หน้า 1 จากทั้งหมด 1

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 15, 2008 7:17 pm
โดย newbie_12
การลงทุนแนว VI ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนหลายท่านได้ทำเป็นตัวอย่างแล้ว ทำได้จริง สำเร็จจริง

หากนักลงทุนเลิกเก็งกำไรกัน กลายมาเป็น VI กันหมด จะมีผลอย่างไรครับ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 15, 2008 7:38 pm
โดย Pythoon
ถ้า VI ซื้อแล้วถือ....จนกว่าจะเกินมูลค่าที่คำนวณไว้...

มาร์เกตติ้งจะได้ commission ลดลง

บริษัทหลักทรัพย์ที่มีรายได้จากส่วนนี้เยอะอาจจะต้องปิดลง....

แต่ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้นะ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 15, 2008 7:39 pm
โดย สามัญชน
โอกาสก็มีครับ
แต่ว่ามีน้อยถึงน้อยมากๆ

คล้ายๆศีล 5 อ่ะครับ
ทุกคนรู้ว่าถ้าทำได้ก็จะเกิดมงคลต่อชีวิต
โลกเราคงจะมีแต่สันติสุข

แต่ผ่านไปสองพันกว่าปี
เราก็ยังผิดศีลกันบ่อยๆทุกเมื่อเชื่อวัน

ความรู้แนววีไอนี้ก็มีมาเกือบร้อยปีแล้ว
แต่วีไอทั่วโลกก็ยังเป็นส่วนน้อยมากของทั้งหมด
ทั้งๆที่รู้ว่าทำแล้วจะได้รางวัลคล้ายๆกับศีล 5

เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นกับปัจจัย "รู้หรือไม่รู้"
ทัศนคติเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การรู้หรือไม่รู้

แต่สาเหตุหลักของเรื่องนี้
ผมคิดว่าเป็นเพราะแนวทางเหล่านี้
ไม่สอดคล้องกับ  "สัญชาติญาณ" ของมนุษย์ที่ฝังอยู่ใน DNA มากกว่า

ดร.นิเวศน์เคยเขียนบทความทำนองนี้นี้หลายครั้งด้วยกัน

http://www.thaivi.com/article/value-investor/481-.html

http://www.thaivi.com/article/value-inv ... estor.html

http://www.thaivi.com/article/value-inv ... 90-vi.html

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 15, 2008 7:52 pm
โดย Sumotin
ผมว่าเป็นไปไม่ได้เลยครับ ตลาดที่มีมาเป็น 100 ปี อย่างในยุโรป หรือ อเมริกา ก็ยังมีการเก็งกำไรกันเยอะ ครับ อีกอย่าง นักลงทุนต่างชาติกับ พวกกองทุน ไม่เป็น VI แน่ๆ  :lol:

แต่ ถ้าในกรณีสมมติ ว่าเป็น VI หมด ความสามารถแต่หละคนก็ไม่เหมือนกันครับ ให้มูลค่าหุ้นไม่เท่ากันอยู่ดีครับ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 15, 2008 9:36 pm
โดย CEO
สมมติว่าเป็นไปได้ครับ

นักลงทุนวีไอจะหายไปจากจอทีวี และสื่อทุกชนิด
วิชาการเก็งกำไรจะมีค่าเรียนแพงมาก
ทุกคนจะพูดกันแต่เรื่องการเก็งกำไร
ครับ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 15, 2008 9:39 pm
โดย CEO
สูงสุดคืนสู่สามัญ
จะไม่มีใครสนใจเรื่องวีไออีกต่อไป
มันจะเป็นแค่วิถีวีวิตที่เหมือนภูมิปัญญาท้องถิ่นของเราที่ถูกลืมแม้ว่าจะเป็นสิ่งดีๆถึงดีที่สุดก็ตาม

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 15, 2008 11:06 pm
โดย Juninho
หากนักลงทุนเป็น VI กันหมดคงหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าได้ยากขึ้น  หรืออาจหาได้แต่ mos คงไม่มากเท่าไรในแต่ละตัว
และผลตอบแทนของชาววีไอโดยรวม น่าจะลดลง

ผมคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่ในตลาดจะมีแต่วีไอ
แต่ถ้าคำพูดที่ว่านักเล่นหุ้นแนวนี้มากขึ้นทุก ๆ ปี น่าจะเป็นความจริง ก็ดูกระทู้ผลตอบแทนเท่าไรกันบ้างของชาววีไอ ที่มีการทำโพลล์ทุก ๆ ปี ไม่ว่าใครก็ต้องเหลียวมามองล่ะครับ

แหม...... ทำ(กัน)ไปได้  :D

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 2:41 am
โดย akekarat
อันดับแรกเลยคือ Broker จะเจ๊ง และ marketing กับ analyst จะตกงานครับ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 9:33 am
โดย Isamu
ผมเห็นด้วยกับคุณสามัญชนนะครับ ยกตัวอย่างได้เข้าใจดี ขอเพิ่มเติมอีกนิดว่า สมัยนี้บางคนชอบพูดว่าตัวเองเป็นคนมีศีลมีธรรม แต่เอาเข้าจริง มันไม่ได้ลงไปในชีวิตประจำวัน ไม่ได้หัดจนเป็นธรรมชาติ
      น้องๆนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มหลายคน ช่วงสองสามปีมานี้ มักจะพูดว่าตัวเองอยากลงทุนแบบ VI จนดูเหมือนว่าเป็นแฟชั่นแบบหนึ่งไปแล้ว จริงๆแล้ง VI เป็นวิถีชีวิตทั้งหมด ไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุนอย่างเดียว คนที่จะอาศัยวิธีนี้แล้วประสบผลสำเร็จมากๆ จึงต้องเป็นคนที่เข้าใจและนำไปปฏิบัติ เหมือนศีลห้า ที่ถ้าปฏิบัติจนเป็นปกติในชีวิตประจำวันแล้วก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นคนถือศีลข้อใด ก็แปลว่าได้ว่าหัดจนเป็นธรรมชาติ ได้ผลแห่งศีล และไม่ค่อยเอาการถือศีลหรือไม่ ไปแบ่งแยกหรือตัดสินใครๆ

ครับๆ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 10:47 am
โดย SEHJU
ถ้าเกิดเป็นไปได้จริงๆนี่ ผมว่าประเทศชาติพัฒนาแน่ๆครับ
เพราะทุกคนจะมองอะไรเป็นคุณค่าไปหมด จะซื้อจะใช้ของอะไรก็ให้
สมเหตุสมผล
ส่วนทางฝ่ายโบรกเกอร์ก็จะร่วมมือกันหาช่องทางใหม่ๆ และ ออกกฎระเบียบออกมาแก้ทางวีไอเพื่อให้ได้ตังจากวีไอเพิ่มขึ้น
และก็เห็นด้วยที่ว่าอีกสิบปีวีไอต้องเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะจากอาจารย์นิเวศน์
ก็ แตกเหล่าแตกกอ วีไอออกมามากมาย เก่งๆก็เยอะเดี๋ยวก็ขยายออกไป
แบบ mlm เป็นแผนภูมิต้นไม้ เอ้อ.. ทำเป็นเล่นไป
พูดถึงว่าจะเป็นวีไอทั้งหมดนั้น ในทางทฤษฎีก็ผมว่าก็เป็นไปได้นะครับ แต่ในทางปฏิบัติแล้วผมว่ายังไงๆก็เป็นไปไม่ได้อ่ะครับ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 11:10 am
โดย qingwen
ผมมีความรู้สึกว่าคนจะเป็น VI ได้ต้องมีลักษณะทางธรรมชาติเฉพาะเจาะจงอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นชนส่วนน้อยในโลกอันยุ่งเหยิงใบนี้

ผมไม่เชื่อว่าการลงทุนแนว VI ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (มีข้อมูลใดที่แสดงว่าได้รับความนิยม) ผมฟังวิทยุก็ได้ยินแต่คนถามเทคนิคแนวรับแนวต้านทั้งรายการ ผมไปโพสการลงทุนในหุ้นไว้ในบางเว็บก็เห็นคนมาร่วมแจมพุดแต่เรื่องกราฟ ไม่เห็นใครสนใจบัญชีหรือกิจการของบริษัทใดๆเลย

ยุคสมัยนึงเราก็กลัวว่าคอมมิวนิสต์จะครองโลก ใครๆก็จะเป็นสังคมนิยม สุดท้ายก็แพ้ทุนนิยม เพราะทุนนิยมมันกระตุ้นกิเลสและความเป็นตัวตนของมนุษย์ได้ดีกว่า เช่นเดียวกับการเก็งกำไรมันตรงกับนิสัยของคนส่วนใหญ่ในโลก สามารถดึงความเป็นตัวตนของคนส่วนใหญ่ได้ดีกว่า คนเป็น VI ก็มีอยู่เท่าเดิมนั่นแหละ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 11:16 am
โดย สามัญชน
ช่วงนี้แนวทางวีไอดูเหมือนจะกลายเป็นกระแสสังคม(เพราะได้ออกทีวีบ่อยขึ้น) มั้งครับ  :lol:

แต่วีไอในเมืองไทยนี้
ดร.นิเวศน์นำมาเผยแพร่เมื่อไม่ถึงสิบปีนี้เอง
เมืองไทยจึงเหมือนเริ่มต้นจากศูนย์
อัตราการเติบโตจึงดูเหมือนจะสูง
แต่ผมว่าคล้ายๆ ขาแรกหรือขาสองของ s-curve จึงดูน่าตื่นเต้นหวือหวา
แต่เมืองนอกเขาเริ่มมาร้อยปีแล้ว
เขาเข้าสู่ขาสามของ s-curve ไปแล้ว  
อัตราการเติบโตแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย
อาจจะลดลงด้วยซ้ำ
เดี๋ยวเมืองไทยก็จะเป็นเหมือนกัน

เหมือนตอนศาสนาพุทธถือกำเนิดใหม่ๆบนโลก
พระพุทธเจ้าท่านก็สั่งสอนจนเกิดพระอรหันต์
ได้มากถึง 1,250 รูปในเวลาไม่กี่ปี
แต่ปัจจุบันนี้ทั้งๆที่ประชากรมากถึงหกพันล้านคน  
โลกเราก็มีพระอรหันต์ไม่มากนัก
ทั้งๆที่ธรรมมะของพระพุทธเจ้านั้น
ผมว่าสุดยอดสุดๆแล้วในบรรดาทฤษฎีต่างๆที่ปรากฎบนผืนโลก

ดังนั้นถ้าเราห่วงว่า
เราเผยแพร่ความรู้วีไอมากๆ
แล้วเราจะหาหุ้นยากขึ้น
ซื้อได้ยากขึ้น  
ขายยากขึ้น
กำไรน้อยลง  ก็เลิกห่วงได้เลย
ตรงกันข้าม
ยิ่งเราหาความรู้มากขึ้น  เป็นผู้ให้(และรับ)มากขึ้น
เราก็(น่า)จะเก่งมากขึ้น
เขาเรียกว่า "ยิ่งให้  ยิ่งมีเยอะ"  :lol:
แต่ถ้าไม่ห่วงประเด็นนี้
ก็แล้วไปครับ  :lol:

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 6:35 pm
โดย Dech
หวังว่าจะเห็น หุ้นมีแต่ขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไม่มีลงๆขึ้นๆแบบนี้

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 9:57 am
โดย picatos
สมมติว่าเกิดขึ้นจริง ผลตอบแทนของ VI คงจะต่ำลง แล้วผมก็คงจะเลิกเป็น VI แล้วไปหาทางลงทุนแบบอื่นที่ไหนผลตอบแทนมากกว่า

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 11:47 am
โดย Isamu
ขอให้ความเห็นเรื่องการสวนกระแส (contary) ซึ่งเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาก
   จริงๆ แม้ว่าทุกคนจะคำนึงถึงเรื่อง VI กันหมด ก็ไม่ได้หมายความว่าการลงทุนที่ดีต้องสวนกระแสโดยการไม่ใช้หลักการ VI ไปใช้แบบอื่นๆแทน
   สังเกตดูในร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ จะเห็นว่ามีหลายคนหลายแบบ ตามความถนัดหรือความเชื่อแต่ละคนจริงๆ ผมคิดว่าเราใช้หลักการคล้ายคลึงกัน แต่ศิลปะทำให้การลงทุนแต่ละคนไม่เหมือนกัน แค่สวนกระแสข้อมูลหรือความนิยมใน board นี้บ้าง ก็น่าจะเพียงพอ ไม่น่าถึงขนาดเลิกไปเลย จริงๆผมว่าถ้าเป็นพันธ์แท้คงเลิกยากเพราะมันเป็นความปกติไปแล้ว
  สถานการณ์มักจะสร้างวีรบุรุษ ผมคิดว่าพวก contary คงจะรอวันนั้น

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 11:54 am
โดย MrRobot
หุ้นคุณค่า น่าจะเป็นหุ้นคุณค่าตลอดไป  :lol:  เเน่ๆเลยครับกระผม

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 1:22 pm
โดย Saran
ผมว่าคงใกล้เคียงกับทฤษฎีตลาดมีประสิทธิภาพนะครับ เพราะทุกคนซื้อขายหุ้นกันอย่างมีเหตุผล

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 9:41 pm
โดย BOONPARUEY
...     ผลที่ได้น่าจะเป็น  WIN  - WIN  กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เช่น     ...

...     ตลาดจะมีขนาดใหญ่มากขึ้น     ...

...     ตลาดจะมีภาพพจน์ที่ดีขึ้นจากที่ถูกมองว่าเป็นแหล่งรวมนักพนัน      ...      

...     ผู้คนที่มีเงินทุนที่แต่เดิมไม่กล้าเข้ามาลงทุนก็จะกล้าเข้ามา     ...

...      ธุรกิจที่ดี ๆ จะเติบโตมากขึ้น  อาจหมายถึงมีโอกาสเติบโตไปสู่สากล    ...

...      ตลาดจะมีส่วนสร้างให้ระบบเศรษฐกิจไทยแข็งแรงขึ้น     ...

...      จะเกิดการพัฒนาในบริษัท , นักลงทุน , ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน     ...

...       มีเงินออมมากกว่า 5 ล้านล้านบาทที่ไม่กล้าเข้ามาในตลาด ซึ่งมีีหลายสาเหตุ  แต่หนึ่งในหลายสาเหตุนั้น คือ ภาพพจน์ที่เสียของตลาดหุ้นไทยจากกรณีย์ปั่นหุ้นในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา  , ปัญหาการตกแต่งบัญชี , ฯ  ล  ฯ  .....ความสำเร็จของภาค VI จะช่วยแก้ปัญหานี้่ได้   ...

...        ตลาดจะมีประสิทธิภาพขึ้นตามสัดส่วนขนาดตลาดที่โตขึ้น และ ตามเวลา     ...

...        การเก็งกำไรก็คงโตขึ้นตามสัดส่วนตลาดที่โตขึ้น    ...

...         คงเป็นไปไม่ได้ที่ตลาดจะมีแค่ระบบ VI เพราะคนมีความคิดแตกต่างกันจากหลายเหตุปัจจัย     ...

...         และ ก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณหมอ สามัญชน     ...

...         ความคิดเห็นทั้งหมดมาจากการพิจารณาจากประวัติการเติบโตในต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว     ...


:lol:  :lol:  :lol:  :man:

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 19, 2008 1:28 am
โดย Tlk
set จะคุยกันที่  + 15- 20%ทุกปีหรือ มากกว่าเพราะทุกคนซื้อแล้วถือ
หุ้นคุณค่าจะแพงมากจนต้องซื้อที่ P/E 40-50 แต่ข้อสำคัญก็คือ พวกเราชาว VI ที่ถือหุ้นอยู่ก่อนจะรวยมั่กๆ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 19, 2008 8:55 am
โดย charnengi
PE ตลาดจะเหลือ 7-8 เท่าครับ

เพราะ VI ชอบของถูกๆ :lol:

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 19, 2008 11:04 am
โดย krisy
ถ้าเป็นไปได้จริง

ผู้บริหารจะทำงานอย่างตั้งใจมากขึ้น เพราะราคาหุ้นจะสะท้อนผลประกอบการ

ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น

นักลงทุนสุขภาพดีขึ้น ไม่ต้องเฝ้าจอ ทั้งเจ็บตา ทั้งอ้วน ก้นโต พุงพลุ้ย จะได้มีเวลาไปไหนมาไหนมากขึ้น

นายจ้างมีความสุขเพราะลูกน้องทำงานดีขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเฝ้าหุ้นมากนัก สมาธิบังเกิด

ความตื่นเต้นในชีวิตลดลง คาดว่าการเล่นหวยน่าจะบูมขึ้น อิอิ

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 19, 2008 11:19 am
โดย pavilion
ไม่มีแมงเม่า - ไม่มีใครตามกระแส
ซื้อหุ้นยากขึ้น - มีแต่คนถือ ไม่มีคนขาย
มีแต่หุ้นถูก - ไม่มีใครยอมซื้อแพง
ขายหุ้นก็ยากขึ้น - พอเราจะขาย ก็ไม่ค่อยมีคนจะซื้อ

แต่ผมว่าเป็นไปได้ยากนะอีก 10 ปี ต่อให้อีก 100 ปีผมว่าก็ไม่ได้มีแต่ VI ในตลาดหรอก คนเราต่างคิดต่างจิตต่างใจจะให้คิดเหมือนกันหมดคงเป็นไปได้ยาก

จะเป็นอย่างไร หากอีกสิบปีข้างหน้า นักลงทุนกลายเป็น VI กันหมด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 20, 2008 6:39 am
โดย chaiyos
VI ก็มีเป้าหมายต่างกัน และต้นทุนต่างกัน