Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ลองเล่าสู่กันฟังหน่อย

เห็นหุ้นลงๆๆๆ แล้ว หลายๆคนก็เสียวๆ

ลองเปิดเผยความรู้สึกกันมาครับ

ทั้ง vi รุ่นเก่า vi รุ่นใหม่

สำหรับผมแล้ว ดันซื้อก่อน subprime 1 วัน และมีพอร์ทเดิม

ก็ด้วยความมั่นใจในพื้นฐาน ของหุ้นที่ซื้อ

ก็เลยถือดูมันลงๆๆๆๆ แต่ แปลกไม่รู้สึกอะไรเลย

ตอนนี้ก็ปรับขึ้นมา เกือบจะ เสมอตัวแล้ว

เห็นหลายๆตัวแล้ว

uec 11.25 เหลือ 6.7

pttch 130 เหลือ 90

tta 66.50 เหลือ 32.50

egco 122 เหลือ 92.50

tpipl 17.40 เหลือ 5.85

sc 13.60 เหลือ 10.80

เท่าที่เห็นแว๊บๆโดยประมาณ

สำหรับผมแล้ว หุ้นยิ่งลงยิ่งดี แต่รู้สึกตอนหุ้นลง นี่ อารมณ์หลายๆคนหดหู่กันนะ เดานะ

จริงๆ แล้ว เราต้องดีใจ และตื่นขึ้นมาดู ว่าลงเพราะอะไร มีเหตุผลอะไรแค่ไหน

น่าจะเป็นโอกาสซื้อนะ

อืม ตอนนี้หุ้นก็ขึ้น แต่จะขึ้นจริงแค่ไหน จะมี subprime รอบสามเมื่อไร อิอิ ประสบการณ์จะช่วยให้คราวหน้า ไม่เสียโอกาสครับ

Jeng เขียน:เห็นหลายๆตัวแล้ว

uec 11.25 เหลือ 6.7

pttch 130 เหลือ 90

tta 66.50 เหลือ 32.50

egco 122 เหลือ 92.50

tpipl 17.40 เหลือ 5.85

sc 13.60 เหลือ 10.80

เท่าที่เห็นแว๊บๆโดยประมาณ

สำหรับผมแล้ว หุ้นยิ่งลงยิ่งดี แต่รู้สึกตอนหุ้นลง นี่ อารมณ์หลายๆคนหดหู่กันนะ เดานะ

จริงๆ แล้ว เราต้องดีใจ และตื่นขึ้นมาดู ว่าลงเพราะอะไร มีเหตุผลอะไรแค่ไหน

น่าจะเป็นโอกาสซื้อนะ

อืม ตอนนี้หุ้นก็ขึ้น แต่จะขึ้นจริงแค่ไหน จะมี subprime รอบสามเมื่อไร อิอิ ประสบการณ์จะช่วยให้คราวหน้า ไม่เสียโอกาสครับ

อันนี้แหละครับ ที่ผมได้เรียนรู้จากเหตุครั้งนี้ ดันไปตกใจกับราคาที่ลดลงไปมาก เลยปอดตัวเองไปมากเหลือแค่ 2 ตัว พอมันขึ้นก้อเลยได้แต่นั่งน้ำลายตก คิดว่า "รู้งี้"

ตอนนี้เลยเข้าใจที่ดร. บอกว่า Stay invest, stay calm เราควรสนใจตัวกิจการมากกว่า ราคาไว้ดูตอนที่จะซื้อดีกว่า

ได้ sc ตามที่อาจารย์เจ๋งเชียร์นั่นแหละค่ะ ขายเมื่อไหร่จะมาทำธุรกิจด้วย ตอนนี้ไม่มีเงินแล้ว

ถือให้พ้น เมษาละกัน ได้ปันผลฟรี ไม่น้อยนะนั่น

ยังสงสัยอยู่ครับ
ว่าผลกระทบจาก subprime หมดไปแล้วหรือยัง

ไล่ซื้อตอนขาลงมาเรื่อยๆ จนได้ราคาที่ดีทีเดียว

และแล้ววันที่ 30 เห็นยังลงต่อ เลยแสดงฝีมือทายใจ Mr.Market ว่าน่าจะขายหุ้นราคาขาดทุนออกมาอีก เลยตัดใจ "ขายทิ้ง ทั้งหน้าตับ" เพื่อกะไปรอช้อนในราคาที่ต่ำกว่า อย่างน้อยสัก 1 บาทก็ยังไงดี ด้วยความน่าเลือด และบังอาจไปคาดเดาตลาด....

หลังจากที่เคาะขายหุ้นออกมา คำสั่งสือสวนกลับเข้ามาทันที ตลอดวัน และคำสั่งขายของเราแทบจะเป็นคำสั่งขายสุดท้ายของวันไป

ด้วยความโลภแท้ๆ จึง บังอาจจะทำนายทิศทางตลาด

ซื้อจนอิ่มเลยครับเดือนที่ผ่านมา ไม่รู้จะขอบคุณ subprime ดีหรือเปล่า

(แต่ดูกันยาวๆๆ ดีกว่า ไม่แน่อาจจะลงมาใหม่อีกรอบ ไม่อยากจะรีบดีใจจนเกินไป พึ่งจะผ่านเดือนแรกไปเอง)

8) สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร

555 สงครามตลาดหุ้น ไม่เคยจบหรอกพี่พอใจ

ทุกอย่าง dynamic ตลอดเวลา

ได้เรียนรู้ว่า ทำตามหลัก VI แล้วเราสบายใจมากๆตอนหุ้นลงครับ

ผมได้ลองทำแล้ว 2+ ครั้ง ช่วงหุ้นตก
แล้วทำให้รักการลงทุนแบบ VI ขึ้นมาจับใจครับ

ได้มีการพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ข่าวร้ายมักจะมาพร้อมๆ กัน
แล้วตลาดมันก็จะตก อย่างรุนแรง
แต่สุดท้าย... มันก็จะกลับมา ครับ

ที่ผ่านมาเจอเพื่อน เพื่อนก็จะถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เห็นข่าวว่าหุ้นตก
ผมก็ตอบว่า.. อืมเห็นข่าวในทีวีบ้างเหมือนกัน
ถามกันหลายๆ คนเข้า ก็แอบคิดว่าเอ.. หรือเราจะกำลังทำผิด (ลังเลนิดหน่อย) เพราะวันๆ ก็ยังคงนั่งจัดการกับเงินสดที่จะมาซื้อหุ้นแบบลืมขาย

ส่วนนึงผมคิดว่ามันก็น่าขันไม่น้อย
ที่ตอนซื้อ เราวิเคราะห์หุ้นมากมาย อ้างว่าจะลงทุน 5 ปี
แต่แค่หุ้นตก ยี่สิบจุด ติดๆ กันหน่อย ก็หวั่นซะแล้ว
แบบนี้ไม่มองกิจการจริงๆ นี่ มองแต่ราคาบนกระดาน

ปัญหายังไม่จบเลยครับ อย่าพึ่งรีบสรุปบทเรียน

ใจเย็นๆ

อยากสรุปเป็นระยะๆ เพื่อการเรียนรู้ ไว้ป้องกันตัวเอง และเผื่อฉวยโอกาสดีๆ ไม่ให้เป็นอากาศ ในกรณีที่ Mr.Market ให้ราคาหุ้นผิดปกติ

จิตใจหวั่นไหวมาก

กลุ้มเครียดพอสมควร
แต่ก็ไม่ได้ขายหุ้นออกแบบมีนัยะสำคัญ

ปล . อย่าไปเรียนเลย finance เรียนมาก รู้มากปนกันระหว่างวิถีแห่ง VI กับมุมมอง ทางfinance

ได้รู้ว่า ควรมีเงินสดเหลือเอาไว้บ้างเพื่อไว้ซื้อตอนช่วงตลาดขาลง
         ดัชนีหุ้นเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ คิดว่าจะลงกลับขึ้น คิดว่าจะขึ้นกลับลง
         ถ้าหุ้นพื้นฐานดีจริงราคาจะกลับมาได้เสมอ ถ้าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด

แต่เรื่อง sub prime ผมมองว่ายังไม่จบนะครับ ก็คงต้องดูต่อไปว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน

คิดว่าไม่จบเหมือนกันครับ

และคิดต่อว่า หุ้นขึ้นเพราะรัฐบาลใหม่ ต้องดีกว่ารัฐบาลเก่า เป็นความคาดหวังครับ

ระยะยาว ก็ต้องมาดูกันอีกที ว่าเป็นไง แต่หุ้นตั้งหลายตัว ก็ไม่ได้เกียวกับ subprime นี่ครับ

รอบนี้ไม่ได้ซื้อเลย
เพราะทำใจไม่ได้ ที่จะขายขาดทุนเพื่อมาซื้อตัวที่เล็งไว้
แม้ราคาจะโดนใจมาก scc 200

ดูด้วยความเสียดาย
แต่จะเตรียมตัวใหม่ เพื่อรอpanic ลุกใหม่
ใกล้แล้ว ต้องเตรียมเงินสด ท่องไว้

ในวิกฤต ย่อมมีโอกาส
ต้องดูว่า fund flow จะไหลเข้าถึงเมื่อไหร่ หากมีผลกระทบเพิ่มจากสหรัฐ
ก็คงปรับตัวลงอีกครั้ง แต่หลายๆตัวกลับขึ้นสวนตลาด การลงทุนแบบ VI
ทำให้เราลงทุนอย่างมีเหุตผลมากขึ้น

หนุกดีผมชอบมากเลย เป็นการวัดกึ๋น ได้ดีไนระดับหนึ่ง ผมคนหนึ่งที่ลงทุนตามกิจการไม่ได้ลงทุนตาม index
"จงเชื่อในสิ่งที่เห็น แล้วจะได้เห็นในสิ่งที่เชื่อ"

ข่าว subprime รอบนี้ สำหรับผม ยืนยันทฤษฎี Mr.Market ได้ดีทีเดียว

ข่าว subprime รอบแรกตอนเดือน ส.ค. ตอนนั้นผมเพิ่งลงทุนได้ไม่กี่เดือน ไปเรื่องงานที่เมกาพอดี นั่งดูหุ้นตกที่โน่นทุกวัน ดูพอร์ตแบบมือเย็นเฉียบ วิธีแก้เครียดของผมตอนนั้นคือ ปิดทีวี (CNBC) หันมาอ่านตำรา VI แล้วกัน ตอนนั้นเพิ่งไปซื้อ The New Buffettology กับ Dhandho Investor มาจากร้านหนังสือ (ฉบับจริง ขอโทษเฮีย WEB ด้วยคับที่ไม่ได้อุดหนุนแก) อ้อ.. ตำราเขาว่าไว้ นี่แหละโอกาสทองของ VI ในการซื้อหุ้นกิจการที่พื้นฐานดี ๆ เพราะผมคิดว่า reaction ของตลาดเราเป็นไปตามฝรั่ง ทั้ง ๆ ที่พื้นฐานกิจการของเราไม่ได้ถูกกระทบ (หรือกระทบก็ไม่มากมายแบบเมกา) แต่ดันมี reaction เหมือน ๆ กันกับเขา สุดท้ายก็ตัดสินใจเคาะซื้อแหลก

ผลที่ได้ของ subprime คราวก่อนคือ ผมได้ SE-ED มาเติมพอร์ทตัวเองที่ราคา 7.8 บาท และเป็นครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสได้ซื้อ SE-ED  

ข่าว subprime ภาคสองครั้งนี้ ก็เลยเตรียมกระสุนไว้เต็มที่ พอตกก็ซัดแหลกอีกเหมือนเดิม ได้ซื้อหุ้นตามราคาที่ตัวเองตั้งใจไว้

แล้วมันก้อเริ่มขึ้น .. ผมไม่รู้ว่ามันจบหรือยัง หรือจะมีออกมาเป็นระลอก หรือเป็นภาค 3, 4, 5

ผมรู้แต่ว่าต้องขอบคุณ subprime เพราะทำให้พอร์ทที่แดงมาเดือนนึง กลับมาเขียวได้  8)

ถ้ามี subprime อีกหลาย ๆ ภาค ตราบใดที่พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน ผมจะเตรียมกระสุนไว้ให้เยอะกว่าคราวนี้อีก

เสียดายครับ    
ไม่มีเงินจะซื้อแล้ว ช้อนหัก ไปหน่อนนึง

  ไม่รู้ว่าบรรลุหรือเปล่า แต่ รู้สึกเฉยกับเวลาหุ้นตก ขึ้นเรื่อยๆ

 จากที่สังเกตุ เวลา หุ้นตก  ก็จะเริ่มมี ข่าวร้ายออกมาเรื่อยๆ  ออกมาทุบ ตลอด เป็นมาตลอดจริง  

   จับสัญญาณ ซื้อ ก็เมื่อนักวิเคราะห์ บอก ให้หลีกเลี่ยง  หรือว่ารอดูสถาณการ์ณ ไปก่อน  นั่นแหละซื้อได้เลย

 เพราะ ส่วนนึง สำหรับบบ้านเรา ผมว่า เป็นรูปแบบเก็งกำไรเยอะมากในตลาดหุ้นดังนั้น เวลาหุ้นตก มันจะตก เวอร์ ไป

 แต่ว่าหุ้นในพอร์ท ไม่เขียวสักที  

ไม่รู้สึกอะไรมากครับ อันที่จริงมันยุ่งยุ่งอยู่ การบ้านเยอะ
แต่ว่าที่เหนื่อยคือการอธิบายให้คนในครอบครัวฟัง
เหมือนถ้ามันยังแดงอยู่เค้าก้อจะไม่มีวันเข้าใจ  :(

[quote="por_jai"]8) สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร[/qu


หรืออีกนัยหนึ่ง คือ   ทหารยังไม่ตาย    อย่าเพิ่งเก็บศพทหาร ใช่ไหมเฮีย

สรุปบทเรียนกันแล้วหรือครับ ผมว่าเกมนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง ยังมีอะไรให้รอดูอีกเยอะ และแน่นนอนสำหรับ VI ในวิกฤตมีโอกาส รอดูกันนะครับ

ยังไม่ได้สรุป และจริงๆแล้ว พวกเราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ทั้งคนที่คิดว่าสรุป และคนที่คิดว่าไม่สรุป

ตลาดหุ้น ไม่ใช่สงคราม ถ้านับคนที่สูญเสีย บาดเจ็บ มีให้เห็นทุกวัน ไม่ว่าตลาดจะขึ้น หรือ ลง

หมอยรรยง เคยบอกว่า คอยดูนะตอนตลาดขึ้นแรงๆ คนจะขาดทุน มากกว่า กำไร

ส่วนตอนตลาดลงแรงๆ คนจะล้มหายตายจาก เลิกเล่นไปเลย

อืม

และพูดต่อว่า อยู่สบายๆอยู่แล้ว มาเล่นหุ้นทำไม

ทางที่ดี อย่าเข้ามาเล่นจะดีกว่า

555 ฟังแล้วน่ากัวจัง

กลับมาที่กระทู้ ผมขออนุญาติถามว่า รอบนี้ได้เรียนรู้อะไรกันมั่ง

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่สรุป หรือไม่สรุป

ได้เรียนรู้พอสมควรครับ

ปกติถ้าเราถือหุ้นเต็มร้อย เวลาหุ้นตกเราจะไม่มีเงินซื้อตัวที่ตกลงมา โดยส่วนตัว ผมจะยังถือไว้ตลอด ตราบใดที่มันยังเป็นหุ้นที่ดี และคาดว่าราคาจะมากกว่านี้ในอนาคต ไม่เคยขายเพื่อหวังไปรับต่ำกว่า เพราะคิดว่าเดาไม่ได้

คราวนี้ ผมเลยขายตัวที่ตกน้อย ไปซื้อตัวที่ตกมาก และคาดว่าiปีนี้จะประกาศผลประกอบการดี มีปันผลดี ได้ yield+tax refund/price ประมาณ 8-10%

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นการขายหมูไปซื้อควายมารึเปล่า

ได้เรียนรู้ว่า ควรมีเงินสดติดตัว

เวลามีเทศกาล SET MEGA SALE
จะได้มีเงินไว้ชอปปิ้ง

ปกติผมถือหุ้นในพอร์ต แทบ 100% ตลอดเวลา
คราวนี้เลยได้จังหวะเพิ่มทุน เอาเงินสดมาซื้อหุ้น
ประมาณ 50% ของพอร์ตเดิม

ซื้อ SATTEL @ 8.45
ซื้อ EGCO @ 93

เหตุผลคือ มันลงมาเยอะ พอไม่กี่วัน เด้งขึ้นมาได้ 5%
ก็เลยขายออกไปบางส่วน ซึ่งมันก็ยังไปต่อ

ตอนนี้ หุ้นที่อยากได้ ไม่รีบซื้อแล้วครับ
ขอต่อราคาก่อน ลงมาแล้วถึงค่อยซื้อ

เรียนรู้ที่จะอยู่เฉยๆครับ