ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 1
ชีวิต ก็คือชีวิต
เกิด แก่ เจ็บ ตาย
เกิด คงอยู่ ใช้ชีวิต สิ้นไป
สโลแกน ชีวิต คือการลงทุน
พอฟัง ก็ดูดี ดูเท่ห์ และก็ น่าจะเป็น สโลแกน ที่สามารถ กระตุ้นผู้คนเพื่อการลงทุนได้ดีมาก
คนที่เข้าใจการลงทุน และ คิดเป็น ก็คงพอจะแยกแยะความหมายของประโยคนี้ได้ และก็ไม่ได้หลงไปกับมัน
แต่ถ้าคนที่ไม่เข้าใจ และถูกกระตุ้นด้วยประโยคนี้ แล้วไปยึดติด จนกลายเป็นความเชื่อแล้วไม่สามารถแยกแยะได้ ไม่แน่ใจว่าจะเกิด ผลดี มากกว่าร้าย หรือร้ายมากกว่าดี
แต่การลงทุน น่าจะเป็น เครื่องมือหนึ่ง เพื่อช่วยให้ชีวิต เข้าใจ แล้วเดินไปในทางที่ต้องการ อย่างมั่นใจ มั่นคง มั่งคั่งขึ้น
แต่การลงทุนก็เป็นคำที่เป็นแค่เพียง ส่วนหนึ่ง ของชีวิต
การลงทุน น่าจะเป็น เครื่องมือหนึ่ง ที่ช่วยให้ชีวิตเรียบง่ายขึ้น เหมือนอย่างที่ชาว vi หลายๆ คนสามารถ ใช้ การลงทุน เป็นเครื่องมือได้อย่างดี
การลงทุน เพื่อ อิสระภาพทางการเงิน
เกิด แก่ เจ็บ ตาย
เกิด คงอยู่ ใช้ชีวิต สิ้นไป
สโลแกน ชีวิต คือการลงทุน
พอฟัง ก็ดูดี ดูเท่ห์ และก็ น่าจะเป็น สโลแกน ที่สามารถ กระตุ้นผู้คนเพื่อการลงทุนได้ดีมาก
คนที่เข้าใจการลงทุน และ คิดเป็น ก็คงพอจะแยกแยะความหมายของประโยคนี้ได้ และก็ไม่ได้หลงไปกับมัน
แต่ถ้าคนที่ไม่เข้าใจ และถูกกระตุ้นด้วยประโยคนี้ แล้วไปยึดติด จนกลายเป็นความเชื่อแล้วไม่สามารถแยกแยะได้ ไม่แน่ใจว่าจะเกิด ผลดี มากกว่าร้าย หรือร้ายมากกว่าดี
แต่การลงทุน น่าจะเป็น เครื่องมือหนึ่ง เพื่อช่วยให้ชีวิต เข้าใจ แล้วเดินไปในทางที่ต้องการ อย่างมั่นใจ มั่นคง มั่งคั่งขึ้น
แต่การลงทุนก็เป็นคำที่เป็นแค่เพียง ส่วนหนึ่ง ของชีวิต
การลงทุน น่าจะเป็น เครื่องมือหนึ่ง ที่ช่วยให้ชีวิตเรียบง่ายขึ้น เหมือนอย่างที่ชาว vi หลายๆ คนสามารถ ใช้ การลงทุน เป็นเครื่องมือได้อย่างดี
การลงทุน เพื่อ อิสระภาพทางการเงิน
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 2
อิสระภาพทางการเงิน พบได้ด้วยการลงทุน
ชีวิตคือการลงทุน ผมว่าอย่าเอาชีวิตไปแลกกับการลงทุนเลยครับ มันไม่คุ้มหรอก ชีวิตมีค่ามากกว่านั้นมาก
แต่น่าจะเดินทางหาอิสระภาพทางการเงิน เพื่อให้เราพ้นจากอำนาจเงิน แล้วจะได้ ใช้ชีวิตที่มีค่าของเรา อย่างมีค่าที่แท้จริงต่อตัวเราเอง
ชีวิตคือการลงทุน ผมว่าอย่าเอาชีวิตไปแลกกับการลงทุนเลยครับ มันไม่คุ้มหรอก ชีวิตมีค่ามากกว่านั้นมาก
แต่น่าจะเดินทางหาอิสระภาพทางการเงิน เพื่อให้เราพ้นจากอำนาจเงิน แล้วจะได้ ใช้ชีวิตที่มีค่าของเรา อย่างมีค่าที่แท้จริงต่อตัวเราเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 3
ผมแปลกใจมากเลย
ที่ มีการสัมภาษณ์ คนหลายคน
แล้วพูดว่า การแต่งงาน มีลูก มีครอบครัว คือการลงทุน
การซื้อแหวน ที่เอาไปแต่งงาน คือการลงทุน
ชีวิต ความรู้สึก รัก อารมณ์ ห่วงใย อาทร คนที่รัก
ผมว่ามันคนละเรื่องกับการลงทุนเลย
เอ่ หรือเค้าคิดกันแบบนั้นจริงๆ
ที่ มีการสัมภาษณ์ คนหลายคน
แล้วพูดว่า การแต่งงาน มีลูก มีครอบครัว คือการลงทุน
การซื้อแหวน ที่เอาไปแต่งงาน คือการลงทุน
ชีวิต ความรู้สึก รัก อารมณ์ ห่วงใย อาทร คนที่รัก
ผมว่ามันคนละเรื่องกับการลงทุนเลย
เอ่ หรือเค้าคิดกันแบบนั้นจริงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 305
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 4
ก็ถุกแล้วนี่ครับ ในระดับชีวิตแล้ว การลงทุนคงไม่ใช่แค่ใช้เงินเพียงอย่างเดียว เวลา ความคิด กำลังกาย คำพุด การแสดงออก ก็เป็นทุนทางชีวิตอย่างนึงareliang เขียน:ผมแปลกใจมากเลย
ที่ มีการสัมภาษณ์ คนหลายคน
แล้วพูดว่า การแต่งงาน มีลูก มีครอบครัว คือการลงทุน
การซื้อแหวน ที่เอาไปแต่งงาน คือการลงทุน
ชีวิต ความรู้สึก รัก อารมณ์ ห่วงใย อาทร คนที่รัก
ผมว่ามันคนละเรื่องกับการลงทุนเลย
เอ่ หรือเค้าคิดกันแบบนั้นจริงๆ
อาจเหมือนที่เขาชอบใช้คำว่าทุนทางสังคม
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 6
คงเป็นคำพูด ทำเป็นสโลแกนให้มันดูสวยๆ น่าสนใจ
ความเห็นดิฉัน ไม่มีไรมากไปกว่า
ชีวิต ก็คือ ชีวิต
แค่นั้น
ไม่ว่าจะคิดว่า เป็นการลงทุน หรือไม่ใช่การลงทุน
ชีวิต ก็เป็นชีวิต เท่านั้นอยู่ดีแหละ
สิ่งทั้งหลาย เป็นแค่องค์ประกอบนึงของการดำเนินชีวิต แค่นั้น
:lol:
เมื่อเข้าใจว่า ไม่มีสิ่งใดควรหยาบหยาม
ย่อมไม่จำเป็นต้องมีสิ่งใดให้เชิดชู
:lol:
ความเห็นดิฉัน ไม่มีไรมากไปกว่า
ชีวิต ก็คือ ชีวิต
แค่นั้น
ไม่ว่าจะคิดว่า เป็นการลงทุน หรือไม่ใช่การลงทุน
ชีวิต ก็เป็นชีวิต เท่านั้นอยู่ดีแหละ
สิ่งทั้งหลาย เป็นแค่องค์ประกอบนึงของการดำเนินชีวิต แค่นั้น
:lol:
เมื่อเข้าใจว่า ไม่มีสิ่งใดควรหยาบหยาม
ย่อมไม่จำเป็นต้องมีสิ่งใดให้เชิดชู
:lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 8
ชีวิตใครชีวิตมัน :D
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 9
การลงทุนก็คือการที่เราลงเงิน แรง หรืออะไรบางอย่างในวันนี้เพราะต้องการผลตอบแทนเป็นกระแสเงินสด หรืออะไรก็ตามที่เราคิดว่าพอใจ ถ้าเอา concept นี้มาดูในชีวิตประจำวันผมก็ว่าไอ้ที่เราทำหลาย ๆ อย่างในชีวิตก็เป็นการลงทุนนะ ยกตัวอย่างเช่นการเรียนหนังสือ ถ้าคุนเรียนจนจบ ม.6 ไปสมัครงานก็จะได้รายได้เป็นรายวันตามค่าแรงขั้นต่ำ 190บาทต่อวัน หรือ5,700บาทต่อปี แต่ถ้าขยันหน่อยไปเรียนป.ตรี ก็จะเงินเดือนสูงขึ้น สมมติได้เงินเดือนสูงขึ้นเป็น 12,000 บาทต่อเดือน จะเห็นว่าลงทุนเรียนต่ออีก 4 ปี ได้ผลตอบแทนเพื่มอีก 100%
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 10
ผมคิดว่า รูปแบบ ของเงิน ของทุน นั้น เปลี่ยนมุมมองของคนเรา
งั้นผมขอพูดแง่คิดของผมน่ะครับ อย่าโกรธเคืองกันนะครับ
สมมุติจาก ตลาดหุ้นก่อนเลยนะครับ
ถ้าคิดว่า เราลงเงิน ไปสร้างโรงงาน
เงิน และ โรงงาน ก็เป็นทุน ลงทุน 500 ล้านบาท ได้กำไร ปีละ 100 ล้านบาท
แล้วบริษัทอยู่ในตลาดหุ้น ให้ P/E ที่10 เท่า
มูลค่า ของบริษัท ก็เท่ากับ 100 ล้าน คูณ 10 เท่า ก็เท่ากับ 1,000 ล้านบาท
ถ้าคิดชีวิตเราเป็นต้นทุนนะครับ
คนเรา จำนวนมาก กินเงินเดือน สมมุติได้เงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท
1 ปี ได้เงิน 240,000 บาท
แล้วถ้าชีวิต เราถูกซื้อขาย หรือ คิดราคาโดยต้นทุน คือ ชีวิต ที่ผลตอบแทน 10% ต่อปี
ค่าของเงินเมื่อมาประเมิน ชีวิต ก็ได้ 2,400,000 บาท
เริ่มรู้สึกแย่ยังครับ เพราะ เมื่อมามอง ชีวิตในรูปแบบของทุน ที่ผลตอบแทน 10% ต่อปี ชีวิต ที่ได้เดือนละ20,000 บาทมีค่า 2,400,000 บาท
แล้วพอผมคิดในแง่ เจ้าของบริษัท ต้องจ้างคน ซึ่งจะเป็นต้นทุนของบริษัท แล้วคาดหวังผลการลงทุนมากกว่า 10% ดังนั้น เมื่อบริษัทต้องจ้าง ก็ควรจะต้องประเมินแล้วว่า ลูกจ้างคนนี้ต้องทำผลตอบแทนมากกว่า 2,400,000 บาท ต่อปี ถ้าได้น้อยกว่านั้น อะไรคือเหตุผลที่บริษัท ควรลงทุนกับชีวิตนี้
ผมกลับคิดว่าเราไม่ควรมองชีวิตตัวเราในรูปแบบทุน หรือแม้แต่ชีวิตสัตว์
ชีวิตไม่ใช่สิ่งของ
เมื่อผมลงทุนซื้อรถ ผมก็ใช้มัน มูลค่ามันก็ลด ก็เสื่อม
เมื่อผมซื้อบ้าน ผมก็ใช้มัน ราคาก็อาจเพิ่มขึ้นได้ตามกาลเวลา
แล้วชีวิต ล่ะ จะประเมินมันยังไง
ลงทุนแต่งงาน แล้วจะประเมินยังไง
จะประเมิน ชีวิตว่า ภรรยา และ ลูก ความสุข เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนจริงเหรอ
ผมคิดว่า จริงๆแล้วสิ่งที่ทุกคนต้องการ คือ ความสุข
และคิดว่า การทำ น่าจะมาจากความอยากทำ รักที่จะทำ
แล้วค้นหาสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ในชีวิต ซึ่งจะเป็นความสุขระยะยาว
งั้นผมขอพูดแง่คิดของผมน่ะครับ อย่าโกรธเคืองกันนะครับ
สมมุติจาก ตลาดหุ้นก่อนเลยนะครับ
ถ้าคิดว่า เราลงเงิน ไปสร้างโรงงาน
เงิน และ โรงงาน ก็เป็นทุน ลงทุน 500 ล้านบาท ได้กำไร ปีละ 100 ล้านบาท
แล้วบริษัทอยู่ในตลาดหุ้น ให้ P/E ที่10 เท่า
มูลค่า ของบริษัท ก็เท่ากับ 100 ล้าน คูณ 10 เท่า ก็เท่ากับ 1,000 ล้านบาท
ถ้าคิดชีวิตเราเป็นต้นทุนนะครับ
คนเรา จำนวนมาก กินเงินเดือน สมมุติได้เงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท
1 ปี ได้เงิน 240,000 บาท
แล้วถ้าชีวิต เราถูกซื้อขาย หรือ คิดราคาโดยต้นทุน คือ ชีวิต ที่ผลตอบแทน 10% ต่อปี
ค่าของเงินเมื่อมาประเมิน ชีวิต ก็ได้ 2,400,000 บาท
เริ่มรู้สึกแย่ยังครับ เพราะ เมื่อมามอง ชีวิตในรูปแบบของทุน ที่ผลตอบแทน 10% ต่อปี ชีวิต ที่ได้เดือนละ20,000 บาทมีค่า 2,400,000 บาท
แล้วพอผมคิดในแง่ เจ้าของบริษัท ต้องจ้างคน ซึ่งจะเป็นต้นทุนของบริษัท แล้วคาดหวังผลการลงทุนมากกว่า 10% ดังนั้น เมื่อบริษัทต้องจ้าง ก็ควรจะต้องประเมินแล้วว่า ลูกจ้างคนนี้ต้องทำผลตอบแทนมากกว่า 2,400,000 บาท ต่อปี ถ้าได้น้อยกว่านั้น อะไรคือเหตุผลที่บริษัท ควรลงทุนกับชีวิตนี้
ผมกลับคิดว่าเราไม่ควรมองชีวิตตัวเราในรูปแบบทุน หรือแม้แต่ชีวิตสัตว์
ชีวิตไม่ใช่สิ่งของ
เมื่อผมลงทุนซื้อรถ ผมก็ใช้มัน มูลค่ามันก็ลด ก็เสื่อม
เมื่อผมซื้อบ้าน ผมก็ใช้มัน ราคาก็อาจเพิ่มขึ้นได้ตามกาลเวลา
แล้วชีวิต ล่ะ จะประเมินมันยังไง
ลงทุนแต่งงาน แล้วจะประเมินยังไง
จะประเมิน ชีวิตว่า ภรรยา และ ลูก ความสุข เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนจริงเหรอ
ผมคิดว่า จริงๆแล้วสิ่งที่ทุกคนต้องการ คือ ความสุข
และคิดว่า การทำ น่าจะมาจากความอยากทำ รักที่จะทำ
แล้วค้นหาสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ในชีวิต ซึ่งจะเป็นความสุขระยะยาว
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 11
*แก้ไข
แล้วพอผมคิดในแง่ เจ้าของบริษัท ต้องจ้างคน ซึ่งจะเป็นต้นทุนของบริษัท แล้วคาดหวังผลการลงทุนมากกว่า 10% ดังนั้น เมื่อบริษัทต้องจ้าง ก็ควรจะต้องประเมินแล้วว่า ลูกจ้างคนนี้ต้องทำผลตอบแทนมากกว่า 2,400,000 บาท ต่อปี ถ้าได้น้อยกว่านั้น อะไรคือเหตุผลที่บริษัท ควรลงทุนกับชีวิตนี้
*เป็น
แล้วพอผมคิดในแง่ เจ้าของบริษัท ต้องจ้างคน ซึ่งจะเป็นต้นทุนของบริษัท แล้วคาดหวังผลแทนการลงทุนมากกว่า ที่ต้องจ่าย ดังนั้น เมื่อบริษัทต้องจ้าง ก็ควรจะต้องประเมินแล้วว่า ลูกจ้างคนนี้ต้องทำผลตอบแทนมากกว่า 240,000 บาท ต่อปี ถ้าได้น้อยกว่านั้น อะไรคือเหตุผลที่บริษัท ควรลงทุนกับชีวิตนี้
แล้วพอผมคิดในแง่ เจ้าของบริษัท ต้องจ้างคน ซึ่งจะเป็นต้นทุนของบริษัท แล้วคาดหวังผลการลงทุนมากกว่า 10% ดังนั้น เมื่อบริษัทต้องจ้าง ก็ควรจะต้องประเมินแล้วว่า ลูกจ้างคนนี้ต้องทำผลตอบแทนมากกว่า 2,400,000 บาท ต่อปี ถ้าได้น้อยกว่านั้น อะไรคือเหตุผลที่บริษัท ควรลงทุนกับชีวิตนี้
*เป็น
แล้วพอผมคิดในแง่ เจ้าของบริษัท ต้องจ้างคน ซึ่งจะเป็นต้นทุนของบริษัท แล้วคาดหวังผลแทนการลงทุนมากกว่า ที่ต้องจ่าย ดังนั้น เมื่อบริษัทต้องจ้าง ก็ควรจะต้องประเมินแล้วว่า ลูกจ้างคนนี้ต้องทำผลตอบแทนมากกว่า 240,000 บาท ต่อปี ถ้าได้น้อยกว่านั้น อะไรคือเหตุผลที่บริษัท ควรลงทุนกับชีวิตนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 13
เป็นการเปรียบเทียบแบบทุนนิยมครับ
เป็นการเปรียบเทียบกับการลงทุนชนิดอื่นๆ
สมมติ การลงทุน ได้ 10% ต่อปี
เช่น
ภาวะ ดอกเบี้ยเงินฝาก 10% ต่อปี ซึ่งอาจจะไม่ยาวนานนัก
การลงทุนในบริษัท ให้ที่ผลตอบแทนที่แท้จริง ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี
และกำไรค่อนข้างสม่ำเสมอ
การซื้อรถทำ taxi ให้คนอื่นเช่า แล้วได้ผลตอบแทน ไม่ต่ำกว่า10% ต่อปี หลังหักค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
การสร้าง apartment ให้คนอื่นเช่า แล้วได้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี
**หมายเหตุ ชีวิต คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิด กับชีวิต แต่ละคน
ถ้าเห็นค่าชีวิตมากพอ จะรู้ว่าเงินเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้
เลยไม่อยากให้เอาชีวิต ไปเป็นทุน ต้นทุน ในวงทุนนิยม
แต่อยากให้เข้าใจทุนนิยม แล้วใช้มันให้เป็นมากกว่า
เป็นการเปรียบเทียบกับการลงทุนชนิดอื่นๆ
สมมติ การลงทุน ได้ 10% ต่อปี
เช่น
ภาวะ ดอกเบี้ยเงินฝาก 10% ต่อปี ซึ่งอาจจะไม่ยาวนานนัก
การลงทุนในบริษัท ให้ที่ผลตอบแทนที่แท้จริง ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี
และกำไรค่อนข้างสม่ำเสมอ
การซื้อรถทำ taxi ให้คนอื่นเช่า แล้วได้ผลตอบแทน ไม่ต่ำกว่า10% ต่อปี หลังหักค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
การสร้าง apartment ให้คนอื่นเช่า แล้วได้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี
**หมายเหตุ ชีวิต คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิด กับชีวิต แต่ละคน
ถ้าเห็นค่าชีวิตมากพอ จะรู้ว่าเงินเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้
เลยไม่อยากให้เอาชีวิต ไปเป็นทุน ต้นทุน ในวงทุนนิยม
แต่อยากให้เข้าใจทุนนิยม แล้วใช้มันให้เป็นมากกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 305
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 16
นั่นสิ ผมว่าจขกท. พยายามใช้หน่วยเป็นเงินมากไปก้อนหิน เขียน:ทำไมเราต้องเปรียบเทียบการลงทุนเป็นเงินเสมอไป ด้วยเหรอครับ
การเปรียบเทียบควรอยู่ในมิติเดียวกัน ความสุขจากการเห็นความสำเร็จของลูกๆ เป็นผลจากการที่เราลงทุนอบรม ฟูมฟัก ส่งเสียให้เล่าเรียน วัดเป็นตัวเงินไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 17
ชีวิตคือการลงทุน อาจจะมาจาก 2 ประโยคนี้ที่คุ้นเคยกันดี
ประโยคแรก "ชีวิตคือการเรียนรู้" และประโยคที่สอง "การเรียนคือการลงทุน" ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า "ชีวิตคือการลงทุน"
แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเลยกับประโยคที่สอง เพราะถ้าพากันสอนนักเรียน-นักศึกษาว่า การเรียนคือการลงทุน หลังจากพวกเขาเรียนจบก็คงจะพากันไป "ถอนทุน" คืนเอาจากวิชาชีพ หรือการงานที่ทำ ถ้าคนส่วนใหญ่ทำงานเพื่อถอนทุนคืน แล้วใครจะทำงานเพื่องานจริง ๆ ล่ะครับ และถ้าประโยคที่สองมันไม่จริงแล้ว ประโยคสรุปที่ว่า "ชีวิตคือการลงทุน" ก็จะไม่จริงเสมอไปด้วย
สำหรับประโยค "ชีวิตคืดการลงทุน" ผมคิดว่าน่าจะกลับกันว่า "การลงทุนคือชีวิต" (สำหรับนักลงทุนขนานแท้) หรือ "การลงทุนคือส่วนหนึ่งของชีวิต" (สำหรับคนทั่ว ๆ ไป) มากกว่าครับ
ประโยคแรก "ชีวิตคือการเรียนรู้" และประโยคที่สอง "การเรียนคือการลงทุน" ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า "ชีวิตคือการลงทุน"
แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเลยกับประโยคที่สอง เพราะถ้าพากันสอนนักเรียน-นักศึกษาว่า การเรียนคือการลงทุน หลังจากพวกเขาเรียนจบก็คงจะพากันไป "ถอนทุน" คืนเอาจากวิชาชีพ หรือการงานที่ทำ ถ้าคนส่วนใหญ่ทำงานเพื่อถอนทุนคืน แล้วใครจะทำงานเพื่องานจริง ๆ ล่ะครับ และถ้าประโยคที่สองมันไม่จริงแล้ว ประโยคสรุปที่ว่า "ชีวิตคือการลงทุน" ก็จะไม่จริงเสมอไปด้วย
สำหรับประโยค "ชีวิตคืดการลงทุน" ผมคิดว่าน่าจะกลับกันว่า "การลงทุนคือชีวิต" (สำหรับนักลงทุนขนานแท้) หรือ "การลงทุนคือส่วนหนึ่งของชีวิต" (สำหรับคนทั่ว ๆ ไป) มากกว่าครับ
ในที่สุด ราคาจะวิ่งเข้าหา มูลค่าที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 18
ยกตัวอย่างหน่อยครับ ว่าชีวิตเรามีอะไรไม่หวังผลบ้าง :P
ขับรถผมยังหวังเลยว่าต้องถึงจุดหมาย ไม่ถึงจุดหมายแล้วจะขับทำไม :lol:
มีคนรัก ก้อหวังว่าซักวันหนึ่ง จะได้อยู่ด้วยกัน :lol:
ปลูกต้นไม้ ก้อหวังว่าซักวันหนึ่ง จะออกดอกสวยงาม :lol:
เรียน ก้อหวังว่า จะเรียนจบ :lol:
เข้าเวบ thaivi ก้อหวังว่าจะได้หุ้นเด็ด :lol:
ชีวิตนี้ ทำอะไรแล้วไม่หวังผล ผมว่ามันลิเกไปหน่อยครับ
ป.ล. ความเห็นส่วนตัวจ้า :8) ...
ขับรถผมยังหวังเลยว่าต้องถึงจุดหมาย ไม่ถึงจุดหมายแล้วจะขับทำไม :lol:
มีคนรัก ก้อหวังว่าซักวันหนึ่ง จะได้อยู่ด้วยกัน :lol:
ปลูกต้นไม้ ก้อหวังว่าซักวันหนึ่ง จะออกดอกสวยงาม :lol:
เรียน ก้อหวังว่า จะเรียนจบ :lol:
เข้าเวบ thaivi ก้อหวังว่าจะได้หุ้นเด็ด :lol:
ชีวิตนี้ ทำอะไรแล้วไม่หวังผล ผมว่ามันลิเกไปหน่อยครับ
ป.ล. ความเห็นส่วนตัวจ้า :8) ...
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 20
จริงๆ ดิฉันว่า มันแค่เป็นการเล่นคำ (หรือ เอาคำมาเล่น ไรก็แล้วแต่อ่าค่ะ :lol: )
ให้มันเก๋ๆ ว่าไปค่ะ โฆษณา จะมาลอยๆจืดๆ มันก็ไม่น่าสนใจ
ส่วนความเป็นจริง มันไม่มีอะไรที่จะเป็นอะไรอื่นได้ มันต้องไปหาอะไรมาผสมตกกระทบเสียก่อน มันจึงกลายเป็นอะไรอื่นไปได้
เอาว่าภาพเปรียบง่ายๆ
เป็ด จะคือ ไก่ ...มันไม่ได้
เป็ดคือเป็ด ไก่คือไก่
แต่มันอาจจะอยู่เล้าเดียวกันได้ หรือถูกจัดหมวดให้อยู่ในสัตว์ปีกด้วยกันได้
หรือ มันอยากจะมีปฏิสัมพันธ์ ใดใดต่อกัน ก็สุดแล้วแต่มันจะกระทำต่อกัน
life เป็น noun
investment เป็น noun
คือ นี่ is นะ เป็น v to be :lol:
ให้แปลตรงๆ เชี๊ยะๆเลย มันเป็นไปไงได้ล่ะ
เป็ดคือเป็ด จะให้เป็นไก่ มันไม่ใช่อยู่แล้ว
มันแค่เชิง พรรณา มั้ง เชิงเปรียบเทียบ
คงจะพยายามสื่อจูงใจ อาจจะมองแง่จิตวิทยาของผู้คิดสโลแกนนี้
ชีวิตมันคือทั้งหมดที่เป็นชีวิตอยู่ในตัวมันแล้ว
ดังนั้นในเชิงจิตวิทยา มันดูมีค่าสูง และสำคัญ
การจะกระตุ้น ยกระดับความสำคัญในคำว่า การลงทุน มันก็คงต้องพยายามหาทางอั๊พเกรดความสำคัญของคำๆนี้ ให้สูงขึ้น สำคัญขึ้น
ถ้าลองเอามาวางเคียง ให้คนเชื่อมั่นเพิ่มความสำคัญให้คำๆนี้ ก็คือ เอามาเทียบชั้นกะคำว่า "ชีวิต" (ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจในวงกว้างอยู่แล้ว ว่าชีวิตคือ ทุกอย่างที่ประกอบอยู่ในชีวิต)
แต่ไงก็แล้วแต่ สำหรับดิฉัน
การลงทุน ว่าไปแล้ว เป็นแค่แผนกนึง ที่ทำหน้าที่ดำเนินการ อยู่ในหมวดหลักซึ่งคือ ชีวิต
เอาง่ายๆ ไหนๆก็ไหนๆ :lol:
มีเด็ก ปญอ.คนนึงเกิดมา ไม่มีโอกาสลงทุนอะไรทั้งสิ้น ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยว่า เวลาที่เขามี เอามาเป็นต้นทุนทำอะไรได้
ไม่ได้คิด (ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า"คิด"เนี่ยต้องทำกรรมวิธียังไง) ว่าจะเรียนอะไร จะมีเมียดีมั้ย จะหายใจดีรึเปล่า :!:
ถ้าชีวิต คือ การลงทุน (เอกแปลตามอักษรเลยน่ะ)
แล้วเด็กปญอ.คนนี้ เกิดมา ไม่ได้ทำอะไร หรือ ทำอะไรไป ก็ไม่เคยรู้ว่านี่คือได้ทำไปแล้ว
ได้หายใจไปวันๆ ก็ไม่รู้ว่าไอ้อย่างเนี้ย เขาเรียกว่าหายใจ
ไม่เข้าใจเลยว่า ลงทุนหายใจเข้ามาปื้ดนึงนะ จะได้กำไรมาเป็น หายใจออก
เขาไม่มีคำว่า การลงทุนอยู่เลย
เขาไม่น่าจะมีคำว่าชีวิต อยู่ในสาระบบของเขาเลย ก็น่าจะว่าได้
เขาอาจ ไม่มีพื้นที่สมอง ที่จะจัดแจงรับทราบเลยว่า อันไหนเรียกชีวิต อันไหนเรียกลงทุน
...ถึงอย่างนี้แล้วก็ตาม...เขาก็ยังต้องเรียกว่า มีชีวิต
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า
สโลแกนนี้ "ชีวิตคือการลงทุน"
จะเป็นการทำไปเพื่อ ยกระดับ ความหมายให้มากขึ้น ของคำว่า "การลงทุน"
หรือไปๆมาๆ อาจจะเป็นการ ดึงค่าความหมายของคำว่า "ชีวิต" ให้ลงไปอยู่ต่ำกว่าในระดับเดียวกันของคำว่า "การลงทุน"
แต่ก็นั่นแหละ ไม่เป็นไร
เมื่อเข้าใจว่า ไม่มีสิ่งใด น่าเหยียดหยาม
ย่อมรับรู้ว่า ไม่มีอะไรต้องเทิดทูน
ไก่ อยากจะขอเป็นเป็ด เป็ดก็ให้ไก่เป็นเถอะ ไม่เป็นไร ก็สนุกดีเหมือนกัน
:lol:
ให้มันเก๋ๆ ว่าไปค่ะ โฆษณา จะมาลอยๆจืดๆ มันก็ไม่น่าสนใจ
ส่วนความเป็นจริง มันไม่มีอะไรที่จะเป็นอะไรอื่นได้ มันต้องไปหาอะไรมาผสมตกกระทบเสียก่อน มันจึงกลายเป็นอะไรอื่นไปได้
เอาว่าภาพเปรียบง่ายๆ
เป็ด จะคือ ไก่ ...มันไม่ได้
เป็ดคือเป็ด ไก่คือไก่
แต่มันอาจจะอยู่เล้าเดียวกันได้ หรือถูกจัดหมวดให้อยู่ในสัตว์ปีกด้วยกันได้
หรือ มันอยากจะมีปฏิสัมพันธ์ ใดใดต่อกัน ก็สุดแล้วแต่มันจะกระทำต่อกัน
life เป็น noun
investment เป็น noun
คือ นี่ is นะ เป็น v to be :lol:
ให้แปลตรงๆ เชี๊ยะๆเลย มันเป็นไปไงได้ล่ะ
เป็ดคือเป็ด จะให้เป็นไก่ มันไม่ใช่อยู่แล้ว
มันแค่เชิง พรรณา มั้ง เชิงเปรียบเทียบ
คงจะพยายามสื่อจูงใจ อาจจะมองแง่จิตวิทยาของผู้คิดสโลแกนนี้
ชีวิตมันคือทั้งหมดที่เป็นชีวิตอยู่ในตัวมันแล้ว
ดังนั้นในเชิงจิตวิทยา มันดูมีค่าสูง และสำคัญ
การจะกระตุ้น ยกระดับความสำคัญในคำว่า การลงทุน มันก็คงต้องพยายามหาทางอั๊พเกรดความสำคัญของคำๆนี้ ให้สูงขึ้น สำคัญขึ้น
ถ้าลองเอามาวางเคียง ให้คนเชื่อมั่นเพิ่มความสำคัญให้คำๆนี้ ก็คือ เอามาเทียบชั้นกะคำว่า "ชีวิต" (ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจในวงกว้างอยู่แล้ว ว่าชีวิตคือ ทุกอย่างที่ประกอบอยู่ในชีวิต)
แต่ไงก็แล้วแต่ สำหรับดิฉัน
การลงทุน ว่าไปแล้ว เป็นแค่แผนกนึง ที่ทำหน้าที่ดำเนินการ อยู่ในหมวดหลักซึ่งคือ ชีวิต
เอาง่ายๆ ไหนๆก็ไหนๆ :lol:
มีเด็ก ปญอ.คนนึงเกิดมา ไม่มีโอกาสลงทุนอะไรทั้งสิ้น ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยว่า เวลาที่เขามี เอามาเป็นต้นทุนทำอะไรได้
ไม่ได้คิด (ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า"คิด"เนี่ยต้องทำกรรมวิธียังไง) ว่าจะเรียนอะไร จะมีเมียดีมั้ย จะหายใจดีรึเปล่า :!:
ถ้าชีวิต คือ การลงทุน (เอกแปลตามอักษรเลยน่ะ)
แล้วเด็กปญอ.คนนี้ เกิดมา ไม่ได้ทำอะไร หรือ ทำอะไรไป ก็ไม่เคยรู้ว่านี่คือได้ทำไปแล้ว
ได้หายใจไปวันๆ ก็ไม่รู้ว่าไอ้อย่างเนี้ย เขาเรียกว่าหายใจ
ไม่เข้าใจเลยว่า ลงทุนหายใจเข้ามาปื้ดนึงนะ จะได้กำไรมาเป็น หายใจออก
เขาไม่มีคำว่า การลงทุนอยู่เลย
เขาไม่น่าจะมีคำว่าชีวิต อยู่ในสาระบบของเขาเลย ก็น่าจะว่าได้
เขาอาจ ไม่มีพื้นที่สมอง ที่จะจัดแจงรับทราบเลยว่า อันไหนเรียกชีวิต อันไหนเรียกลงทุน
...ถึงอย่างนี้แล้วก็ตาม...เขาก็ยังต้องเรียกว่า มีชีวิต
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า
สโลแกนนี้ "ชีวิตคือการลงทุน"
จะเป็นการทำไปเพื่อ ยกระดับ ความหมายให้มากขึ้น ของคำว่า "การลงทุน"
หรือไปๆมาๆ อาจจะเป็นการ ดึงค่าความหมายของคำว่า "ชีวิต" ให้ลงไปอยู่ต่ำกว่าในระดับเดียวกันของคำว่า "การลงทุน"
แต่ก็นั่นแหละ ไม่เป็นไร
เมื่อเข้าใจว่า ไม่มีสิ่งใด น่าเหยียดหยาม
ย่อมรับรู้ว่า ไม่มีอะไรต้องเทิดทูน
ไก่ อยากจะขอเป็นเป็ด เป็ดก็ให้ไก่เป็นเถอะ ไม่เป็นไร ก็สนุกดีเหมือนกัน
:lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 21
คือ ผลที่จะได้เป็นจุดรอง
ขับรถผมยังหวังเลยว่าต้องถึงจุดหมาย ไม่ถึงจุดหมายแล้วจะขับทำไม
คนเราก็จะมีจุดหมาย แต่จะถึงจุดหมายได้ ก็ต้องมีระยะทาง ก่อนจะเดินทางก็มีจุดเริ่มต้น
เมื่อ ถึงจุดหมาย ย่อมดีใจ มีความสุข แน่นอน
แต่ระยะทาง ถ้าไม่ได้ทำสิ่งที่รัก ที่ชอบ จะมีความสุขมั้ย
และเมื่อเดินทางอย่างมี ความรัก ความสุข ก็ง่ายขึ้นต่อการถึงจุดหมาย
หลายๆสิ่ง ในโลก ใช้ระยะทาง ในการเดินถึงจุดหมายยาวนานกว่ากว่า การมีความสุขตอนที่ถึงจุดหมายซะอีก
จุดเริ่มต้นก็คือ ตัวเองควรที่จะคิดให้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเราต้องการจริงๆ เพราะเมื่อเดินทาง ผ่านระยะทาง จะได้ถึงจุดหมายที่เราต้องการจริงๆ
"การลงทุนคือชีวิต" (สำหรับนักลงทุนขนานแท้) เพราะนักลงทุนขนานแท้ก็ น่าจะรักในการลงทุน ไม้งั้นก็คงไม่เป็นนักลงทุนขนานแท้
"การลงทุนคือส่วนหนึ่งของชีวิต" (สำหรับคนทั่ว ๆ ไป) มากกว่าครับ
เห็นด้วยครับ
ขับรถผมยังหวังเลยว่าต้องถึงจุดหมาย ไม่ถึงจุดหมายแล้วจะขับทำไม
คนเราก็จะมีจุดหมาย แต่จะถึงจุดหมายได้ ก็ต้องมีระยะทาง ก่อนจะเดินทางก็มีจุดเริ่มต้น
เมื่อ ถึงจุดหมาย ย่อมดีใจ มีความสุข แน่นอน
แต่ระยะทาง ถ้าไม่ได้ทำสิ่งที่รัก ที่ชอบ จะมีความสุขมั้ย
และเมื่อเดินทางอย่างมี ความรัก ความสุข ก็ง่ายขึ้นต่อการถึงจุดหมาย
หลายๆสิ่ง ในโลก ใช้ระยะทาง ในการเดินถึงจุดหมายยาวนานกว่ากว่า การมีความสุขตอนที่ถึงจุดหมายซะอีก
จุดเริ่มต้นก็คือ ตัวเองควรที่จะคิดให้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเราต้องการจริงๆ เพราะเมื่อเดินทาง ผ่านระยะทาง จะได้ถึงจุดหมายที่เราต้องการจริงๆ
"การลงทุนคือชีวิต" (สำหรับนักลงทุนขนานแท้) เพราะนักลงทุนขนานแท้ก็ น่าจะรักในการลงทุน ไม้งั้นก็คงไม่เป็นนักลงทุนขนานแท้
"การลงทุนคือส่วนหนึ่งของชีวิต" (สำหรับคนทั่ว ๆ ไป) มากกว่าครับ
เห็นด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 22
สโลแกนที่ว่า "ชีวิตคือการลงทุน" คือภาพสะท้อนแนวคิดระบบทุนนิยมได้เป็นอย่างดีเลยครับ
ระบบทุนนิยมในความเข้าใจของผมคือ การแสวงหากำไรสูงสุด และก่อนที่จะแสวงหากำไรได้นั้นต้องมีการลงทุน ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยครับที่ตลาดหลักทรัพย์ (ระบบทุนนิยม) ออกสโลแกนเชิญชวนการลงทุนอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ชีวิตมีภาพที่ใหญ่กว่าระบบทุนนิยมครับ :lol:
ระบบทุนนิยมในความเข้าใจของผมคือ การแสวงหากำไรสูงสุด และก่อนที่จะแสวงหากำไรได้นั้นต้องมีการลงทุน ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยครับที่ตลาดหลักทรัพย์ (ระบบทุนนิยม) ออกสโลแกนเชิญชวนการลงทุนอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ชีวิตมีภาพที่ใหญ่กว่าระบบทุนนิยมครับ :lol:
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 23
เรารู้สึกว่า การลงทุนเป็น subset ของชีวิต แต่คำมันคงยาว ก็เลยเหลือสั้นๆ แล้วพิธีกรทุกคนก็พยายามเอาการลงทุนมา match กับชีวิต เพื่อทำ scoop ก็เท่านั้น
เพราะเหตุนี้ ที่เค้าให้เขียนเรียงความชิงเงิน 1 ล้านเกี่ยวกับ ชีวิตคือการลงทุน เลยไม่รู้จะเขียนอะไรค่ะ เพราะการลงทุนของเรายังเป็นส่วนเล็กๆของชีวิตแถมธรรมดาอีกต่างหาก ถ้าให้เขียน ชีวิตคือ ความรัก ค่อยน่าสนหน่อย :oops:
เพราะเหตุนี้ ที่เค้าให้เขียนเรียงความชิงเงิน 1 ล้านเกี่ยวกับ ชีวิตคือการลงทุน เลยไม่รู้จะเขียนอะไรค่ะ เพราะการลงทุนของเรายังเป็นส่วนเล็กๆของชีวิตแถมธรรมดาอีกต่างหาก ถ้าให้เขียน ชีวิตคือ ความรัก ค่อยน่าสนหน่อย :oops:
.....Give Everything but not Give Up.....
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 24
ทุนมนุษย์ในความคิดของผมมีอยู่มากมายครับ ทั้งที่จับต้องได้
แล้วก็จับต้องไม่ได้...
ซึ่งโดยส่วนตัวผมเชื่อในแนวคิด "เพราะชีวิตคือการลงทุน"
และผมก็มีความเชื่ออีกอย่างนึงด้วยครับว่า "การลงทุนไม่จำเป็นต้องได้รับผลตอบแทนก็ได้"
แต่คนส่วนใหญ่กลับมัวแต่ไปคิดถึงเรื่องผลประโยชน์กันมาก
จนลืมไปว่า ผลตอบแทนที่จับต้องไม่ได้ก็มีอีกตั้งเยอะ
และที่สำคัญ ไอการลงทุนที่เรากลับไม่ต้องการผลตอบแทนก็มีอีกมากมาย
ปล.
ผมมีความเห็นว่า คำว่า "ชีวิตคือการลงทุน" นั้น ใกล้เคียงกับคำว่า...
"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" มากครับ ต้าล่าลา...
แล้วก็จับต้องไม่ได้...
ซึ่งโดยส่วนตัวผมเชื่อในแนวคิด "เพราะชีวิตคือการลงทุน"
และผมก็มีความเชื่ออีกอย่างนึงด้วยครับว่า "การลงทุนไม่จำเป็นต้องได้รับผลตอบแทนก็ได้"
แต่คนส่วนใหญ่กลับมัวแต่ไปคิดถึงเรื่องผลประโยชน์กันมาก
จนลืมไปว่า ผลตอบแทนที่จับต้องไม่ได้ก็มีอีกตั้งเยอะ
และที่สำคัญ ไอการลงทุนที่เรากลับไม่ต้องการผลตอบแทนก็มีอีกมากมาย
ปล.
ผมมีความเห็นว่า คำว่า "ชีวิตคือการลงทุน" นั้น ใกล้เคียงกับคำว่า...
"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" มากครับ ต้าล่าลา...
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1661
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 25
ผมขอออกความเห็นเกี่ยวกับกับประโยคนี้หน่อยนะครับ
"
ผมไม่คิดว่าคนส่วนใหญ่จะทำงานเพื่องานหรอกครับ
ตอนที่ผมทำงานอยู่บริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง MDชาวญี่ปุ่นได้เอ่ยปากถามในที่ประชุมว่า "เราทำงานเพื่อใคร?"
มีหัวหน้างานคนหนึ่งตอบว่า "เราทำงานเพื่อบริษัทค่ะ"
MDท่านนั้นตอบกลับทันทีว่า "คุณโกหก" แกกล่าวต่ออีกว่า "คนเราทุกคนย่อมทำงานก็เพื่อตัวเองกันทั้งนั้นแหละ และผมเองก็ไม่เคยต้องการให้พวกคุณทำงานเพื่อบริษัทด้วย ผมเพียงแต่อยากให้คุณตั้งใจทำงานเพื่อตัวคุณเอง แล้วบริษัทก็จะได้ผลตอบแทนจากการที่คุณตั้งใจทำงานเท่านั้นแหละ" (อย่าเพิ่งนึกว่า MD คนญี่ปุ่นคนนี้เขาพูดภาษาไทยเก่งนะครับ ทั้งหมดผมแปลมาจากภาษาอังกฤษที่แกพูดมาอีกทีครับ (อาจมีใส่ไข่นิดหน่อย))
ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับที่ MDท่านนั้นว่ามาครับ ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่องานหรอกครับ โดยเฉพาะใครหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้เลือกงาน หรือยังไม่เจองานที่ตัวเองชอบ
ผมว่าเราน่าจะหาเป้าหมายในชีวิตของตัวเองให้เจอ เช่น การมีอิสระภาพทางการเงิน การได้ทำธุรกิจหรือได้อยู่กับสิ่งที่ตนรัก แล้วถามว่างานที่ทำอยู่ปัจจุบันไม่สำคัญเหรอ? ขอตอบว่าก็สำคัญครับ เพราะว่าในตอนแรกที่เราพบเป้าหมายในชีวิตของเราแล้ว เราอาจยังไม่สามารถไปในเส้นทางนั้นได้ทันที การทำงานปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำก่อนที่เราจะไปถึงเส้นทางนั้นได้ (เส้นทางนะครับ ไม่ใช่จุดหมาย) และผมเห็นว่าเราจึงควรทำให้เต็มที่กับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เสียก่อนครับเพื่อที่เราจะได้มีรายได้มาสนับสนุนให้เราไปสู่เส้นทางที่เราวาดหวังไว้ แล้วผลที่ออกมามันก็จะดีกับตัวเราเอง และองค์กรที่เราทำงานเองก็จะได้รับผลตอบแทนจากการทำงานของเราครับ (สังเกตนะครับ เราทำงานเพื่อตัวเราเองครับ-ผลจากการทำงานของเราเป็นผลตอบแทนให้บริษัทครับ)[/quote]
"
"ถ้าคนส่วนใหญ่ทำงานเพื่อถอนทุนคืน แล้วใครจะทำงานเพื่องานจริง ๆ ล่ะครับ
ผมไม่คิดว่าคนส่วนใหญ่จะทำงานเพื่องานหรอกครับ
ตอนที่ผมทำงานอยู่บริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง MDชาวญี่ปุ่นได้เอ่ยปากถามในที่ประชุมว่า "เราทำงานเพื่อใคร?"
มีหัวหน้างานคนหนึ่งตอบว่า "เราทำงานเพื่อบริษัทค่ะ"
MDท่านนั้นตอบกลับทันทีว่า "คุณโกหก" แกกล่าวต่ออีกว่า "คนเราทุกคนย่อมทำงานก็เพื่อตัวเองกันทั้งนั้นแหละ และผมเองก็ไม่เคยต้องการให้พวกคุณทำงานเพื่อบริษัทด้วย ผมเพียงแต่อยากให้คุณตั้งใจทำงานเพื่อตัวคุณเอง แล้วบริษัทก็จะได้ผลตอบแทนจากการที่คุณตั้งใจทำงานเท่านั้นแหละ" (อย่าเพิ่งนึกว่า MD คนญี่ปุ่นคนนี้เขาพูดภาษาไทยเก่งนะครับ ทั้งหมดผมแปลมาจากภาษาอังกฤษที่แกพูดมาอีกทีครับ (อาจมีใส่ไข่นิดหน่อย))
ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับที่ MDท่านนั้นว่ามาครับ ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่องานหรอกครับ โดยเฉพาะใครหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้เลือกงาน หรือยังไม่เจองานที่ตัวเองชอบ
ผมว่าเราน่าจะหาเป้าหมายในชีวิตของตัวเองให้เจอ เช่น การมีอิสระภาพทางการเงิน การได้ทำธุรกิจหรือได้อยู่กับสิ่งที่ตนรัก แล้วถามว่างานที่ทำอยู่ปัจจุบันไม่สำคัญเหรอ? ขอตอบว่าก็สำคัญครับ เพราะว่าในตอนแรกที่เราพบเป้าหมายในชีวิตของเราแล้ว เราอาจยังไม่สามารถไปในเส้นทางนั้นได้ทันที การทำงานปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำก่อนที่เราจะไปถึงเส้นทางนั้นได้ (เส้นทางนะครับ ไม่ใช่จุดหมาย) และผมเห็นว่าเราจึงควรทำให้เต็มที่กับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เสียก่อนครับเพื่อที่เราจะได้มีรายได้มาสนับสนุนให้เราไปสู่เส้นทางที่เราวาดหวังไว้ แล้วผลที่ออกมามันก็จะดีกับตัวเราเอง และองค์กรที่เราทำงานเองก็จะได้รับผลตอบแทนจากการทำงานของเราครับ (สังเกตนะครับ เราทำงานเพื่อตัวเราเองครับ-ผลจากการทำงานของเราเป็นผลตอบแทนให้บริษัทครับ)[/quote]
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 26
ผมว่าชีวิตเราคือการลงทุนครับ ไม่ว่าเราจะทำอะไรย่อมมีต้นทุน เช่นการตั้งใจเรียนก็เป็นการลงทุน การอ่านหนังสือ การฝึกงาน ก็เป็นการลงทุน สิ่งที่ลงทุนคือต้นทุนการเสียโอกาสในการไปทำอย่างอื่น ผลตอบแทนอาจไม่ใช่เงินแต่เป็นความสุข ความทุกข์ ความดีใจ ความเสียใจ ความพอใจ ความไม่พอใจก็ได้
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 27
...มีแต่ "ลงทุนเป็นชีวิตจิตใจ"...พวกเฝ้ากระดาน
...หรือ "การลงทุนเอาทั้งชีวิตตรูไป"...พวกติดดอย
...และเพราะ "ชีวิตคือการลงทุน...ดังนั้น โอนเงินมา...พวกให้หุ้น...
...หรือ "การลงทุนเอาทั้งชีวิตตรูไป"...พวกติดดอย
...และเพราะ "ชีวิตคือการลงทุน...ดังนั้น โอนเงินมา...พวกให้หุ้น...
-
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิต คือการลงทุน จริงหรือ?
โพสต์ที่ 30
"เราทำงานเพื่อตัวเราเองครับ-ผลจากการทำงานของเราเป็นผลตอบแทนให้บริษัท" อันนี้ผมเห็นด้วยแน่นอนครับ แต่ไม่ทุกอาชีพครับ เพราะผมคิดว่า ยังมีบางอาชีพที่ต้องมีพื้นฐานอยู่บนความเสียสละเพื่อผู้อื่น หรือผลประโยชน์ของส่วนรวมครับ เช่น นักการเมือง ครู-อาจารย์ นักสังคมสงเคราะห์ เป็นต้น หากคนในอาชีพเหล่านี้ ทำงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน สังคมคงแย่นะครับsathaporne เขียน:ผมขอออกความเห็นเกี่ยวกับกับประโยคนี้หน่อยนะครับ
" "
ผมไม่คิดว่าคนส่วนใหญ่จะทำงานเพื่องานหรอกครับ
ตอนที่ผมทำงานอยู่บริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง MDชาวญี่ปุ่นได้เอ่ยปากถามในที่ประชุมว่า "เราทำงานเพื่อใคร?"
มีหัวหน้างานคนหนึ่งตอบว่า "เราทำงานเพื่อบริษัทค่ะ"
MDท่านนั้นตอบกลับทันทีว่า "คุณโกหก" แกกล่าวต่ออีกว่า "คนเราทุกคนย่อมทำงานก็เพื่อตัวเองกันทั้งนั้นแหละ และผมเองก็ไม่เคยต้องการให้พวกคุณทำงานเพื่อบริษัทด้วย ผมเพียงแต่อยากให้คุณตั้งใจทำงานเพื่อตัวคุณเอง แล้วบริษัทก็จะได้ผลตอบแทนจากการที่คุณตั้งใจทำงานเท่านั้นแหละ" (อย่าเพิ่งนึกว่า MD คนญี่ปุ่นคนนี้เขาพูดภาษาไทยเก่งนะครับ ทั้งหมดผมแปลมาจากภาษาอังกฤษที่แกพูดมาอีกทีครับ (อาจมีใส่ไข่นิดหน่อย))
ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับที่ MDท่านนั้นว่ามาครับ ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่องานหรอกครับ โดยเฉพาะใครหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้เลือกงาน หรือยังไม่เจองานที่ตัวเองชอบ
ผมว่าเราน่าจะหาเป้าหมายในชีวิตของตัวเองให้เจอ เช่น การมีอิสระภาพทางการเงิน การได้ทำธุรกิจหรือได้อยู่กับสิ่งที่ตนรัก แล้วถามว่างานที่ทำอยู่ปัจจุบันไม่สำคัญเหรอ? ขอตอบว่าก็สำคัญครับ เพราะว่าในตอนแรกที่เราพบเป้าหมายในชีวิตของเราแล้ว เราอาจยังไม่สามารถไปในเส้นทางนั้นได้ทันที การทำงานปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำก่อนที่เราจะไปถึงเส้นทางนั้นได้ (เส้นทางนะครับ ไม่ใช่จุดหมาย) และผมเห็นว่าเราจึงควรทำให้เต็มที่กับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เสียก่อนครับเพื่อที่เราจะได้มีรายได้มาสนับสนุนให้เราไปสู่เส้นทางที่เราวาดหวังไว้ แล้วผลที่ออกมามันก็จะดีกับตัวเราเอง และองค์กรที่เราทำงานเองก็จะได้รับผลตอบแทนจากการทำงานของเราครับ (สังเกตนะครับ เราทำงานเพื่อตัวเราเองครับ-ผลจากการทำงานของเราเป็นผลตอบแทนให้บริษัทครับ)
ในที่สุด ราคาจะวิ่งเข้าหา มูลค่าที่แท้จริง