หน้า 1 จากทั้งหมด 2
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 4:05 pm
โดย beammy
เพื่อนๆ ชอบตัวไหนมากกว่ากันครับ
แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันนะ 8) ...
Re: +SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 4:56 pm
โดย picatos
beammy เขียน:เพื่อนๆ ชอบตัวไหนมากกว่ากันครับ
แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันนะ 8) ...
แล้วคุณ beammy มีความเห็นยังไงครับ?
มารอฟัง...
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 6:01 pm
โดย beammy
ผมยังไม่ได้ทำการบ้านอย่างเป็นจริงเป็นจังซักเท่าใดนักครับ คงตอบข้อมูลเชิงคุณค่าไม่ได้ ณ ตอนนี้ :P
แต่เมื่อมองราคา ประกอบกับการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอทุกไตรมาส จึงมีความเห็นอย่างหยาบๆ ว่า เหมาะกับคนที่มีเงินเย็นเจี๊ยบ และไม่ต้องการเห็นมูลค่าหุ้นของตนเหวี่ยงไปมาเหมือนรถไฟเหาะ และยังมีรายได้สม่ำเสมอจากการลงทุนในหน่วยลงทุน 2 ตัวนี้
พาร์ 10 บาทเหมือนกัน อัตราการจ่ายปันผลก้อใกล้เคียงกัน
แต่ทำไม SPF ถูกกว่าอะครับ
Mr.Market มองแบบไหนเนี่ย 8) ...
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 6:11 pm
โดย OMAC
SPF เป็นสิทธิการเช่าสนามบินระยะยาว 30 ปี ครับ
หมายความว่าพอครบ 30 ปี แล้ว นักลงทุนจะไม่ได้อะไรคืนเลย ตลาดก็เลย Discount มากหน่อย
แต่ Tfund ได้สิทธิในตัวสินทรัพย์จริงๆ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 6:16 pm
โดย beammy
OMAC เขียน:SPF เป็นสิทธิการเช่าสนามบินระยะยาว 30 ปี ครับ
หมายความว่าพอครบ 30 ปี แล้ว นักลงทุนจะไม่ได้อะไรคืนเลย ตลาดก็เลย Discount มากหน่อย
แต่ Tfund ได้สิทธิในตัวสินทรัพย์จริงๆ
ระหว่าง 30 ปีนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้ปันผลทุกไตรมาสตลอด 30 ปีนี้ หรือป่าวครับ / เว้นเสียแต่ว่างดจ่ายปันผล เพราะมีเหตุจำเป็นอย่างหนึ่งอย่างใด
ถ้าไม่มีเพิ่มทุนเลย ถือไปก้อได้ปันผลสม่ำเสมอ และอัตราของปันผลสูงมากด้วย (ไม่รู้อนาคตปันผลจะลดลงหรือไม่) ก้อน่าสนใจสำหรับผู้ลงทุน ครับ
ขอไปดูหนังสือชี้ชวนก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้มีความเห็นเท่านี้ 8) ...
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 6:23 pm
โดย beammy
ผมไม่มีหุ้นทั้ง 2 ตัวนี้นะครับ เข้ามาออกความเห็นธรรมดา ครับ 8) ...
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 7:03 pm
โดย junlastic
สวัสดีครับ ในฐานะที่ผมลงทุนใน spf อยู่น่ะครับ ก็เลยจะพอรู้อะไรบ้างน่ะครับ ส่วน tfund ไม่ค่อยรู้เรื่องละเอียดมากน่ะครับ คงตอบให้ไม่ได้
เหตุผลที่ spf มีอัตราส่วนลดจากสิบบาทและซื้อขายอยู่ที่ประมาณแค่ 8.65 บาท ทั้งๆที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนถึง 12 บาท ก็เนื่องมาจากเหตุผลหลายประการน่ะครับ จากที่ได้รวบรวมความเข้าใจมาก็คือ
1.ในตอนแรก บางกอกแอร์ต้องการจำหน่ายกองทุนในราคา 10500 ล้านบาทน่ะครับ แต่ว่าผู้จัดจำหน่ายสามารถรวบรวมผู้ที่สนใจได้เพียงแค่ 9500 ล้านบาทน่ะครับ ก็เลยเป็นผลให้หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วทำการตีราคาใหม่ ราคามูลค่าหน่วยของกองทุนจึงพุ่งขึ้นไปเกือบ 12 บาทต่อหน่วยลงทุนน่ะครับ ก็ถือเป็นความโชคดีของผู้ลงทุนน่ะครับ
2.โครงสร้างของกองทุนสนามบินเกาะสมุยก็คือว่า ทางบางกอกแอร์(ซึ่งได้เป็นเจ้าของสนามบินเกาะสมุย) ได้ให้สิทธิกองทุนสนามบินเกาะสมุยเช่าเป็นระยะเวลาสามสิบปีน่ะครับ โดยทางกองทุนก็ได้ให้บางกอกแอร์เช่าสนามบินกลับน่ะครับ โดยต่อสัญญาทุกๆสามปีน่ะครับ
โดยโครงสร้างรายได้ของกองทุนก็มาจาก สามทางด้วยกัน(คำที่ผมใช้อาจจะไม่ถูกต้องนะครับ)
2.1 จำนวนผู้ค่าบริการสนามบิน คือทางบางกอกแอร์เวย์ต้องจ่ายให้กับทางกองทุน อย่างต่ำ 0.15 บาทต่อไตรมาสน่ะครับ
2.2 ค่าภาษีสนามบินขาออก ซึ่งประมาณสามร้อยบาทต่อคนน่ะครับ สำหรับคนไทย ห้าร้อยบาทสำหรับคนต่างประเทศ ซึ่งกองทุนจะได้เป็นส่วนแบ่งจากเงินตรงจุดนี้น่ะครับ ร่วมกับบางกอกแอร์เวย์
2.3 จำนวนเครื่องบินที่เข้ามาใช้บริการน่ะครับ ซึ่งก็จะคิดเรตตามความใหญ่ของเครื่องบินน่ะครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 7:14 pm
โดย junlastic
ต่อนะครับ ก็ขอเล่าถึงความเสี่ยงของกองทุนทั้งหมดที่ผมรู้ก่อนนะครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไม mr.market ถึงกดราคาซะต่ำขนาดนี้น่ะครับ
1.กองทุนนี้เริ่มขายตอน ปลายปี 2006 นะครับ ช่วงนั้นก็หลายๆเหตุการณ์เลยน่ะครับ หลังจากการปฏิวัติ วางระเบิดในกรุงเทพ ทำให้ช่วงแรกที่เปิดขายราคาเคยลงไปแถวๆเจ็ดบาทกว่าๆ แต่ก็เป็นแค่ช่วงสั้นๆมากๆนะครับ แล้วก็มาฟอร์มตัวแถวแปดๆบาทแล้วค่อยๆขึ้นมาน่ะครับ
ช่วงนั้นก็เนื่องจากหลายๆเหตุการณ์ทำให้คนคาดกันว่าการท่องเที่ยวน่าจะซบเซาไรเช่นนี้น่ะครับ แล้วกองทุนเพิ่งเปิดด้วยทำให้ไม่มั่นใจว่าจะสามารถจ่ายปันผลได้ไหม
2.พอราคาเริ่มฟอร์มๆตัวขึ้นมาแถวๆเก้าบาทกว่าๆ (เดาๆเอานะครับ) ประมาณราวๆต้นปี สักกุมภาถึงเมษายนได้ กองทุนสนามบินเกาะสมุยก็เจออีกประเด็นน่ะครับ เรื่องกรมการขนส่งทางอากาศชงเรื่องจะสร้างสนามบินเกาะสมุยแห่งที่สองน่ะครับ ช่วงนั้น mr.market ก็เลยเป็นปัจจัยกดดันของกองทุนน่ะครับ ตอนนี้ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงตัวนี้อยู่นะครับ
เหตุผลที่อยากจะสร้างสนามบินเกาะสมุยแห่งที่สองก็เนื่องมาจากว่า บางกอกแอร์ผูกขาดน่ะครับมีแค่บางกอกแอร์เจ้าเดียวที่ได้สิทธิ์บินจากกรุงเทพมาเกาะสมุยน่ะครับ ช่วงนั้นก็ 32 เที่ยวบินต่อวันน่ะครับ เรื่องของค่าตั๋วที่แพงมาก คนก็เลยบ่นๆกันน่ะครับ
ส่วนเหตุผลลับๆ ก็เห็นเค้าบอกว่านักการเมืองสมัยรัฐบาลทักษิณไปซื้อที่ที่เกาะสมุยแล้ววางแผนจะมาขายต่อเพื่อสร้างสนามบินน่ะครับ (แต่อันนี้เรื่องซุบซิบนะครับ จริงป่าวผมก็ไม่รู้)
ผมว่าเพราะเรื่องของนี้จึงเป็นประเด็นหลักที่ทำให้บางกอกแอร์ต้องการที่จะจำหน่ายสนามบินสมุยให้เป็นกองทุนออกมาน่ะครับ รัฐบาลจะทำอะไรอาจจะรู้สึกลำบากเพิ่มขึ้นมาหน่อยนะครับ (อันนี้ความคิดส่วนตัวนะครับ)
3.เหตผลสุดท้าย ที่ทำให้ราคามันอยู่แถวนี้ก็เนื่องมาจากว่าข่าวเรื่องน้ำท่วมสนามบินเกาะสมุยตอนเดือนพฤศจิน่ะครับ ทำให้ราคาจากเก้าบาทกว่าๆลงมาถึงแปดบาทเล็กน้อยน่ะครับ (ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ผมเริ่มเข้าเวปวีไอ แล้วพี่ๆก็วิจารณ์กันน่ะครับ ก็เลยเป็นช่วงที่คนในเวปคงมีไปเก็บกันบ้างน่ะครับ)
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 7:31 pm
โดย junlastic
ต่อไปก็ขอเล่าถึงอัตราการเจริญเติบโตและความน่าสนใจของกองทุนสนามบินสมุยนะครับ
1.ในปี 2007 มีนักท่องเที่ยวขาออกจากสนามบินสมุยประมาณ 700000 คนน่ะครับ โดยมีอัตราการเจริญเติบโตโดยเฉลี่ยปีละประมาณสิบเปอร์เซนต์จากเมื่อห้าปีที่แล้ว มีการคาดการณ์ว่าอีกสิบปีข้างหน้าจะมีนักท่องเที่ยวใช้สนามบินเพิ่มเป็น 2 ล้านคนน่ะครับ (อันนี้ก็ทำให้ผมฝันหวานถึงเงินปันผลที่จะเพิ่มขึ้นน่ะครับ แต่ในความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรผมก็ไม่รู้นะครับ เพราะว่าบางบทวิเคราะห์เค้าบอกว่าเกาะสมุยตอนนี้ไม่ควรจะจำกัดนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มแล้วน่ะครับ ไม่งั้นจะทำให้ระบบนิเวศน์ไรเสื่อมโทรมน่ะครับ อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้นะครับ)
2.ปัจจัยที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นนั้น ถ้ากล่าวถึงสนามบินภูเก็ตก่อนนะครับ ที่มีนักท่องเที่ยวประมาณปีละ5.9 ล้านคน จำนวนเที่ยวบินประมาณ 60 เที่ยวต่อวัน(ตัวเลขไม่แน่ใจนะครับ) ส่วนสนามบินสมุยนั้นตอนนี้ล้านกว่าคน (มีเพิ่มจากการเดินเรือข้ามฟากมาน่ะครับ บางส่วนก็มาลงที่สุราษก่อน) จำนวนเที่ยวบิน 36 เที่ยวต่อวัน
ในขณะนี้นั้นเครื่องบินที่บางกอกแอร์ใช้อยู่นั้น ส่วนมากเป็นเครื่องบินรุ่นเล็กๆขนาดเจ็ดสิบกว่าที่นั่ง มีร้อยที่นั่งบ้างในบางเที่ยวบิน แต่ทางบางกอกแอร์ก็มีแผนที่จะเปลี่ยนลักษณะของเครื่องบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้นน่ะครับ โดยมีแผนในการซื้อเครื่องบินขนาดร้อยกว่าที่นั่งประมาณห้าลำในห้าปีน่ะครับ
นอกจากนี้จากประเด็นข้างต้นเรื่องการผูกขาดของสนามบินนั้นทำให้บางกอกแอร์ต้องยอมให้การบินไทยเข้ามาบินด้วยน่ะครับ ดังที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ โดยการบินไทยจะใช้เครื่อง boeing 737-400 จำนวน 147 ที่นั่ง(มั้งนะครับ) บินวันละสองเที่ยวบินน่ะครับ จึงเป็นข่าวดีของทางกองทุนเนื่องจากว่าเครื่องบินรุ่นนี้เป็นรุ่นใหญ่น่ะครับ ทางบางกอกแอร์ที่ใช้อยู่ก็ไม่ใหญ่ถึงขั้นนี้น่ะครับ จึงเป็นข่าวดีของทางกองทุนที่สนามบินจะได้รับอนุญาติให้เครื่องบินที่ใหญ่ขึ้นมาใช้ได้น่ะครับ โดยคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่ำอีกสิบเปอร์เซนต์น่ะครับ หลังจากที่การบินไทยเริ่มบินแล้วในวันที่ 15 กุมภานะครับ (แต่แทนที่ราคาตั๋วที่ประชาชนจะได้ใช้จะถูกลงกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงนะครับ ก็ต้องเช็คอีกที)
3.นอกจากนี้อัตราการเติบโตของกองทุนยังมีอีกสองทางคือ
3.1 ทางบางกอกแอร์มีแผนที่จะสร้างโรงแรมภายในบริเวณสนามบินเกาะสมุย รวมถึงทำเป็นแหล่งเดินชอปปิ้งด้วย โดยวางแผนไว้ว่าหลังจากทำเสร็จแล้วและสามารถดำเนินงานได้คงที่แล้วก็จะจำหน่ายให้กับกองทุนอีกทีน่ะครับ ซึ่งความคืบหน้าคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จราวๆสิ้นปีนี้นะครับ แต่วางแผนจำหน่ายให้กองทุนเมื่อไหร่ไม่รู้เหมือนกันนะครับ (ก็เลยฝันหวานอีกว่ากองทุนก็ต้องขายหน่วยลงทุนเพิ่มที่ราคาตอนนี้ที่เกือบ 12 บาท) แต่ทั้งนี้กองทุนก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธก่อนนะครับว่าจะรับหรือไม่
3.2 ทางบางกอกแอร์ยังมีสนามบินสุโขทัยและสนามบินตราดอีกสองที่ ที่อยากจะทำเป็นกองทุนอสังหาเช่นกัน (แต่เท่าที่ดูแล้วจำนวนนักท่องเที่ยวและความน่าสนใจยังห่างจากสนามบินสมุยอีกเยอะน่ะครับ)
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 7:43 pm
โดย junlastic
เนื้อหาเกี่ยวกับกองทุนสามารถเข้าไปศึกษาได้ในนี้นะครับ
http://www.samuiairportpropertyfund.com/th/index.asp
ผลสำรวจประชามติจากนิตยสาร Smart Travel Asia จัดให้สนามบินสมุยเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในเอเชียอันดับ 1 ใน 10 ส่วนเกาะสมุยติดสถานที่ท่องเที่ยว สุดยอดของเอเชียอันดับ 8 (เป็นส่วนที่ทำให้เกาะสมุยน่าสนใจน่ะครับ ถ้าสามารถเติบโตได้แค่หนึ่งในสามของเกาะภูเก็ต ได้คงจะดีนะครับ)
ก็รวบรวมปัจจัยเสี่ยงครั้งสุดท้ายแล้วกันนะครับ
1.เป็นกองทุนที่ได้สิทธิ์ในการเช่าสามสิบปีนะครับ ดังนั้นราคาจึงควรจะเหลือศูนย์บาทเมื่อผ่านไปสามสิบปีนะครับ เฉลี่ยแล้วราคาควรจะลดไปปีละ ศูนย์จุดสามบาท
2.โอกาสในการสร้างสนามบินเกาะสมุยแห่งที่สอง
(ตามความเห็นของผู้รู้ทั้งหลาย ใช้คำว่ามีโอกาสเกิดได้ยากน่ะครับ แต่เค้าไม่ยักจะใช้คำว่าไม่ได้ ฮ่า ฮ่า อะไรก็เกิดขึ้นได้นะครับ คือว่าเนื้อที่ราบของเกาะสมุยมีจำกัด โดยพื้นที่ที่ถกเถียงกันอยู่นั้นอยู่ห่างจากสนามบินเกาะสมุยตอนนี้แค่สิบกิโลเมตร แต่ในกฎการบินต้องห่างอย่างน้อย ยี่สิบสามกิโลเมตรน่ะครับ) ประเด็นนี้ผมเห็นว่าเป็นประเด็นที่ใช้กดดันให้บางกอกแอร์เปิดเสรีให้สายการบินอื่นเข้าไปใช้และลดค่าตั๋วน่ะครับ (แต่อย่ามาลดค่าภาษีสนามบินนะครับ ไม่งั้นมีผลต่อเงินปันผล) ทำให้มองว่าอนาคตน่าจะอนุญาตให้มีเที่ยวบินมาสมุยเพิ่มขึ้นน่ะครับ เหมือนกับการเปิดเสรีน่ะครับ แต่แค่ความคาดเดาส่วนตัวน่ะครับ
3.อาจจะมีโอกาสเห็นกองทุนตัวนี้เป็นกองทุนอสังหาวัฎจักรนะครับ ยืมคำพูดจากคุณหมอสามัญชน และคุณเหาฉลาม ก็เนื่องมาจากว่าเกาะสมุยตอนช่วงหน้าฝนช่วงพฤศจิกายน ก็น่าจะมีฝนตกหนักอยู่ทุกปีแล้วน่ะครับ ไม่รู้ว่าปีนี้คนจะแพนิคกันแล้วก็ลดราคามาเหมือนปีนี้รึเปล่าน่ะครับ
สุดท้ายนี้ก็หวังว่าทางรัฐบาลจะส่งเสริมการท่องเที่ยวตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนการเลือกตั้งนะครับ จะได้มีผลถึงกองทุนด้วย
อ้อลืมไปเรื่องนึงน่ะครับ เหตผลที่ทำให้ผมสนใจตัวนี้ก็เนื่องมาจากว่า กองทุน กบข.ตอนช่วงเดือนกันยาปีที่แล้ว ได้ทำการซื้อหน่วยลงทุนจากบางกอกแอร์จำนวนห้าร้อยล้านบาท ราคาเฉลี่ยสักประมาณ 8.90 บาทครับ แล้วก็บอกว่าเป็นกองทุนที่ดีน่ะครับ (ช่วงนั้นผมก็เคยอ่านข่าวแต่ไม่ได้สนใจน่ะครับ) ก็เลยทำให้ผมมีความสนใจมากขึ้นน่ะครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 8:33 pm
โดย tanapol
น้อง beammy ลองไป search กระทู้ใน กระทิงเขียวดูนะครับ
พี่ IH มี พูดถึง TFUND ไว้เยอะมาก
คิดว่าถ้าอ่านแล้วคงตัดสินใจได้ไม่ยากครับ
ปล.ไม่มีหุ้นนะครับ :P
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 08, 2008 10:20 pm
โดย jung_oh
ผมขายหมูไปตอน 8.2 คับ ได้ปันผลมาทีนึง
ขายเพื่อเอามาซื้อ EGCO เห็นตอนนั้น มันก็ประมาณ 110 ก็คิดว่า โอเค
ขายปั๊บ SPF พุ่งปรู๊ดๆ
EGCO ลงป๊าดๆ
วัยรุ่นเฟร็งเลย
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 09, 2008 12:22 am
โดย yoyo
คุณ junlastic ทำการบ้านได้ละเอียดมากๆเลยครับ นับถือจริงๆ...
spf นี่ผมไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ แต่ถ้าให้ตอบ tfund นี่ยังพอได้อยู่ เพราะผมชอบใช้เป็นที่พักเงินครับ
ตัว tfund นี่แต่ก่อนก็ซื้อขายอยู่แถวๆ 10 บาทหรือต่ำกว่า 10 เล็กน้อยอยู่นาน พอมาช่วงหม่อยอุ๋ยเข้าไปก็ลงไปซื้อขายแถว 9 บาทต้นอยู่พอควรเหมือนกัน ไม่ทันไรตอนนี้ก็กลายเป็นกองทุนอสังหาที่ราคาขาย premium กว่าเค้าเพื่อนเลย
จุดเด่นของ tfund คือ
- โรงงานนั้นเป็นของ tfund เองซึ่งแตกต่างกับกองทุนอสังหาส่วนใหญ่ที่มักจะเป็นศิษย์การเช่าที่มีอายุจำกัด เมื่อหมดอายุเมื่อไหร่ มูลค่ากองทุนก็จะเป็นศูนย์ทันที
- อัตราการเช่าของ tfund นั้นอยู่ในระดับที่สูงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผลกำไรและเงินปันผลนั้นสม่ำเสมอด้วยเช่ากัน
- บางช่วงกองทุนจะมีกำไรพิเศษจากการขายโรงงานให้ลูกค้า ทำให้มีปันผลพิเศษเพิ่มอยู่บ้าง แม้ไม่มากแต่ก็ยังดี เพราะเมื่อบริษัทขายโรงงานไปก็ได้กำไรส่วนต่างมา แล้วบริษัทก็ยังสามารถเอาเงินนั้นไปซื้อโรงงานใหม่ได้อีก
- ค่าเช่านั้นปรับขึ้นโดยเฉลี่ยทุกๆ 3 ปี ทำให้แนวโน้มของเงินปันผลในระยะยาวนั้นเพิ่มขึ้นด้วย
- size ใหญ่พอใช้ได้... ทำให้กองทุนต่างชาติมาสนใจมากขึ้น แล้วพวกกองทุนต่างชาตินี่เทียบผลตอบแทนของ tfund แล้วสำหรับเค้าก็ถือว่าสูงพอควร เพราะต่างประเทศที่ กองทุนอสังหาได้ประมาณ 5-6% เท่านั้นเอง
นึกไม่ออกแล้ว ...
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 09, 2008 9:21 am
โดย Alastor
อาจจะมีโอกาสเห็นกองทุนตัวนี้เป็นกองทุนอสังหาวัฎจักรนะครับ ยืมคำพูดจากคุณหมอสามัญชน และคุณเหาฉลาม ก็เนื่องมาจากว่าเกาะสมุยตอนช่วงหน้าฝนช่วงพฤศจิกายน ก็น่าจะมีฝนตกหนักอยู่ทุกปีแล้วน่ะครับ ไม่รู้ว่าปีนี้คนจะแพนิคกันแล้วก็ลดราคามาเหมือนปีนี้รึเปล่าน่ะครับ
ถ้าขึ้นลงแค่รายไตรมาส เรียกว่า seasonal นะครับไม่ใช่ cylical
แต่ข้อมูลละเอียดดีครับ เดี๋ยวผมของดู spf มั่ง ตอนนี้มี tfund อยู่ครับ นโยบายผมไม่ลงทุนใน Leasehold PF
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 09, 2008 11:29 am
โดย yoyo
Alastor เขียน:
ถ้าขึ้นลงแค่รายไตรมาส เรียกว่า seasonal นะครับไม่ใช่ cylical
แต่ข้อมูลละเอียดดีครับ เดี๋ยวผมของดู spf มั่ง ตอนนี้มี tfund อยู่ครับ นโยบายผมไม่ลงทุนใน Leasehold PF
จริง leasehold ก็น่าสนใจเหมือนกันนะพี่.. ถ้าความเสี่ยงต่ำๆแล้วราคา discount เยอะๆ อย่าง cpnrf ที่นิ่งๆอยู่ประมาณ 9-9.3 บาทอยู่นาน
ช่วงนั้นใครมี tfund ผมก็แนะให้ขายมาซื้อ cpnrf ให้หมดเลย ... วันนี้มันมา 9.85 แล้วอ่ะพี่ความน่าสนใจลดลงไปเยอะ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 09, 2008 6:00 pm
โดย junlastic
[quote="Alastor"][quote]อาจจะมีโอกาสเห็นกองทุนตัวนี้เป็นกองทุนอสังหาวัฎจักรนะครับ ยืมคำพูดจากคุณหมอสามัญชน และคุณเหาฉลาม ก็เนื่องมาจากว่าเกาะสมุยตอนช่วงหน้าฝนช่วงพฤศจิกายน ก็น่าจะมีฝนตกหนักอยู่ทุกปีแล้วน่ะครับ ไม่รู้ว่าปีนี้คนจะแพนิคกันแล้วก็ลดราคามาเหมือนปีนี้รึเปล่าน่ะครับ
[/quote]
ถ้าขึ้นลงแค่รายไตรมาส เรียกว่า seasonal นะครับไม่ใช่ cylical
แต่ข้อมูลละเอียดดีครับ เดี๋ยวผมของดู spf มั่ง ตอนนี้มี tfund อยู่ครับ นโยบายผมไม่ลงทุนใน Leasehold PF[/quote]
ฮ่า ฮ่า ใช้ไม่ได้หรอครับ หน้าแตกเลย นึกว่าจะได้ใช้คำเท่ห์ๆแบบคุณหมอกับคุณเหาฉลามซะหน่อย ต้องไปศึกษาเพิ่มอีกเยอะซะแล้ว
ข้อมูลและตัวเลขต่างๆที่เขียนไปอาจจะมีความเคลาดเคลื่อนนะครับ แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับที่ใส่ความเห็นตัวเองลงไปพอประมาณ แบบว่ารวบรวมที่เข้าใจมาน่ะครับ
แต่ถือกองทุนสมุยไปก็เสียวๆเหมือนกันน่ะครับ แบบว่าไม่มีพี่ๆเพื่อนๆในเวปนี้สนใจเลยอ่ะครับ ทั้งที่มี Div Yield 11.7% ณ ราคา 8.50 บาท (จากบทวิเคราะห์นะครับ)
http://stock.thaiquest.com/readnews.asp ... 4EEBA4B0B9
สงสัยอาจจะเพราะความเสี่ยงค่อนข้างสูงน่ะครับ ก็ฝากคุณ yoyo กับคุณ alastor ถ้าศึกษาแล้วช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ยังมีคำถามนึงที่สงสัยอ่ะครับ แบบว่ามูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาประเภท lease hold นี่เค้าคิดกันยังไงหรอครับ ถ้าเป็น free hold ยังจะพอเข้าใจได้หน่อยน่ะครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 09, 2008 10:26 pm
โดย Alastor
ยังมีคำถามนึงที่สงสัยอ่ะครับ แบบว่ามูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาประเภท lease hold นี่เค้าคิดกันยังไงหรอครับ ถ้าเป็น free hold ยังจะพอเข้าใจได้หน่อยน่ะครับ
น่าจะใช้วิธี DCF เหมือนกันนะครับ เพียงแต่ว่า lease hold มีอายุจำกัด ผมจำได้ว่า Viewtiful Investor เคย post ถามเองตอบเองไว้ในห้อง Alterative Investing อ่ะครับ :oops:
จริง leasehold ก็น่าสนใจเหมือนกันนะพี่.. ถ้าความเสี่ยงต่ำๆแล้วราคา discount เยอะๆ อย่าง cpnrf ที่นิ่งๆอยู่ประมาณ 9-9.3 บาทอยู่นาน
ช่วงนั้นใครมี tfund ผมก็แนะให้ขายมาซื้อ cpnrf ให้หมดเลย ... วันนี้มันมา 9.85 แล้วอ่ะพี่ความน่าสนใจลดลงไปเยอะ
ก็จริงนะ บางทีผมก็ conservative เกินไปเหมือนกัน หลักๆคงต้องดู การเติบโตของรายได้ และ Dividend Yield ถ้าอายุกองทุนขนาด 30 ปี และรายได้มีการเติบโต ก็อาจจะเป็นการลงทุนที่ดีก็ได้ แฮะๆขอไปดูก่อน
เทอมหน้าผมต้องทำ IS เลือกหัวข้อเกี่ยวกับ กองทุนอสังหาฯ ไว้ ต้องหาว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดผลตอบแทนของกองทุน ถ้าผ่านค่อยเอาว่าเล่าให้ฟังดีก่า (ถ้าไม่ผ่านคงเงียบๆไป-_-')
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 09, 2008 10:32 pm
โดย tt
ทำไมถึงไม่สนใจ SIRIPF ครับ การันตีผลตอบแทนด้วยนะครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 10, 2008 9:59 am
โดย BHT
กองทุนอสังหาที่เช่ามา ทำมัยพอหมดอายุ มูลค่าเป็นศูนย์ล่ะครับ
ไม่ใช่ว่า พอหมดอายุเช่า ก็ชำระบัญชีว่าที่เช่าไปทำมาหากินนั้นเหลือสุทธิเป็นเงินเท่าไหร่ ก็หารแบ่งตามจำนวนหน่วย หรือป่าวครับ
แล้ว nav กองทุนพวกเช่านี้ เอามูลค่าอสังหาที่เช่ามาลงนับด้วยเหรอครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 10, 2008 7:00 pm
โดย beammy
ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านครับ 8) ...
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 10, 2008 7:36 pm
โดย striker
กองทุนที่เป็น Leasehold คือเราจ่ายสิทธิการเช่าเท่านั้น ถ้าเป็นรอบการจ่ายปันผลสุดท้ายของกองทุนก็จะจ่ายผลกำไรสุทธิทั้งหมดออกมาให้ผู้ถือหน่วย โดยกองทุนจะมีกฎหมายบังคับว่า จะต้องจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ทุกปี ถ้าปีสุดท้ายก็จ่ายออกมาหมดเลยครับรวมถึงกำไรสะสมด้วย แต่จริงๆแล้ว ปันผลที่ได้ทุกปี จะต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกเป็นกำไรที่เกิดจากค่าเช่า ส่วนที่สองเป็นการจ่ายคืนค่าสิทธิในการเช่าที่ลดลงไปเรื่อยๆ ทุกปีครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 8:44 am
โดย beammy
ผมกำลังหาที่พักเงินเหมือนพี่ yoyo ครับ :P
ขอบคุณพี่ junlastic กับพี่ yoyo สำหรับข้อมูล ครับ 8) ...
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 10:21 am
โดย krisy
SPF รู้สึกว่า ค่าเช่าจะไม่สามารถเพิ่มได้นะคะ ตลอดอายุการเช่า 30 ปี (ผ่านตาแวบๆจากหนังสือชี้ชวน) จากงบการเงินตอนนี้ 85% เป็นค่าเช่า อีก 15% จะผันแปรตามจำนวนคนที่มาใช้สนามบิน ซึ่ง bangkok airways จะต้องทำการตลาดอย่างเพียงพอเพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้มากกว่าปีที่แล้ว ถ้าเงินเฟ้อสูง คิดว่าไปลงทุนตัวอื่นดีกว่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าค่อนข้าง secure กว่า Tfund เนื่องจาก แม้ว่า SPF จะเป็น leasehold แต่ก็ไม่มีคู่แข่ง เว้นสนามบินสมุย 2จะมา แต่ตามข่าวก็ปี 2553-4 ซึ่งเว้นระยะให้ bangkok airways และ SPF วางแผนสู้ได้พอควรค่ะ
Tfund ก็ต้องมองว่ามีโรงงานเหลือให้เช่าไหม เพราะลูกค้าเป็นผู้เลือก มีคู่แข่ง (แต่ไม่รู้ว่าใครบ้าง) แต่ค่าเช่าปรับขึ้นได้ตามเงินเฟ้อ โรงงานกระจายหลายแห่ง
มันมีข้อดีเสียแบบกินกันไม่ลง คงต้องตามใจผู้ลงทุนว่าชอบแนวไหน เราว่า SPF โครงสร้างไม่ซับซ้อนอ่านหนังสือชี้ชวน 1 รอบพอเข้าใจว่าทำอะไรกัน แต่ Tfund มันไปโยงกับ ticon กะว่าจะศึกษาเพิ่ม เพราะส่วนตัวไม่ชอบ leasehold ค่ะและชอบภาคอุตสาหกรรมมากกว่าท่องเที่ยวด้วย
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 11:39 am
โดย junlastic
พอดีคุณ krispy ท้วงติงมาน่ะครับ ผมเลยต้องไปทำการบ้านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายรับของกองทุนน่ะครับ (แบบเคยเข้าใจครึ่งๆกลางๆน่ะครับ ตอนนี้ก็ยังเข้าใจครึ่งๆกลางๆอยู่เช่นกัน)
จากหนังสือชี้ชวนนะครับ รายได้ของกองทุนประกอบด้วยรายรับสองส่วนน่ะครับ
1. ค่าเช่าช่วง จ่าย 0.275 ต่อเดือนน่ะครับ (ได้รับจากบางกอกแอร์เวย์ และก็ตามที่คุณ krispy บอกครับ ไม่สามารถปรับเพิ่มได้ตลอดอายุสามสิบปีครับ)
2. ค่าบริการคงที่ จ่าย 0.225 ต่อเดือนน่ะครับ (ได้รับจากบางกอกแอร์เวย์อีกเช่นกัน เท่าที่อ่านดูก็เหมือนเดิมครับ ไม่สามารถปรับเพิ่มได้ตลอดอายุโครงการเช่นกันครับ)
ดังนั้นแล้ว 0.275+0.225 = 0.5 บาท จึงหมายถึงการรับประกันเงินรายรับของกองทุนที่ 0.15 บาทตามที่กล่าวมาข้างต้นน่ะครับ (ไม่เหมือนกับอสังหาทั่วไปที่ปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ น่าเสียดายนะครับ)
3. รายรับตัวสุดท้ายนี้เป็นรายรับที่จะมีผลต่อเงินปันผลน่ะครับแล้วก็มีการผันแปรสูงด้วยน่ะครับ
เรียกว่า "ค่าบริการเพิ่มเติม" = A+B+C+D-E
A คือ 300 บาท * จำนวนผู้โดยสารขาออก
B คือ 0.2 * ผู้โดยสารขาออกในประเทศ * ค่าธรรมเนียมส่วนที่เกินสามร้อยบาท
(หมายเหตุ ภาษีสนามบินสำหรับผู้โดยสารในประเทศอยู่ที่ 300 บาท คงเอาตัวนี้เป็นเหมือนกับการเพิ่มค่าเช่าของลักษณะแนวอสังหาตัวอื่นน่ะครับ เหมือนเคยเห็นพี่ๆบอกว่าได้ปรับเพิ่มเป็นห้าร้อยบาทแล้วน่ะครับ แต่ผมก็ไม่หาเนื้อหารายละเอียดไม่ได้เลยน่ะครับ เลยไม่ยืนยันนะครับ)
C คือ 0.2*ผู้โดยสายขาออกระหว่างประเทศ*ค่าธรรมเนียมส่วนที่เกินห้าร้อยบาท
(หมายเหตุ ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารระหว่างประเทศอยู่ที่ 500 บาทน่ะครับ)
D คือ ค่าธรรมเนียมตามประเภทของเครื่องบิน*จำนวนเที่ยวบิน
โดยคิดอัตราดังนี้
เครื่องบินขนาด 70 ที่นั่งขึ้นไป 50000 บาท
เครื่องบินขนาด 125 ที่นั่งขึ้นไป 80000 บาท
(โดยเครื่องของการบินไทยนั้นใหญ่ขึ้นไปอีกระดับนึง ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีเข้ามาใช้งานในสนามบิน เท่าที่ดูยังไม่ได้สรุปอัตราเรียกเก็บอีกทีน่ะครับ)
E คือ ค่าเช่าช่วง+ค่าบริการคงที่จากข้อหนึ่งและสอง ซึ่งก็คือที่รับประกันผลตอบแทน 0.15 นั่นแหละครับ เลยต้องเอามาลบน่ะครับ
รายละเอียดเอามาจากหนังสือชี้ชวนนะครับ ตามลิงก์ครับ ถ้าผิดยังไงก็ช่วยท้วงติงด้วยนะครับ เพราะมันซับซ้อนจัง
http://www.sci-asset.com/SCIFundDetail.asp?id=29
จากสมการข้างต้นแล้ว ผมคิดว่าน่าจะแปรตามจำนวนนักท่องเที่ยวแล้วก็เที่ยวบินขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัดนะครับ
อ่านไปอ่านมาทำไม โครงสร้างซับซ้อนจัง ผมชักเริ่มจะสนใจ free hold อย่าง tfund แล้วเหมือนกันนะครับเนี่ย ท่าทางจะสบายใจดี ขอแกะรอยไปศึกษาเช่นกันครับ
กองทุนสนามบินเกาะสมุยนี้ที่สนใจก็คิดว่าผูกขาดดีน่ะครับ มีอยู่ที่เดียวไม่รู้จะแข่งกับใคร แต่ก็อย่างที่ ดร.นิเวศน์ว่าไว้น่ะครับ ผูกขาดยังไง ดีแค่ไหนสุดท้ายก็แพ้รัฐบาลน่ะครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 11:42 am
โดย junlastic
รู้สึกผมจะเขียนผิดนะครับ ขอแก้เป็นว่า
รายรับที่รับประกันคือ 0.15 บาทต่อไตรมาสนะครับ
ดังนั้นต่อปีคือ 0.6 บาทน่ะครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 11:59 am
โดย krisy
กองทุนสนามบินเกาะสมุยนี้ที่สนใจก็คิดว่าผูกขาดดีน่ะครับ มีอยู่ที่เดียวไม่รู้จะแข่งกับใคร แต่ก็อย่างที่ ดร.นิเวศน์ว่าไว้น่ะครับ ผูกขาดยังไง ดีแค่ไหนสุดท้ายก็แพ้รัฐบาลน่ะครับ
สนามบินสมุย 2 ที่บอกเนี่ย รัฐบาลจะเป็นคนทำ feasibility study ค่ะ แต่สุดท้ายจะให้เอกชนเป็นคนทำ เพราะรัฐจะไม่ประกอบกิจการแข่งกับเอกชน
ข่าวนี้ เราค่อนข้างคิดบวกกับ SPF นะคะ เพราะรัฐจะมาสำรวจแปลว่า การท่องเที่ยวที่นี่จะต้องโตจนน่าสนใจทีเดียว ไม่งั้นรัฐคงไม่มาสำรวจ เพราะตามข่าวบอกว่า คิดว่าจะไม่แย่งลูกค้าของ SPF นั่นแปลว่า ผู้โดยสารอาจโตเป็นเท่าตัว
ไม่รู้มองโลกในแง่ดีไปไหมเนี่ย ยังไงก็เป็นข่าวที่ออกมาหลายเดือนแล้ว ฟังหูไว้หูนะคะ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 1:04 pm
โดย junlastic
โอ๊ะ ดีใจครับที่เริ่มมีคนหาข้อมูลเหมือนกัน
ก่อนอื่นก็ขอกล่าวถึงประวัติสนามบินสมุยก่อนนะครับ โดยบางกอกแอร์ได้บุกเบิกทำสนามบินเกาะสมุยตั้งแต่ปี 2532 โดยช่วงนั้นก็ได้สอบถามรัฐบาลแล้วว่ามีความสนใจที่จะสร้างหรือไม่ รัฐบาลได้ตอบกลับไปว่าไม่มีความสนใจน่ะครับ ทางบางกอกแอร์ก็เลยได้บุกเบิกเกาะสมุยแล้วก็ทำการพัฒนา รวมถึงโปรโมทการท่องเที่ยวต่างๆจนทำให้เกาะสมุยได้ปรากฎขึ้นบนแผนที่ท่องเที่ยวน่ะครับ รวมถึงมาภายหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ จึงเกิดการบูมที่จะเที่ยวในบริเวณชายฝั่งด้านอ่าวไทยน่ะครับ หลีกหนีมาจากทางภูเก็ตน่ะครับ
เนื่องจากความต้องการทางด้านการท่องเที่ยวที่สูงเพิ่มขึ้นนี่เอง ทำให้มีการสร้างโรงแรมและห้องพักกันอย่างมากมายบนพื้นที่เกาะสมุย และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้น กลับติดปัญหาตรงที่ปริมาณนักท่องเที่ยวที่มาที่เกาะสมุยน่ะครับ เนื่องจากจำนวนที่นั่งและเที่ยวบินที่มาเกาะสมุยไม่สามารถรองรับได้พอน่ะครับ
เหตุผลที่รองรับได้ไม่พอเนื่องจากที่กล่าวไปน่ะครับ บางกอกแอร์เวย์ผูกขาดอยู่น่ะครับ โดยรายได้จากเที่ยวบินมาเกาะสมุยนี้ถือเป็นรายได้หลักของบางกอกแอร์เวย์น่ะครับคิดเป็นมากกว่าห้าสิบเปอร์เซนต์ ถ้าให้สายการบินมาลงที่สนามบินนี้แล้ว จะทำให้ราคาตั๋ว รวมถึงธุรกิจต่อเนื่องหลายๆอย่าง เช่น การทำแพคเกจราคาตั๋วร่วมกับโรงแรมที่เกาะสมุยของบางกอกแอร์นั้นต้องเสียไป ทำให้ทางบางกอกแอร์ เค้าหวงมากน่ะครับ ก็เค้าอุตส่าห์บุกเบิกมาแต่ต้นโดยรัฐบาลไม่ค่อยได้ช่วยเหลือมากนัก พอบูมแล้วก็มีคนแต่จะมาแย่งน่ะครับ (ก็น่าสงสารเหมือนกันนะครับเนี่ย)
โดย feasibility study ที่คุณ krispy พูดถึงคงแบ่งออกได้เป็นสองส่วนนะครับ
1. ผลการศึกษาความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งสำรวจโดยมหาวิทยาลัยเกษตร ซึ่งได้ผลมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วน่ะครับ ว่าคุ้มค่าที่จะสร้างอีกที่นึง แล้วก็คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มที่ใช้สนามบินเพิ่มเป็นสองล้านคนในปี 2020 (ผมคิดว่ารายงานฉบับนี้น่าจะใช้ข้อมูลในอดีตมากเกินไปน่ะครับ แล้วคิดอัตราการเติบโตที่สูงมาก โดยไม่ดูความสามารถรองรับของเกาะสมุยน่ะครับ)
พอรายงานฉบับนี้ออกมาจากการสนับสนุนของกรมการขนส่งทางอากาศ ก็นำไปสู่เรื่องการสร้างสนามบินเกาะสมุยแห่งที่สองน่ะครับ ซึ่งเป็นข่าวเมื่อปีที่แล้ว
โดยหัวข้อเรื่องนี้ ได้ก่อให้เกิดการแบ่งเป็นสองฝ่ายระหว่างผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านน่ะครับ
1. โดยผู้สนับสนุนก็คือ ต้นเรื่อง กรมการขนส่งทางอากาศ และบรรดาผู้ประกอบการต่างๆที่ต้องการให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นน่ะครับ
2. ผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็ได้แก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ข้าราชการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุยอยู่ในสุราษฎร์น่ะครับ) และก็ทางบางกอกแอร์ ที่ต้องการให้เกาะสมุยเป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนน่ะครับ
จึงทำให้เกิดการศึกษาวิจัยอันที่สองตามมาน่ะครับ นั่นคือการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมน่ะครับ โดยให้เวลาศึกษาหนึ่งปี ผลก็คงจะออกมาช่วงเร็วๆนี้หรือกลางปีนี้แหละครับ
ถ้าเกาะสมุยได้สร้างสนามบินแห่งที่สองจริง ผมก็เสียดายนะครับ เพราะแนวโน้มทางระบบนิเวศน์คงจะเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัดน่ะครับ แค่นี้ตอนก็แย่พอสมควรแล้วน่ะครับ เนื่องจากมีธุรกิจอะไรต่างๆมากมายเข้าไปน่ะครับ รวมถึงก็ตามที่คุณ krispy บอกไว้ ถ้าให้เอกชนทำ ก็ต้องเพิ่มเที่ยวบินอีกสักเท่าตัวนึงเพื่อให้สนามบินแห่งใหม่ พออยู่ได้เหมือนกับสนามบินนี้ หรือว่าอาจจะลดเที่ยวบินของบางกอกแอร์ที่ได้รับอยู่ (ก็รัฐบาลนี่ครับเลยกำหนดได้)
และถ้าตามที่คุณ krispy บอกว่ารัฐบาลจะให้เอกชนทำผมก็สบายใจขึ้นอีกเยอะน่ะครับ ผมว่าตอนนี้นั้นบางกอกแอร์ได้รับเงินจากการขายหน่วยลงทุนไปถึงหนึ่งหมื่นล้านบาท กำลังเร่งพัฒนาสนามบินเป็นการใหญ่เลยครับ อย่างเช่นอาคารที่พักผู้โดยสารใหม่ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึงสองล้านคน ก็ใช้งบไปแล้วห้าร้อยล้านบาทน่ะครับ ในขณะที่ สนามบินที่จะสร้างใหม่นั้น ตามการวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรใช้การลงทุนเพียงแค่สามพันล้านบาท ความหรูหราต่างกันเยอะมากเลยน่ะครับ
รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวได้ใช้สนามบินสมุยอยู่ตอนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติน่ะครับ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็อยากให้สมุยเป็นการท่องเที่ยวในระดับบนหน่อยน่ะครับ โดยคำนึงถึงระบบนิเวศน์ จึงไม่อยากให้นักท่องเที่ยวมาเยอะเกินไปน่ะครับ ดังนั้นการแข่งขันเรื่องราคาหรือภาษีสนามบินนั้นไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับสนามบินสมุย ถ้าจะมีผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามาทำ
นอกจากนี้ตามที่ได้กล่าวไปบางกอกแอร์เวย์ยังมีแผนที่จะทำบูติครีสอร์ท รวมถึง walking street ในสนามบินเกาะสมุยน่ะครับ โดยวาดแผนจะให้เป็นเหมือน city ย่อมๆน่ะครับ โดยดึงผู้ประกอบการบนเกาะสมุย รวมถึงนำร้านค้าต่างๆเข้ามาเพื่อเสริมความเจริญให้กับสนามบินน่ะครับ ก็จากเงินกองทุนอสังหาอีกแหละครับทำให้เค้าทำแผนพัฒนาได้หลายๆอย่างน่ะครับ ทำให้ถ้ามีอีกสนามบินมาถ้าทิ้งระยะเกินไปอาจจะโดยทิ้งห่างได้น่ะครับ และป่านนั้นความแข็งแกร่งของสนามบินคงไปไกลแล้วน่ะครับ
ส่วนเรื่องที่การบินไทยเข้ามาบินในเกาะสมุยได้ ถือว่าเป็นข่าวดีมากๆของสนามบินน่ะครับ ประการแรกก็เหมือนทำนบแตกน่ะครับ เนื่องจากการผูกขาดของสนามบินเกาะสมุย กว่าการบินไทยจะขอบินได้นี่ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกันนะครับ รวมถึงเมื่อการบินไทยได้บินแล้วโอกาสในการทำตลาดการท่องเที่ยวของสนามบินเกาะสมุยแบบสากลนั้นก็สามารถโปรโมทได้ง่ายกว่าการที่บางกอกแอร์ทำน่ะครับ เพราะการบินไทยนั้นสากลกว่า และสามารถออกตั๋วบินตรงจากประเทศต่างๆมาได้เลยน่ะครับ ไม่ใช่ต้องมา transfer โดยใช้สายการบินอื่น โดยข่าวดีนี้ก็เป็นข่าวร้ายของบางกอกแอร์น่ะครับ มีแววว่ารายได้อาจจะลดได้ถึงสามสิบเปอร์เซนต์น่ะครับ ผู้ถือหุ้นใหญ่(บางกอกแอร์เวย์)ของกองทุนเราก็คงต้องสู้ต่อไปนะครับ
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 1:07 pm
โดย junlastic
ปล. ผมเขียนซะเยอะเลย ไม่ได้เชียร์ว่ากองทุนนี้น่าสนใจลงทุนนะครับ เพียงแต่ว่าผมเริ่มศึกษาการลงทุนแบบ vi ตามพี่ๆน่ะครับ ก็เลยหาข้อมูลไปเรื่อยๆน่ะครับ และคิดว่าความรู้ที่ได้ต่างๆน่าจะช่วยในการทำธุรกิจในอนาคตได้น่ะครับ หาข้อมูลอ่านๆไปแล้วเข้าใจถึงผู้ประกอบการดีน่ะครับ สนุกดี
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 3:17 pm
โดย terati20
เวลาดูกำไรของกองทุน ระวังเรื่องกำไรจากการตีมูลค่าหลักทรัพย์ใหม่ด้วยนะ
ให้ดูกำไรจากการดำเนินงานเป็นหลักด้วยละ
ผมเห็นหลาย กองทุน Leasehold จะมีกำไรจากตีมูลค่าใหม่เข้ามา ทำยังกับจะมีใครมาขอซื้อต่องั้นหละ
8)
+SPF vs TFUND+
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 11, 2008 3:20 pm
โดย krisy
[quote="terati20"]เวลาดูกำไรของกองทุน ระวังเรื่องกำไรจากการตีมูลค่าหลักทรัพย์ใหม่ด้วยนะ
ให้ดูกำไรจากการดำเนินงานเป็นหลักด้วยละ
ผมเห็นหลาย กองทุน Leasehold