Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ใครสนใจลองไปแงะงบดูนะคะ เป็นหุ้นตัวเล็กทำธุรกิจ SI ราคาน่าจะสะท้อนความผิดหวังในปี 07 ไปหมดแล้ว แถมฐานะการเงินแข็งแกร่งมาก + Dividend Yileld ก็ใช้ได้ >5%

แล้วตัวใหญ่ ละ คิดว่าไงครับ

ตัวไหนครับ

brighty girl เขียน: แถมฐานะการเงินแข็งแกร่งมาก

แกร่งยังไงหรือครับ?

Jasmine Telecom Systems Plc. (JTS) - BUY

Recommendation          BUY
Share price             Bt1.47
Target price            Bt2.48
Upside/(Downside)       68.71%
Warrant price           -
52W range high/low      Bt3.00/Bt1.44
Foreign limit/ownership 49%/10.26%
Foreign premium         N/A
SET index               820.47

ราคาหุ้นถูกทำร้ายจนต่ำเกินจริง ซื้อ

ผิดหวัง !!! หั่นกำไรปี 07 ลงเหลือ 98 ลบ.
         สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยของธุรกิจวางระบบสื่อสารโทรคมนาคม (SI) ในปี 07 เพราะสุญญากาศทางการเมือง และภาวะเกียร์ว่างของ TOT ทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องของงานประมูลตั้งแต่ 2Q07 เป็นต้นมา และส่งผลให้กำไรสุทธิ 3Q07 ออกมาน่าผิดหวัง หดเหลือเพียง 1 ลบ.
ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการรายได้ปี 07 ลง 28.7% เหลือ 1.51 พันลบ. ส่งผลกำไรปี 07 ลดลง 43.3% จากประมาณการเดิมเหลือเพียง 98 ลบ. (-68.7% YoY)

เริ่มเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจ SI ในปี 08
         เชื่อธุรกิจ SI ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 07 และมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 08 หลังได้รัฐบาลชุดใหม่ และการเร่งใช้งบประมาณคงค้างปี 07 โดยการสอบถามผู้บริหารบริษัท SI ได้ข้อมูลสอดคล้องกันว่างานประมูลเริ่มไหลเข้ามาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง 4Q07 เป็นต้นมา ดังนั้น เราประเมินว่าผลประกอบการของธุรกิจ SI มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 2Q08 เป็นต้นไป

คาดกำไรปี 08 กลับมาเติบโต 24% บนสมมติฐานแบบระมัดระวัง
         เราประเมินรายได้ปี 08 เติบโต 7.5% เป็น 1.6 พันลบ. แบ่งเป็นธุรกิจ SI & Computer System ที่ 1.3 พันลบ.,Test Equipment 180 ลบ. และโทรศัพท์สาธารณะ 151 ลบ.ซึ่งถือว่าระมัดระวังเพราะมี Backlog สำหรับธุรกิจ SI & Computer System สิ้นปี 07 รองรับถึง 54% ของประมาณการ (700 ลบ.) และธุรกิจโทรศัพท์สาธารณะเป็นสัญญาระยะยาวกับ TOT จึงมีความแน่นอนของรายได้ในระดับสูง ขณะที่ GPM คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นเป็น 23% จาก 20% ในปี 07 ที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากงาน Triple T Broadband ที่มี GPM ต่ำ และส่งผลให้กำไรปี 08 กลับมาเติบโตอีกครั้ง +24% YoY เป็น 122 ลบ.

หุ้น SI ที่ราคาต่ำเกินจริง และให้ Yield 07 สูงถึง 7.5% ซื้อ
         ราคาหุ้นถูกแรงขายกระแทกลงถึง 45% เทียบกับราคาปิดสิ้นปี 06 (และต่ำกว่าต้นทุนของ Knight Fund ที่ 1.50 บาท) ขณะที่เพื่อนร่วมกลุ่ม เช่น AIT, IRCP และ SAMTEL ลดลงเฉลี่ย 15% ทั้งที่ผลประกอบการ 9M07 ทรุดลง YoY ทุกบริษัทแทบไม่ต่างกัน (ดูตาราง) จนเป็นบริษัทเดียวที่ซื้อขายต่ำกว่า BV ทั้งที่งบดุลสะอาด สินทรัพย์หมุนเวียน > หนี้สินทั้งหมด และเงินสดต่อหุ้นสูงถึง 1.01 บาท แถมยังมี Upside Potential จาก Mega Project ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ เช่น รถไฟรางคู่ซึ่งมีมูลค่างาน SI ราว 1 พันลบ., โครงการ ASON ของ CAT ราว 2.6 พันลบ.ราคาในกระดานให้ Yield เฉลี่ยสูงถึง 9% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า และ Upside 68.7% จากเป้าหมายที่ 2.48 บาท / หุ้น (P/BV 1x) ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ

JTS

เคยทำงานอยู่ตึกเดียวกับพี่ๆ JTS (ตึกจัสมิน) งานประมูลงานราชการเป็นส่วนใหญ่ โดยมากจะหากินกับ TOT และ CAT หลังหมดยุคน้าแม้วของเราแล้วหากินยากแล้วหล่ะครับสำหรับสองหน่วยงานนั้น

ธุรกิจรับงาน ประมูลงานแบบนี้ เป็นการทำไร่เลื่อนลอยมากครับ กะเกณท์ใดๆไม่ได้เลย ถ้าจะซื้อตัวนี้ ผมว่าไปซื้อ MFEC ยังจะดีกว่า

อินโฟเควสท์ (14 ม.ค. 51)--บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) คาดปี 51 รายได้จะมากกว่า 2.9 พันล้านบาท จากงานประมูลปีนี้มีมากขึ้น และบริษัทกระจายไปหลายธุรกิจ ไม่ยึดอยู่กับธุรกิจโทรคมนาคม โดยบริษัทคาดจะเข้าประมูลงานภาครัฐกว่า 7 พันล้านบาท จากปี 50 ที่งานประมูลภาครัฐแทบไม่มี ส่งผลให้รายได้ปรับลดลงกว่า 20% จากปี 49
         ขณะเดียวกันนำ บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบรนด์(TTT BB) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)คาดระดมทุนได้ 3 พันล้านบาท เพื่อนำไปใช้ขยายโครงข่ายบรอดแบรนด์และรีไฟแนนซ์
         "เรามั่นใจว่าในปี 51 รายได้จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง และเทียบแล้วดีกว่าปี 49 ที่มีรายได้ 2.9 พันล้านบาท"นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล ประธานคณะกรรมการบริหาร JTS เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"
         แต่ในปี 50 รายได้บริษัทปรับตัวลดลงไปมากกว่า 20% จากปี 49 เนื่องจากงานภาครัฐชะลอตัวทำให้ไม่มีรายได้จากส่วนนี้ รวมทั้งไม่มีการเปิดประมูลโครงการใหม่ ๆ โดยเฉพาะ บมจ.ทีโอที
         นายสุพจน์ คาดว่า ในปี 51 บริษัทจะเข้าประมูลงานกว่า 7 พันล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจะกลับมาดีขึ้น จึงเชื่อว่าจะมีการเปิดประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ บมจ.กสท โทรคมนาคม ที่ต้นปีก็เริ่มมีงานประมูลสำคัญ ส่วนบมจ.ทีโอที คาดว่าอีก 2 เดือนข้างหน้าหลังการจัดตั้งรัฐบาลและแก้ปัญหาภายในของทีโอทีได้ก็จะมีงานประมูลออกมาเพิ่มขึ้น อย่างช้ากลางปีก็เห็นความชัดเจน
         "ความคาดหวังว่าจะได้งานประมูลกี่เปอร์เซ็นต์นั้น เราเชื่อว่างานที่เข้ามาใหม่จะส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมมากกว่าปี 49 "นายสุพจน์ กล่าว
         อย่างไรก็ดี บริษัทพยายามกระจายงานประมูลหลากหลายมากกว่าเดิมแทนที่จะอิงกับธุรกิจโทรคมนาคมเพียงอย่างเดียว โดยจะหันมาเข้าร่วมประมูลงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารออมสิน ซึ่งได้งานแล้วประมาณ 80 ล้านบาท และงานในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ได้เข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟทางคู่
         นอกจากนี้ กลุ่มบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล(JAS) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ JTS  จะนำ  บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTT BB)เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 51 โดยได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)แล้วตั้งแต่ปลายปี 50 และ คาดว่าจะระดมทุนประมาณ 3 พันล้านบาท จะนำไปขยายเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบรอดแบรนด์ และนำเงินบางส่วนไปรีไฟแนนซ์หนี้ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ  1.5 พันล้านบาท
         เมื่อได้เงินจากการระดมทุนจะขยายเครือข่ายเพื่อเพิ่มลูกค้าอินเตอร์เน็ตบรอดแบรนด์ ที่ตั้งเป้าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือเป็น 5 แสนรายภายใน 18 เดือน จากสิ้นปี 50 ที่มีลูกค้าจำนวน 2.5 แสนราย
         ทั้งนี้  TTT BB คาดว่าจะมีผลกำไรในปี 50 ประมาณ 200 ล้านบาท จากยอดขายกว่า 1 พันล้านบาท
         "เชื่อว่า ไฟลิ่งไม่น่าจะมีปัญหา เพราะ ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์ต่างสนับสนุนให้บริษัทต่างๆเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์" นายสุพจน์กล่าว

ขอถามข้อมูลเพิ่มเติม

มี back log ที่อยู่ในมือเท่าไหร่เอ่ยอันนี้น่าจะสำคัญ เพราะเราไม่รู้ว่าประมูลที่คาดจะได้มันจะได้หรือเปล่า
ที่สำคัญอีกอย่างคือ ที่ประมูลมา จะประมูลได้กำไรหรือเปล่า
potential ของบริษัทที่จะโตเป็นอย่างไรบ้าง เก่งในการประมูลหรือเปล่า ทำงานนอกจากงานรัฐแล้วจะสู้ บริษัทอื่นในตลาดได้หรือเปล่าครับ

ที่น่ากลัวคือผู้บริหารให้ข้อมูลว่าจะประมูลงานทั้งหมด 7พันล้าน
แต่หวังรายได้เกิน 3พันล้าน
หมายความว่าโอกาสประมูลชนะประมาณ 40%
ในอดีตประมูลชนะเป็นกี่ % ของงานที่บิดครับ

บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์(JTS) ตั้งเป้าปีนี้มีรายได้ฟื้นตัวเป็นอย่างน้อย  3 พันล้านบาท หลังปีที่แล้วรายได้หดตัวตามโครงการภาครัฐต่างๆที่เลื่อนออกไป โดยคาด หวังปีนี้ชนะประมูลงานใหม่ 2 พันล้านบาท จากที่เข้าประมูลรวมราว 7 พันล้านบาท  
       JTS ทำธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งผู้บริหารคาดว่าปี นี้งานประมูลจะมีมากขึ้นหลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ และน่าจะทำให้"เป็นปีที่ดีของบริษัท"
       "ปีนี้เราคิดว่า น่าจะเป็นปีที่ดีของเรา"นายธีรศักดิ์ จีรอัศวพงศ์ กรรมการผู้ จัดการ JTS กล่าวกับ"รอยเตอร์" และเขายังหวังว่า ปีนี้รายได้จะฟื้นตัวมาสู่ระดับ 3  พันล้านบาทได้ ซึ่งใกล้ระดับที่เคยทำได้ดีเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
       "คาดว่า(รายได้)น่าจะดีกว่าปี 49 เราจึงมองว่าน่าจะมีรายได้ 3 พันล้าน หรือมากกว่านั้น....แต่ปีที่แล้วอะไรๆ ก็ชะลอตัว งานโครงการก็ชะลอ หรือเลื่อนออกไป  ก็คงจะไม่ดีเท่ากับปี 49"เขากล่าว
       เมื่อปี 49 บริษัทมีรายได้รวม 2.92 พันล้านบาท ซึ่งทำรายได้ดีที่สุดในรอบ  หลายปีของบริษัท ขณะที่ทำกำไรสุทธิได้ 313 ล้านบาท  
       แต่งวด 9 เดือนปี 50 JTS มีกำไรสุทธิลดลง 58% เหลือ 97 ล้านบาท หลัง  บมจ.ทีโอที และกสท โทรคมนาคม ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัท ได้เลื่อนการประมูล  โครงการต่างๆ ออกไป  
       ขณะที่นักวิเคราะห์ 1 รายที่สำรวจความเห็นโดยรอยเตอร์ คาดว่าปี 51 JTS  จะมีกำไรสุทธิ 185 ล้านบาท และมีรายได้ 2.17 พันล้านบาท
       นายธีรศักดิ์ ยังคาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 50 จะต่ำกว่าปีก่อนหน้า เนื่อง จากงานโครงการซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลัก ชะลอหรือเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ เดือนพ.ย.-ธ.ค.50 เริ่มมีการเปิดประมูลงานโครงการทยอยออกมาต่อเนื่อง
       เขาคาดว่า ปีนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะกลับมาเติบโต 10-15%  จากปีก่อนที่ลดลง เนื่องจากคาดว่าจะมีการเปิดประมูลงานโครงการมากขึ้น หลังมีความ ชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

       **ประมูลงาน

       นายธีรศักดิ์ คาดว่า ปีนี้บริษัทจะเข้าประมูลงานรวมประมาณ 7 พันล้านบาท  โดยคาดว่าจะชนะงานประมาณ 2 พันล้านบาท ทั้งในส่วนงานโครงการและงานบริษัท เอกชน โดยบริษัทมีเงินทุนเพียงพอที่จะรองรับงานที่ประมูลได้ และยังหวังให้บริษัทลูกเข้า ประมูลงานซอฟต์แวร์มากขึ้น  
       บริษัทยังมีงานที่เซ็นสัญญาแล้วซึ่งจะทยอยส่งมอบ และรับรู้รายได้ทั้งหมดราว  800-1,000 ล้านบาท  
       เขากล่าวว่า รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ยังมาจากงานโครงการ 70-80% โดย บริษัทมีเป้าหมายประมูลงานของบมจ.ทีโอที, กสท โทรคมนาคม, ทีทีแอนด์ที, บริษัททริ ปเปิลที บรอดแบนด์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เพื่อติดตั้งโครงข่ายสัญญาณและ อุปกรณ์ปลายทาง
       นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทยังได้งานติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้ธนาคาร ออมสิน มูลค่าราว 100 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารแห่งอื่นๆด้วย
       เขากล่าวว่า บริษัทยังได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ให้ติดตั้งโทรศัพท์สาธารณะเอง ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้วบ้างส่วน แต่ จำนวนติดตั้งเครื่อง จะพิจารณาจากทำเลและความเหมาะสม  
       บริษัทยังมีรายได้จากงานด้านการขายและส่งมอบอุปกรณ์เครื่องมือให้กับกลุ่มสื่อ สาร ตลอดจนงานให้เช่าโทรศัพท์สาธารณะให้กับทีโอทีจำนวนกว่า 1 หมื่นเครื่อง

สงสัยคุณ brighty girl จะขยันหาบทวิเคราะห์นะครับ

เพื่อนๆถามก็ไม่ค่อยตอบ  หาแต่บทวิเคราะห์จากโบรคเกอร์มาให้ดูเล่นๆ  ไม่เห็นมีการวิเคราะห์อะไรเลย  มีแต่ข่าวๆ  สงสัยคุณ vichit จะมีคู่แข่งซะแล้ว

ตอบจากประสบการณ์โดยตรงสายงาน SI นะคะ ช่วงนี้งานประมูลเยอะมาก ยื่นเอกสารแทบทุกวันไม่ได้หลับได้นอน (ลองไปถามเพื่อนๆที่ทำงานสายนี้ดู) รวมทั้ง TOR งานใหญ่ๆก็เปิดประมูลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนที่เป็นรากฐานทางด้านโทรคมนาคมของประเทศ และการเกิดโครงการ USO ซึ่งมุ่งเน้นขยายไปยังต่างจังหวัด ดังนั้น บริษัทที่เกี่ยวกับ SI จะได้ประโยชน์แน่นอนทุกบริษัทมากน้อยแล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัวของบริษัท ดังนั้น เราค่อนข้างมั่นใจว่าธุรกิจ SI ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 07 ราคาหุ้นก็ลงมารองรับข่าวร้ายไปหมดเลย เลยมองว่าน่าสนใจ

ส่วนเรื่องการเงินขอบอกว่าไม่ถนัดเท่าไหร่ แต่ดูคร่าว Liquidity Ratio, Debt Ratio ถือว่าใช้ได้ เงินสดต่อหุ้นสูงมาก เกือบๆเท่ามูลค่าหุ้นในตลาด และจากที่อ่านบทวิเคราะห์แนะนำก็คิดว่าเงินปันผลตรงนี้น่าจะชดเชยความเสี่ยงขาลงได้บ้าง จึงนำมาลงให้เพื่อนๆดู เพราะหาดูแล้วก็ไม่เห็นมีโบรกไหนวิเคราะห์หุ้นตัวนี้ยกเว้นฟินันซ่า

ใครมีข้อมูล หรือ บทวิเคราะห์ก็มาแชร์กันได้นะคะ ส่วนเราที่แนะนำตัวนี้เพราะคลุกคลีอยู่ในอุตสาหกรรมนี้

ปล.ที่ไม่ได้วิเคราะห์ตอนแรก เพราะคิดว่าบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ให้ความเห็นไว้ครอบคลุมแล้ว และเพื่อนในนี้เก่งด้านการเงินมากกว่าเราอยู่แล้ว ต้องขออภัยถ้าทำให้คุณ chatchai ไม่พอใจ

เอาความเห็นหมอดูมั้ยครับ ผมเดา (ย้ำว่าเดา อย่ายึดถือจริงจังเป็นอันขาด) ว่าอาจกลับมาคึกคักตอนใกล้ๆ กลางปี :lol:

brighty girl เขียน:ตอบจากประสบการณ์โดยตรงสายงาน SI นะคะ ช่วงนี้งานประมูลเยอะมาก ยื่นเอกสารแทบทุกวันไม่ได้หลับได้นอน (ลองไปถามเพื่อนๆที่ทำงานสายนี้ดู) รวมทั้ง TOR งานใหญ่ๆก็เปิดประมูลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนที่เป็นรากฐานทางด้านโทรคมนาคมของประเทศ และการเกิดโครงการ USO ซึ่งมุ่งเน้นขยายไปยังต่างจังหวัด ดังนั้น บริษัทที่เกี่ยวกับ SI จะได้ประโยชน์แน่นอนทุกบริษัทมากน้อยแล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัวของบริษัท ดังนั้น เราค่อนข้างมั่นใจว่าธุรกิจ SI ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 07 ราคาหุ้นก็ลงมารองรับข่าวร้ายไปหมดเลย เลยมองว่าน่าสนใจ

ด้วยความเคารพนะครับคุณ brighty girl ทำงานอยู่บริษัทอะไร ตำแหน่งอะไร เหรอครับ

มาช่วยยืนยันตามที่คุณ brighty girl  บอกครับ

งบจัดซื้อของ 2 รัฐวิสาหกิจ TOT & CAT ที่ถูกอั้นมานานเริ่มทะยอยปล่อยออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว  

ไตรมาสแรกปีนี้น่าจะเริ่มเห็นผลครับ

brighty girl เขียน:ปล.ที่ไม่ได้วิเคราะห์ตอนแรก เพราะคิดว่าบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ให้ความเห็นไว้ครอบคลุมแล้ว และเพื่อนในนี้เก่งด้านการเงินมากกว่าเราอยู่แล้ว ต้องขออภัยถ้าทำให้คุณ chatchai ไม่พอใจ

ผมก็ขออภัยคุณ brighty girl ด้วยครับ  ถ้าผมทำให้คุณไม่สบายใจ  และต้องขอบคุณสำหรับข้อมูล

3G คืออะไรเหรอ เกี่ยวกับหุ้นพวกนี้เปล่าครับ

boy2t เขียน:3G คืออะไรเหรอ เกี่ยวกับหุ้นพวกนี้เปล่าครับ

3rd-Generation Mobile Phone System ครับ
คือระบบโทรศัพท์มือถือที่ส่งข้อมูลได้สูง...กี่ Bit per second จำไม่ได้แล้ว -_-' ส่งข้อมูลได้มากก็จะมี content หลากหลายกว่าเดิมเช่น Net เร็วขึ้น ข้อมูลโน่นนี่ส่งเข้ามือถือได้


ต่อไปอาจจะดู real-time stock price ได้เร็วเท่าในห้องค้าก็ได้นะครับ

โครงการระบบเชื่อมโยงเคเบิลใยแก้วภายในประเทศ หรือASON (Automatically Switched Optical Network)    ASON มีมูลค่า 2,618 ล้านบาท   ประกอบด้วยงาน 7ส่วนคือ1.ระบบเชื่อมโยงเคเบิลใยแก้วภาคเหนือภาคกลาง ภาคตะวันตก 545 ล้านบาท   2. ระบบเชื่อมโยงเคเบิลใยแก้วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ884 ล้านบาท  3.ระบบเชื่อมโยงเคเบิลใยแก้วภาคใต้ 212 ล้านบาท 4.ระบบเชื่อมโยงเคเบิลใยแก้วภาคตะวันออก 400 ล้านบาท  5. อุปกรณ์สำหรับขยาย DWDM โครงข่ายเคเบิลใยแก้วกรุงเทพฯและปริมณฑล 108 ล้านบาท   6. งานปรับปรุงอุปกรณ์ระบบ Multiplexer โครงข่ายกรุงเทพฯและปริมณฑล 167 ล้านบาทและ7.อุปกรณ์ Intelligent Cross connect เทคโนโลยี ASON 300 ล้านบาท
         
การประมูลครั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลประมาณ 4 ราย ได้แก่ บริษัท จัสมิน เสนออุปกรณ์ของอัลคาเทล กิจการร่วมค้าอีริคสัน เสนออุปกรณ์ของอีริคสันเอง กลุ่มมารูเบนิเสนออุปกรณ์ของแซดทีอี และกลุ่มล็อกซเล่ย์เสนออุปกรณ์ของหัวเว่ย

========================================

+++ ความเห็นของเรา +++ (เดี๋ยวจะหาว่าเอาข่าวมาแปะอย่างเดียวอีก)
โครงการนี้คาดจะว่าประมูลวันที่ 29 มกราคม 2008 มูลค่าสูงถึง 2.6 พันลบ. ใครมีข้อมูลบ้างคะ ว่าอุปกรณ์ของบริษัทไหนน่าจะได้เปรียบระหว่าง อัลคาเทล, อีริคสัน, แซดทีอี และหัวเว่ย ??? แต่เราคิดว่าหัวเว่ยมีเรื่องส่งงานล่าช้าระบบ CDMA ซึ่งปัจจุบันก็ยังสรุปไม่ได้ว่าต้องจ่ายค่าปรับให้ CAT เท่าไหร่ ดังนั้น โอกาสได้น่าจะน้อยนะ

ถ้า JTS ได้งานนี้ คงอยู่สบายไปทั้งปีเลยนะ

ใครมีข้อมูลช่วยแชร์ด้วยคะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมา update อีกที

ยังมั่นใจว่าราคาหุ้น JTS ถูกเกินไป !!!

ดูเป็นรายไปดีกว่า
ถ้าเป็นผู้ให้บริการมือถือนั้น ต้องทำ 3G ให้ได้ก่อน
ซึ่งตอนนี้มีคนทดสอบอยู่ 7 ราย เริ่มทดสอบให้ กทช ดูไตรมาสหนึ่งปีนี้

ส่วนพวกที่ขายมือถือ มาร์จิ้นต่ำ และตอนนี้ loxley ก็ออกจากตลาดนี้ไปอีกรายแล้ว

ส่วนพวกที่วางระบบโทรศัพท์พื้นฐานที่เป็นสาย ก็ต้องดูว่า รายได้มาจากสายมากน้อยแค่ไหน และ สามารถให้บริการเสริมแก่สายได้มากเท่าไร (รู้มาว่าการลงทุนระบบสายมากกว่าระบบไร้สาย)

ส่วนพวกที่ทำงานโครงการ ต้องรอลุ้นว่ามีโครงการใหญ่เข้าหรือเปล่า

ถ้าเล่นตามข่าวก็พอไหวครับ แต่ถ้าคิดมองที่ผลประกอบการ ผมว่าไปไม่รอด

ผมก็ทำอยู่บริษัทลูก แม่มะลิ ถึงไม่ใหญ่ก็รู้อะไรบ้างเหมือนกัน

ความคืบหน้าเป็นงัยครับ  ลงไปต่ำสุดที่ 1.36 แล้วขึ้นมาที่ 1.53 แล้ว
มีใครถืออยู่ไหมครับ

SATTEL ด้วยมั๊ย