Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อยากรู้ว่า  การขายหมูเป็นยังไง

เพราะผม ได้แต่  ซื้อควาย..   และคัทควาย

มีคนเล่าให้ฟัง ว่า   เซียนท่านนึง ซื้อ UEC ไปแสนหุ้น

ตอนราคา 10 บาท (ก่อนแตกพาร์)...  และคัท ไปตอน 12 บาท

(เศร้ามากมาย)

ผมเคยแต่ถือไว้นานๆ จนหุ้นที่ตัวเองกำไร 30% ลงมาเหลือ 10 % แล้วค่อยขาย  (แต่ก็ยังดีเพราะมันลงมา เท่าทุน)

เพื่อนบางคน ถือไว้นาน เช่น AH  วิ่งจาก 13 ไป 20 แล้วลงกลับมาเหลือ ต่ำกว่าทุน จนต้องตัดใจขายไป

กลับมาพูดเรื่องนี้  

อยากทราบเหตุผลว่า ท่านขาย เพราะ เห็นว่า

ราคามันเกินพื้นฐาน หรือว่า ราคามันวิ่งเร็วเกินไป จน

น่าตกใจ  เช่น อยู่ดีๆ พุ่งพรวด ไป 20 % ภายใน 2-3 วัน

ทำให้ต้องรีบตัดใจขาย  เผื่อมันลงมาแล้วค่อยรับ



ไม่รู้ ว่าโพสต์ช่วงนี้ ผิดกระแสหรือป่าว เพราะหุ้นมันลงเอาๆ

แต่คิดว่า  ไม่น่าจะมีผลอะไรกับชาวไทยวีไออยู่แล้ว

ดังนั้น

ขอแชร์ประสบการณ์ ร่วมด้วยเหตุผลครับ...

ขอบคุณครับ

อีกประเด็นครับ

การตั้งแฟร์ value ที่ p/e นั้น

เช่น ตอนนี้ p/e 5 น่าจะขาย p/e8 ( ตามกลุ่มอุตสาหกรรม ,หรือตามอดีตของตัวนี้)


เทียบกับ การ Let's Profit run

แล้ว take profit กับการดูราคาจากกราฟ

เช่น  เอ.. มันผงกหัวลง

หรือว่า  การเอา valuation มาช่วยคำนวณ

อันไหน จะป้องกันการขายหมู ได้ดีที่สุดครับ...

ขายหมูไปหลายตัวครับ
มีหมูขายดีกว่า ขาดทุนนะครับ

ผมเคยชอบ นวนคร NNCL ที่ 1.30
พอตุนของครบตามที่ตั้งใจ ก็มาตั้งกระทู้เพิ่มความมั่นใจในนี้
เล็งว่า ถ้าเท่า book ในตอนนั้น คือ ประมาณ 1.7 ก็จะขายทิ้ง
(ที่ใกล้กรุง น้ำไม่ขาดแคลน ถึงท่าเรือ จะย้าย สนามบินจะย้าย
ราคาก็ไม่น่าตกต่ำมากกว่า book ขนาดนั้น)

ไปๆ มาๆ ขายได้ตั้ง 2.30 ก่อนดีใจแล้วก็เสียดาย เพราะมันทะยานไป 5 บาท
(เพราะอะไร คนที่นั่งในห้องค้า คงรู้ข่าว ว่า ทำไม )
ตอนนี้ กลับมา ถูกอีกครั้ง
ผมได้แต่ ร้องเพลงว่า กลับมาทำไม ฉันลืมเธอไปหมดแล้ว

แต่ในอีกทางก็รู้สึกดีนะครับ

เช่น spali ซื้อประมาณ 3 บาทเศษๆ
ขายได้ 4.30 บาท
ตอนนี้ ลงมาให้ตัดสินใจอีกแล้ว
รับคืนไปแล้วหน่อยนึงแล้ว

ซื้อด้วยเหตุผลไหน ควรขายด้วยเหตุผลนั้น

ซื้อมูลค่า ขายเพราะกราฟลง

ซื้อกราฟ ขายเพราะมูลค่าตก

อย่างนี้คงไม่ไหว เฉลี่ยแล้วคง ไม่สวย

เคยซื้อ RGR สมัยยังมีแต่โรงแรม ยังไม่ควบรวมกับ pizza company แล้วขายไปตอนประมาณ 7 บาท เพราะเชือ kimeng แต่ก็โทษตัวเองว่ายังอ่านประสบการณ์ T_T ตอนนี้ยังฝังใจ

ums ครับ เคยซื้อตอน 13-14 ขายแถวๆ 15 มั๊งครับ ถือทั้งพอร์ตเลยด้วย (ก่อนแตกพาร์ เพิ่มทุน)

PTT ครับ ซื้อ 167 ขายไป 180 แล้วมันก็วิ่งขึ้นวิ่งลง จน440 แต่ขายครั้งนั้นแล้วไม่เคยซื้อกลับอีกเลย

เรื่องขายหมูนี่บ่อย บ่อยมากกจนชินนน  :lovl:

แต่ตัวนึงที่ หมูไปแล้วไม่เคยลืม คือ KH

ตอนนั้นถืออยู่นานมาก น่าจะใกล้ๆปี
แล้วก็ให้มาทนรอไม่ไหว ตอนเชิงเขาพอดี(แถว ใกล้ๆสามบาท)
ตัดใจขายไป ไม่รอแล้ว ไม่วิ่งไปที่ราคาที่คาดซักที(ตอนนั้นเดาว่าตัวนี้ น่าจะเห็นห้าบาทอย่างน้อย)

พอขายไปได้ ไม่น่าจะเกิน ในอาทิตย์นั้นเลย ...

มันก็...พรวด พรวด พรวด พรืด พรืด พรืด
ใช้เวลาไม่น่าจะถึงครึ่งปี มันก็ไปลอยค้างฟ้าอยู่ ที่ห้าบาทจริงๆ
ในใจก็ยังคงคิด แบบเม่าขายหมู ว่า น่า เดี๋ยวก็ลง  :lol:

ปลอบใจตนไปเรื่อย เจ็ดบาทก็แล้ว เก้าบาทแล้ว จนเห็นสิบบาท  :vm:
ทุกวันนี้ เมื่อไรที่เห็นแรงขาย kh วิ่งผ่านหน้าจอ จะรู้สึกจิตใจแจ่มใสขึ้นเล้กน้อย   ทั้งๆที่วันนี้มันก็ยังอยู่ที่ เจ็ดบาท  :lovl:

ก็ได้แค่ปลอบใจตัวเองว่า น่า ก็ยังดีที่ตอนนั้นขายเอาไปซื้อ cpn
ถ้าตอนนั้นเอาไปซื้อตัวอื่นที่ไม่วิ่งเลย คงจ๋อยหนักกว่านี้

จบข่าวหมูอู๊ดๆค่ะ

เสี่ย blue กับ เสี่ย newbie ขอเหตุผลในการขายครั้งนั้นได้ไหมครับ

ว่า  เต็มมูลค่า หรือเจอ ตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า...

crazyrisk เขียน:เสี่ย blue กับ เสี่ย newbie ขอเหตุผลในการขายครั้งนั้นได้ไหมครับ

ว่า  เต็มมูลค่า หรือเจอ ตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า...

ตอนนั้นลงทุนแบบไม่รู้เรื่องเลยครับ เห็นว่ากำไรแล้วก็ขาย

ของผม ums ครับ

จำได้ว่าได้หุ้นจากพี่นริศ ปลายปี 49

คิดแล้วพีอีปีนั้นจะราวๆ 7-8เท่า

ส่วนปี 50 พีอีราวๆ สี่เท่า

บวกกับโทรคุยกับผู้บริหาร โม้ว่าจะโตต่อได้ สามสิบเปอร์เซนต์อีกสามปีติดกัน

และคู่แข่งก้อยังตามไม่ทัน ลานนา margin นิดเดียว อีกหลายปีถึงมีสงครามราคาได้(ผู้บริหารบอก)

มั่นใจซัดไป 40% ทุน สิบสี่บาทได้ (ยังไม่แตกพาร์ ไม่เพิ่มทุน ไม่ปันผล)

จำได้คร่าวๆว่าต้นปี(มั้ง)หุ้นตกหนัก

เลยทนไม่ไหวขายไปแถวสิบเจ็ดได้ครับ

กะว่ารอต่ำลงสักบาทสองบาทค่อยรับคืน

ที่ไหนได้.......  

แต่คราวนี้เลยท่องไว้ จะไม่ให้เกินกับ ptl อีกแล้ว....(กะขายช๊อตหลายรอบแล้ว)....อดทน....อดทน.....อดทน

UEC เลยครับ ราคาที่พูดถึงยังไม่แตกพาร์นะครับ

ซื้อตอน IPO วันแรกเลย (ซื้อเพราะเพื่อนบอกธุรกิจตัวนี้ดีมาก แต่เราไม่ค่อยจะรู้เกี่ยวกับธุรกิจนี้ซักเท่าไหร่ กับเป็นหุ้นเข้าใหม่เลยไม่มีข้อมูล) ซื้อตอน 8.25 บาท มาขายทิ้งตอนลงมา 7.50 บาท เพราะ ไม่มั่นใจเลย แต่พอมานั่งอ่านรายละเอียดดูดีๆๆ ธุรกิจดีเหมือนกันแฮะ เลยกลับมาซื้อคืนตอน 6.50 บาทประมาณนั้น แต่พอขึ้นมาถึง 10 บาท ก็เลยขายทิ้งไปหมดเลย แล้วมันก็วิ่งไปเรื่อยๆๆ ทำใจไม่ได้ไม่ยอมซือกลับมาอีกที จนมันวิ่งไปเรื่อยๆๆ จนถึง 40 บาท  :wall:

Pn3um0n1a เขียน:ซื้อด้วยเหตุผลไหน ควรขายด้วยเหตุผลนั้น

ซื้อมูลค่า ขายเพราะกราฟลง

ซื้อกราฟ ขายเพราะมูลค่าตก

อย่างนี้คงไม่ไหว เฉลี่ยแล้วคง ไม่สวย

นึกถึงตอนซื้อ OISHI เมื่อราว ๆ 3 ปีก่อน ราว ๆ 17-18 บาทครับ

ตอนนั้นซื้อเพราะเชื่อมั่นในตัวคุณตัน กอปรกับดูงบแล้วเวิร์ค

แนวโน้มธุรกิจอาหารญี่ปุ่นก็ดูดีกำลังเติบโตมาก

มีวันนึงมาร์โทรมาปลุกบอกโออิชิ 22 บาทแล้ว

เธอเสนอว่าน่าจะขายนะ ผมอ้ำอึ้ง เธอก็ตื๊อต่อ

แฮ่ ๆ อารมณ์ง่วงบวกกับอารมณ์ดีใจเพราะ OISHI เป็นตัวแรกที่ซื้อเลย

ก็เลยบอกให้ขายไปซะงั้น หลังจากนั้นผมก็ได้แต่เฝ้าดูราคามันไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จน 30 บาท

ขายหมูบ่อยไป   UMS เป็นอีกตัว  ซื้อ12 บาทก่อนแตกพาร์
ขายขาดทุนตอน 9 บาท จากนั้นอีก 1 เดือนวิ่งพรวดเป็นจรวดเลย

ซื้อ Shin-w1 3.22 บาทครับถ้าจำไม่ผิด ทั้งพอร์ต
ขายไป3.52 ก่อนมันจะทะยานไปทำ peak ที่แถวๆ 30บาท

ตัดขาย bay-w1 ที่แถวๆประมาณ 3.60 บาท ก่อนที่จะมาถึง ณ ปัจจุบัน

เข้าไปร่วมวง PSL ครั้งนั้นที่แถวๆ 16บาทก่อนแตกพาร์
ได้มาเพียง 1000หุ้น แต่ก็ไม่ได้ศึกษาละเอียดมากเพียงเห็นคุณ IH แนะนำ
สุดท้ายก็ทนความวังเวงไม่ไหวขายไปแถวๆราคาเดิม

และมีอีกเพียบครับแต่เริ่มเลือนไปมากแล้ว
ต้องไปรื้อหลักฐานความอัปยศมาดู ถึงจะจำได้

ไปมากลายเป็นกระทู้ เล่าความหลัง จนได้

งั้นขอแจม ตอนนั้นไม่ได้ VI แต่คงพอแข่งได้

NNCL-w1 ตั้งแต่ 2.5 บาท ก่อนแตกพาร์ ไปขายแถว 0.6-0.7 หลังแตกพาร์

หลังจากนั้น เห็นแวบๆ ว่า 3 บาทกว่า โดยใช้เวลา ประมาณ 2 เดือน

โดนเช็คชื่อชัดๆ  :vm:

ถ้าให้ย้อนคิด ก็คงผิดพลาดจริงๆ

เพราะ ซื้อ value แต่ไปขาย ด้วย tech

ก็ยอมรับกันไป ไม่ค่อยเอามาพร้ำเพ้อหรอก

ปวดหัว

NNCL-w1 แตกพาร์แล้วได้ 0.25 ปะครับ

หรือเท่าไร  

ถ้าได้ 0.25 พี่หมอนิวก้อได้เด้งกว่าแน่ะ...

ผมมีอีกตัว stpi เลย ทุนสี่บาท (อัดไป30% port)

ขายครึ่งนึงไป 3.2 อีกครึ่งขาย สี่บาท

ซื้อเพราะตามกระแส และหลังจากอ่านละเอียด....

ธุรกิจดี เทรนมา

แต่....ผู้บริหารแย่ไปหน่อยครับ ชอบแต่งงบ

ในที่สุดก็ต้องตัดใจขายเพราะทนแรงกดดันไม่ไหว(หลังจากซื้อมางบสองคิวถัดไป ไม่กำไร และกำไรน้อยมาก เพราะพี่แกเล่นโยกสำรองกันมั่ว)

บทเรียนคือ.....ซื้อหุ้น ต้องดูผู้บริหารทุกครั้ง.....

ปล.ผมว่ากระทู้นี้ดีนะครับ

เอาประสบการณ์ผู้อื่นเป็นบทเรียน...ไม่ต้องเจ็บเองอะ  :P

[quote="crazyrisk"]เสี่ย blue กับ เสี่ย newbie ขอเหตุผลในการขายครั้งนั้นได้ไหมครับ

ว่า

อายมากเลยครับ
ไม่อยากบอก
 :oops:  :oops:
ครั้งหนึ่งในชีวิต
ผมจำได้ว่า เคยขายหุ้น ปตท. ที่ราคา 34 บาท
 :oops:  :oops:

ลองเ้ข้า TRAF แถว3 บาท ซื้อไปไม่กี่พันหุ้น ดันถือเกือบเดือน ขายไป 8 กว่า สุดท้ายไป 20กว่าบาท  ป๊าดๆๆๆๆ....รู้งี้  :lol:

ขาย MINT ไป 4.70 บาท ครับ หลายปีมาล้ะ  8)  ...

และ STPI ที่ 2.88 ครับ  8)  ...

ไม่เอาๆ ไม่คิดๆ

ผมไม่อยากจะคิดถึงมันแล้วอ่ะครับ คิดทีไรก็

เหมือนเอาเล็บมาสะกิดแผลตัวเองทุกที

เป็นความทรงจำอันเจ็บปวดกับหุ้นมีเจ้าของ

จะตัวไหนอีกล่ะ ก็ บลิส ว ครับ...

ผมซื้อ  live  ประมาณเกือบ บาท  ไปปล่อย 4 บาทครับผม

ตอนนี้มัน 30 บาทแล้วครับ

ขอบคุณครับ

เคยได้ซื้อ ipo ปตท กับเขาด้วย
แต่โดนกดราคาจนจำใจปล่อยไปที่ 33 บาท

โดนล้อเลียนมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

ขายหมู trt ครับ... ซื้อไปเรื่อยๆ 4.4-4.8 สุดท้ายพอเห็นทองแดงขึ้นเอาๆ ก็เลยขายทิ้งซะ ขายเองทุบเองจาก 4.8 มา 4.2 ... แล้วสุดท้ายประกาศงบออกมาขาดทุนครับ ก็ดีใจที่เรายังหนีทัน ... ที่ไหนได้... ไอ้ 4.2 บาทสุดท้ายที่ขายไปนี่ราคา low เลยครับ ประกาศออกมาขาดทุนก็ยังไม่ลง ...

สุดท้ายมันวิ่งไป 6 บาทกว่าๆ ให้ช้ำใจเล่น  :lol:

ขาย UEC พาร์ 1 บาท ที่ 6.85
ขาย SE-ED  5.35
ขาย DRT พาร์ 5 ที่ 5.95
จำได้  แต่ ไม่ตอกย้ำตัวเอง  เหมือนตีกอล์ฟตกน้ำ  คิดมากแล้วตีช็อตต่อไปก็ไม่ดีอีก

ซื้อ ptt เกือบ all time low ที่ 29.50 ครับ ... 35 บาทขาย ตอนนั้นดีใจแทบแย่  :lol:

ซื้อ TTA ที่ราคา 30 บาท แล้วมันก็ตกๆ ไปเรื่อยๆ เลยไม่สนใจมัน มาดูอีกทีเห็นที่ 35 บาท ก็ขายไปเลยครับ แหะๆ ปรากฏว่ามันวิ่งไปเกือบ 70 บาท  :lol:  :lol:  :lol: