หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 29, 2004 10:34 am
โดย hot
สนใจกัน หรือว่าเขาสนใจคับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 29, 2004 12:42 pm
โดย Dech
ผมว่าไม่ค่อยสนใจ ครับ
เพราะ เห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เห็นเกี่ยวกะเราเลย อะไรประมาณนี้
ถ้าจะพูดกันบ้างช่วงนี้ ก็เพราะ กฟผ. แต่พูดเด๊ยวเด๊ยวก็ลืมแล้วครับ
ไม่รู้จะช่วยยังไงครับ คนที่สนใจส่วนใหญ่ก็คืนคนเล่นหุ้น และผู้เกี่ยวข้องในวงการนี้ ประชาชนทั่วไป ไมรู้จะทำยังไง ประชาพิจารณ์ก็ทำไปงั้นไง ผลเป็นอย่างไรคงไม่ต้องพูดถึง
คิดง่ายๆ จากบัญชีซื้อขายหุ้น ประมาณ สามแสนบัญชี ผมคิดให้ 1 ล้าน เลยครับรวมผู้เกี่ยวข้องต่างๆด้วย ประชาชนทั่วไปมี 60 กว่าล้าน คิดเป็นไม่ถึง 1% ของคนทั้งประเทศ พูดแล้วเหนื่อยใจครับ
ผมเห็นด้วยกับการแปรรูป นะครับ ตั้งแต่ทำงานมา ผมทำงานเกี่ยวข้องกับ รัฐวิสาหกิจ ตลอดเวลาที่ทำนะครับ
รู้เห็นข้างในพอสมควร ผมว่าควรแปรรูป เป็นอย่างยิ่ง
ผมหมายถึงแปรรูปการทำงาน ลดขั้นตอนการทำงาน ลดกำลังคนบ้างตามสมควร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้สมกับผลตอบแทนที่รัฐให้ สมกับภาษีที่ประชาชนจ่าย ทั้งเงินเดือน โบนัส สวัสดิการต่างๆที่ได้ก็มากมายอยู่แล้ว แต่ก็มีการเรียกร้อง กันอีกมากมาย มีสหภาพไว้ต่อรอง ผลประโยชน์เท่านั้นเอง
คนพวกนี้ทำงานกันเฉลี่ยให้เยอะนะครับเพียง 4-5 ชม ต่อวัน แค่ทำงานให้ได้เป็น 5-6 ต่อวัน ผมก็ดีใจแล้ว รู้หรือไม่ครับ ส่วนใหญ่รัฐวิสาหกิจมีชั่วโมงทำงานแค่วันละ 7 ชม เท่านั้น ทำเกินก็เบิกโอที กันตลอด บริษัททั่วไปมีชั่วโมงทำงานเท่าไหร่ ทุกคนรู้ดีครับ
พวกสหภาพเองก็เป็นพวกหน้าตาเดิม มีเลือกตั้งกันทุกๆปีนะครับทั้งสหกรณ์ สหภาพ แต่เลือกกี่ปีก็ได้คนกลุ่มเดิมๆ วนไปวนมา เป็นการเมืองมาก กว่าข้างนอกอีกครับ ไม่มีใครลงแข่งขัน ทำให้ไม่มีการตรวจสอบกันเกิดขึ้น เป็นมุมมืด ผู้ว่าก็ไม่กล้ายุ่งมาก
ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกะการกระจายหุ้นในตลาดหุ้น แม้ว่าอยากได้หุ้นเป็นเจ้าของก็ตามครับ ผมมั่นใจว่า เมื่อหุ้นอยู่ในตลาด ยังไงก็ควบคุมยาก แล้วครับ ใครจะซื้อจะขาย รัฐจะควบคุม ไม่ได้ อยากที่พูดแน่นอน ก็รู้ๆกันบริษัทไหนๆ ก็ต้องการผลกำไรสูงสุด ทั้งนั้น ประชาชนเดือนร้อนแน่ๆ แล้วจะมาซื้อคืนภายหลังยากมาก ยิ่งแก้ไขลำบาก
ตอนนี้ผมก็เป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจ ทั้งหมดอยู่แล้ว ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษี ผมไม่อยากเป็นเจ้าของในฐานะผู้ถือหุ้น รายย่อยๆๆๆๆ ยังไงซะถ้าแปรรูป รายใหญ่ก็เอาไปกินหมด ครับ ให้เป็นรายใหญ่ผมคงไม่เอาครับ เก็บไว้ให้ลูกหลานดีกว่าครับ
แปรรูปการทำงานดีกว่าครับ ทำงานดีกว่าไว้คุยต่อวันหลังครับบบบ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 29, 2004 1:17 pm
โดย ake...
รัฐบาล กะ รัฐวิสาหกิจขัดแย้งกันครับ
ผมว่าประชาชนเป็นเหยื่อ ผู้เสียหายที่แท้จริงคือประชาชนครับ
ต่างคนต่างพูดความจริงแต่สิ่งที่ตัวเองจะพูด
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 29, 2004 9:16 pm
โดย ปรัชญา
ake... เขียน:รัฐบาล กะ รัฐวิสาหกิจขัดแย้งกันครับ
ผมว่าประชาชนเป็นเหยื่อ ผู้เสียหายที่แท้จริงคือประชาชนครับ
ต่างคนต่างพูดความจริงแต่สิ่งที่ตัวเองจะพูด
คุณเอก สงสัยอยากจะพูดว่า.........
แต่ละฝ่ายก็พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น
เหตุการครั้งนี้ถ้ารัฐบาลใจกว้างพอทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ
ผมคนหนึ่งละไม่อยากให้แปรรูป
แต่ถ้าแปรรูป ผมคนหนึ่งล่ะที่ต้องการถือหุ้น
ก็พูดกันตรงๆ ผมก็เห็นประโยชน์ส่วนตน เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
อ่านแล้ว ห้ามฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 01, 2004 11:43 am
โดย tk
ผมเห็นด้วยกับการแปรรูป แต่แปรรูปแล้วต้องมีการตรวจสอบได้ด้วยนะครับ ไม่ใช่ตรวจสอบไม่ได้เหมือนเดิม คนพวกนี้ส่วนใหญ่งานน้อยมาก ไปนั่งกินนอนกินกันข้างใน ผมเสียดายเงินภาษีครับ
จากสมาชิก nita (ลืมล็อคอิน)
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 01, 2004 12:38 pm
โดย บุคคลทั่วไป
เมื่อก่อนตอนองค์การโทรศัพท์ยังไม่แปรรูป ผมขอโทรศัพท์เบอ์นึง ผมก็ต้องเสียเงินค่าประกันเลขหมาย.... เอ...หรือเขาเรียกเงินกินเปล่า กินฟรี หรืออะไรนี่ละ ผมเป็นคนความจำสั้น จำไม่ค่อยจะได้ เวลาโทรศัพท์เสียหรือมีปัญหาทีนึง โทรไปแจ้งวันนี้ อย่างเร็วอีก 7 วันโน่นถึงจะเห็นหัว (นี่ประสบการณ์ตรง) เมื่อเร็ว ๆ นี้ แฟนผมเล่าให้ฟัง โทรศัพท์ที่ ที่ทำงานมีปัญหา โทรไปตอนเช้า ตอนบ่ายมาเลยครับ แฟนผมบอกนึกว่าผีหรอกกลางวันเสียอีก ค่าโทรศัพท์โทรทางไกลล่ะ เมื่อก่อนไม่ต้องพูดถึง ราคาเท่าไหร่ผมจำไม่ได้ (อีกแล้ว) แล้วเปรียบเทียบกับตอนนี้ล่ะ ลองคิดดูละกัน
ส่วน กฝผ.ไม่รู้สิ พี่สาวผมเคยเล่าให้ฟัง (เธอรู้จักกับระดับที่เขาเรียกกันว่า ผู้การฯ ผมก็ไม่รู้อีกเหมือนกันนะว่าตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน) พนักงานการๆไฟฟ้าได้โบนัสทุกปีนั่นแหละ ปี ๆ นึง ก็หลายเดือนอยู่ ผู้บริหารจะไม่จ่ายเพราะว่าผลประกอบการกำไรน้อยก็ไม่ได้ เพราะท่านสหภาพก็จะบอกว่าไม่มีแรงทำงาน ถ้าขอโบนัสแล้วไม่ให้ก็ต้องหยุดงาน ผู้บริหารก็เลยต้องจ่ายโบนัสทุกปี ไม่ว่าเศรษฐกิจจะแย่เพียงใด ท่านก็ต้องได้โบนัส ใครจะเข้าไปตรวจสอบอะไรก็ไม่ได้ เพราะพวกท่านสามัคคีกันดีมาก จะเรียกว่าสามัคคีกันโกงประชาชนก็คงได้มั๊ง นี่เห็นว่าจะเจรจากับนายกว่าจะกระจายห้นก็ได้ แต่ก็คงต้องให้ พนักงานในราคาถูก ๆ จนท่านพอใจซะก่อน นี่คงเป็นเหตุผลหลักละมั๊งที่การประท้วงยังไม่จบ ถ้าลองให้ประกาศให้หุ้นฟรีกับพนักงาน กฝผ.ไปเลยนี่คงเลิกประท้วงไปแล้วละมั๊งผม แค่นี้ก่อนละกันเดี๋ยวจะกลายเป็นบอร์ดข่าวไป
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 01, 2004 2:16 pm
โดย champ
ผมอยากให้ทำเหมือนกับ TA กับองค์การโทรศัพท์
คือให้มีไฟฟ้าของเอกชนบริการประชาชน
แล้วดูว่าใครจะบริการดีกว่ากัน
ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองครับ
ถ้าเอกชนทำไม่ไดเขาก็ต้องกลับไปใช้ของหลวงเอง
แล้วเรื่องค่าไฟแพงผมกลัวว่าถ้าแข่งกันจริงจะแย่งกันลดด้วยซ้ำครับ
ความเห็นผม (ผมคนเดียวนะครับ)
ผมว่าที่ออกมาประท้วงก็ไม่มีอะไรมากหรอก
ผลประโยชน์อย่างเดียวแหละครับงานนี้
ผมสงสารแต่เด็กๆที่ต้องมานั่งตากแดดกัน
เพื่อสนองความต้องการของผู้ใหญ่
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 01, 2004 7:18 pm
โดย champ
ผม copy มาจากพันธืทิพย์นะครับ
เขาก็สนใจกันมากครับ
แต่พอดีความเห็นนี้ผมเห็นด้วยเลยเอามาให้อ่านครับ
ผมเพิ่งแวะไปคุยกับเพื่อนใน กฟผ แผนกหนึ่งมา เขาเล่าให้ฟังว่า พวกเช้าชามเย็นชามเท่านั้นที่เดือดร้อน เช้าเซ็นชื่อ บ่ายหายหัว หรือไอ้พวกที่เคยมีรายได้พิเศษที่ตอดนิดตอดหน่อยใน กฟผ ก็มีมาก หากแปรเป็นรูปบริษัท พนักงานต้องตอกบัตรเข้าทำงานโดยไม่มีทางเบี้ยว พวกเสียผลประโยชน์เท่านั้นที่เดือดร้อน สำหรับคนที่เขาทำงานเป็นปกติ จะแปรหรือไม่แปรเขาไม่เดือดร้อน แต่ถูกบังคับจิตรใจจากพนักงานด้วยกันให้ไปร่วมประท้วง มิฉะนั้นจะถูกกล่าวหาไม่ให้ความร่วมมือ ที่พวกเราเห็นกันอยู่นั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนเต็มใจไปประท้วงนะครับ
ทุกวันนี้ พนักงานไม่มีอันต้องทำงานอะไร วันๆจะจับกลุ่มกันพูดแต่เรื่อง หุ้น วาดวิมานในอากาศหวังเป็นเสี่ยหุ้นกันทั้ง กฟผ.. แต่พอมติ ครม ออกมาตรงกันข้ามคือกลายเป็นโครงการเกษียนก่อนกำหนด จึงทำให้คนเหล่านี้ผิดหวังอย่างแรงที่สวัสดิการณ์ทั้งหลายที่หวังไว้ถูกตัดออกจนหมดสิ้น เลยออกมาฟาดงวงฟาดงาเล่นงานรัฐบาล..แล้วบิดเบือนความจริง ..พยายามดึงประชาชนที่ไม่รู้เรื่องด้วยเข้าเป็นแนวร่วม
ที่จริงจะยังเป็น กฟผ หรือแปรรูป พนักงานที่ทำงานและรู้หน้าที่ตัวเองเขาไม่เดือดร้อน แต่ต้องไปช่วยเขาประท้วง ถ้าไม่ไปเขาจะหาว่าไม่รักกันไม่สามมัคคีกัน
สำหรับค่าไฟ พวกเขาบอกว่า จะอยู่กับ กฟผหรือแปรรูป ถ้าถีงเวลามันก็ต้องขึ้นอยู่ดี แต่ถ้าไปอยู่กับเอกชน ส่วนที่ดีคือ หนี้สาธารณะมันก็จะลดลง หรืออาจหมดไป แต่ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ พวกเขายืนยันว่า หนี้สินไม่มีวันหมด มีแต่จะเป็นดินพอกหางหมูอยู่อย่างนี้แหละ
จากคุณ : บังเละ - [ 1 มี.ค. 47 16:19:52 A:203.149.37.121 X: ]
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/t ... 93006.html
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 01, 2004 8:13 pm
โดย harry
champ เขียน:ผม copy มาจากพันธืทิพย์นะครับ
เขาก็สนใจกันมากครับ
แต่พอดีความเห็นนี้ผมเห็นด้วยเลยเอามาให้อ่านครับ
ผมเพิ่งแวะไปคุยกับเพื่อนใน กฟผ แผนกหนึ่งมา เขาเล่าให้ฟังว่า พวกเช้าชามเย็นชามเท่านั้นที่เดือดร้อน เช้าเซ็นชื่อ บ่ายหายหัว หรือไอ้พวกที่เคยมีรายได้พิเศษที่ตอดนิดตอดหน่อยใน กฟผ ก็มีมาก หากแปรเป็นรูปบริษัท พนักงานต้องตอกบัตรเข้าทำงานโดยไม่มีทางเบี้ยว พวกเสียผลประโยชน์เท่านั้นที่เดือดร้อน สำหรับคนที่เขาทำงานเป็นปกติ จะแปรหรือไม่แปรเขาไม่เดือดร้อน แต่ถูกบังคับจิตรใจจากพนักงานด้วยกันให้ไปร่วมประท้วง มิฉะนั้นจะถูกกล่าวหาไม่ให้ความร่วมมือ ที่พวกเราเห็นกันอยู่นั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนเต็มใจไปประท้วงนะครับ
ทุกวันนี้ พนักงานไม่มีอันต้องทำงานอะไร วันๆจะจับกลุ่มกันพูดแต่เรื่อง หุ้น วาดวิมานในอากาศหวังเป็นเสี่ยหุ้นกันทั้ง กฟผ.. แต่พอมติ ครม ออกมาตรงกันข้ามคือกลายเป็นโครงการเกษียนก่อนกำหนด จึงทำให้คนเหล่านี้ผิดหวังอย่างแรงที่สวัสดิการณ์ทั้งหลายที่หวังไว้ถูกตัดออกจนหมดสิ้น เลยออกมาฟาดงวงฟาดงาเล่นงานรัฐบาล..แล้วบิดเบือนความจริง ..พยายามดึงประชาชนที่ไม่รู้เรื่องด้วยเข้าเป็นแนวร่วม
ที่จริงจะยังเป็น กฟผ หรือแปรรูป พนักงานที่ทำงานและรู้หน้าที่ตัวเองเขาไม่เดือดร้อน แต่ต้องไปช่วยเขาประท้วง ถ้าไม่ไปเขาจะหาว่าไม่รักกันไม่สามมัคคีกัน
สำหรับค่าไฟ พวกเขาบอกว่า จะอยู่กับ กฟผหรือแปรรูป ถ้าถีงเวลามันก็ต้องขึ้นอยู่ดี แต่ถ้าไปอยู่กับเอกชน ส่วนที่ดีคือ หนี้สาธารณะมันก็จะลดลง หรืออาจหมดไป แต่ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ พวกเขายืนยันว่า หนี้สินไม่มีวันหมด มีแต่จะเป็นดินพอกหางหมูอยู่อย่างนี้แหละ
จากคุณ : บังเละ - [ 1 มี.ค. 47 16:19:52 A:203.149.37.121 X: ]
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/t ... 93006.html
ผมว่าเป็นอย่างนี้เยอะนะ ดีแล้วที่แปรรูป แต่เรื่องการกระจายหุ้นให้ประชาชนก็ต้องโร่งใสด้วยเช่นกัน จะได้ไม่ต้องมาโดนย้อนหลัง
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 02, 2004 4:58 pm
โดย NN
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ทุกวันนี้ทำงานกันจริงๆ วันละกี่ชั่วโมง พนักงานการไฟฟ้ามาบอกกันหน่อย
เพื่อนผมตอนบ่าย3 ครึ่งบอกรีบกลับบ้านและ เดี๋ยวไปขึ้นรถสวัสดิการกลับบ้านไม่ทัน
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 02, 2004 8:16 pm
โดย Dech
แปรรูปดีครับ ดีแน่นอน แม้ว่าอยากได้หุ้นแต่ก็ไม่อยากให้ระดมทุนในตลาด
มีวิธีอื่นๆ ที่รัฐ ไม่ต้องค้ำประกันหนี้ ของรัฐวิสาหกิจพวกนี้ นอกจากระดมทุนในตลาดหุ้นหรือเปล่า มันน่าจะมีทางอื่นบ้างนะครับ ผู้มีความรู้ตอบหน่อยสิครับ
ใจจริงก็อยากจะให้ระดมทุนในตลาดหรอกนะครับ แต่เหตุผลหลักๆข้อสำคัญคือ
ไม่เชื่อใจรัฐบาล (นักการเมือง) ว่าจะทำได้อย่างที่พูดไว้
พูดวันนี้ไว้อย่างหนึ่ง อีกวันพลิกไปพลิกมาจนไม่มีจุดยืน
ตราบใดที่อำนาจเงินยังเป็นใหญ่ คงหวังได้ยากกับนักการเมือง ผู้ซึ่งมีอำนาจ บันดาล ผลประโยชน์ต่างๆ ให้เป็นดังประสงค์ได้
ตราบใดที่ประชาชนส่วนใหญ่ ยังมัวเมากับวัตถุ ค่านิยม หรือสังคมนิยม ที่รัฐสร้างขึ้น หรือที่บริษัทต่างๆสร้างขึ้น หรือที่ชนชั้นนำทั้งหลายทำขึ้น อย่างทุกวันนี้ โดยที่รัฐไม่ได้คุ้มครอง ปกป้องประชาชนตามสิทธิที่ควรจะเป็น คล้อยตามกันไปหมด ประชาชนจะหวังอะไรได้
ถามว่าทำไม ประชาชนส่วนใหญ่ จึงไม่สนกับเรื่องที่เกิด
ตอบได้ว่า เพราะเขาเหล่านั้น ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอในการสนใจ ข่าวก็เป็นได้แค่ข่าว
ถามว่าทำไม ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่มีข้อมูล
ตอบได้ว่า ส่วนหนึ่งเพราะรัฐไม่ให้ข้อมูล หรือปิดปังข้อมูลที่จำเป็นต่างๆไว้ เพื่อประโยชน์ตน ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม ประชาชนไม่มีแหล่งข้อมูล
ถามว่าทำไม ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม
ตอบได้ว่า เพราะประชาชนส่วนใหญ่ มัวทำมาหากินแก้ปัญหาของตนเองไปวันๆ ก็แย่แล้ว ข่าวก็แค่รับฟังไว้ ไม่ได้วืเคราะห์วิจารณ์ต่อ และดำเนินการต่อให้เกิดผล
ถามว่าทำไม จึงไม่มีการวิเคราะห์ วิจารณ์
ตอบได้ว่า เพราะรัฐ ปูพื้นฐานการศึกษาของชาติ ไว้เป็นแบบนี้แหละ ป้อนข้อมูลเข้าไปจาก ครู อาจราย์ ย่อยให้เรียบร้อย นักเรียน นักศึกษา ก็เพียงนอนอ้าปาก กลืนกินข้อมูลเหล่านั้นไว้ เช้าวันรุ่งขึ้นก็ถ่ายออกมา ถ้าลองสังเกตุดูแค่ในวงการนี้ ง่ายๆ ดูจากการตั้งคำถามในกระทู้ต่างๆ ดูสิครับ
ถามว่าทำไม ไม่ปฏิรูปการศึกษา
ตอบได้ว่า รัฐไม่จริงใจ คนเด๊ยวนี้ส่วนใหญ่ เรียนเอาปริญญาครับ ไม่ได้เอาความรู้ เรียนๆ ลอกๆ ทำแบบฝึกหัด ส่งรายงาน ส่งมันเข้าไป ถามว่ารู้มั้ย เด๊ยวๆ จบแล้ว เอก โท ตรี จัตวา
ประชาชนไม่มีความรู้ ผู้มีความรู้ นำความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด อะไรจะเกิด
ตามพระราชดำรัส ของในหลวง
"ส่งเสริมให้คนดีปกครองบ้านเมือง"
ถ้าเขาดีจริง ซักเราหนึ่งเราจะรู้
ถ้าเขาไม่ดี ซักวันหนึ่งเราจะรู้
หวังว่าเมื่อวันนั้นมาถึง ขอให้เรายังสามารถพึ่งพาตัวเองได้นะครับ
รู้สึกว่าวันนี้เครียดจัง ไว้คุยกันใหม่นะครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 02, 2004 9:54 pm
โดย ayethebing
ผมว่าจุดประสงค์ของการแปรรูปอยู่ที่
1. สร้างการแข่งขันในธุรกิจ
ซึ่งผมว่าอาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักในแง่ กฟผ. เพราะยังงัยก็ผูกขาด แถมไม่มี regulatory body ที่จัดตั้งโดยรัฐบาล อันนี้ต้องยอมรับว่าน่าห่วง แต่แก้ไขไม่น่ายากมากครับ ก็ตั้งสิคร้าบ
2. ลดภาระเงินภาษีของประชาชนในการ "ช่วย" โอบอุ้มการดำเนินงาน
คนกฟผ. คงบอกว่า รัฐไม่เห็นต้องช่วยเลย เราส่งรายได้ให้รัฐทุกปี อยากให้ลองกลับไปตอนค่าเงินบาทลอยแพ เอ้ย ลอยตัวนะครับ กฟผ. ยังสามารถแจกโบนัสและขึ้นเงินเดือนได้เหมือนปกติทั้งๆ ที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนมหาศาล แล้วตอนนี้จริงๆ รัฐมีต้นทุนแฝงในหนี้สาธารณะที่เกิดจาก กฟผ. เท่าไหร่ครับ
3. เพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสให้กับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ
อันนี้เป็นประเด็นหลักในการแปรรูปกฟฝ. ครับ พอเข้าตลาดหุ้นแล้ว เป็นเอกชน ก็ต้องทำสัญญาระหว่างรัฐที่เป็นคนคุมกฎ และ กฟผ. เกี่ยวกับเงื่อนไขราคา พอมีรูปแบบนี้ กฟผ. ก็มีแรงจูงใจในการลดต้นทุนการดำเนินงาน ไม่ใช่ว่า ทำสัญญาผิดพลาดในเรื่องวัตถุดิบก็มาขึ้นค่าไฟเล่นๆ แล้วยังงี้ Accountability มันจะอยู่ที่ไหนครับ
ผมว่าอะไรที่เกิน 3 ประเด็นนี้ออกจะไม่ตรงประเด็นครับ
กลัวว่าหุ้นจะกระจายไปที่นักการเมือง
ไม่ใช่ประเด็นครับ หุ้นกระจายไปที่นักการเมือง ถ้าจะแก้ ก็ต้องแก้ที่ระบบการกระจายหุ้น ไม่ใช่กลัวโกงก็เลยไม่กระจายหุ้น อย่างงี้ผมว่าไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว เพราะเค้าก็โกงกันทุกที่ละครับ
กลัวการจัดจ้างทุจริตในอนาคตที่ กฟผ. จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม
เหมือนกันครับ อยู่กับ กฟผ. ก็ไม่ได้หมายความว่าทุจริตไม่ได้ อันนี้ไม่ได้ว่าคนกฟผ. นะ เพียงแต่ว่าการตรวจสอบในตลาดหลักทรัพย์ก็มีความเข้มข้นเหมือนกันนะครับ ไม่ด้อยกว่าหลักเกณฑ์ของวิสาหกิจ โดยเฉพาะมันเป็นข้อมูลสาธารณะยิ่งต้องเน้นความโปร่งใสด้วย
ไม่เชื่อใจรัฐบาล
อันนี้ประเด็นคืออะไรครับ ถ้าไม่เชื่อใจรัฐบาล สมัยหน้าก็ไม่ต้องเลือกพรรคนี้ครับ ไม่เกี่ยวกับแปรรูป
ต้องทำประชาพิจารณ์เพิ่ม ที่ทำไปไม่โปร่งใส
ทำไปกี่รอบแล้วเนี่ย สงสัยจะโปร่งใสตอนที่ตกลงว่าจะไม่แปรรูปกระมัง
เค้ามีข้ออ้างอะไรอีกครับ
อยากรู้ว่าจะจบยังไง
อันนี้เป็นความเห็นที่ผมมีครับ ใครมีข้อมูลแย้งเชิญได้ครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 02, 2004 10:47 pm
โดย Dech
จุดประสงค์แปรรูป ถูกต้องครับ
แต่ทำอย่างไร ให้ประชาชน มีส่วนร่วม มากกว่านี้ต่างหากครับ สนใจกันมากขึ้น ผมว่าไม่ได้แก้ไขกันภายใน ปีสองปีนี้ มันต้องใช้เวลา ถึงตอนนั้นผมเกรงว่าจะไม่เหลืออะไร ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอีกแล้ว ต่างหาก
ผมไม่เชื่อใจนักการเมือง ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือนักการเมือง ในรูปสหภาพต่างๆ ครับ ว่าจะจริงใจ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมกันขนาดไหน อย่างไร
ทุกคนก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวก่อน ผมก็อยากได้หุ้นนะครับ ผมก็อยากลงทุน ก็ผูกขาดขนาดนั้น ใครจะมาแข่งขันได้ ที่ผมอยากได้ไม่ใช้ กฟผ. นะครับ กฟน. กะ กฟภ. ต่างหากละ ผูกขาดตัวจริง
แต่เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การแปรรูปที่ว่า นั้น นอกจากวิธีนี้แล้ว มีวิธีอื่นๆ หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่ผมอยากรู้ การระดมทุนในตลาดหุ้นเป็นทางเดียวเท่านั้นหรือ มีวิธีอื่นมั้ย
แล้วการที่ให้คนสนใจ มากกว่านี้ ผมรัฐหรือภาคเอกชน ต้องหาวิธีจะทำอย่างให้ประชาชน สนใจการลงทุนในตลาดหุ้น ในฐานะ นักลงทุน ไมใช่นักพนัน อยากลืมว่าภาพของตลาด สำหรับประชาชนเท่าไป ผมคิดว่าเขามองเป็นแหล่งการพนันอยากหนึ่ง นะครับ ไม่ใช่การลงทุน
ดังมีคำพูดที่ว่า
"คนจนแล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น" แต่ผมคนอยากรวยครับเลยมาเล่นลงทุนในหุ้น
คงเคยได้ยินกันบ้างนะครับ
เมื่อลบภาพนี้ได้แล้ว รัฐอาจไม่ต้อง นำรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นสมบัติของชาติ เข้าตลาด เพื่อเพิ่ม market share ให้มีมูลค่ามากขึ้น มากกว่า gdp หรือมีทุนมากกว่าการออมในธนาคาร ตรงนี้ตากหากคือประเด็น เพราะจะมีผู้เห็นทางเดินเข้ามาลงทุนเองครับ แล้วมูลค่าจะเพิ่มได้เอง การเพิ่มสินค้าในตลาดก็เป็นช่องทางที่ดี และเร็ว แต่สินค้าใหญ่ ที่ทำให้ market share ก้าวกระโดด แบบนี้ไม่ค่อยดีนะครับ set index ของเราตอนนี้ก็ถูกควบคุมด้วยหุ้นอยู่ไม่กี่ตัว ประเด็นนี้ไว้วันหลังครับ
ตอนนี้คนควบคุม ภูมิใจมากว่ามีคนเข้ามาลงทุนในตลาดมากขึ้น แต่จริงแล้ว พวกเข้ามามากในช่วงหลังนี้ ผมคิดว่าส่วนใหญ่เป็นนักพนัน มากกว่าครับ
3 แสนบัญชี กะประชากร 60 กว่าล้าน .... มากหรือน้อย ทุกคนรู้ดี
แล้วใน 3 แสนนี้ มีบัญชี ที่เกิน 1 ล้านบาท กี่บัญชีครับ ผมหาข้อมูลได้ที่ไหน
เกิน 10 ล้าน กี่บัญชี 100 ล้าน 1000 ล้าน กี่บัญชี เป็นประเด็นที่น่าสนใจ
ถ้ามีเวลาจะไปลองสืบมาให้ครับ แต่จะเริ่มที่ไหนดีละ......
ใครทราบบอกทางหน่อยครับ จะได้ลดเวลา ขอบคุณครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 12:51 am
โดย ayethebing
ตอบคุณ copywriter
ผมไม่เห็นวิธีอื่นๆในการแปรรูปนอกจากขายหุ้นออกให้กับประชาชนครับ ถ้าคุณ copywriter หามาได้ลองมา share ให้เพื่อนๆ ฟังด้วยนะครับ
การขายหุ้นเป็นการขายส่วนที่รัฐถือครองอยู่ให้กับบุคคลอื่นและแปลงสภาพเป็นบริษัท หลุดจากกรอบกฏเกณฑ์ของรัฐวิสาหกิจและต้องทำงานในรูปแบบเอกชนที่เป็นแบบทุนนิยมมากขึ้น คือทำดีได้ตังค์ ทำไม่ดีขาดทุนครับ อาจไม่เต็มรูปแบบ แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นไม่ใช่เหรอ
เห็นคุณ copywriter ว่าไม่ไว้ใจรัฐบาล เอแล้วทำไงให้ไว้ใจละครับ ถ้าเป็นพรรคอีกพรรคนึงแล้วคุณ copywriter จะไว้ใจมั้ย
ไม่เชื่อใจ ฝ่ายค้าน สหภาพ นักการเมือง โอ้โห อย่างงี้จะทำไงดีล่ะ เชื่อในกลไกตลาดมั้ยละครับ ถ้าไม่เชื่ออีก ก็เห็นทีจะลำบากแล้วละครับ ไม่เชื่ออะไรเลย
ผมเนี่ยเห็นการประท้วงแบบนี้มาหลายรอบแล้ว หลายรัฐบาลด้วย สมัยก่อนการแปรรูปมีรูปแบบที่ดีกว่านี้ สร้างการแข่งขัน ไม่ผูกขาดดีกว่ารูปแบบนี้เสียอีก ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ผมก็เห็นรัฐบาลชุดนี้ ที่เอาจริงและมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจริงๆได้มากที่สุดครับ
บอกตรงๆ ผมก็ไม่ได้ชื่นชมรัฐบาลชุดนี้มากเท่าไหร่ แต่ถ้าเค้าแปรรูปสำเร็จ ผมคงต้องยกนิ้วให้ครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 7:37 am
โดย Dech
ตอบครับ
1. จากความรู้ตอนนี้ ผมไม่ทราบครับ ว่า มีวิธีอื่นๆ นอกจากขายหุ้นให้ประชาชนหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าน่าจะมีวิธีอื่นๆ ที่ผมไม่รู้ครับ อยากรู้เหมือนกันครับ สมมุติว่าแปรรูปไปเป็นบริษัทธรรมดาละครับ ที่ไม่ใช่มหาชน แล้วรัฐก็ถือหุ้น 100% แล้วก็บริหารแบบเป็นเอกชนรายหนึ่ง ไม่ต้องไปรัฐไม่ต้องไปค้ำประกัน ให้เกิดหนี้สาธารณะขึ้น เป็นต้น อย่างนี้ มันจะต่างกันมั้ยครับ ขอความรู้ด้วยครับ
2. พรรคไหนๆ ก็ไม่น่าไว้ใจครับ การเมืองก็คือการเมือง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
3. กลไลตลาดเชื่อแน่นอนครับ มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม แล้วดีแน่นอนครับ แต่ ณ ปัจจุบัน กลไกตามถูกควบคุมด้วยปัจจัยทางการเมืองหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็มีเหตุให้ไม่น่าเชื่อได้ครับ ปิดปังข้อมูลหรือเปล่า เพราะการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ จึงได้ปวดหัวกัน
4. แปรรูปได้นั้นเห็นด้วยแน่นอนครับ แล้วที่บอกว่าเมื่อก่อนมีวิธีที่ดีกว่านี้ ดีอย่างไร แล้วทำกันยังไงครับ เมื่อก่อนไม่ได้ติดตาม ให้ข้อมูลหน่อยครับ แต่ถ้าแปรรูปกันแล้วยังทำงานกันเหมือนเดิมก็ไม่มีประโยชน์ครับ ต้องแปรรูปที่กลไกการทำงานข้างใน คือการแปรรูปที่แท้จริงครับ ไม่งั้นก็ได้แค่เปลือก
5. แม้ว่าจะไม่ชอบในหลายเรื่อง ก็ต้องยอมรับ ครับว่า รัฐบาลนี้เก่งในหลายๆ เรื่องเหมือนกันครับ ผมก็ชอบในหลายจุด แต่อยากเหลิงครับ
ขอบคุณครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 7:47 am
โดย din
ชนชั้นกลางขึ้นไปส่วนมากสนใจนะครับ ผมดูจากการตอบกระทู้ในเว็บ ส่วนคนชั้นล่าง คงถูกปิดข่าว เลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่
ปัญหาอาจไม่เกี่ยวว่าควรแปรรูปหรือไม่ก็ได้คับ
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 8:42 am
โดย hot
อืม เหนื่อย
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 9:09 am
โดย CK
ผมจับตาการแปรรูปกฟผ.มาปีกว่าแล้วครับ แต่ไม่มีความรู้พอที่จะมาแจมวงสนทนา ขอบคุณคุณ Copywriter และคุณ Ayethebing ครับสำหรับข้อมูล
คุณ Copywriter นี่เขียนเก่งสมชื่อนะครับ สงสัยจะเคยทำงาน ด้าน copy writing มาก่อน
สำหรับผมแล้ว รัฐบาลชุดนี้น่าจะมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการแปรรูปมากที่สุดครับ เพราะสามารถเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองได้มากที่สุด คนที่คิดจะทำก็ต้องได้เค้กชิ้นใหญ่สุดครับ ไม่งั้นจะทำไปทำไม ทำธุรกิจต่อไปก็รวยพออยู่แล้ว
ถ้ามองในแง่มหภาคระยะยาว ถ้าเราไม่สนใจว่าใครได้กำไรมากที่สุดในตอนนี้ (เป็นตัวเงิน) เรามองว่า ในสิบปีข้างหน้า ประชาชนทั้งประเทศจะได้อะไรจากการแปรรูปครั้งนี้ ประชาชนทั้งประเทศนะครับ ไม่ใช่คนหยิบมือเดียว ทั้งนักการเมือง และนักลงทุนที่สามารถซื้อขายหุ้นได้
ถ้าได้มากกว่าเสีย ผมก็เห็นด้วยกับการแปรรูปครับ แต่ผมมองไม่ออก ก็เลยไม่สามารถแสดงจุดยืนได้ แต่ถ้าโดยส่วนตัวแล้ว ผมเชียร์การแปรรูปครับ ผมเคยโพสต์มาหลายครั้งแล้วว่าถ้ากฟผ.เข้าตลาด ผมจะซื้อแน่ๆ
ส่วนการเปลี่ยนเป็นบริษัทเอกชนเต็มรูปแบบ ผมไม่เห็นด้วยครับ แต่เห็นด้วยกับการที่มีบริษัทผลิตไฟฟ้ามากกว่า 1 เจ้าแข่งขันกันทั้งด้านราคาและคุณภาพ
ส่วนกฟน.และกฟภ.ไม่ต้องแปรรูป เพราะสามารถคิดค่าไฟแบบ cost plus ไปเลย แต่มีข้อกำหนดว่า ต้องซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตจากราคาต่ำสุดไปสูงสุด ตามปริมาณการใช้ไฟที่เกิดขึ้น
อีกอย่าง กฟน.ก็เป็นหน่วยงานรัฐที่ผมชอบและประทับใจที่สุดอยู่แล้ว แปรรูปไปก็ไม่น่าจะดีกว่านี้ ทศท.แปรรูปยังไงก็ไม่มีทางสู้กฟน.ยุคปัจจุบันได้ครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 9:24 am
โดย tom
เพื่อนผมคนนึงทำงานอยู่ กฟผ ออกจะต่อต้านนะครับ ...แต่ดูภาพรวมผมว่ามันเป็นการต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริงหลายประการ กฟผ ต้องการให้ทำประชาพิจารณ์ แสดงว่าต้องมั่นใจระดับหนึ่งว่าประชาชนไม่เห็นด้วยที่จะแปรรูป แต่ในความเห็นส่วนตัวผมว่า ลดขนาด เพิ่มประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มันจะคืบคลานเข้าหาทุกองค์กรรัฐ และรัฐวิสาหกิจครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 10:04 am
โดย ayethebing
รูปแบบของการแปรรูปแต่ก่อนมีลักษณะเป็น power pool คือ หน่วยงานจัดส่งกระแสไฟฟ้า (transmission) เป็นบริษัทนึง (transco) และโรงงานไฟฟ้าแต่ละที่ (Generation) เป็นอีกบริษัทนึง (จริงๆ คือหลายบริษัท genco) โรงงานต่างๆ และในที่สุดผู้ใช้ไฟฟ้าตามบ้าน สามารถเลือกได้ว่าจะซื้อไฟฟ้าจาก genco ไหนก็ได้ โดยต้องจ่ายค่าหัวคิวให้ transco genco ก็จะแข่งขันกันด้วยราคาและคุณภาพ (คือความเสถียรของไฟ ว่าดับบ่อยมั้ย)
ในส่วนของรัฐต้องตั้งหน่วยงานเป็นกรรมการเอาไว้คอยกำหนดราคาซื้อขายให้เป็นธรรม รวมไปถึงควบคุม stability
รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ประสพความสำเร็จในออสเตรเลียกับอังกฤษ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 03, 2004 10:25 am
โดย champ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 04, 2004 11:33 pm
โดย Dech
ขอบคุณครับ คุณ Ayethebing และทุกๆท่านสำหรับข้อมูลและความคิดเห็น
สำหรับคุณ CK ครับ ขอบคุณสำหรับคำชม แต่ผมไม่ได้ทำงานด้านการเขียนอะไรเลยครับ ผมก็แค่ COPY แล้วก็ WRITING นะครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 05, 2004 12:13 am
โดย Dech
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 05, 2004 9:39 pm
โดย Stock Broker
ผมว่าที่ดูเหมือนประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจ เป็นที่สื่อด้วยครับ
มีแต่ออกมาเขียนข่าวว่า วันนี้ม็อบมีจำนวนกี่คน ใครเป็นคนขึ้นเวทีปราศรัย วันนี้ใส่เสื้อสีอะไรกัน
แทนที่จะเขียนในประเด็นว่า หากแปรรูปและกระจายหุ้นแล้ว ประชาชนจะได้อะไร เสียอะไร แล้วที่ กฟผ.เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้น่ะ มันมีข้อดี ข้อเสีย ยังไง
ส่วนความเห็นของผมต่อม็อบ กฟผ.นะครับ บอกได้เลยว่าหมั่นไส้มากและไม่ชอบครับ อย่ามาอ้างเลยว่าทำเพื่อประชาชน อยากอ้วกครับ
(อยากรู้นักว่า ม็อบส่วนใหญ่น่ะ รู้มั้ยว่ามาประท้วงอะไรกัน และที่บอกทำเพื่อประชาชนน่ะ รู้เหรอว่าประชาชนจะได้จะเสียอะไร ที่รู้แน่ๆ น่ะ ผลประโยชน์ของตนเองมากกว่ามั้งครับ)
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 07, 2004 2:30 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ผมคิดว่า คนสนใจน้อยถึงน้อยมาก ส่วนพวกที่สนใจก็เพราะอยากมีผลประโยชน์กันทั้งนั้นครับ รวมถึงผมด้วย ใจจริงไม่อยากให้แปรโดยมีหุ้นเลยจริงๆ
1. ถึงจะแปรแล้วถือทั้งร้อย ก็เท่ากับเตรียมขายแล้ว เหลือแค่ว่ารัฐบวมไหนทำได้ พวกพ้องก็ได้ประโยชน์ ก็ท่านั้นเอง นาย ก ก็ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า แล้วก็มีนาย ก คนใหม่มา จะเชื่อได้อย่างไรว่ารัฐบวมจะเป็น major shareholderตลอดไป? ไม่มีใครรับประกันได้ อีกหน่อยก็พอฟังประชุมไม่ไว้วางใจ พวกก็ล่อกันนัว เหมือนเปิดเสรีการเงิน BIBF อีกโทษกันไปโทษกันมา ประชาชนเจ๊ง แต่นักการเมืองที่ทำรวย คนกลุ่มน้อยได้ประโยชน์ เช่นคนที่มีเงินซื้อหุ้น คนที่ซื้อหุ้นแล้วได้กำไร แต่ชาวนา ต้องซื้อยาแพงขึ้นเกือบ 100% เพราะต้องลอยตัวค่าเงินบาป(ที่ตัวเองไม่ได้ก่อกรรมๆ) ต่อไปก็จะเป็น series รัฐวิสาหกิจ ค่าน้ำมันแพง ก้อตั้งกองทุนพยุง กลัวหุ้นตก (อันนี้ทำแล้วนะ) ต่อไปก็ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสนามบิน ค่าจอดท่าเรือ ...etc แต่ภาษีคนทั้งประเทศ
2. เรื่องประสิทธิภาพ กับความโปร่งใส อืมผมยังไม่เคยได้ทราบมาก่อนเลยครับว่า บ.มหาชน นี่มีประสิทธิภาพกว่า บ.จำกัด หรือ รัฐวิสาหกิจ หรือจะโปร่งใสกว่า แล้วทำไม BBC ก็กรุงเทพพานิชการ นี่รัฐบวมก็ ถือหุ้นใหญ่ไม่ใช่หรือ ไงเจ๊งได้ไม่เป็นท่า นักการเมือง กับ พ่อมดการเงิน ล่อกันพุงกาง
แล้วพวกที่อยู่กลุ่ม rehab ละบริหารก็ยอดเยี่ยมด้วยไหมครับ แบบไทยๆมันกระจอกไป ต้องสุดยอดตลาดโปร่งใส Dow ของไอ้กัน ที่รวมของกองทุนอีแร้งนรก ENRON ล้มทั้งทีเอาให้มันเท่า gdp ของประเทศเล็กอย่างสารขันไปเลย แถมไม่ได้ไปตัวเปล่า ลากยริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบัญชี พลอยตายตกตามกันไปด้วย "กระจายหุ้นเพื่อความโปร่งใส เพื่อประสิทธิภาพ" เป็นเหตุผลเข้าขางตัวเอง ของคนที่อยากขายและคนที่อยากซื้อบางกลุ่ม ตัวอย่างบริษัทหมาชน มีวืธีการหมกเม็ดหลากหลาย ล่าสุด อยู่ก็เพิ่มทุนแบบให้ผู้บริหารเลือกผู้ที่จะเพิ่มทุนให้บริษัท แล้วผู้บริหารคงอยากจะเลือกผมหรือคุณไม่เพิ่มไหมครับเป็นต้น
3.คนที่พูดถึง privatization คนแรกก็คือ Peter Drucker สุดยอดปรมาจารย์ด้านการจัดการนั้นละครับ หัวใจของการจัดการก็คือ everything for shareholder เพิ่งจะมีหลังๆที่ care สังคมกับสิ่งแวดล้อม (ไม่รู้แอบแฝงเหมือนเวลาจะกีดกันสินค้าเราหรือเปล่านะ อิอิ) พี่แกคงจะลืมหรือคงแกล้งลืม(เหมือนหัวหน้ารัฐบวมประเทศไหนน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) นึกไปนะว่า ประชาชนทุกคนนะเป็น major shareholder ตัวจริง ก่อนแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แต่หลังแปร แล้วส่วนใหญ่กลาย ลูกจ้าง โดยเฉพาะยื่งถ้ารัฐวิสาหกิจผูกขาดด้วย ความสัมพันธ์อาจจะกลายเป็นนายทาสกับลูกทาส ก็คือไม่มีทางเลือกครับ
4. คุณก็รู้ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ปรัชญาของรัฐวิสาหกิจตั้งมาเพื่ออุดหนุนค่าสาธารณูปโภคในช่วงแรก เพราะ เอกชนไม่ทำเพราะมันไม่คุ้ม แต่เมื่อทำกำไรซึงต้องใช้เวลาหลายสิบหรือเป็นร้อยปี ถึงจะถึงจุดคุ้มทุน เช่น การวางสายส่งไฟฟ้า การวางโครงข่ายท่อก๊าซ ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ แต่รัฐบวมๆๆ กลับประกาศขาย ไม่ใช่กระจายหุ้นครับต้องเรียกว่าขายสมบัติชาติ ที่ก่อให้เกิดรายได้แล้ว ไม่ขายทุกคนก็ได้ประโยชน์เท่ากันคือ เสียตามการใช้ ใช้มากก็เสียมาก แต่พอขายคนที่ถือหุ้น เหมือนได้ใช้ไฟฟ้าฟรีเพราะ กำไรตกกับบริษัทตัวเอง มีปันผล ได้ส่วนต่างมูลค่าหุ้น แล้วคนที่ไม่ได้ถือละครับก็คนจนมีสิทธิ์ไหมครับ ต้องออกหุ้นกฟผ. เอื้ออาทร ไม่ใช่ หุ้นกฟผ. เอื้อลูกหลานนักการเมือง
สรุป
1. ความโปร่งใส ไม่จำเป็นต้องแปรสภาพ ก็เปิดเผยข้อมูลเหมือน บมจ. ก็ทำได้ ผ่าน web ตลท. ก็ได้ สตง. กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร สภาพัฒฯ TRIS ก็ร่วมกันตรวจสอบได้ เปิดเผยให้มากขึ้น ไม่ก็เชิญ กล.ต ไปร่วมตรวจดีไหม มีปัญหาจุดไหนก็ไปเพิ่มการตรวจสอบจุดนั้น ไม่ใช่ไปจับแก้ผ้าเดินโชว์ มันไม่ได้โปรงใสขึ้นหรอก ครับ นึกว่านักลงทุนรายย่อยเก่งทุกคน หรือก่อนซื้อหุ้น ตรวจสอบทุกคน ไม่อย่างนั้นจะเป็นแมงเม่ากันทั้งตลาดหรือครับ ผมอยากจะบ้าตายเวลาได้ยิน ต้องเข้าตลาดถึงโปร่งใส หรือแค่ผู้ครวจสอบบัญชีเป็นฝรั่ง ก็โปร่งใสแล้วหรือท่าน
2. เรื่องคนงาน รัฐบาลก็มีนโยบาย ลดคนอยู่แล้วทั้ง ราชการและรัฐวิสาหกิจ ส่วนคนที่เข้ามาใหม่ เท่าที่รู้ก็ ไม่ได้เท่าเดิมอยู่แล้ว คนนะไม่เกิน 5 ปี ก็เริ่มหาย เรื่องคนผมว่าเป็นทุกองค์กร แล้วก็เป็นกันทั่วโลก ที่มีแรงงานส่วนเกิน ซึ่งทุกองค์กร ก็ต้องพยายามทำตัวเองให้เล็กลงและ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไม่ได้เกี่ยวกับเป็นหรือไม่เป็น บมจ. เลยนะท่าน ผมถามคนที่อยากจะให้แปรว่า ด่าคนกฟผ. ว่าไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วจะซื้อบริษัทที่คนเหล่านี้ทำงานไหม ก็เห็นซื้อกันทุกคน ถามว่าทำไมซื้อ ฟังแล้วจะเป็นลม "เดี๋ยวหลวงก็จัดการเอง" ตกลงแปรรูปให้บริหารแบบเอกชนหรือแค่จับคุณหลวงมาใส่สูทร
3. เพิ่มประสิทธิภาพ ดู ร้านสุกี้mk เป็นตัวอย่าง ไม่เห็นจะต้องเข้าตลาดเพื่อเพิ่ม ถ้าผู้บริหารเก่ง วางระบบดี ยอดเยี่ยมแม้อยู่ใน อุตสาหกรรมแข่งขันกันสูง รัฐสามารถเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการได้อยู่แล้ว ขนาดผู้ว่ายังเป็น CEO ได้เลย ผมว่าถ้ารัฐบวมเอาจริงก็คิดออกอยู่แล้ว ว่าบริหารอย่างไรให้ดีกว่านี้
4. การแข่งขัน ผมว่าเราไม่ควรเอารัฐวิสาหกิจที่ไม่มีคู่แข่ง ไปเปรียบเทียบกับ กรณีของ TA กับ องค์การโทรศัพพ์ แปรรูป TOT หรือ PTT ผมเห็นควรว่าแปรได้ แต่ต้องมีเงื่อนไข เพราะเขามีคู่แข่งอยู่แล้ว แล้วยังมี CAT กสท อีก ผลประโยชน์น่าจะตกกับประชาชนส่วนใหญ่ ผมใช้น่าจะ เพราะอะไร เรารู้ๆกันอยู่
แต่น้ำไฟ ไม่มีนะครับ ถ้าคุณไปตั้งบ้านแล้วขอน้ำขอไฟไม่ได้ เพราะมันไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน หรือถามว่า คุณถือหุ้น ไฟฟ้า ประปาไหม จะทำอย่างไร? หรือถ้าทำได้คุณออกค่าใช้จ่ายไหม ? ทำอย่างไรครับ? อยากจะแข่งขันก็ต้องหาคู่แข่งให้ ยกตัวอย่าง TA tt&t ก็ดีแล้ว ร่อแร่ๆ จะไปรอดไหมก็ยังไม่รู้ รอเจรจากับรัฐอยู่ เคลียร์ค่าต๋ง ก็เหมือนที่ผมบอกตรับว่า ลงทุนสูงกว่าจะถึงจุดคุ้มทุนนาน ยิ่งพวกนี้ เป็นเอกชนกะวิ่งล้มค่าต๋ง แบบประมูลแพง เพราะอยากได้กำไร แต่พอทำไม่ไหวกะจ่ายถูกๆ เหมือน ไอ้TV เรียกว่าน่าเห็นใจ(ตาย) พวกนี้มีประสิทธิภาพสูง เพราะ ขึ้น turnover list ของกลต สม่ำเสมอ ..ฮา
อย่าใช้เหตุผลทำนองนี้ไปบอกว่าควรเข้าตลาดลักทรัพย์ ผมสงสารคนจนที่ท่านไปเอื้ออาทรเขาไว้มากมายจะไปมีสิทธิเป็นเจ้าของอะไร หรือต้องออกทีวีมาตอกย้ำว่า คนไม่มีตังซื้อมันหลุดโลกด้วย แล้วไอ้พวกที่จองได้เป็นล้านๆหุ้น รวยแล้วมีแต่คนสาปแช่ง เจรีญได้ครับแต่อาจจะไม่นาน
ปล. ลบได้ทันทีที่ web master เห็นว่าไม่เหมาะสมครับ
ผมรู้สึกไปเอง หรือไม่คับที่การแปรรูป ประชนชนส่วนใหญ่ไม่ค่อย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 07, 2004 2:54 pm
โดย utto
ขอโทษครับ ผมไม่ได้ login