หน้า 1 จากทั้งหมด 2
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 10:20 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
ในตลาดหุ้นที่แสนจะวุ่นวาน มีปริมาณการซื้อ-ขายในแต่ละวันเป็นมูลค่าหลายพันล้าน ทุกคนที่ซื้อขายหุ้นในตลาดแห่งนี้หวังในสิ่งเดียวกันนั้นคือ กำไร
แต่การจะได้มาซึ่งกำไรนั้นมีหลากหลายวิธีการ เช่น การเล่นหุ้นตามกราฟ เล่นตามข่าว เล่นตามขาใหญ่ และหนึ่งในวิธีการทำกำไรจากตลาดหุ้นคือ การลงทุนในธุรกิจ (แนวทางที่ VI เขาทำกัน)
การที่เราจะเลือกลงทุนในธุรกิจได้นั้นนอกจากจะต้องมีกำลังทรัพย์แล้วเราคงต้องเข้าใจธุรกิจว่าธุรกิจที่เราจะลงทุนนั้นเขาทำอะไร มีรายได้จากอะไร ความสามารถในการทำกำไรเป็นอย่างไร มีโอกาสเติบโตมากแค่ไหน จึงทำให้เราต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่เราต้องการจะลงทุนให้ดีก่อน ถ้าเรามีความรู้พื้นฐานในในธุรกิจนั้นๆ อยู่บ้าง คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อยอดหาความรู้เพิ่มเติม แต่ถ้าเราไม่มีความรู้ในธุรกิจนั้นๆ เลยแล้วเราจะทำยังไง
การเรียนรู้ข้อมูลของธุรกิจย้อยหลังจากผู้รู้จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเรียนรู้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อมูลที่เราได้รับนั้นเป็นข้อมูลที่มีทัศนคติของคนเหล่านั้นแฝงอยู่ด้วย และในหลายๆ ครั้ง ทัศนคติเหล่านั้นเองที่มีผลต่อการลงทุนของเรามากกว่าข้อมูล จนส่งผลให้เรากลายไปเป็นนักลงทุนรุ่น 2 และหลายๆ ครั้ง การลงทุนในธุรกิจที่เราคิดว่าเข้าใจมันก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิด ถามว่าทำไม
1.เพราะการลงทุนในธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาแทบจะทุกวัน บางวันราคาหุ้นอาจจะขึ้นบางวันอาจลง ทำให้จิตใจของคนเหล่านี้หวั่นไหว โดยเฉพาะเวลาหุ้นลงนักลงทุนรุ่น 2 มักจะทำอะไรไม่ถูกเช่นไม่กล้าซื้อเพิ่มในราคาที่ถูกทั้งที่ธุรกิจยังดีอยู่ หรือไม่กล้าขายออกในกรณีที่ซื้อมาแพงจนเกินไป
2.เพราะเมื่อราคาหุ้นดีขึ้นซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาแต่นักลงทุนรุ่น 2 กลับยิ่งมั่นใจรีบซื้อเพิ่มด้วยกลัวว่าจะตกรถหรือกลัวจะไม่ได้ของถูกจึงมักจะไล่ซื้อตามกันผลคือ ติดดอย อาจจะเป็นเดือนหรือเป็นปี ส่วนคนที่ทนไม่ได้ก็ชิงลงมือตัดขาดทุนไปก่อน ทั้งๆ ที่บางทีธุรกิจนั้นยังดีอยู่และยังไม่ได้แสดงความสามารถในการทำกำไรเท่านั้น
3.เพราะในกรณีที่หุ้นขึ้นแล้วไม่ได้ซื้อเพิ่มอาจเป็นเพราะเงินหมดหรือไม่กล้าตาม นักลงทุนเหล่านี้ก็มักจะไม่รู้ว่าราคาไหนควรจะขายจึงทำให้ไดกำไรไม่มากเท่าที่ควร (แต่อย่างว่าขายหมูยังงดีกว่าติดดอย)
4.เพราะในกรณีที่พื้อฐานธุรกิจเปลี่ยนนักลงทุนรุ่น 2 มักจะรับรู้ข้อมูลช้า คิดช้า ตัดสินใจช้าอาจเป็นเพราะต้องการความคิดเห็นมาช่วยยืนยันความคิดตน (หลายๆ ครั้งผมก็เป็น)
5.ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหลายครั้งในการซื้อ-ขายหุ้นนักลงทุนรุ่น 2 หาเหตุหลไม่ได้ในการซื้อครั้งนั้นๆ ซื้อเพราะเชื่อที่จะเชื่อ ไม่ได้เชื่อข้อมูล ซื้อเพราะคิดว่าว่าดี
และมีเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้นักลงทุนรุ่น 2 ไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนเท่าที่ควร แต่การเป็นนักลงทุนรุ่น 2 ยังดีกว่าการเป็นนักลงทุนรุ่นสุดท้ายที่เมื่อซื้อธุรกิจแล้วจะหาคนมารับช่วงต่อได้ยาก
ถามตัวเองหรือยังคับ ว่าตอนนี้คุณเป็นนักลงทุนรุ่น 2 หรือเปล่า
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 10:36 pm
โดย numyak
กลั่นมาจากใจเลยครับ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 11:59 pm
โดย por_jai
พอจะเข้าใจความรู้สึกอยู่
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 2:06 am
โดย Juninho
เข้าใจดีเลยครับ
ไม่รู้จะอ่านหนังสืออะไรดี หากอยากเป็น วีไอ รุ่น 1
การจะเข้าใจธุรกิจเขาอย่างลึกซึ้ง แค่หนังสือตีแตก
หนังสือบัฟเฟตต์ ปีเตอร์ลินซ์ เกรแฮม คงยังไม่พอ
ใครโปรดช่วยแนะนำหนังสือให้กระผมหน่อยซิครับ
คงต้องหาหนังสือ พวก mba , หนังสือที่พวกบัญชีเรียนกัน หรือเปล่าหนอ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 2:06 am
โดย Pn3um0n1a
ผมว่า รุ่น 1 กะรุ่น 2 ต่างกัน มากโขอยู่นะครับ
และ ผมก็เชื่อว่า รุ่น 1 ก็ยังเป็นรุ่น 1 ต่อไป
และรุ่น 2 ก็ยังเป็นรุ่น 2 ต่อไป...
ยกเว้นแต่ว่า รุ่น 2 พยายามที่จะเป็นรุ่น 1
ผมไม่โทษใคร ไม่ซ้ำเติมใคร
แต่ใครจะเป็นรุ่น 1 หรือ 2 มันอยู่ที่ตัวเอง จะโทษฟ้าอย่างเดียว ไม่ได้แน่นอน
พี่กุหลาบ เขียนได้สุดยอดเลยครับ...
หวังว่าจะช่วยให้ ใครสักคน ไม่กี่คน หรือ มากคน ได้อยู่เหนือตัวเอง...
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 6:31 am
โดย กุหลาบงามหลังฝน
ผมว่าการจะเป็นรุ่น 1 หรือรุ่น 2 ยังไม่สำคัญเท่ากับเข้าใจและยอมรับความสามารถตนเอง โดยไม่ลำเอียง
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 12:23 pm
โดย por_jai
8) ผมเป็นวีไอรุ่น2ผสมกับรุ่น3
คือไม่เคยหาหุ้นเอง
หาจากรุ่น1นี่แหละ
แต่ผมรู้ว่าทีมผม ฝีเท้าผู้เล่นสู้รุ่น1เขาไม่ได้
เวลาเล่น ผมก็ไม่เปิดเกมบุกใส่ครับ
ผมก็ค่อยๆตั้งรับแล้วรอสวน ม่ายงั้นไม่มีพื้นที่ให้เล่น ให้ทำประตู
เพราะผมรู้ตัวว่าไม่มีดารา ก็เน้นทีมเวิร์ค เน้นฟิต ซ้อมหนัก
แท็คติอาจเป็นรอง แต่เรื่องแรง วิ่งได้120นาทีไม่มีหมด
ไม่เอาเปรียบกัน ช่วยกันเล่น
โอกาสแพ้เยอะ แต่โอกาสชนะก็มีไม่น้อย
ผมว่าที่แย่คือเราเป็นรุ่น2หรือรุ่น3แล้วไพล่ไปคิดว่าเก่งเหมือนรุ่น1เขา
นี่นะซีครับ
พอเปิดเกมมาก็บุกใส่เขาใหญ่...ฮ่า...อย่างนี้ละขนประตูกลับบ้านเป็นเข่งๆแน่เลย...
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 1:00 pm
โดย Pn3um0n1a
ประเด็นพี่กุหลาบนี่ แยกรุ่น 1 กะ 2 ยังไงเหรอครับ
ยังคลุมเครือ...
ในความเห็นผม เท่าที่อ่าน เข้าใจว่า
แต่รุ่น 1 ก็ไม่ได้จำเป็นต้องหาหุ้นเอง แต่ต้องเข้าใจในธุรกิจที่ซื้อจริงๆ
มี valuation ในใจที่แม่นยำ
ส่วนรุ่น 2 เข้าใจแค่ลวกๆ เข้าใจแค่ว่าดีก็ซื้อ
valuation บิดเบือนไปจากความรู้สึก จากการฟังมา จากการเข้าข้างตัวเอง
ไม่น่าจะแบ่งจากการหาหุ้นเองรึเปล่า
อย่างพี่พอใจนี่ในความเห็นผม ไม่นับเป็นรุ่นสองรุ่นสามแล้ว
เป็นรุ่นหนึ่งไปเรียบร้อย แต่ยังถ่อมตัวอยู่นั่น...
แต่เห็นด้วย ว่า จะแย่มาก ถ้าเป็นรุ่น2 ไปคิดว่าเก่ง เหมือนรุ่น1
(ผมเองก็เคยนะ ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ แต่ก็พยายามไต่เต้าไปเรื่อย)
ว่ากันว่า หลงทางไม่น่ากลัว แต่หลงตัวสิน่าเกรง...
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 1:41 pm
โดย por_jai
เรื่องหุ้นยอมเป็นรุ่นสอง
แต่เรื่องน้อง(หนู)ขอเป็นรุ่นหนึ่ง
หมอนิวครับผมไม่ใช่พวกเก่งแต่เป็นพวกเฮงครับ
ได้แต่เพื่อนดีๆน้องดีๆเขาก็เมตตา
เขากลัวผมจะลำบากตั้งแต่ยังหนุ่มๆ..วะฮาฮ่า...
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 3:07 pm
โดย Juninho
แต่ผมว่า พี่กุหลาบนี่ แยกรุ่น 1 กะ 2 ไม่น่าจะใช่อย่างที่
คุณ Pn3um0n1a บอกนะครับ น่าจะดูจากประโยคนี้
การเรียนรู้ข้อมูลของธุรกิจย้อยหลังจากผู้รู้จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเรียนรู้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อมูลที่เราได้รับนั้นเป็นข้อมูลที่มีทัศนคติของคนเหล่านั้นแฝงอยู่ด้วยและในหลายๆ ครั้ง ทัศนคติเหล่านั้นเองที่มีผลต่อการลงทุนของเรามากกว่าข้อมูล จนส่งผลให้เรากลายไปเป็นนักลงทุนรุ่น 2
ก็คือ หากแม้เข้าใจธุรกิจจริง ๆ แต่การเข้าใจในธุรกิจนั้นผ่านบุคคลซึ่งเป็นรุ่นที่ 1
และโดยเฉพาะหากทัศนคติของบุคคลรุ่นที่ 1 มีผลต่อ
ตัวเองอย่างมาก ก็น่าจะนับได้ว่าเป็นรุ่นที่ 2
ส่วนที่ คุณ Pn3um0n1a เขียนว่า
พวกที่เข้าใจแค่ลวกๆ เข้าใจแค่ว่าดีก็ซื้อ
valuation บิดเบือนไปจากความรู้สึก จากการฟังมา จากการเข้าข้างตัวเอง ผมว่า อาจจะไม่ใช่วีไอนะครับ
หรือถ้าใช่ก็น่าจะจัดเป็นรุ่นที่ 3 นู่นแน่ะครับ
ไม่รู้จะตรงกับพี่กุหลาบหรือเปล่าครับ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 3:45 pm
โดย Pn3um0n1a
frog2 เขียน: การเรียนรู้ข้อมูลของธุรกิจย้อยหลังจากผู้รู้จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ง่ายและรวดเร็ว แต่การเรียนรู้ข้อมูลจากบุคคลเหล่านี้เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อมูลที่เราได้รับนั้นเป็นข้อมูลที่มีทัศนคติของคนเหล่านั้นแฝงอยู่ด้วยและในหลายๆ ครั้ง ทัศนคติเหล่านั้นเองที่มีผลต่อการลงทุนของเรามากกว่าข้อมูล จนส่งผลให้เรากลายไปเป็นนักลงทุนรุ่น 2
อย่างนี้ ไม่สามารถเรียกได้ว่า
เข้าใจจริงๆ ครับ แน่นอน ฟันธง
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 4:13 pm
โดย humdrum
สวัสดีครับ บรรยากาสที่นาราธิวาสเป็นไงบ้างครับ
ที่โกลก ยังเงียบอยู่ไหม ไมได้ไปตั้ง 5 ปีแล้ว
ครั้งสุดท้ายไป ผมยังเห็นแกะมันคุ้ยถังขยะเหมือนหมาเลย
แต่ไม่เคยเห็นหมาสักตัวครับ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
สำหรับบทความ นอกจากงานของป๋าพอใจแล้ว ไม่ได้อ่านบทความดีๆ ที่เขียนสมาชิกในเว็บนานแล้ว
ผมขอแซมสักหน่อยครับว่า เราจะรู้สึกอย่างไรถ้าคนนอกกล่อง Vi ที่มองลงมายังโลก Vi ของพวกเราแล้วเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นเพราะเรามองกันแค่สามมิติเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นในมิติที่สี่เลย ในมิติที่สี่นั้น เขาจะพูดกันว่า พวก "VI 1 เป้นส่วนสำคัญในชีวิตของ V2 น้อยกว่าที่ V2 เป็นส่วนสำคัญในชีวิต V1 "
บางที เราไปในมิติที่สี่ เราจะเข้าใจอะไนเยอะขั้นครับ
บทความของท่านกุหลาบนี้จะอีกกี่ปีก็ไม่เคยล้าสมัย
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 4:20 pm
โดย Juninho
สำหรับผมมีปัญหาในการตีความคำว่า เข้าใจจริง ๆ
คำว่า เข้าใจจริง ๆ มันแค่ไหนครับ
เช่น นาย ก. เป็นคนที่ลงทุนเก่งที่สุดในเว็บ(วีไอรุ่น 1)
จะเข้าใจในธุรกิจนั้นจริง ๆ เหมือนผู้บริหารหรือไม่
(สำหรับผมนาย ก. วีไอรุ่น 1 เข้าใจจริง ๆในธุรกิจ
แต่สำหรับผู้บริหาร นาย ก. อาจเข้าใจแค่กลาง ๆ)
นาย ข. รู้ว่าบริษัททำอะไร ต้นทุนเท่าไร ขายเท่าไร
มาร์จิ้นเท่าไร ทรัพย์สิน หนี้สิน มีอะไรบ้าง
การเติบโตเป็นอย่างไร จะถือได้ว่านาย ข.
เข้าใจจริง ๆ ได้หรือยัง
แต่อย่างไรก็ตามทัศนคติของนาย ก. มีผลต่อนาย ข.
นาย ข. เป็นวีไอรุ่น 1 หรือ รุ่น 2 ครับ
เริ่มงง :oops:
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 4:43 pm
โดย Pn3um0n1a
frog2 เขียน:
นาย ข. รู้ว่าบริษัททำอะไร ต้นทุนเท่าไร ขายเท่าไร
มาร์จิ้นเท่าไร ทรัพย์สิน หนี้สิน มีอะไรบ้าง
การเติบโตเป็นอย่างไร จะถือได้ว่านาย ข.
เข้าใจจริง ๆ ได้หรือยัง
แต่อย่างไรก็ตามทัศนคติของนาย ก. มีผลต่อนาย ข.
นาย ข. เป็นวีไอรุ่น 1 หรือ รุ่น 2 ครับ
ถ้าตามที่ผมคิด ข้อมูลแค่นี้ไม่เพียงพอ
ผมต้องถามต่อว่า นาย ข ซื้อหุ้นบริษัทนั้น
บริษัททำอะไร - ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง วัตถุดิบคืออะไรบ้าง มีอะไรมากระทบต่อต้นทุนส่วนนี้บ้าง ขั้นตอนการผลิตผลิตมายังไง ต้องใช้คนกี่คน ผลิตคนยากง่ายแค่ไหน ถ้าใช้เครื่องจักรใช้ได้กี่ปี ต้องมีการลงทุนใหม่บ้างหรือไม่
ราคาขายมีอะไรมากระทบบ้าง คู่แข่งคือใคร มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบยังไง
ทัษนะคติของผู้บริหารเป็นอย่างไร การตลาดทำอะไรบ้าง
โอย มากมายไม่รู้จบ แล้วแต่ว่า บริษัทนั้น ทำอะไร คำถามก็คงต้องเปลี่ยนแปลงไป
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างพี่พอใจ รู้จัก snc ยังกะบริหารเอง ยกให้ได้ว่า เป็นรุ่น 1 (ไม่ต่ำกว่า 2 แน่ๆ) opp day ก็ไปประจำ วิสิทก็ไป โรงงานก็เห็นมาแล้ว รู้จักผู้บริหารมากพอ (น่าจะ อันนี้แล้วแต่คนนะครับ)
อย่างผมนี่ ก็คงเป็นระดับ 3 พยายามก้าวสู่ 2 พยายามเรียนรู้ให้มากที่สุด
ส่วนจะเป็น 1 ได้ คงอีกเป็นสิบปี ไม่รู้ชาตินี้จะได้เป็นรึเปล่า
อย่างนาย ข ที่บอกมานี่ เท่าที่ผมอ่าน เห็นรู้แต่ตัวเลข
ส่วนตัว ผมจัดให้เป็นแค่ รุ่น 3-4 เลย (ถ้ารู้แค่เท่าที่โจทย์ให้มานะครับ)
เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ใครแบ่งระดับยังไงด้วยมาตรฐานไหนไม่สำคัญหรอกครับ
ผมเห็นด้วยกับพี่ๆ เลย การแบ่งระดับ หรือ รุ่น ก็คงไม่มีประโยชน์เท่ากับการรู้จักตัวเองให้มากก่อน ไม่งั้นมีเจ็บหนัก....
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 5:11 pm
โดย por_jai
ส่วนตัวชอบมดเขียว V3 ครับ
สีมันไม่เหมือนมดแดง V1กับV2
แล้วท่าแปลงกาย ท่าต่อสู้ เท่ห์กว่ามากมาย
เป็นVไหนก็ได้ครับ ขอให้ชนะพวก ช็อกเก้อร์ได้ก็ละกัน
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 5:14 pm
โดย Juninho
โห ยากจังนะครับ วีไอรุ่น 1
จริง ๆ ก่อนซื้อหุ้นทุกตัวผมจะอ่าน 56-1 จนจบ
อ่านกระทู้ในร้อยคนร้อยหุ้นทุกหน้า แต่รู้สึกว่ายังไงก็ไม่สามารถ รู้ได้เท่าพี่ ๆ รุ่น 1
แต่จะพยายามเลื่อนชั้นของตนโดยการศึกษามาก ๆ
ปัญหาคือศึกษาอย่างไรดี
อ่านแค่หนังสือคอนเซ็ปต์วีไอคงไม่พอ ใครพอมีแนวทาง
แนะนำไหมครับ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 8:59 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับบทความแรกที่เขียนในเว็บนี้อิอิ
สำหรับผมแล้วการจะแบ่ง vi 1 กับ vi 2 ที่ชัดเจนคงเป็นเรื่องความเข้าจัยในตัวธุรกิจที่เราจะลงทุนเป็นสำคัญ เช่น การอ่านงบการเงินผมคิดว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ vi ส่วนใหญ่ทำกันแต่เราทำได้ดีขนาดไหน หรือโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนเรารู้และเข้าใจมากแค่ไหนเช่น จีนที่ส่งออกถ่านหินเป็นอันดับ 1 ของโลกในปีที่ผ่านมาอยู่ๆออกมาประการจะไม่ส่งออกถ่านหินและจะนำเข้าด้วยส่งผลอย่างไรต่อหุ้นเรา ถือ BANPU UMS LANNA ต่างกันอย่างไรเมื่อมีข่าวนี้ คิดและวิเคราะห์ได้มาน้อยเพียงใด
น่าจากความเข้าจัยแล้วยังมีเรื่อง valuation ก็สำคัญรู้รูปแบการทำธุรกิจแล้วต้องรู้ราคาไม่นั้นก็ขายหมูอยู่ลำไป
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 11:10 pm
โดย Pn3um0n1a
บทความดีๆ อย่างนี้ น่าไปเขียนไว้หน้าแรกนะครับ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 18, 2008 4:40 pm
โดย yoyo
por_jai เขียน:ส่วนตัวชอบมดเขียว V3 ครับ
สีมันไม่เหมือนมดแดง V1กับV2
แล้วท่าแปลงกาย ท่าต่อสู้ เท่ห์กว่ามากมาย
เป็นVไหนก็ได้ครับ ขอให้ชนะพวก ช็อกเก้อร์ได้ก็ละกัน
เหมือนประโยคที่บอกว่า "แมวสีอะไรก็ไม่สำคัญ ถ้าจับหนูได้" เลยครับ
แต่ของพี่พอใจเท่ห์กว่ากันเยอะ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 18, 2008 8:26 pm
โดย por_jai
แต่ของพี่พอใจเท่ห์กว่ากันเยอะ
คนเท่ห์ก็มักโพสอะไรเท่ห์ๆ
เป็นทำมะดา
............................
คนอ่าน.........แหวะแอ่ะๆ
............................
อีตาพอใจ.....อ้าวๆพี่อย่าขว้างของมาบนเวทีสิครับ
หมั่นไส้ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
ที่โน๊สเล่นเดี่ยวคุยคนเดียวตั้ง3ชั่วโมงยังไปฟังเขาโม้ได้
...............................................
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 18, 2008 10:45 pm
โดย ก้อนหิน
por_jai เขียน:
คนเท่ห์ก็มักโพสอะไรเท่ห์ๆ
เป็นทำมะดา
............................
คนอ่าน.........แหวะแอ่ะๆ
............................
อีตาพอใจ.....อ้าวๆพี่อย่าขว้างของมาบนเวทีสิครับ
หมั่นไส้ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
ที่โน๊สเล่นเดี่ยวคุยคนเดียวตั้ง3ชั่วโมงยังไปฟังเขาโม้ได้
...............................................
นักลงทุนแนว แอร์โร่ไดนามิค ชมกันเองนี่นา
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 19, 2008 1:22 am
โดย yoyo
por_jai เขียน:
คนเท่ห์ก็มักโพสอะไรเท่ห์ๆ
เป็นทำมะดา
............................
คนอ่าน.........แหวะแอ่ะๆ
............................
อีตาพอใจ.....อ้าวๆพี่อย่าขว้างของมาบนเวทีสิครับ
หมั่นไส้ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
ที่โน๊สเล่นเดี่ยวคุยคนเดียวตั้ง3ชั่วโมงยังไปฟังเขาโม้ได้
...............................................
ไม่ได้ว่าอะไรนะพี่... แต่ว่าเวลา quote นี่น่าจะ quote ให้มันครบๆประโยคหน่อย...
quote แค่นี้
แต่ของพี่พอใจเท่ห์กว่ากันเยอะ
เดี๋ยวใครมาอ่านจะคิดกันไปไกล ผมเสียหายแย่เลย :twisted:
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 19, 2008 9:41 am
โดย por_jai
พี่มือล่องหน เขียน:
19. ในตลาดที่ผันผวนช่วง 1-2 ปีนี้ การถือเงินสดในพอร์ตไว้เสียหน่อย หรือหาหุ้นที่คล้ายๆ การถือเงินสดไว้บ้าง ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี การที่หุ้นผันผวนนั้นเรื่องภาวะจิตใจในการลงทุนนั้นมีความสำคัญมากขึ้น ตามบางส่วนของโคลง 4 สุภาพที่ว่าไว้ว่า
ฝูงชนกำเนิด คล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ ฤาไหว
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 18, 2008 2:48 pm
โดย noooon010
มีพี่ที่แสนดีแนะนำมา
จึงขออนุญาติ ขุดมาให้อ่านกันอีกครั้งนะครับ :D
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 18, 2008 9:34 pm
โดย ปรัชญา
อ่านแล้วให้ความรู้สึกที่ดีครับ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 23, 2009 1:49 am
โดย Renne
แวะมาอ่านครับ ขอบคุณสำหรับความรู้และประสบการณ์ดีๆครับ m( _ _ )m
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 23, 2009 7:32 pm
โดย baby-investor
ไม่ว่ากี่ปี ผมว่าบทความนี้ก็ทันสมัยไม่เสื่อมคลายเลยครับ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 26, 2009 9:16 pm
โดย Jnos
อ่านแล้วเหมือนโดนตีแสกหน้าเลย นับถือครับ เขียนได้ดีมาก ทำให้ได้กลับมาทบทวนตัวเองว่าจริงๆแล้วยังห่างไกลกับคำว่า Value Investor ที่แท้จริง หลายหมื่นลี้
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 12, 2010 9:58 pm
โดย Fon^^
ขออนุญาติพี่กุหลาบขุดกระทู้ดีๆกลับมาอีกครั้งค่ะ
VI รุ่น 2
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 12, 2010 11:06 pm
โดย dome@perth
เอ....ผมไปอยู่ไหนมา พึ่งได้อ่าน
ขอบคุณหมอ ฝนครับ
ขอแสดงความนับถือ พี่กุหลาบงามครับ
บทความอมตะ น่าชมเชยครับ