คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 11:06 am
ตอนที่ผมเริ่มลงทุนมาสักปี ถึงสองปี ผมก็มีคำถามสงสัย ว่า คนที่เล่นหุ้นส่วนใหญ่ขาดทุนหรือกำไรกันแน่
อาจจะเป็นเพราะว่าผมก็เกิดอาการขาดทุน
ผมเลยถามโบรกเกอร์ โบรกเกอร์เลยตอบว่า คนส่วนใหญ่ ตอนแรกๆเล่นจะได้ ตอนหลังๆจะเสีย
และโดยส่วนใหญ่สรุปว่าคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่จะขาดทุน
ผมเลยกลับมาคิด ซึ่งอาจจะผิดก็ได้
ผมคิดว่า คนที่มาเล่น ตอนแรกๆ จะได้ ก็ต้องแปลว่า เป็นคนเล่นมือใหม่ ที่ไม่น่ามีความรู้มากนัก
แล้วอะไรที่พาคนที่ยังไม่มีความรู้เข้ามาในตลาดหุ้น ก็ลองคิดเป็น 2 ทาง
1.เพราะตลาดหุ้นดี
2. เพราะตลาดหุ้นแย่
คำตอบก็เป็นได้ว่า น่าจะเข้ามาเพราะตลาดหุ้นดี มีความคึกคัก มีการได้กำไร พูดกันไปปากต่อปาก จนดึงความสนใจในการลงทุนในหุ้น(เล่นหุ้น) ได้จากคนจำนวนมากทั้งเงินน้อยและเงินมาก
ซึ่งการเข้ามาเล่นหุ้น ในเวลาที่ตลาดดี คึกคัก ก็ย่อมหมายถึง ช่วงที่ตลาดดูดีมีแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งถ้าเล่นในช่วงนี้ก็ดูไม่แปลกที่เวลาเล่นมักจะได้กำไร แล้วก็จะคิดว่าอืม ดีจัง (แต่ต้องบอกว่าหุ้นส่วนใหญ่มักจะขึ้น ในภาวะตลาดดี โดยเฉพาะหุ้นที่เป็นที่รู้จัก และนักเล่นหุ้น หน้าใหม่ มักจะสนใจกัน)
แล้วเมื่อเวลาผ่านไปล่ะ ธุรกิจ ก็คืออะไรอย่างหนึ่ง ที่โดยธรรมชาติจะไม่คงสภาพ ดี ตลอดไป หรือ เลวร้าย ตลอดไป แต่เมื่อนักเล่นหน้าใหม่ จะต้องพบกับตลาดที่เปลี่ยนแน้วโน้ม เป็นทางลงทั้งระยะสั้น และระยะยาว สิ่งที่นักเล่นหน้าใหม่ แล้วไม่ได้มีความรู้เพียงพอ ก็มักจะเกิดปัญหา ราคาหุ้นลดลง และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี คงจะคิดว่า อืม แย่จัง
แล้วหลังจากนั้นก็สับสน อยากหาทางแก้ไข แต่ก็มีคำตอบบางอย่าง ที่มักจะทำให้เกิดการผิดพลาดมากขึ้น ซึ่งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ จะไม่ทำหรือไม่คิดอย่างนั้นกัน เช่น
ถือไปเถอะ เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมา (ราคา)
ยิ่งราคาลงก็ซื้อเพิ่มสิ ราคาถัวเฉลี่ย ก็จะลดลง( ในแง่ นักเล่นหน้าใหม่ ที่ไม่เข้าใจพื้นฐานหุ้น)
ซึ่งก็เป็นการง่ายกว่า กับโบรกเกอร์ ที่จะปลอบใจลูกค้าของตนที่ขาดทุน แถมถ้าซื้อถัวเฉลี่ย ยังได้ค่า คอม เพิ่มด้วย
แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะมี นักเล่นหุ้น หน้าใหม่ ที่ยังคงอยู่ หรือ เลิกไป
แล้วถ้าคงอยู่ ก็จะมีประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้ ต่อไปว่าตลาดหุ้นคืออะไร กันแน่?
ฉีชิงฝึกไก่ชนให้พระเจ้าซ่วนแห่งรัฐโจ สิบวันต่อมาพระเจ้าซ่วนตรัสถามว่า
ไก่พร้อมที่จะต่อสู้รึยัง
เขากราบทูลว่า
ยังพะยะค่ะ ขณะนี้มันเพียงแต่เดินวางท่าข่มขวัญตัวอื่น ลำพองในกำลังของตน
สิบวันต่อมาเขาถูกถามอีกจึงกราบทูลว่า
จวนพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ถ้าไก่อื่นขันท้ามัน มันจะไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร มันจะยืนนิ่งเห็นแต่ไกล ไม่ไหวติง
ดังหนึ่งไก่ไม้ มันมีคุณสมบัติไก่ชนทุกประการ ไก่ตัวอื่นไม่กล้าตอแยกับมัน พอมองเห็นเท่านั้นก็จะพากันวิ่งหนี
ไก่ชนที่แท้ไม่ลำพองโดยอาการ หากแต่องอาจในท่าที คนฉลาดก็ดุจเดียวกัน
อาจจะเป็นเพราะว่าผมก็เกิดอาการขาดทุน
ผมเลยถามโบรกเกอร์ โบรกเกอร์เลยตอบว่า คนส่วนใหญ่ ตอนแรกๆเล่นจะได้ ตอนหลังๆจะเสีย
และโดยส่วนใหญ่สรุปว่าคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่จะขาดทุน
ผมเลยกลับมาคิด ซึ่งอาจจะผิดก็ได้
ผมคิดว่า คนที่มาเล่น ตอนแรกๆ จะได้ ก็ต้องแปลว่า เป็นคนเล่นมือใหม่ ที่ไม่น่ามีความรู้มากนัก
แล้วอะไรที่พาคนที่ยังไม่มีความรู้เข้ามาในตลาดหุ้น ก็ลองคิดเป็น 2 ทาง
1.เพราะตลาดหุ้นดี
2. เพราะตลาดหุ้นแย่
คำตอบก็เป็นได้ว่า น่าจะเข้ามาเพราะตลาดหุ้นดี มีความคึกคัก มีการได้กำไร พูดกันไปปากต่อปาก จนดึงความสนใจในการลงทุนในหุ้น(เล่นหุ้น) ได้จากคนจำนวนมากทั้งเงินน้อยและเงินมาก
ซึ่งการเข้ามาเล่นหุ้น ในเวลาที่ตลาดดี คึกคัก ก็ย่อมหมายถึง ช่วงที่ตลาดดูดีมีแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งถ้าเล่นในช่วงนี้ก็ดูไม่แปลกที่เวลาเล่นมักจะได้กำไร แล้วก็จะคิดว่าอืม ดีจัง (แต่ต้องบอกว่าหุ้นส่วนใหญ่มักจะขึ้น ในภาวะตลาดดี โดยเฉพาะหุ้นที่เป็นที่รู้จัก และนักเล่นหุ้น หน้าใหม่ มักจะสนใจกัน)
แล้วเมื่อเวลาผ่านไปล่ะ ธุรกิจ ก็คืออะไรอย่างหนึ่ง ที่โดยธรรมชาติจะไม่คงสภาพ ดี ตลอดไป หรือ เลวร้าย ตลอดไป แต่เมื่อนักเล่นหน้าใหม่ จะต้องพบกับตลาดที่เปลี่ยนแน้วโน้ม เป็นทางลงทั้งระยะสั้น และระยะยาว สิ่งที่นักเล่นหน้าใหม่ แล้วไม่ได้มีความรู้เพียงพอ ก็มักจะเกิดปัญหา ราคาหุ้นลดลง และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี คงจะคิดว่า อืม แย่จัง
แล้วหลังจากนั้นก็สับสน อยากหาทางแก้ไข แต่ก็มีคำตอบบางอย่าง ที่มักจะทำให้เกิดการผิดพลาดมากขึ้น ซึ่งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ จะไม่ทำหรือไม่คิดอย่างนั้นกัน เช่น
ถือไปเถอะ เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมา (ราคา)
ยิ่งราคาลงก็ซื้อเพิ่มสิ ราคาถัวเฉลี่ย ก็จะลดลง( ในแง่ นักเล่นหน้าใหม่ ที่ไม่เข้าใจพื้นฐานหุ้น)
ซึ่งก็เป็นการง่ายกว่า กับโบรกเกอร์ ที่จะปลอบใจลูกค้าของตนที่ขาดทุน แถมถ้าซื้อถัวเฉลี่ย ยังได้ค่า คอม เพิ่มด้วย
แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะมี นักเล่นหุ้น หน้าใหม่ ที่ยังคงอยู่ หรือ เลิกไป
แล้วถ้าคงอยู่ ก็จะมีประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้ ต่อไปว่าตลาดหุ้นคืออะไร กันแน่?
ฉีชิงฝึกไก่ชนให้พระเจ้าซ่วนแห่งรัฐโจ สิบวันต่อมาพระเจ้าซ่วนตรัสถามว่า
ไก่พร้อมที่จะต่อสู้รึยัง
เขากราบทูลว่า
ยังพะยะค่ะ ขณะนี้มันเพียงแต่เดินวางท่าข่มขวัญตัวอื่น ลำพองในกำลังของตน
สิบวันต่อมาเขาถูกถามอีกจึงกราบทูลว่า
จวนพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ถ้าไก่อื่นขันท้ามัน มันจะไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร มันจะยืนนิ่งเห็นแต่ไกล ไม่ไหวติง
ดังหนึ่งไก่ไม้ มันมีคุณสมบัติไก่ชนทุกประการ ไก่ตัวอื่นไม่กล้าตอแยกับมัน พอมองเห็นเท่านั้นก็จะพากันวิ่งหนี
ไก่ชนที่แท้ไม่ลำพองโดยอาการ หากแต่องอาจในท่าที คนฉลาดก็ดุจเดียวกัน