หน้า 1 จากทั้งหมด 2

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 11:46 am
โดย Jeng
ผมนั่งคิดเล่นๆอย่างกรณี ptt ตอน 440 ตอนนั้น หากมีใครไปถามโบรกเกอร์ นักวิเคราะห์ หรือมาร์เก็ตติ้ง อาจจะได้คำตอบจากบางค่าย ว่า ไปต่อได้ เพราะอะไร เคยได้ยินแว๊บๆ sum of the part ให้ราคาเท่านั้นเท่านี้ ผมก็ขำในใจเหมือนกรณี cpn เลย sum of the part ราคา cpn ก็ร่วงซะ

เมื่อ ptt ตกลงมา หากมีใครไปถามว่า ทำไมตก ก็น่าจะได้คำตอบว่า นักลงทุนต่างประเทศไม่มั่นใจสถานการณ์ เพราะเกิดปัญญา subprime rate ( ตลาดผิด บทวิเคราะห์ ไม่ผิด )

ผมคิดต่อว่า หาก เกิด subpirme แล้ว ptt อยู่ที่ราคา 100 แล้ว วิ่งขึ้นไป

ถ้ามีการไปถามว่า ทำไมขึ้น ผมคิดว่า น่าจะได้คำตอบอย่างมั่นใจว่า เป็นไปตามที่เราได้ประเมิณ ราคาเป้าหมายไว้ และเกิดปัญหา subprime ทำให้นักลงทุนต่างประเทศ ขายที่เมกา และประเทศอื่นๆ แล้วมาซื้อที่ไทย ( บทวิเคราะห์ถูก )

สำหรับผมแล้วบทวิเคราะห์ ช่วยได้พอควร หากไม่มีบทวิเคราะห์ หรือการวิเคราะห์ของเพื่อนๆ ผมก็ต้องนั่งคิดคนเดียว เออออคนเดียว

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่หุ้นขึ้น เพราะหุ้นราคาต่ำกว่าพื้นฐาน และสาเหตุที่หุ้นลง ก็เพราะหุ้นราคาเกินพื้นฐาน

ส่วนเรื่อง subprime ไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่เป็น ตัวเร่งปฎิกิริยา และ เป็นตัวที่ถูกนำมาอธิบายได้ โดยที่ผู้ฟัง ก็ไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร

เพราะฉะนั้นหากจะซื้อหุ้น ก็ต้องรู้ราคาพื้นฐาน ซื้อราคาต่ำๆ ไว้

ต่อให้เจอปัญหาอะไร ก็จะเจ็บตัวน้อย หรืออาจจะได้กำไร เพราะได้ซื้อหุ้นในราคาไร้เทียมทาน

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 1:52 pm
โดย cryptonian_man
ขอบคุณครับพี่Jeng

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมต้องกลับมาทบทวนตัวเองอีกรอบแล้ว หลังจากเพิ่งทบทวนตัวเองได้ไม่ถึง 1 เดือน

ว่าไปแล้ว ถ้าใครผ่านตลาดช่วงนี้ไปได้ก้อน่าจะพัฒนาตัวเองได้อีกระดับเลยนะครับ

แต่ของผมยังวนไปวนมาอยู่เลย เฮ้อ

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 2:06 pm
โดย mprandy
ผมว่านักวิเคราะห์ในเมืองไทย ควรจะมีชื่อเต็มว่า Retrospective analyst คือนักวิเคราะห์เหตุการณ์ย้อนหลัง (หรือนักวิแคะ)

เพราะหน้าที่ของกลุ่มคนเหล่านี้คือ พยายามหาเหตุผล ชักแม้น้ำ ฯลฯ อะไรก็ได้ เพื่อมาสนับสนุนสิ่งที่ "เกิดขึ้นไปแล้ว" ไม่ว่าหุ้นมันจะขึ้น หรือมันจะลง

ผมไม่เห็นนักวิแคะคนไหน ที่ยืนยันกับผลการวิเคราะห์ของตนเองเรื่องราคาเป้าหมายได้เลยซักคน ยืนยันว่าราคาที่ฉันให้ไว้มันถูก ราคาตลาดตอนนี้มันถูกไป หรือแพงไป เพราะผมเห็นแต่ราคาเป้าหมายมันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อย่างกะราคาทอง สังเกตดูได้ว่า..

1. ในหุ้นที่มีรายงานจากนักวิแคะ กว่า 90% ของหุ้นทั้งหมด ราคาเป้าหมายจะสูงกว่าราคาปัจจุบันเสมอ
2. ราคาเป้าหมายมักจะมีแนวโน้มสอดรับกับราคาหุ้นในขณะนั้น เช่นถ้าหุ้นมีแนวโน้มขึ้น ราคาเป้าหมายก็จะขึ้น ในถ้าแนวโน้มหุ้นกำลังลง ราคาเป้าหมายก็มักจะถูกปรับลงมา.. ทั้ง ๆ ที่พื้นฐานกิจการมันไม่ได้เปลี่ยนเร็วอย่างนั้น

ตอนหุ้น PTT, BANPU ขึ้นเอา ขึ้นเอา เคยเห็นนักวิแคะท่านไหน ออกมาประกาศว่า "แพงไปแล้ว" หรือไม่.. เห็นแต่ปรับเป้ากันใหญ่ บางเจ้าเว่อมาก ปรับไปเกือบ 600 บาท :shock:

จริง ๆ แล้วอาชีพนี้ ให้ประโยชน์กับนักลงทุน (ตัวจริง) หรือเปล่า ผมยังสงสัยอยู่

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 2:07 pm
โดย Pn3um0n1a
ผมเชื่อเรื่อง ทฤษฎีของเกม ทายเลขที่ ท่านแม่ทัพเคยเอามาเล่นนะครับ

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 6:10 pm
โดย MindTrick
Jeng เขียน:
เพราะฉะนั้นหากจะซื้อหุ้น ก็ต้องรู้ราคาพื้นฐาน ซื้อราคาต่ำๆ ไว้

ต่อให้เจอปัญหาอะไร ก็จะเจ็บตัวน้อย หรืออาจจะได้กำไร เพราะได้ซื้อหุ้นในราคาไร้เทียมทาน
ชอบใจจริงๆ ขอบคุณครับ

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 2:05 am
โดย pavilion
ยังไงซะราคาหุ้นก็จะกลับมาสู่พื้นฐานของมันเสมอไม่ว่าช้าหรือเร็ว

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 2:06 am
โดย pavilion
ยังไงซะราคาหุ้นก็จะกลับมาสู่พื้นฐานของมันเสมอไม่ว่าช้าหรือเร็ว

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 8:44 am
โดย june1500
Jeng wrote:


เพราะฉะนั้นหากจะซื้อหุ้น ก็ต้องรู้ราคาพื้นฐาน ซื้อราคาต่ำๆ ไว้

ต่อให้เจอปัญหาอะไร ก็จะเจ็บตัวน้อย หรืออาจจะได้กำไร เพราะได้ซื้อหุ้นในราคาไร้เทียมทาน


สนับสนุนแนวความคิดนี้ครับ
คงหมายความว่า เราควรหาจังหวะเข้าซื้อหุ้น
ในจังหวะที่ราคาลงมาต่ำๆ ตามสภาวะตลาด
แต่พื้นฐานตัวหุ้นยังดี และควรคิดถึงผลตอบแทน
ในรูปเงินปันผลที่รับได้ เป็นหลัก

และคิดถึง capital gain เป็นปัจจัยรอง

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 11:00 am
โดย 007-s
ในห้วงเวลาย่อยๆ ...

หุ้นนั้นๆ จะขึ้น จะลง ตาม แรงอารมณ์ ความโลภ และความกลัว

ในห้วงเวลาหลักๆ ...

หุ้นนั้นๆ จะ
อย่างไรก็ตามสาเหตุที่หุ้นขึ้น เพราะหุ้นราคาต่ำกว่าพื้นฐาน และสาเหตุที่หุ้นลง ก็เพราะหุ้นราคาเกินพื้นฐาน
:D

แต่ในห้วงเวลาหลักนั้น ยังมีแฝงซึ่ง ทิศทาง จะมีความน่าจะเป็น มากหรือน้อย

ซึ่งเทรนด์นั้น มันน่าจะขึ้นอยู่กะ ทิศทางของการทำกำไรของผลปรากรอบ

ปีนี้ ดีกว่าปีก่อนหรือไม่ ปีหน้าดีกว่าปีนี้หรือไม่ ...

อารมณ์ความรู้สึกของตลาด นับวันจะยิ่งไวขึ้น รับรู้ไวขึ้น เนื่องจากโลกเริ่มแบนราบมากขึ้น ความไวของการรับรู้ข่าวสาร และการวิเคราะห์ข่าวสารนั้นๆ จะผกผันไปได้อย่างรวดเร็ว เหมือนคนประสาทเสีย  :lol:

แต่สุดท้าย ทิศทางที่แท้จริงจะปรากฏ เมื่อปรากรอบแสดงผล
(ระยะเวลาของการปรากฏผลนี้ มักไม่มีสูตรใดคำนวนได้ว่า จะยาวนานเพียงไร ขึ้นอยู่กะปริมาณอารมณ์ โลภหรือกลัว มากหรือน้อยในแต่ละห้วงเวลาหนึ่งๆ)
(แต่จุดที่น่าใส่ใจเก็บเป็นสถิติคือ จุดเสียว  :oops: พีคมากๆจนเสียว ดีใจจนหลังเย็นวาบตัวลอยๆ ,ลงลึกมากๆ จนเสียว หูตาลาย คล้ายจะเป็นลม ไปจนถึงมือสั่นเทา ยามไฟไหม้ มองเห็นข้างบ้านแบกตู้เย็นหนี แต่กลับทิ้งธนบัตรที่แอบเมียไว้ใต้เตียงให้มอดไหม้เป็นจุลย์ :lol: )


ใครคาดแม่น ก็ได้กินปลา ใครคาดผิดก็โดนปลากิน :lol:

วิธีที่น่าจะช่วยให้เลี่ยงการบาดเจ็บจากการโดนปลากินให้มากที่สุด หรืออย่างน้อยแค่โดนปลาตอด ก็น่าจะเป็น ...
พยายามหาซื้อเบอร์เกอร์ MOS ในราคาที่ต่ำกว่าให้มากเท่าที่จะกดราคาผู้ขายได้ :lol:
เพราะฉะนั้นหากจะซื้อหุ้น ก็ต้องรู้ราคาพื้นฐาน ซื้อราคาต่ำๆ ไว้

ต่อให้เจอปัญหาอะไร ก็จะเจ็บตัวน้อย หรืออาจจะได้กำไร เพราะได้ซื้อหุ้นในราคาไร้เทียมทาน
ฟังดูเป็นสูตรที่ง่ายที่สุด แต่แล้วกลับทำยากที่สุด
เพราะ เรื่องของเหตุผล ไม่ใช่ปัญหาที่ใครจะเข้าถึงควบคุมได้ แต่เรื่องของอารมณ์ เป็นเรื่องที่จัดการยากที่สุด

สิ่งที่เฮียเจ๋ง และพี่ๆท่านอื่น หลายท่าน หลายครั้งมักออกมาชี้แจงเรื่อง MOS ซ้ำๆ เดิมๆ

พี่มนตรี พี่ฉัตรชัย ดิฉันเห็นออกมาเตือนหลายบ่อย เวลาเห็นน้องๆแพนิค(น้องๆนี่รวมดิฉันเองด้วยนะ  :oops: ดูพี่ฉัตรออกทีวีแระ ดิฉันขอเป็นน้องแน่ๆจากการประมาณการโหวงเฮ้งนะ :lol: )

ขอขอบคุณทุกท่าน รวมทั้งท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามไว้ ณ ที่นี้

:bow:

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 11:19 am
โดย J o r n
"ไม่ซื้อก็รอรอบหน้าแล้วกัน...ถ้ากลัวก็ไม่ต้องทำอะไร"
"ถ้ามันลงก็ขาดทุนไม่เยอะ ไม่ซื้อจะเสียโอกาส"
"บอกแล้วไม่เชื่อ...เห็นมั้ย มาแล้วๆ"

หากฟังคนรอบข้างบ่อยๆ พอหันมาอ่านบทวิเคราะห์
โบรค เชียร์ซื้อ ปรับประมาณการเป้าหมายเพิ่ม

ยิ่งนึกว่ามาถูกทางแล้ว...ไม่ซื้อก็กลัวตกรถ
เห็นคนอื่นแห่ซื้อกัน

เรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ที่ไม่คว้าโอกาสนี้
ก็เลยซื้อตาม...หลายคนซื้อ หุ้นก็ขึ้น
กลายเป็นโมเมนตั้ม

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 12:03 pm
โดย noooon010
mprandy เขียน:ผมว่านักวิเคราะห์ในเมืองไทย ควรจะมีชื่อเต็มว่า Retrospective analyst คือนักวิเคราะห์เหตุการณ์ย้อนหลัง (หรือนักวิแคะ)

เพราะหน้าที่ของกลุ่มคนเหล่านี้คือ พยายามหาเหตุผล ชักแม้น้ำ ฯลฯ อะไรก็ได้ เพื่อมาสนับสนุนสิ่งที่ "เกิดขึ้นไปแล้ว" ไม่ว่าหุ้นมันจะขึ้น หรือมันจะลง

ผมไม่เห็นนักวิแคะคนไหน ที่ยืนยันกับผลการวิเคราะห์ของตนเองเรื่องราคาเป้าหมายได้เลยซักคน ยืนยันว่าราคาที่ฉันให้ไว้มันถูก ราคาตลาดตอนนี้มันถูกไป หรือแพงไป เพราะผมเห็นแต่ราคาเป้าหมายมันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อย่างกะราคาทอง สังเกตดูได้ว่า..

1. ในหุ้นที่มีรายงานจากนักวิแคะ กว่า 90% ของหุ้นทั้งหมด ราคาเป้าหมายจะสูงกว่าราคาปัจจุบันเสมอ
2. ราคาเป้าหมายมักจะมีแนวโน้มสอดรับกับราคาหุ้นในขณะนั้น เช่นถ้าหุ้นมีแนวโน้มขึ้น ราคาเป้าหมายก็จะขึ้น ในถ้าแนวโน้มหุ้นกำลังลง ราคาเป้าหมายก็มักจะถูกปรับลงมา.. ทั้ง ๆ ที่พื้นฐานกิจการมันไม่ได้เปลี่ยนเร็วอย่างนั้น

ตอนหุ้น PTT, BANPU ขึ้นเอา ขึ้นเอา เคยเห็นนักวิแคะท่านไหน ออกมาประกาศว่า "แพงไปแล้ว" หรือไม่.. เห็นแต่ปรับเป้ากันใหญ่ บางเจ้าเว่อมาก ปรับไปเกือบ 600 บาท :shock:
เห็นด้วยกับพี่ mprandy นะครับ
ส่วนประโยคที่ว่า จริง ๆ แล้วอาชีพนี้ ให้ประโยชน์กับนักลงทุน (ตัวจริง) หรือเปล่า ผมยังสงสัยอยู่ นั้น

ผมคิดว่า ถ้าเราอ่านสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง และตัดข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์กับการลงทุนทิ้งไป ก็น่าจะเป็นประโยชน์อยู่เหมือนกันนะครับ

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 12:10 pm
โดย akkhapon
ขอบคุณครับ สำหรับมุมมองดีๆ

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 1:37 pm
โดย june1500
กระทู้นี้ทำให้คิดถึงคำว่า

"ให้ซื้อหุ้นแพง เพราะจะขายได้แพงกว่า"

ผมดูแล้ว ไม่ชอบ เพราะ "กลัวดอย"มากๆเลย
เข็ดจริงๆ

คิดว่าคำนี้น่าจะมาจากพวกจ้าวมือมากกว่า

แจมบ้าง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 1:42 pm
โดย Muffin
สำหรับมุมมองของผม

หุ้นขึ้นเพราะคนซื้อมากกว่าคนขาย  
หุ้นลงเพราะคนขายมากกว่าคนซื้อ

Bull pushes the price up, Bear pulls the price down

แต่กระทิงกับหมีแต่ละตัวมีพลังไม่เท่ากัน และมีเหตุผลในการซื้อถือหรือขายหุ้นไม่เหมือนกันและไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน

กระทิงและหมี ก็มีทั้งที่เป็น smart money และไม่ใช่
ขนาดชื่อ web financial ยังมีทั้ง smartmoney และ fools เลย  :D

ถ้าเราเอา model stock valuation แบบ Simplified Dividend Model ที่ว่า Price = Future Cash Flow / (Discount Rate - Growth)
ก็จะเห็นว่าแต่ละคน จะได้ Price ไม่เท่ากัน เพราะ Expected Future Cash Flow และ Expected Growth ของแต่ละคนอาจจะต่างกันมากๆได้

ดังนั้นเวลาอ่านบทวิเคราะห์ ผมก็ไม่ค่อยอยากให้วิจารณ์ท่านๆกันมากนะครับ (ยกเว้น เรือ่ง จริยธรรม หรือ conflict of interest กับ ข้อมูลที่ที่นมี) เพราะควรจะให้ความยุติธรรมกับนักวิเคราะห์เช่นกัน ดังนั้น คำแนะนำ ซื้อ ถือ ขาย หรือ ราคาเป้าหมาย คงไม่มีความสำคัญเก่ากับ Cash Flow Projection หรือ Assumption ที่เขาใช้ ที่เขาให้เราเข้าถึงข้อมูลได้ ถือเป็นสิ่งที่ทุ่นเวลาเราได้มากแล้ว เราควรจะขอบคุณนักวิเคราะห์ครับ

ดังนั้น Market เป็น Consensus Mechanism ของ Bull และ Bear ที่มี สมมติฐาน ความคาดหวัง ความรู้ ความเข้าใจ และอีกหลายๆอย่างที่ต่างกัน ดังนั้น ราคาจึงมีขึ้นมีลง


ในระยะยาว ความจริงก็จะ adjust ราคาเข้ากับความจริงเอง
ดังนั้น Smart Money อย่างพวกท่านๆ VI ทั้งหลาย จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า
Warren Buffet เขาว่าบอกว่า "Market is an Efficiency Process, not an Efficiency Condition"

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 3:06 pm
โดย petercorp
เป็น VI กันหรือเปล่า แต่ทำตัวยังกะ daytrade

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 5:49 pm
โดย june1500
ปรับเปลี่ยนได้นะครับ
บางวันก็ day trade
บางวันก็ vi

บางวันก็เป็นทั้ง vi+day trade

:D

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 7:52 pm
โดย Pn3um0n1a
petercorp เขียน:เป็น VI กันหรือเปล่า แต่ทำตัวยังกะ daytrade
รู้ไว้ใช่ว่า... ครับผมว่า

บางที รู้ว่า พวก daytrade ทำไปเพราะคิดอะไร เราก็จะได้รู้เท่าทัน...

Re: แจมบ้าง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 10:27 pm
โดย woody
[quote="Muffin"]สำหรับมุมมองของผม

หุ้นขึ้นเพราะคนซื้อมากกว่าคนขาย

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 21, 2008 9:48 am
โดย ...
ดีใจที่ได้เจอพี่ Muffin ครับ  :D

สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 22, 2008 12:12 am
โดย CherngX
สมมติพรุ่งนีิ้หุ้นขึ้น 10 จุด ก็จะอธิบายว่าการเมืองนิ่งแล้วนักลงทุนย้ายเงินมาลงทุนบ้านเราเพราะ PE ต่ำสุดในภูมิภาค

สมมติพรุ่งนี้หุ้นตก 10 จุด ก็จะบอกว่าปัญหาเศรษฐกิจเมกาถดถอยกระทบไทย

พวกนี้เป็นนักอธิบายเหตุการณ์แบบจับแพะมาชนแกะตัวยง
ช่วงหุ้นขึ้น peakๆ ก็บอกว่าปลายปี 51 หุ้นจะวิ่งไป 1000 จุด

แต่วันนี้งานสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์บอก ถ้าปัญหาเศรษฐ์กิจเมกาถดถอยไม่จบหุ้นไทยมีลุ้น 600 จุด แต่ถ้าโชคดีปัญหาจบเร็วอาจจะได้เห็น 950 จุด


ทำนายช่วงกว้างขนาดนี้ ไม่ทำนายดีกว่ามั้ย

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 1:45 pm
โดย pak
ผมมานั่งฟังพี่ Jeng คิดอ่ะนะขอรับ


ปล.
วันนี้ ptt ก็หลุด 300 ไปแล้วซินะครับ
^ ^

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 2:10 pm
โดย Jeng
jan 19 2008 ราคาปิด ptt 228 + ขึ้น 14 บาท จากวันวานที่ 18 jan 2008

ptt ลงจาก 440 และมาอยู่ที่ 228 โดยประมาณ ก็เลยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

ชี้ให้เห็นว่าตอน ptt ขึ้น นักวิเคราะห์ ไม่รู้จะเอาอะไรมาบอกว่า มันจะขึ้นต่อ

ก็เลยใช้ sum of the part

ใจจริง รอบนี้ ก็รอคำนี้อยู่ แต่ยังไม่ได้ยิน ลงซะก่อน

และนี่คือต้นปี ที่ ดัชนียังไม่ลงมาก วันที่ jan 19 2008 set 789

แต่ก็ลงมาจาก 924 29 otc 2007

กระทู้นี้ก็เป็นอีกหนึ่งกระทู้ ที่คนอ่าน แต่ไม่สนใจ เพราะบอกว่า สมมุติว่า ptt ไป 100

ใครจะไปสน ถึงแม้ว่าต่อมา ptt ลงเหลือ 140 ก็ไม่มีใครสนใจ หรือว่าจำได้

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 2:24 pm
โดย Jeng
ณ เวลานั้นเข้าใจว่า ptt 228 ก็มีคนเข้าไปรับตลอดทาง

แต่พอ ptt 140 พี่ตั้งกระทู้ชวนซื้อ ก็ไม่มีคนสนใจ

และมีบางคนบอกว่า ptt จะถูกเอาออกจากตลาด

เรียกว่า ptt ถูกสุดๆ ptt 4 บอร์ดล้าง ไม่มีคนตอบเท่าไร

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 2:30 pm
โดย tum_H
ไอเอ็มเอฟยอมรับมีเงินไม่พอหากศก.โลกวิกฤติหนัก-จี้ทุกประเทศเร่งหารือเรื่องนี้


นางคริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยอมรับในการประชุมเมื่อวันเสาร์ (24ก.ย.)ที่กรุงวอชิงตันว่า ทรัพยากรทางการเงินของไอเอ็มเอ็ฟอาจไม่เพียงพอที่จะรับมือกับวิกฤติทางเศรษฐกิจขั้นรุนแรงของโลก
"ศักยภาพการปล่อยกู้ของเราที่มีมูลค่าเกือบ 4 แสนล้านดอลลาร์เป็นตัวเลขที่พอดีสำหรับเศรษฐกิจทุกวันนี้ แต่อาจจะไม่พอ หากเกิดวิกฤติการเงินรุนแรงในประเทศต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องกู้เงินจากไอเอ็มเอฟในเวลาเร่งด่วน" นางลาการ์ด กล่าว
ผู้บริหารระดับสูงของไอเอ็มเอฟ กล่าวในโอกาสเผยแผนปฏิบัติการสำหรับ187 ประเทศเพื่อรับมือวิกฤติเศรษฐกิจโลกรอบใหม่ ในการประชุมธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่กรุงวอชิงตัน ว่า จะเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มานั่งหารือกันถึงความจำเป็นและทางเลือกต่างๆในยามฉุกเฉิน และทุกประเทศ ต้องเตรียมพร้อมตอบสนองปัญหาที่เข้ามาอย่างทันท่วงที ตั้งรับปัญหาในลักษณะที่ยืดหยุ่น และถ้าให้ดีหรือเป็นไปได้ ควรมีเงินสำรองก้อนโตเพื่อรับมือกับวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้น


:roll: ช่วงนี้กำลังเป็นช่วงปล่อยข่าว สงสัยยังเหลือมุข อีกเยอะ :|

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 2:42 pm
โดย ศิษย์เซียน007
แมลงสาปตัวจึ๊ดๆเริ่มออกมาเป็นระยะๆ :cry:

เรื่องของนักวิเคราะห์ผมเลือกทำแบบข้อ9คับมานานพอสมควรแล้วพึงรู้ว่าเป็นกฎของเซียนด้วย :D
bluemax เขียน:อุปนิสัยแห่งชัยชนะ 23 ข้อของนักลงทุน

1. เชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องรักษาเงินต้นไว้ให้ได้ ถือเป็นหลักยึดแห่งการลงทุนของเขาเลยทีเดียว
2. หลีกหนีความเสี่ยง (อันเป็นผลมาจากอุปนิสัยแห่งชัยชนะ#1)
3. การสร้างปรัชญาการลงทุนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงบุคลิก ความสามารถ รสนิยม และเป้าหมายของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่มีนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จคนไหนที่มีปรัชญาการลงทุนเหมือนกัน
4. พัฒนาและทดสอบระบบเฉพาะตัวในการเลือกหุ้น หาจังหวะในการเข้าซื้อและขาย
5. เชื่อว่าการกระจายการลงทุนเป็นเรื่องของพวกกระจิบกระจอก
6. เกลียดการจ่ายภาษี (และค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่างๆ) จึงหาช่องทางตามกฎหมายเพื่อลดการจ่ายภาษีให้ได้มากที่สุด
7. ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจเท่านั้น
8. ปฎิเสธที่จะลงทุนในสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับเกณฑ์ในการลงทุนของตัวเอง และกล้าที่จะตอบปฎิเสธต่อสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
9. มองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ให้สอดคล้องกับเกณฑ์การลงทุนของตัวเองอยู่เสมอ และเอาจริงกับการวิจัยหาข้อมูลด้วยตัวเอง แล้วชอบที่จะฟังเฉพาะนักลงทุนหรือนักวิเคราะห์ผู้มีเหตุผลอันลึกซึ้งควรค่าแก่การนับถือ
10. เมื่อเขายังไม่เจอการลงทุนที่สอดคล้องกับเกณฑ์ของตัวเอง พวกเขาก็มีความอดทนพอที่จะรอไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะเจอ
11. ลงมือทันทีเมื่อตัดสินใจดีแล้ว และอยู่กับการลงทุนที่ทำให้ได้รับชัยชนะ
12. จนกว่าเหตุผลที่ให้ขายจะอุบัติขึ้น
13. ทำตามระบบของตัวเองด้วยความศรัทธา
14. ตระหนักอยู่เสมอว่าตัวเองทำพลาดได้ ให้รีบแก้ไขเมื่อความผิดพลาดนั้นปรากฎชัด ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็แค่ขาดทุนเล็กน้อย
15. มองความผิดพลาดเป็นประสบการณ์เสมอ
16. เมื่อประสบการณ์เพิ่มขึ้นผลตอบแทนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ตอนนี้ใช้เวลาน้อยลงเพื่อทำเงินให้มากขึ้น เพราะได้”ลงทุนลงแรง”ไปแล้ว
17. แทบไม่ต้องบอกใครเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับการลงทุนของเขา
18. แบ่งหน้าที่รับผิดชอบบางส่วนหรือทั้งหมดให้กับคนอื่น
19. ใช้ชีวิตที่ต่ำกว่าฐานะของตัวเองเป็นอย่างมาก
20. ทำงานที่ทำอยู่ เพราะงานนั้นทำให้กระชุ่มกระชวยและเติมเต็มชีวิตของเขา ไม่ใช่ทำเพื่อเงิน
21. ผูกพัน(และพึงพอใจ) กับ”กระบวนการ”ในการลงทุน สามารถปฏิเสธหรือล้มเลิกการลงทุนใดๆได้ง่ายๆ
22. หายใจเข้าหายใจออกเป็นการลงทุนตลอด 24 ชั่วโมง
23. มีเงินของตัวเองอยู่ในสิ่งที่บริหารจัดการอยู่ ตัวอย่างเช่น ทรัพย์สิน 99 เปอร์เซ็น ของบัฟเฟตต์อยู่ในหุ้นของเบิร์กไชร์ ฮาทาเวย์ และโซรอสก็เช่นเดียวกัน ที่เอาเงินส่วนใหญ่ไว้ในกองทุนควอนตัม ทั้งสองคนก็เหมือนกับผู้บริหารจำนวนมากที่ชะตากรรมเงินของตัวเองอยู่ในมือของตัวเอง

คัดลอกจากหนังสือ "บัฟเฟตต์-โซรอส ลงทุนถูกนิสัย ยังไงก็ชนะ"
ขอบคุณทั้งผู้แต่งและผู้แปลครับ ฉบับเต็มภาษาไทย หาซื้อได้ที่ se-ed ครับ

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 2:53 pm
โดย Jeng
สรุปถ้ามีเงิน จะรอรอบใหญ่ ก็ต้องรอให้คนเลิกเล่น รอบอร์ดล้าง ไม่มีคนเข้า

รอ force sell รอค่าเงิน 35 รอ วอลลุ่มเทรด เหลือต่ำกว่า 5000 ล้านบาท

ระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันนี้ ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะลงสุดๆเมื่อไร เพราะยังไ่ม่มีใครมองลง

เหตุผล ที่ไม่มีใครมองลง ก็คงเป็นเพราะ ปีหน้า เมืองไทย ลดภาษี

และ ไม่มีรับประกันเงินฝากเหมือนสมัยก่อน

เศรษฐกิจไทยดี ไม่เกี่ยวกับต่างประเทศ ทำไมไทยต้องลง

ซึ่ง การมองแบบนั้น ผมเชื่อว่า มองถูกครึ่งเดียว

เพราะเงินจากต่างประเทศมาลงทุนในเมืองไทย และมาตอนค่าเงินเท่าไร สมมุติ 35 บาท

มาซื้อหุ้นตอนดัชนีเท่าไร สมมุติ 400-600

ทำไมตอนนี้เขาจะไม่ขายออก กำไรสองต่อ

และนำเงินกำไรบางส่วน ไปซื้อหุ้น ที่ต่างประเทศ เพราะมันลงมาเยอะ

เมื่อเงินออก สภาพคล่องก็หาย หุ้นก็ตก

หมายถึงรอบใหญ่นะ ไม่ใช่ว่า สัปดาห์หน้า หุ้นรีบาว แล้วก็มาบอกว่า ฟันหักอีกแล้ว

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 3:32 pm
โดย Jeng
จริงๆ แล้วไม่มีใครตามกันเลยว่า ptt แอบขึ้นราคาไปกี่รอบแล้ว หลังจาก

ที่ยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน

การที่ ptt มีผลต่อ set และ set มีผลต่อ ราคาทั้งตลาด อย่างไม่น่า และไม่ควร แต่มันก็เป็น

แบบนี้มานานแล้ว ทำไมเราไม่ช่วยกันดู ptt ให้เข้าใจไปเลย

ว่า เจ้า ptt นี่มันจะขึ้น จะลง รอบใหญ่ เพราะอะไร จริงๆ ptt นี่เข้าใจยาก มีเงื่อนไขมากมาย

1.ค่าเงิน
2.ค่าน้ำมัน
3.นโยบายรัฐบาล
4.เศรษฐกิจโดยรวม

แต่รู้จัก ptt บ้างก็ไม่เสียหาย

ผมก็มีคำถามซึ่งก็หาคำตอบเองไม่ได้ คือ ptt แอบขึ้นราคามาหลายครั้ง ส่งผลให้

ptt Q นี้ จะกำไรเพิ่มหรือไม่

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 3:38 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ช่วงนี้ผมนำเทปบทเรียนฝ่าวิกฤตช่วงที่ท่านอ.ได้พูดปิดท้ายมาดูใหม่อีกรอบ เพราะผมเชื่อวาอีกไม่นานมีโอกาสเกิดวิกฤตศก.ขึ้นอีกครั้งสูงมากแต่ผมอาจจะผิดก็ได้ ทำให้ได้ข้อคิดว่าในเวลาเกิดวิกฤตคนที่มีกระแสเงินสดอยู่ในมือเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด ในทางกลับกับผู้ถือสินทรัพย์อยู่มูลค่าก็จะลดลงมาใกล้กับประชาชนคนธรรมดาที่มีรายรับเป้นเดือนมากขึ้น :)

โดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้ติดตามถาวะศก.โลกแบบใกล้ชืดมานานพอสมควรแล้ว เมื่อพิจารณาดูแล้วผมคิดว่าQE3น่าจะเกิดขึ้นได้ยากมากเพราะเฟดได้ให้ปากคำกับสภาไว้ว่าจะทำQE3อีกก็ต่อเมื่อเกิดดีเฟชั่นแต่การอัดฉีดเข้าสู่ระบบอย่างมากมายก่อนหน้านี้ก็เห้นได้ชัดว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อแล้วเฟดจะทำQEรอบใหม่ได้อย่างไร การประชุมครั้งต่อไปของเฟดจะเป็นอะไรที่น่าติดตามมากคับถ้ามีQE3ออกมาได้แต่ถ้ากองทุนใหญ่ๆคิดคล้ายๆกันว่าการทำแบบเดิมๆและหวังให้ได้ผลดีกว่าเดิมจะเป็นไปได้ไหม ก็ทำให้คาดเดาผลการกระทำของนักลงทุนหลังจากQE3ออกมาได้แล้วค่อนข้างยาก :8)

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 4:03 pm
โดย sathaporne
Jeng เขียน: ระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันนี้ ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะลงสุดๆเมื่อไร เพราะยังไ่ม่มีใครมองลง
ทำไมพี่ถึงคิดว่าตอนนี้ยังไม่มีใครมองว่าลงล่ะครับ
ผมเห็นหลายคน (ในเว็บเรานี่แหละ) บอกว่าถือเงินสดรอกันแล้ว (มากบ้างน้อยบ้าง)
ก็น่าจะแปลว่าตลาดถูกมองว่าจะเป็นขาลงแล้วไม่ใช่เหรอครับ
หรือว่าที่เห็นในเว็บเรานี่เป็นคนส่วนน้อย

Re: สาเหตุที่หุ้นขึ้น หรือลง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 4:07 pm
โดย sathaporne
Jeng เขียน:ณ เวลานั้นเข้าใจว่า ptt 228 ก็มีคนเข้าไปรับตลอดทาง

แต่พอ ptt 140 พี่ตั้งกระทู้ชวนซื้อ ก็ไม่มีคนสนใจ

และมีบางคนบอกว่า ptt จะถูกเอาออกจากตลาด

เรียกว่า ptt ถูกสุดๆ ptt 4 บอร์ดล้าง ไม่มีคนตอบเท่าไร
มานึกดูแล้ว ตอนนั้นถ้าผมจำไม่ผิด ผมก็เข้าไปซื้อptt ก็เพราะกระทู้พี่แหละมั๊ง :D