Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

:lol: การลงทุนเพิ่มในหุ้นพื้นฐานดีที่หวังรับเงินปันผล
ในการเข้าซื้อ จะรอดูผลประกอบการไตรมาส2ออก
ก่อนค่อยบเข้าซื้อ
หรือสะดวกตอนไหนซื้อตอนนั้น

ผมถือหุ้นไว้5ตัว ทุกท่านถือคนละกี่ตัวครับ

[quote="ปรัชญา"]:lol: เอ...ตั้งกระทู้นี้เสร็จนามสกุลหายไปไหน
ขอคำแนะนำด้วยครับ

พี่ปรัชญาหรือเปล่าครับ?

ผมถือเท่าๆกับพี่เลย 5 บริษัทพอดิบพอดี มากกว่านี้ดูไม่หมด

ส่วนตัวผมผมมองย้อนหลังไปดูเขานานเท่าที่ทำได้จากนั้นมองไปข้างหน้าตามแต่สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น แล้วเข้าซื้อ ซื้อแล้วซื้อเลย(มาร์เก็ตติ้งหมั่นไส้มาก) มีเงินเพิ่มก็ซื้อเพิ่มอีก ไม่เลือกเวลา แต่ผมจะดูว่าราคาใหม่เข้าใกล้มูลค่าที่แท้จริงที่ผมประมาณเองไว้แล้วหรือไม่ มีส่วนต่างพอหรือไม่

[quote="Mon money"] ผมเองครับ จู่ๆนามสกุลก็หาย จู่ๆนามสกุลก็มา
ไม่รู้ว่าคอมฯผมเป็นไงนะ

แบบคุณว่านี่รักแล้วรักเลย

คุยมานานเรียกผมว่าพี่ชักเขิน
ผมอายุ44ปี ไม่ทราบว่า....
คุณMon money อายุเท่าไหร่ครับ
จะได้คุยกันถูก

นี่คุณปรัชญาไหนครับ ไม่ได้ล็อกอินสงสัยจะคนละคนกับพี่ปรัชญา อ้าว คนเดียวกันหรือครับ ตอบพี่นี่ผมเขินแย่เลย

ผมว่าแล้วแต่เทคนิคแต่ละคนครับ พวก VI ส่วนใหญ่จะใช้วิธีคำนวณหาราคาเหมาะสมแล้วค่อยเข้า ดู PEG ดู FCF เผอิญผมคำนวณไม่เก่งเลยไม่ถนัด

ส่วนตัวผมใช้วิธีทะยอยซึ้อครับ หลังจากปิ๊งหุ้นตัวนึงก็จะเริ่มเก็บจากน้อยมากๆ ค่อยๆซื้ออาทิตย์ละครั้งสองครั้งเพื่อให้เกิด feeling

หลังจากนั้นจะเริ่มดู chart ว่ามีแนวรับแนวต้าน หรือสัญญาณ overbought oversold บ้างหรือเปล่า

พอเริ่มจะเห็น pattern ก็จะซื้อมากขึ้นทีละนิดไปเรื่อยๆ บางทีขึ้นพรวดมาก็ลองขายดูบ้าง ซื้อตามน้ำบ้าง ซื้อตามน้ำนี่มันส์ครับ เลือดสูบฉีดแรงดี

แต่ถ้าตกฮวบก็จะเช็คข่าวก่อน ถ้าไม่มีข่าวและมี volume เข้ามามาก ก็จะถือและซื้อเพิ่ม แต่ถ้ามีข่าวไม่ใคร่ดีก็ขายทิ้งจำนวนนึงเพื่อลดความเสี่ยง แล้วรอดูสถานการณ์ ถ้าเป็นข่าวลวงก็ซื้อกลับ (ก็เหมือนจ่ายพรีเมี่ยมประกันความเสี่ยงแหละครับ)

[quote="CK"]

คุณCK ให้แนวคิดที่ดีและมีประโยชน์ครับ
ผมและน้องที่เข้ามาอ่านจะได้ทำตามครับ

อ้อ ผมถืออยู่คนเดียวก็ 12 ตัว รวมกับพอร์ตภรรยาก็ เกือบ 30 ตัวครับ แนวการลงทุนของผมจะคล้าย peter lynch มากกว่าวอเร็น หุ้นหนักๆ (เกิน 20%) จะมีแค่ 3 ตัวคือ APRINT METCO DVS ส่วนตัวอื่นๆก็เหมือนศึกษาติดตามไป มีประมาณ 4 ระดับครับ

ที่นามสกุลของพี่ปรัชญาหายไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็พี่โพสในฐานะguestนามสกุลมันก็จะซ้ำกับชื่อที่สมัครสมาชิกไว้ไงครับ ส่วนตัวผมมี7ตัวครับพยายามจะโฟกัสอยู่เหมือนกันกะให้เหลือแค่5ตัว ส่วนตัวผมแรกๆบ้าratioครับแถมหลงไปซื้อblue chipแทนvalueซะอีก แต่ตอนนี้ก็ได้เฮียmonเขาสอนเลยเริ่มเห็นมุมมองใหม่ๆ จริงๆแล้วผมลงสนามได้ประมาณปีเศษๆเองครับ

[quote="ปรัชญา"]:lol:

แหมเรียกผมพี่หมดเลยแก่จัง
ช่วยบอกหน่อย ว่าคุณๆอายุเท่าไหร่จะได้วางตัวถูกครับ

ผม25ครับ

[quote="ปรัชญา"]:lol:

หุ้นคุณCK นี่คุณภาพจริงๆ
โดยเฉพาะ เจ้าตัวผลิตหัวอ่านCD
และทำกล้องดิจิตอลน่ะ

ผม 37 ครับ ปีม้าเหมือน genie

เพิ่งเล่นหุ้นมา 5-6 ปี ก่อนโพล๊ะประมาณ 1 ปี

สงสัยผมคงต้องหาโอกาสขอความรู้จากพี่CKถ้ามีโอกาส ผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

ขอบคุณครับพี่ปรัชญา ไอ้ตัวนี้เป็นตัวสุดโปรดผมเลยครับ เริ่มซื้อตั้งแต่ 60 ส่วนใหญ่เล่นรอบครับ หลายรอบแล้ว ตอนนี้กลายเป็นหุ้นหัวใจหรือหุ้นปันผลซะแล้วครับ

อาจจะคล้ายๆพี่ก็ได้ครับ พวกจิ้งจก ผมเริ่มจะสะสมหุ้นแบบ vi ไม่นานมานี้เอง ปกติภรรยาผมเป็น vi ส่วนผมเป็นมันทุกอย่าง ลองซื้อมาแล้วเกือบทุกประเภท

ขนาด ขาเป๋ ยังเอากะเค้าเลย เคยมีเป็นแสนหุ้น warrant ใกล้หมดอายุก็เคยมี ซื้อตามมาร์ตามนักวิเคราะห์ก็เคย ตอนนี้ตัดสินใจซื้อเน้นคุณภาพครับ ถือว่าเป็นมือใหม่

ต้องศึกษาจากพี่ๆและน้อง genie yoyo mon money เพราะเล่นแนวนี้ก่อนผมเยอะ

อ้อ แล้วก็ยินดีรู้จักกับน้อง genie เช่นกันครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย ผมมือใหม่เหมือนกัน (โดยเฉพาะ vi)

พี่CKครับผมต่างหากที่ต้องฝากตัว ถึงผมจะเริ่มเป็นแบบVIแต่ถ้าจะนับเที่ยวบินแล้ว ผมยังต่างชั้นกับพี่อยู่เยอะครับ

เรียกพี่ถูกแล้วครับเพราะผมยังวัยรุ่นอยู่ครับ 34 เอง

ของผมมีAPRINTเป็นเรือธงครับ กอดมาตั่งแต่35บาท

พี่CKก็ว่าไป มือใหม่แนวVI อย่างนี้เขาเรียกผ่านไฟมาหลายกองแล้วครับ(ล้อเล่นน่า....อย่าถือสาวัยรุ่นเลยนะครับ)

[quote="Mon money"]

งั้นทุกท่านก็ยกให้ผมเป็นพี่ซิครับ เหมาโหลเลย
ผมว่าน่าจะเริ่มต้นแนวVIเลย
ผมเมื่อก่อน ก็ถูกเพื่อนขอดค่อนสารพัด
แต่ทุกวันนี้เขา นั่งมองผมแล้ว
ซื้อหุ้นแล้ว ก็ทำงานหาเงินไม่ค่อยเครียดเหมือนเดย์เทรด
ผมมีส่วนคล้ายคุณCK คือเกิดเป็นปลวก
ปลีกงอกออกมาก็เป็น............แมงเม่า
หมดเงินไป2รอบ กว่าจะเจอแนวทางVI
ที่คิดว่าน่าจะมั่นคงและมั่นใจ
ก็จะขอไปตามทางเส้นใหม่นี้
ใครจะว่าเราจิ้งจกเปลี่ยนสีก็ช่างเขาเถอะ
อายุมากขึ้น ก็ต้องหาทางที่มันเสี่ยงน้อยลง
คุณCK เก่งนะครับ ขนาดเฮียคลายเครียด
ที่พันทิบยังถามผมว่าคุณCKเป็นใคร คุณภาพคับแก้ว
ว่างๆลองไปอ่านที่พันทิบก็ได้ ในหัวข้อคุณสุเกียงครับ

ยังอยู่กันปะครับ พี่ๆทุคน

อ่านแล้วครับ พี่ปรัชญา

กระทู้ เรียนคุณสุเกียง ใช่ไหมครับ

ผมว่าทุกคนที่เล่นหุ้นและกำลังจะเล่นน่าจะอ่านบทความนี้ของเฮียคลายเครียดนะครับ บทเรียนราคาแพงที่สามารถเรียนได้ก่อนที่จะเจอกับตัวเอง น่าจะขอเฮียแกเอามา post ทั้งในเว็บนี้และ taladhoon.com เป็น sticky post ซะหน่อย

น้อง Genie ว่าไงครับ

แล้วก็ขอบคุณพี่ปรัชญากับเฮียคลายเครียดครับที่ชม ผมมือใหม่จริงๆครับ ไม่ได้ถ่อมตัว อาจจะรู้เรื่องจิปาถะหลายเรื่อง แต่ไม่เก่งจริงสักเรื่อง

น้อง (รึเปล่า) Heng1234 อยู่ไหนครับ?

พี่Ckครับ ถ้ามีกระทู้ไหนที่เอามาจากที่อื่นแล้วพี่คิดว่ามีประโยชน์แก่คนอื่นๆพี่โพสมาเลยครับ อย่างเมื่อก่อนพี่ครรชิตก็ยังเคยโพส"จดหมายจากลุงขวด"เลยครับ แทบจะเป็นโพสคัมภีร์อันนึงเลยทีเดียวผมว่ากะจะลองเอามาเรียบเรียงแล้วเอาขึ้นเป็นบทความด้วยซ้ำ หรือพี่CKลองเรียบเรียงแล้วส่งมาสิครับจะได้เอาขึ้นเป็นบทความบนinvestor guideไงครับ

ผมอายุ 35 ปี เล่นมากว่า 10 ปีครับ ก่อนสงครามอ่าวรอบแรกนิดหน่อย ก่อนหน้านั้นเล่นแบบเก็งกำไร ได้บ้างเสียบ้าง แต่พอเริ่มเรียน MBA ที่ธรรมศาสตร์ มีความรู้ Macro Economics Accounting Finance จึงรู้ว่าสภาวะเศรษฐกิจของประเทศกำลังแย่มากในปี 2539 จึงขายล้าง Port แล้วเลิกเล่นเลย หลังจากนั้นก็เริ่มลงทุนตอนดัชนีประมาณ 200 เศษ เพราะคิดว่าดอกเบี้ยกำลังลดลง บริษัทหลายแห่งเริ่มดีขึ้น จึงซื้อ S-ONE-W3 เพราะ KGI เข้ามาเพิ่มทุนแล้ว อีกทั้งบริษัทไม่มีหนี้ และระยะเวลาแปลงสภาพอีกนาน จึงซื้อไว้ที่ 0.60 บาทหมด Port เลย ไม่นานประมาณ 2 เดือนหุ้นขึ้น ผมขายได้ที่ 3.60 บาท หลังจากนั้นก็เล่นหุ้นมีข่าวก็มีกำไรแทบทุกตัว โดยใช้หลักเทคนิคัลเป็นหลัก ช่วงหลังเริ่มศึกษางบการเงินอย่างถ่องแท้ อ่านหนังสือหลายเล่ม คุณเชื่อไหมผมซื้อ MANRIN ที่ 6 บาทเป็นแสนหุ้น ซึ่งตอนนั้นบางวันแถบไม่มีซื้อขาย แต่บริษัทไม่มีหนี้ มีเงินสดสุทธิประมาณ 6 บาทต่อหุ้น(ซึ่งได้จากการขายอาคารคอนโดให้ Property Fund) และมีที่ดินอีกหลายแปลง ผมคิดว่าผมซื้อบัญชีออมทรัพย์ โดยได้ที่ดินแถม ต้นปีบริษัทจ่ายปันผลพิเศษ เนื่องจากกำไรจากการขายอาคารหุ้นละ 4.20 บาท ผมเลยขายได้ที่ 13 บาททั้งหมด ผมจึงเริ่มที่จะเชื่อการลงทุนแบบ VI หุ้นตัวต่อๆมาที่ผมซื้อจึงเป็นหุ้นที่หาคนรู้จักยาก เช่น SE-ED OGC LANNA GYT TIW CM WG ซึ่งบางตัวกลายเป็นหุ้นที่มีนักวิเคราะห์พูดถึงบ้าง แต่ตอนผมซื้อผมหาบทวิเคราะห์หรือคำปรึกษาไม่ได้เลย ต้องวิเคราะห์ด้วยตนเอง บทสรุปที่ผมเปลี่ยนแนวการลงทุนเพราะ VIช่วยลดความเสี่ยงลงมาก มีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปรกติ หลับสบายไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ปัจจุบันผมลาออกจากงานใช้ชีวิตเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ไม่ต้องเฝ้ากระดานหุ้น แต่ผู้ที่จะลงทุนแบบ VI นั้นควรจะมีความรู้มากๆในเรื่อง บัญชี การเงิน และมีจิตใจที่มั่นคงอย่าอ่อนไหว และเมื่อคุณลงทุนประสบความสำเร็จ 2-3 ตัวแล้วคุณจะมั่นใจในการลงทุนแบบ VI

นับถือครับคุณ chatchai เก่งจริงๆ

ถ้าดูอายุตัวของผมสามสิบกว่าคงเป็นพี่หลายคน แต่ถ้าดูอายุการเล่นหุ้นเพิ่งเป่าเค็กครบรอบ 1 ปีไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ดังนั้นมุมมองในหุ้นแต่และแบบคงต้องขอประสบการณ์ของศิษผู้พี่ทั้งหลายช่วยแนะนำครับ ปรกติถ้าไม่ติดธุระจริงๆผมจะเข้ามา web นี้ทุกวันเวลา สามทุ่ม ถึงสี่ทุ่มครึ่งโดยประมาณครับได้ประสบการณืดีๆไปเยอะครับ

ขอรบกวนเข้ามาอ่านด้วยคนค่ะ กำลังเข้ามาเก็บข้อมูล ว่าการลงทุนแนวไหนถึงจะเหมาะกับการลงทุน ยังไม่ได้ตัดสินใจคงปีหน้าจะเริ่มลงทุนรบกวนแค่นี้ล่ะค่ะ

เรียนคุณเบญจพร

ลองอ่านบทความของคุณ chatchai ดูซิครับจึงตัดสินใจ ผมเข้าใจสิ่งที่คุณ chatchai เล่าให้ฟังเป็นอย่างดี แล้วก็เปลี่ยนไสตล์การลงทุนมากเกือบสองปีแล้วครับ ลงทุนแบบ VI นี่กินอิ่ม นอนหลับครับ ทำงานประจำได้อย่างมีสมาธิด้วยครับ อยากจะแนะนะเพิ่มเติมด้วยครับว่า ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงปีหน้าครับ เพราะการลงทุนแบบ VI นี้หากพบหุ้นที่คิดว่า undervalue ก็ควรเริ่มทยอยลงทุนได้ครับ หากมีคนเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่เราคิดราคาอาจจะเริ่มตอบรับหรือขึ้นไปแล้วครับ อ้อเป็นข้อแนะนะเฉยๆ จะเริ่มปีหน้าก็ไม่ว่ากันครับ

ได้คุณCK คุณthanwa คุณgenie
คุณMonmoney คุณchatchai
มาช่วยเพิ่มความรู้และแลกเปลี่ยนประสพการณ์กัน
อนาคตก็คงเพิ่มขึ้นอีกครับ ไม่เห็นน้องyoyoเลย]

ผมคงต้องเรียนรู้จากพี่ปรัชญามีมากครับ อ่านการลงทุนของพี่สำหรับ UGP และ FE น่าสนใจมากครับ ผมกำลังมองหาหุ้นที่ตีแตกเหมือนกันครับ

thanwa เขียน:ผมคงต้องเรียนรู้จากพี่ปรัชญามีมากครับ อ่านการลงทุนของพี่สำหรับ UGP และ FE น่าสนใจมากครับ ผมกำลังมองหาหุ้นที่ตีแตกเหมือนกันครับ

ขอให้มีความตั้งใจก็จะพบความสำเร็จครับ
รอโอกาสและจังหว่ะมีมาตลอดครับ
แต่ใครจะคว้ามันไว้ได้เท่านั้นครับ

Success is never final. Failure is never fatal.

มาแล้วครับ
เมื่อวานหายไปเที่ยวมา ไปดูหนังที่ sf มาบุญครองครับ
ไม่ไป egv ครับเพราะมันแพงกว่ากันตั้ง 40 บาท
แต่ก็คนเค้าก็ยังเยอะไม่เปลี่ยนเลย

เข้ามาดูพักหลังๆนี้ ในบอร์ดเรียกได้ว่าฟื้นขึ้นมาเลยนะครับ
หลังจากเปลี่ยนกลุ่มผู้บริหาร เห็นผลทันตาเลยครับ

การเองก็ยังมือใหม่นะครับฝากเนื้อฝากตัวพี่ๆทุกท่านไว้ด้วยไว้ด้วย

กลับมาตอบหัวข้อกระทู้ที่ตั้งไว้ดีกว่า
เวลาเข้าซื้อหุ้นก็ทยอยซื้อไปเรื่อยครับ
บางตัวก็รอดูจังหวะบ้าง ถ้ายังไม่แน่ใจในผลประกอบการณ์
แต่บางตัวที่ค่อนข้างแน่ใจก็จะรอจังหวะราคา ไม่ได้รอดูผลประกอบการณ์เท่าไหร่
เพราะกลัวว่าถ้าช้าไป หุ้นมันจะไปเอาเสียก่อน
อย่าง astl ก็ตัวนึงครับ รอดูผลประกอบการณ์ตอน Q1 เพราะยังไม่แน่ใจ
ไม่ทันไรวิ่งไปโน้นเลย
แต่ก็ไม่ได้เสียดายอะไรครับ ผมว่าหุ้นดีๆก็ยังมีให้ shop อีกเยอะครับ
ไม่ได้รีบร้อนอะไร

ส่วนจำนวนหุ้นตอนนี้ก็ 7 ตัวครับ กะว่าจะคงไว้ที่จำนวนนี้ไม่ให้เกิน