Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตอนนี้เท่าที่ดูเหมือนกับว่าสินค้าทั่วๆไปหลายๆอย่างโดยเฉพาะ commodities ที่ quote กันเป็น usd นั้นมีการปรับราคาขึ้นซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพื่อชดเชยค่าเงิน usd ที่อ่อนลงหรือเปล่า แต่ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไป พวกหุ้นส่งออกเราที่เคยกลัวๆกันว่าค่าเงินจะมีผลกระทบมากนั้น จะไม่โดนกระทบมากอย่างที่คิดหรือเปล่าครับ ?

หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นนะ

ตอนนี้มีหุ้นส่งออกหลายๆตัวดูดีมีศักยภาพขึ้นมาก

และราคาไม่แพง

การขายสินค้า  ถ้า Demand มากกว่าหรือใกล้เคียง Supply ก็ไม่ค่อยน่าห่วง

แต่ถ้า Demand ลดลง  ต่ำกว่า Supply มากๆละก็  น่าเป็นห่วงนะครับ

รวมทั้งคงต้องมองว่า Demand เป็นของจริงหรือของเทียม  มีกำลังซื้อจริงหรือกำลังซื้อเทียม

chatchai เขียน:การขายสินค้า  ถ้า Demand มากกว่าหรือใกล้เคียง Supply ก็ไม่ค่อยน่าห่วง

แต่ถ้า Demand ลดลง  ต่ำกว่า Supply มากๆละก็  น่าเป็นห่วงนะครับ

รวมทั้งคงต้องมองว่า Demand เป็นของจริงหรือของเทียม  มีกำลังซื้อจริงหรือกำลังซื้อเทียม

ถ้า ราคาพวก futures เกิดการ speculate มากเกินไปจน ฝั่ง demand ร้องยี้ ถอยหนี ตามด้วย supply เหลือมากขึ้นๆ
มีมุมมองอย่างไรครับ

ต้องติดตามกันต่อไปครับ แรงเก็งกำไรใน commodities ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาน่ากลัวมากๆ กำลังคิดว่าหรือว่าเราจะไปเล่นตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้ากันดีครับ  :lol:

ผมกำลังเล่นอยู่เนี่ยครับพี่หนู  :lol:  ...

เท่าที่เคยอ่านงานวิจัยปีก่อน มีคนมองเงินดอลลาร์อ่อนค่าสุดอยู่ที่ราว 29 บาทต่อดอลลาร์ครับ

... ตอนนี้เงินเฟ้ออเมริกาเริ่มสูงกว่า 5 เปอร์เซ็นต์แล้วนะครับ ... เฟดน่าจะลดดอกเบี้ยได้อีกไม่มากแล้ว

Popmc เขียน:เท่าที่เคยอ่านงานวิจัยปีก่อน มีคนมองเงินดอลลาร์อ่อนค่าสุดอยู่ที่ราว 29 บาทต่อดอลลาร์ครับ

งานวิจัยปีก่อน  ผมว่านานเกินไปแล้วครับ  และที่สำคัญ  ผมว่าไม่มีใครรู้จริงหรอกครับ  วิเคราะห์กันได้แต่คงไม่แม่นยำ  เพราะเหตุปัจจัยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

chatchai เขียน: งานวิจัยปีก่อน  ผมว่านานเกินไปแล้วครับ  และที่สำคัญ  ผมว่าไม่มีใครรู้จริงหรอกครับ  วิเคราะห์กันได้แต่คงไม่แม่นยำ  เพราะเหตุปัจจัยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เห็นด้วยครับ เรื่องพวกนี้่ไม่มีใครรู้จริง ที่ทายๆกันก็ไม่เห็นจะแม่นเลยครับ

เห็นด้วยครับพี่ ... งานที่ผมเคยอ่านเป็นของต้นปีก่อนเลยครับ

แต่งานนี้อาศัยมุมมองพื้นฐานจำพวก มูลค่าการขาดดุลการค้า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การเคลื่อนย้ายเงินลงทุน ฯลฯ นะครับ ... ไม่ใช่วิเคราะห์พวกเทคนิก

หลังๆไม่ค่อยได้ตามแล้วครับ ... ถ้าเห็นงานใหม่ๆจะเอามาบอกอีกที

มาแจมด้วยครับ....

   เพราะมีเงิน USD เก้บไว้บ้าง ผมขายบาทมารับดอลได้ 2 ปีกว่าแล้ว เงินดอลถูกลงทุกวันเลย ในขณะที่เงินยูโรแพงขึ้นตลอด แต่เมือว่นผมตัดสินใจขายบาทรับดอลเข้าพอร์ตเพิ่ม.....

     ผมมีข้อสังเกตอย่างนี้ครับ...

        การที่เงิน USd ถูกลง และเงินบาท แพงขึ้น นั้น มีข้อดีหนึ่งอย่างด้วยครับ และหนึ่งอย่างนี้ก็สำคัญต่อทั้งเศรษฐกิจและเศรษฐจิตในบ้านเราด้วย

   ทางเศรษฐกิจนั้น....

          การที่เงินบาทแพงขึ้นนั้น มีผลให้เงินเฟ้อลดลงด้วย
       (ถ้าบาทแพงขึ้นทุก 10 % เงินเฟ้อจะลดลง 0.5 %)

    ถ้าเราพิจรณาจากสมการรายได้ประชาชาติข้างล่างนี้

      x-m = Y- (C + I  +G )

   x.... ส่งออก
  m... นำเข้า
  Y...  GDP
  C...    consumption
  I.... Investment
 G.........ข้าราชการ spending

 
      ไม่นานเราจะเห็น x-m ที่น้อยลงและ เงินบาทจะถูกลงไปด้วย

เรื่องแรก เรื่องส่งออกกะค่าเงินครับ

ผมว่า SCB ทำวิจัยไว้ดีนะครับ

เห็นได้ว่าธุรกิจที่มี import content มาก แทบจะไม่ได้รับผลจากบาทแข็ง (นำเข้าวัตถุดิบมาถูก) เผลอๆ ได้มาร์จินเยอะขึ้นด้วยซ้ำ ถ้าบริหารจัดการดี เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์
เป็นสาเหตุที่ทำให้เราส่งออกสูงมากอยู่ได้ ทั้งๆ ที่บาทแข็งมาก

ขณะที่ กลุ่มที่ใช้ labou intensive อย่างเครื่องหนัง รองเท้า เสื้อผ้า ได้รับผลเต็มๆ เพราะค่าแรงมีแต่จะเพิ่ม แต่ขายสินค้าได้ถูกลง

Popmc เขียน:เท่าที่เคยอ่านงานวิจัยปีก่อน มีคนมองเงินดอลลาร์อ่อนค่าสุดอยู่ที่ราว 29 บาทต่อดอลลาร์ครับ

... ตอนนี้เงินเฟ้ออเมริกาเริ่มสูงกว่า 5 เปอร์เซ็นต์แล้วนะครับ ... เฟดน่าจะลดดอกเบี้ยได้อีกไม่มากแล้ว

Houses ใหญ่ๆ คาด fed fund rate กันใกล้ๆ 2.00% กลางปีนี้เลยนะครับ
ถ้าอย่าง JPM + DB ให้ 1.00% ตอนสิ้นปีด้วยซ้ำ

view เรื่อง fed fund ไม่หนีกันมากครับ ราคา commodities เลยขึ้นกันสนุกสนาน
ค่าเงินผมตามมาหลาย house แล้ว ไม่เคยถูกเลย จริงๆ ไม่ใกล้เคียงเลยด้วยซ้ำครับ อาจจะปัจจัยกระทบเยอะมากกๆ แต่ ดบ. มองกันได้แม่นยำมาก

จริง ๆ ตามสภาพของอเมริกาที่ผ่านมา ทั้ง twin deficit บักโกรก และวิกฤตแฮมเบอเกอร์

ค่าเงิน USD มันควรจะอ่อนกว่านี้ และเร็วกว่านี้เยอะ (พอ ๆ กับต้มยำกุ้งของเรา) แต่ที่มันค่อย ๆ ย่อลงทีละน้อย ไม่มากมายอะไรเพราะทุกประเทศคอยอุ้มสมอยู่

เกือบทุกประเทศในโลกนี้ ถือดอลลาร์อยู่ไม่รู้เท่าไหร่ แถมเมกาเป็นตลาดใหญ่ ถ้าตลาดวาย แถมเงินมันกลายเป็นแบงค์กงเต็กในเวลาไม่นาน คงวงแตกแน่ ๆ ดังนั้นเหตุการณ์มันจึงต้องเป็นอย่างนี้ คือค่อย ๆ คาย USD ออกมาแล้วหันไปถืออย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นเงินตราสกุลอื่น, ทองคำ หรือ commodities อื่น

ถ้ายังไม่พอ แล้วเศรษฐกิจเมกามันห่อเหี่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ช้านานเราอาจจะได้เห็นการเข้า shopping ทรัพย์สินในเมกา แบบ mega sale ของบรรดาประเทศต่าง ๆ เหมือนสมัยก่อน (ครั้งนั้นญี่ปุ่น shop แหลกจริง ๆ) ตอนนี้ก็เริ่ม ๆ แล้วครับ

งั้นเอาข้อมูลที่ผมรู้แน่ๆดีกว่านะครับ

Bernanke เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สนับสนุนแนวคิด Inflation Targeting หลักๆคนหนึ่งในโลกครับ ... งานเขียนทุกชิ้นจะมุ่งสนับสนุนให้ธนาคารกลางให้ความสำคัญกับปัญหาเงินเฟ้อมากกว่าปัญหาอื่นๆ ... จริงๆผมแปลกใจมากด้วยซ้ำที่เขาตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงเร็วขนาดนี้ (อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าอเมริกาอาการหนักจริงๆครับ)

ในบอร์ดของเฟดปัจจุบันมีหลายท่านมากที่เป็นหัวเรือหลักในการสนับสนุนแนวคิด Inflation Targeting ... จริงๆในการลดดอกเบี้ยที่ผ่านมาทุกครั้งมีผู้คัดค้านอยู่ 1-2 รายตลอดครับ ... อย่างไรก็ตามหลายคนยังเชื่อว่า Inflation เป็น Lagging Indicator (ไม่ใช่ Leading) นั่นคือ ถ้าเกิด recession จริงๆ ปัญหาเงินเฟ้อจะทุเลาลงเอง ... แต่รู้สึกว่าครั้งนี้จะไม่เป็นไปตามที่คาดครับ

คนอเมริกันกลัวเงินเฟ้อมากครับ อาจด้วยประสบการณ์จากทศวรรษ 1970 ที่เกิดปัญหาคล้ายๆกัน และทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปกว่า 10% ... ตอนนี้ด้วยการปรับเปลี่ยนทัศนคติในการดำเนินนโยบายการเงิน เราไม่เห็นการปรับตัวของเงินเฟ้อลักษณะดังกล่าว ... แต่ผมยังมั่นใจว่าน้ำหนักความสำคัญของเงินเฟ้อยังคงสูงเสมอครับ

... จริงๆก็ต้องดูระดับของปัญหา recession ประกอบด้วยครับ แต่ผมยังเชื่อว่าการลดดอกเบี้ยใกล้จบแล้วครับ