินในอู่ด้วยหรือเปล่า อะไรประมาณนั้น ส่วนเรื่องศูนย์กลางผมดูจากแผนที่ครับ ส่วนเรื่องราคาผมก็ว่าแพงไป แถมไม่รู้มีสหถาพด้วยหรือเปล่า เอาไว้วันดีคืนดีมันมาก่อม็อบราคาต้องร่วงแน่ เหมือนที่เคยเกิดกับสายการบินอะไรเอ่ย

1.สายการบินต้นทุนต่ำทั้งหลายที่แข่งกันเปิด คาดว่าจะทำให้มีผู้ใช้การเดินทาง
ทางอากาศมากขึ้น การท่าอากาศยานจะัมีลูกค้าเพิ่มขึ้น

2.เป็นธุรกิจผูกขาดเกือบ100% ไร้คู่แข่ง

3.สนามบินดอนเมืองหลังเปิดใช้สุวรรณภุมิ มีศักยภาพที่จะนำมาพัฒนาทางธุรกิจ
อย่างมาก เพราะอยู่ในทำเลที่ดี สถานที่กว้างขวาง เช่น ศูนย์ประชุม สัมนา แสดง
สินค้า ฯลฯ

ปล.ช่วงIMF ต่างชาติบีบให้รัฐบาลไทยแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ถ้าจำไม่ผิดเป้าหมายหลัก
น่าจะเป็น ไฟฟ้า ประปา ท่าอากาศยาน เพราะเห็นศักยภาพในการทำกำไร
สูงมากและยั่งยืน

ทำไมหน้ากระดาษมันกว้างจัง อ่านยาก >>> CK

เมื่อกี้ได้ฟังข่าวและนักวิเคราะห์
บอกว่าภัทรเขาประกันว่า ภายใน 1 เดือนราคาจะไม่ตำกว่าราคาจองแน่นอน
เพราะใช้ GreenShoes option (ไม่รู้สะกดถูกอ่ะเป่า เพราะไม่เคยรู้จักง่ะ)
ยิ่งสะกดเองยังงี้ยิ่งไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ไอ้รองเท้าเขียวเนี่ย
ตกลงมันคืออะไรค่ะ

ทอท มีข่าวว่าน่าจะมีการขึ้นราคาairport taxจาก 500 เป็น 700-1000
และปรับค่าใช้สนามบินอีก 20% ในปีนี้และอีก 6% ในปีหน้า
โดยคิดอัตราปรับปรุงจาก ราคาที่ควรปรับขึ้นหลังจากเปิดสุวรรณภูมิ
อีกทั้งจำนวนเที่ยวบินและคนตอนนี้ก็เพิ่มขึ้น จากที่ overdemand อยู่แล้ว
ยิ่งมี สายการบิน lowcost มาช่วยอีกแรง ปลายปียิ่งน่าจะเพิ่มขึ้นอีก

อืม...แต่สงสัยอย่างคือ เวลาที่นักวิเคราะห์เขาพูดถึงกำไรสุทธิ
ทำไมเขาใช้เลข 7000 ล้าน ไม่ยักกะใช้ 3800 ล้านอย่างที่พี่เจ๋งใช้ของปีล่าสุด งง งง จังค่ะ

กำไรน้อย ก็ปรับได้เลย จาก 500 อยากปรับ เป็น 700 ก็ได้ ปรับ เป็น 1000 ก็ได้

ประชาชนอย่างผมที่ต้องบินบ่อยๆ มีทางเลือกอื่นหรือไม่

คำตอบคือไม่มี ถ้าขึ้นก็ต้องเสีย อิอิ

ธุรกิจนี้ แสดงว่า โมโนโพลี่นะครับ

ไว้เข้าตลาดแล้วราคาไหลลง มากๆ จะแอบเข้าไปซื้อครับ ช่วงนี้ตลาดไม่ค่อยดี อะไรเข้ามาก็ลงหมด

ทอท มีข่าวว่าน่าจะมีการขึ้นราคาairport taxจาก 500 เป็น 700-1000
และปรับค่าใช้สนามบินอีก 20% ในปีนี้และอีก 6% ในปีหน้า
โดยคิดอัตราปรับปรุงจาก ราคาที่ควรปรับขึ้นหลังจากเปิดสุวรรณภูมิ
อีกทั้งจำนวนเที่ยวบินและคนตอนนี้ก็เพิ่มขึ้น จากที่ overdemand อยู่แล้ว
ยิ่งมี สายการบิน lowcost มาช่วยอีกแรง ปลายปียิ่งน่าจะเพิ่มขึ้นอีก

เพิ่มราคา กำไรมาแล้วอย่าลืมปันผลดีดีนะ

จากเจ้าของสนามบิน
อิ อิ ได้มาหมื่นกว่าหุ้น
:lol: :lol: