Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ถึงแม้ปัจจุบันหุ้นหลายตัวปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก   แต่ก็ไม่มีใครสามารถคาดได้ว่าหุ้นได้ปรับตัวถึงจุดต่ำสุดหรือยัง เพราะตลาดหุ้นทั่วโลก ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอยู่ จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

แต่อย่างไรก็ดี ในสภาวะตลาดเช่นนี้ นักลงทุนก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ได้อยู่

ซึ่งสภาวะตลาดที่อ่อนตัวลงเช่นนี้จะเห็นว่ามีหุ้นพื้นฐานหลายตัวที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก ทำให้ผลตอบแทนของเงินปันผล เทียบกับหุ้น ณ ราคาปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซึ่งมี อัตราส่วนเงินปันผล ต่อราคาหุ้น (Dividend Yield) สูงกว่า 5% อยู่หลายตัว  แต่หลายคนก็ยังรู้สึกว่า แม้จะซื้อหุ้นไปแล้วเพื่อรอรับปันผล แต่หากราคาหุ้นยังปรับตัวลดลงต่ำกว่า ปันผลที่จะได้รับ จะทำอย่างไร เท่ากับว่าเงินที่ลงทุน สุดท้าย ก็ต้องขาดทุนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอยู่ดี

ดังนั้นกลยุทธ์ที่ผมจะมาแนะนำ ให้กับเพื่อนนักลงทุน ได้รู้จักในบทความนี้คือ การทำ hedging หรือ กลยุทธ์การล้อมกรอบ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน โดยการใช้เครื่องมือทางอนุพันธ์ ซึ่งอาจจะใช้ ตราสารเช่น Option หรือ Future เข้ามาช่วย ซึ่งจะทำให้สามารถ กำหนด ผลตอบแทนการลงทุนได้ จากเครื่องมือดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดที่มีความผันผวน ณ ตลาดตอนนี้

อ่านบทความ และ Download ตารางหุ้นปันผล จาก link ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

http://www.investorchart.com/index.php? ... 18&Ntype=7

ลองรัน Back Testing ดูรึยังครับ?

ผมว่ามันไม่น่าจะ work นะ เพราะ หุ้นที่ high dividend มันไม่ค่อยจะ correlate กับ SET50 Futures แถมถ้า้ Hedging ตาม beta ของพอร์ต คำถามคือ จะใช้ historical beta เหรอครับ?

นอกจากนี้ถ้า hedge ไปแล้วเวลาที่ SET50 Futures วิ่งขึ้น โดนเรียกมาร์จิ้นนี่ต้องทำยังไงบ้างครับ? ต้องเตรียมเงินสดเอาไว้ cover มาร์จิ้น หรือว่าให้ขายหุ้นออกมา cover Margin ดีครับ

ถ้าต้องขายหุ้นมา Cover มาร์จิ้นนี้ต้อง T+3 ถึงจะได้เงิน ในขณะที่จ่าย Margin นี่ T+1 ก็ต้องจ่ายเงินแล้ว ตรงนี้จะแก้ปัญหายังไงครับ?

 :?:  :?:

picatos เขียน: ผมว่ามันไม่น่าจะ work นะ เพราะ หุ้นที่ high dividend มันไม่ค่อยจะ correlate กับ SET50 Futures

เห็นด้วยครับ

แล้วถ้าเรา short future ในช่วงก่อนที่หุ้นจะขึ้น XD พอถึงวันที่หุ้นขึ้น XD เราจะได้กำไรหรือเปล่าครับ